ขอออกตัวก่อนนะครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย ไม่ใช่นักกฎหมาย แต่จากการที่ได้ไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมมาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ผมขอเรียบเรียงเป็นข้อๆ ดังนี้

1. มาตรา ๒๗ ห้ามมิให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้
รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมได้โดยได้รับยกเว้น
ไม่ต้องขอความยินยอมตามมาตรา ๒๔ หรือมาตรา ๒๖
บุคคลหรือนิติบุคคลที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาจากการเปิดเผยตามวรรคหนึ่ง จะต้องไม่ใช้หรือ
เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับผู้ควบคุมข้อมูล
ส่วนบุคคลในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

จะเห็นได้ว่าเราไม่สามารถนำข้อมูลของใครก็ตามมาเปิดเผยหรือเผยแพร่ได้ก่อนได้รับอนุญาตจากเจ้าของ แต่....ยกเว้นตามมาตรา 24 และ 26 ทีนี้เราลองมาดูในส่วนของมาตรา 26 กันครับ

2. มาตรา ๒๖ ห้ามมิให้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็น
ทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม
ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด
ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด โดยไม่ได้รับ
ความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่
(๑) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูล
ส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
(๒) เป็นการดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการคุ้มครองที่เหมาะสมของมูลนิธิ สมาคม
หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงาน
ให้แก่สมาชิก
(๓) เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(๔) เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิ
เรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

สังเกตเห็นอะไรไหมครับ ในวงเล็บ 3 ตามมาตรา 26 ระบุไว้ชัดเจนครับ ยกเว้นเป็นข้อมูลที่เจ้าของเปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งการเปิดเผยสาธารณะก็คือ การที่เจ้าของไม่ได้ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวไว้ บุคคลใดก็ได้สามารถเข้าถึงข้อมูลตรงนั้นได้ หรือยกตัวอย่างง่ายๆ รูปในเฟสในอินสตราแกรมที่ตั้งค่า Public ไว้ ไม่ใช่เพื่อนหรือไม่ต้อง Follow ก็สามารถมองเห็นได้

3. สรุปตามตัวบทกฎหมายก็คือ กฎหมายฉบับนี้มีเจตนารมย์ที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของเรานี่แหละครับ การที่เราจะเซฟหรือจะเอารูปใครมาโพสต์ หรือมาทำอะไรก็ตาม โดยหวังผลกำไร หรือผลประโยชน์อะไร ไม่สามารถทำได้ เว้นแต่นำรูปหรือข้อมูลวกนั้นมาโพสต์โดยไม่ได้หวังอะไร แล้วรูปหรือข้อมูลเหล่านั้นเปิดเผยต่อสาธารณะอยู่แล้ว เราสามารถทำได้แน่นอนครับ มิเช่นนั้นตามเว็บไซต์ข่าวหรือเว็บบอร์ดทั่วไปก่อนจะโพสต์อะไรคงต้องขออนุญาตเจ้าข้องภาพก่อนทั้งหมด เช่น พวกข่าวดารา หรืออะไรก็ตาม ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ครับ และกฎหมายก็เปิดช่องให้สามารถกระทำได้อย่างชัดเจน

ชาว SS ช่วยกันพิจารณาด้วยครับ

แบบนี้ ข่าวลงรูป หรือ สกู๊ปอะไรไม่โดนฟ้องกันหมดแล้วหรอ

ผมไม่เเน่ใจเท่าไหร่ว่าคำว่าสาธารณะในความเข้าใจของเรา กับคำว่าสาธารณะในเเง่ของกฏหมายมันต่างกันมั้ย

เห็นมีทนายบอกกฏหมายลิขสิทธิ์ด้วยครับ ที่ผมไปค้นเจอคืออันนี้


ส่วนที่ ๕
การละเมิดลิขสิทธิ์

มาตรา ๒๗ การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยไม่ ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๕ (๕) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
(๑) ทำซ้ำหรือดัดแปลง
(๒) เผยแพร่ต่อสาธารณชน

พวกรูปถ่ายต่างๆนี่แค่กดถ่ายก็มีลิขสิทธิ์ติดไปแล้ว ผมว่าน่าจะเข้าข่ายอันนี้เป็นหลักเลย เพราะทนายที่ผมทักไปถามเขาตอบมาสั้นๆแค่ว่า ฟ้องได้ตามกฎหมาย ละเมิดลิขสิทธิ

มันผิด นี้ มันผิดอยู่ แต่ มันมีวิธีสู้ในชั้นศาล และตราบใดที่ ฝั่งนั้นยังไม่ฟ้องเรา หมายศาลยังไม่มาถึงตัวเรา ก็ไม่น่าจะยอม ..

