บอลไทยเหมือนมีโลกสองใบ
ใบนึงคือโลกของไทยลีค ก็เตะแบบสบายๆ จะเอาใครมานั่งม้านั่งสำรองก็ได้ คนไม่เกี่ยวข้องจะเดินข้างสนามก็ว่ากันไป , เสื้อโกลกับเสื้อผู้เล่นฝั่งตรงข้ามสีเดียวกันก็ไม่ว่าอะไร เตะไปงงไป


พอมาเป็นโลกของ AFC Champions league ก็มักจะทำอะไรให้แตกต่าง บางครั้งมันก็ฝืน ฝืนเพื่อจะบอกให้โลกรู้ว่ากูมาเล่นบอลเอเชียน่ะ จะกี่แมจช์ก็ไม่เป็นไร เช่น ออกเสื้อรุ่นที่ระลึกACL , ต้องเช่าโค๊ชใหม่ที่มีชื่อมีไลเซนส์มานั่งชั่วคราว , นี่ก็เซ็นต์นักบอลสมัคร(พระเอกสุดหล่อ)เล่นมาอีก(ย้อนแย้งตรงที่โค๊ชต้องหาระดับสูงขึ้น แต่ตัวนักบอลกลับเลือกเกรดต่ำลง)


รู้ทั้งรู้ว่าทีมตัวเองมีเป้าหมายคือ ACL แต่ไม่อยากปรับสนาม ไม่อยากจ้าง Pro license ถาวร , รอลุ้นแค่ว่าถ้าปีหน้าได้ไปก็เข้าสูตร เช่าโค๊ช เช่าสนาม สั่งตัดชุดแข่งใหม่ ถ้าไม่ได้ไปก็เล่นง่ายแบบเดิม

ลีคมันโตเร็วไปต้องหาเงินมาอัดอ่ะ อีกนานกว่าจะเข้ารูปเข้าลอย

ปารีณาไม่ถูกใจสิ่งนี้

ส่งชื่อโค้ชเฉพาะกิจเพราะมีไลน์เซนท์ บอกตรงๆโคตรไม่มืออาชีพ บางทีมยิ่งหนักเอาไปนั่งข้างๆสนามเฉยๆ แต่ให้โค้ชคนเดิมทำทีม
เหมือนร้านขายยาที่เอาใบประกอบเภสัชไปติดพนังแต่คนขายเป็นอาม่า

ภาพรวมทีมก็ดูดีขึ้นนะครับ แล้วเรื่องโค้ชหรือเรื่องคนเกี่ยวข้องในสนามเค้าก็ทำตามกฎของลีคไม่ได้ผิด
(เรื่องสีเสื้อโกลหรือคนไม่เกี่ยวข้องมาเดินข้างสนาม ถ้าไม่ถูกต้องคนประเมินแมตท์ต้องรายงานลีคเพื่อ
ลงโทษไหม?)
ส่วนสนามเตะ AFC จริงๆสนามเค้าก็ผ่านนี่ ติดปัญหาเรื่องปีนี้มีเจ้าภาพทีมเดียวมีข้อกำหนดเรื่องสนามที่
2สนาม จะต้องได้มาตรฐานในระดับเดียวกัน
ส่วนเรื่องโค้ชก็เป็นเรื่องการจัดการของแต่ละทีมและสโมสร ถ้าทีมไม่ได้ตามเป้าแฟนบอลไม่เอา ทีมก็อยู่
ไม่ได้เอง นักเตะดาราที่เซนต์เข้ามามันอาจสร้างฐานแฟนบอลใหม่ก็ได้ มันคงมีเหตุผลของเค้าแหละ
ผมก็ไม่รู้เจตนา จขกท. ว่าที่แซะนี่ในฐานะแฟนบอลหรือเพื่ออะไรแต่ละทีมก็มีการจัดการของตัวเอง
ถ้ามันถูกต้องตามระเบียบการแข่งขันแต่ละรายการ และทีมอยู่รอดมีสปอนเซอร์และแฟนบอลซัพพอร์ท
มันก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร นะครับ

อันนี้เรื่องเสื้ออะไรพวกนี้ผมก็เห็นมีทั่วไปบนโลกกีฬาใบนี้นะ ยกเว้นทีมไหนเงินได้จากสปอนเซอร์มากพอก็ไม่มีปัญหา ขนาดทีมใหญ่ในยุโรปยังมีเป็นเรื่องปกติเลย แค่โลโก้ต่าง ๆ ที่แขนเสื้อใส่เตะในลีคกับในบอลยุโรปยังคนละชุดเลย

ส่วนเรื่องนักบอลสมครเล่นที่เป็นดาราอันนี้ไม่รู้ "อาจจะ" เก่งก็ได้มั้ง ไม่ก็เอามาโปรโมทขยายตลาดก็ว่ากันไปตามสะดวกเพราะทีมสโมสรมันทำได้หมด แค่ให้ผ่านมาตรฐานก็พอ

ส่วนเรื่องโค้ชอันที่จริงผมว่าหลายสโมสรอยากได้โค้ชคนไทยแทบทั้งหมดอะ แต่ให้ทำไงได้มันสร้าง pro license ไม่ทันครับ มันเพิ่งมาเริ่มทำได้ตอนสมาคมยุคใหม่นี่เอง มันใช้เวลาอบรมกับเก็บประสบการณ์หลายปี เลยต้องใช้เช่าไปก่อนเนี่ยแหละ ไม่งั้นมันไม่ผ่านเกณฑ์ของ AFC

ก็เค้ามีเฮดของเฮดโค้ช โปรไลเซนส์ก็ไม่จำเป็น

ผมมองไทยลีคนร่ก็ไม่ได้สบายนะ ซ้อมหนัก(ของเรา) อยู่ ถ้ามันหมูจริงนักเตะโปรไฟล์ดีหลายคนไม่เอาชื่อมาทิ้งที่ไทยลีคหรอก กระทั่งโค้ชต่างชาติ ก็ตาม ทุกทีมก็พยายามทำให้ดีขึ้นอยู่อะครับ แต่มันมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องไง ทำยังไงให้เป็นกระแส ให้มีสปอนเซอร์เข้ามา เพื่อมีเงินมาทำทีมอย่างที่เราๆท่านๆอยากให้เป็นไงครับ แฟนบอลมักมองแต่เรื่องฟุตบอล การซ้อม แทคติค ทำไมอย่างงั้น ทำไมอย่างงี้ อย่างเคสมีข่าวจะเซ็นดารา เก่งหรือไม่ผมไม่รู้ แต่ทำให้สโมสรได้พื้นที่สื่อแน่ๆละครับ องค์ประกอบมันหลายด้านอะครับ ทุกวันนี้ให้มีเงินทำทีม ไม่ขาดทุนก็แฮปปี้แล้ว ฟุตบอลไทยเรา

เรื่องโค้ชเรื่องสนามผมว่าเจ้าของทีมเขากลัวไม่คุ้มอะ จะจ้างโปรไลเซ็นท์ตอนนี้ที่เป็นคนไทยก็ไม่ค่อยมี จะต่างชาติก็เเพง เงื่อนไขเขาก็น่าจะเยอะกว่าระบบไทย สนามนี้ก็ส่วนมากที่เป็นทีมใหญ่เเต่สนามไม่ผ่าน เช่น ท่าเรือ ก็น่าจะเพราะมันไม่ใช่ของเขาจะปรับปรุงก็เสียดายเงิน จะสร้างใหม่ก็งบบานปลาย ACL ปีๆนึงมันก็เตะไม่กี่นัดเลยเช่าเอาดีกว่า

ผมว่าไม่ถูกที่สุดเลย กระทู้นี้

ทีมที่จะได้ไป ACL ต้องมี club licensing ซึ่งมันไม่สามารถใช้เงินจ้างได้ในปีเดียวแบบที่จขกท กำลังบอก เค้าทำกันมานาน

เรื่องโค้ช ก็กำลังส่งเรียนอยู่ มันไม่ทัน เพราะมันต้องใช้เวลา เก็บประสบการณ์ถึงจะได้ระดับโปร สโมสรก็ส่งเรียนอยู่นะ

เรื่องโค้ชต้องทำอย่างไรหรอครับ ในเมื่อโค้ชคนนี้พาทีมมาaclแต่ไม่มีlicense ต้องทิ้งทุกอย่างแล้วไปเสี่ยงกับคนใหม่อย่างเดียวเลยหรอครับ
โตโน่นี่ยังไม่ได้เซ็นแต่ถ้าแกเก่งพอจะเบียดพี่แคมป์ พี่ใหม่กับนนได้ก็ยินดีครับ

อย่างที่ผมชวนคุยไปในกระทู้ครับ ทำไมถึงต้องมีโลกสองใบ ในเมื่อทีมรู้เป้าหมายตัวเองดีว่าจะไปไหน
Target คือไป ACL
Direction คือเอาตัวรอดในลีค
Result คือ ถ้าไม่ได้ไป ACL ก็ทำงานตามปกติ , ถ้าได้ไปก็ต้องหานู่นนี่นั่นมาเสริม มาปะ มาแปะ แบบขอไปที

องค์กรทั่วไปเค้าไม่ค่อยวาง Direction ที่ขัดแย้งกับ Target เหมือนเปิดร้านขายของแบบว่า ถ้าขายดีฉันจะลงระบบ POS แต่ถ้าขายไม่ดีจะใช้ลูกคิด
สมมติว่ามันขายดี6เดือน ขายไม่ดีอีก6เดือน ปีนึงจะต้องเช่าเครื่อง POSมาวางแล้วคืนเป็นระยะแบบนี้คงไม่ใช่ครับ

ปัญหาเรื่องโปรไลเซนส์ มันเกิดขึ้นได้ครับ เจอร์ราด คุม เรนเจอร์ส ช่วงแรกยังสวมสิทธิ์เลยครับ 1 ปีครึ่งมั้ง ยูฟ่าเห็นว่าเขาลงเรียนไปแล้วเลยหยวนให้ แว่วมาว่า อันเก้ คุม เซลติก ก็อาจต้องสวมสิทธิ์เหมือนกัน ผมว่าถ้ากรณีแบบ เจอร์ราด คือยังไม่มีโปรแต่ลงเรียนไปแล้ว มันก็พออนุโลมได้ พวกเราคนทั่วไปก็ใช่ว่าจะทำตามกฎระเบียบต่างๆร้อยเปอร์เซ็นต์

ลีกไทยมันโตเร็วไปเพราะอัดฉีดเงินหนักมาก เน้นทางลัด ความเป็นมืออาชีพกำลังไล่ตามอยู่ ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ที่เป็นอยู่ปัจจุบันนับว่าแนวโน้มดีขึ้นแล้ว