การโพสท์ใน Social Media มันไม่ใช่เป็นข้อมูลส่วนตัวแล้วครับ

มันคือข้อมูลที่เป็นสาธารณะไปแล้ว แถมเจ้าของสิทธิ์ก็ต้องเป็น FB/IG ครับ

ผมสงสัยอยู่ว่าถ้าฟ้องกรรโชกทรัพย์กลับได้หรือเปล่า แล้วค่อยไปว่ากันใหม่อีกที

ผมว่าฟ้องได้ แต่ศาลจะเอาผิดไหม อีกเรื่องครับ เพราะผมว่าศาลเขาดูเจตนาด้วย

ผมจำได้ว่า เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์นี่ ถ้าไม่ได้ทำเพื่อการพานิชย์ คือไม่ได้รูปเขาไปหาเงินหรือทำให้เขาเสียหาย ผมว่าศาลก็คงไม่ใจร้ายถึงขนาด สั่งปรับหรือจำคุกหรอกครับ

ตามนั้นครับ ฟ้องได้ แต่ดูจากเจตนาแล้วโอกาสรอดสูงมาก แต่ดันไปพลาดจ่ายก่อน

ผมอ่านจากที่นี่ https://www.designil.com/image-photo-license-101.html แล้วสงสัยว่า ลิขสิทธิ์รูปใน IG เป็นลิขสิทธิ์ประเภทไหนครับ?


ข้อความบางส่วนจากเว็บข้างบน
เพิ่มเติม : การฟ้องลิขสิทธิ์รูปในศาล
เจ้าของลิขสิทธิ์จะเรียก กี่ล้าน กี่สิบล้านก็ตาม สุดท้ายแล้ว ศาลจะเป็นผู้กำหนด อัตราเงินให้โจทก์เอง

(ฟ้องไป 10ล้าน ที่ได้จริงๆคือ หมื่นห้า 5555555555555+)
แต่ฟ้องให้ดูเยอะไว้ก่อน จะได้ขู่คนอื่นด้วย

เพิ่มเติม : การเอารูปมีลิขสิทธิ์มาลง Facebook ผิดมั้ย
การนำ รูปที่มี ลิขสิทธิ์ มาใช้เป็นดิสเฟสบุ๊ค……ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ต่อเจ้าของลิขสิทธิ์ตาม มาตรา 15 (2) ในส่วนของการนำ ผลงานนั้น มาเผยแพร่ต่อสาธารณะชนครับ

สรุปคือ ผิด……..แต่ผู้ที่มีอำนาจฟ้อง คือ เจ้าของ คนเดียวเท่านั้น
และแน่นอนว่า บางครั้งเจ้าของอยู่ ต่างประเทศ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเอามาใช้

และบ่อยครั้ง ถึงเขารู้ก็ไม่สนใจ เพราะ
1. เราไม่ได้เอาไปขาย หรือทำอะไร แค่เอามาเป็นดิสเพลย์เท่านั้น
2. เค้าขี้เกียจ ทำเรื่องฟ้องข้ามประเทศ (ยุ่งยาก + เสียเงินเยอะ)
3. บางครั้ง เจ้าของผลงาน คิดไปในทาง ภูมิใจเสียด้วย

แต่นั่นคือ กรณี เราเอามาใช้เฉยๆ ไม่ใช่ในทางพาณิชย์นะครับ

ขออนุญาตให้ความเห็นนะครับ ผมเห็นว่ากรณีของ SS นี้ ไม่น่าใช้กฎหมาย้ขอมูลข่าวสารส่วนบุคคลมาปรับใช้ครับ เนื่องจากบทมาตราที่ท่านอ้างมา เป็นการพุดถึง "ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" ซึ่งเท่าที่ทราบนั้น หมายถึงคนธรรมดาหรือองค์กรที่มีอำนาจเก็บรวบรวม ใช้หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลนั้นๆครับ เช่น หน่วยงานรัฐ เอกชนต่างๆที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เป็นต้น

การโพสต์ภาพโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของรูปภาพ หรือบุคคลในภาพ อาจก่อให้เกิดความผิดหลายกรณีครับ เช่น มาตรา 27 แห่งกฎหมายลิขสิทธิ ความผิดลหุโทษตามประมวลกฎหมายอาญา เป็นต้นครับ

ถึงยังไงคนที่โพสเมื่อ 2 ปีที่แล้วไม่โดนแน่ๆอะ ควรฟ้องกลับด้วยซ้ำ