ดุมฟรีส์ ซัดอีก! "กังหัน" ปิดจ็อบสอยออสเตรีย 2-0 ลิ่วแชมป์กลุ่ม
เนเธอร์แลนด์ ที่วันนี้ได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลของพวกเขาใน โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า ทำผลงานได้ไม่ผิดหวังเอาชนะ ออสเตรีย ไป 2-0 จากจุดโทษของ เมมฟีส เดปาย และลูกยิงของ เดนเซล ดุมฟรีส์ คนเดิมช่วงครึ่งหลังช่วยให้พวกเขาการันตีผ่านเข้ารอบ 16 ทีมในฐานะแชมป์กลุ่มเป็นที่เรียบร้อย
เนเธอร์แลนด์
Starting Formation: 3-4-1-2
1.
มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก
7
17.
ดาเลย์ บลินด์
64'
7
15.
มาร์เท่น เดอ รูน
74'
6.5
12.
แพทริก ฟาน อานโฮลท์
65'
7
19.
วูต เว็กฮอร์สต์
64'
6.5
10.
เมมฟีส เดปาย
82'
7
ตัวสำรอง
4.
นาธาน อาเก้
64'
6.5
5.
โอเว่น ไวจ์นดัล
65'
6.5
9.
ลุค เดอ ยอง
82'
-
16.
ไรอัน กราเวนเบิร์ช
74'
6.5
18.
ดอนเยลล์ มาเลน
64'
7
ฟุตบอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป ซี
สนาม โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า
พฤหัสบดี ที่ 17 มิถุนายน 2564
กรรมการ โอเรล กรินเฟลด์
เนเธอร์แลนด์
2
0
ออสเตรีย
1-0 เมมฟีส เดปาย 11' (Pen.)
2-0 เดนเซล ดุมฟรีส์ 67'
ทีม อัศวินสีส้ม มีจะได้ มัตไธจ์ส เดอ ลิกท์ ฟิตกลับมาลงเป็นตัวจริงในแผงหลังและได้ ควินซี่ โพรเมส มีชื่อเป็นตัวสำรอง ส่วนแนวรุก วูต เว็กฮอร์สต์ จะได้ลงเป็นตัวจริงต่อเนื่องยืนศูนย์หน้าคู่กับ เมมฟีส เดปาย ในแผน 3-4-1-2 นอกเหนือจากนั้นตำแหน่งอื่นจะใช้ชุดเดิม
ฝั่ง ออสเตรีย จะหมดสิทธิใช้งาน มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช กองหน้าของทีมที่โดนยูฟ่าลงโทษแบน 1 นัด ด้วยความผิดด่าทอนักเตะของ มาซิโดเนีย ในเกมเมื่อวันอาทิตย์ ส่วนตำแหน่งที่เหลือไม่มีปัญหาตัวหลักยังอยู่ครบโดย มิคาเอล เกรกอริทช์ จะได้ลงเป็นศูนย์หน้าแทน
กังหัน ได้จุดโทษ! เดปาย ซัดไม่เหลือทีมขึ้นนำไปแล้ว 1-0
จังหวะแรกของเขาเป็น เนเธอร์แลนด์ ได้จุดโทษจากจังหวะที่ อลาบา ไปเกี่ยว ดุมฟรีส์ ล้มในเขตโทษผู้ตัดสินเช็ค VAR แล้วยืนยันคำเดิมสุดท้ายเป็น เดปาย อาสาวิ่งมาซัด บัคมันน์ พุ่งถูกทางแล้วแต่ยังพุ่งเสียบมุมเข้าไป
กังหัน ขึ้นนำแล้วก็ยังครองบอลบุกอยู่ฝั่งเดียว
เนเธอร์แลนด์ หลังจากได้ประตูขึ้นนำแล้วก็ยังครองบอลได้เป็นส่วนใหญ่ฝั่งทีมเยือนมีจังหวะได้สวนขึ้นมาบ้างแต่สุดท้ายทั้งสองทีมก็ยังไม่มีโอกาสได้ลุ้นเพิ่ม
เดปาย เก็บบอลได้ลากมาซัดบอลหลุดกรอบนิดเดียว
จากจังหวะทุ่มฝั่งขวาของ เนเธอร์แลนด์ เดปาย ได้บอลเร็วขึ้นมาหน้ากรอบฝั่งซ้ายก่อนจะได้ลากเข้ามาในกรอบแล้วซัดด้วยขวาบอลติดไซด์หลุดเสาขวาออกไปนิดเดียว
เบาม์การ์ทเนอร์ ซัดทักทายบอลติดบล็อค
โอกาสได้ซัดทักทายหนแรกของ ออสเตรีย เบาม์การ์ทเนอร์ พาบอลลากตัดเข้ามาจากฝั่งซ้ายแล้วซัดด้วยขวาเต็มๆบอลไปติดบล็อค เดอ ลิกท์ แล้วเด้งออกมา
ฮินเตอร์เรกเกอร์ ส่องนอกกรอบบอลข้ามคาน
จังหวะนี้ ฮินเตอร์เรกเกอร์ พาบอลขึ้นมาทางซ้ายหน้ากรอบแล้วลองกดด้วยซ้ายเลยบอลพุ่งข้ามคานออกไปยังถือว่าได้ลุ้น
เดปาย หมูหก! แปจ่อๆบอลข้ามคาน
โอกาสที่น่าได้ประตูนำห่างของ เนเธอร์แลนด์ ฟาน อานโฮลท์ โยนบอลจากกลางสนามให้ เว็กฮอร์สต์ ได้หลุดเข้ามาในกรอบฝั่งขวาก่อนจะยกไปให้ เดปาย หน้าเสาซ้ายได้วิ่งมาแปโล่งๆไม่ถึง 6 หลา แต่บอลข้ามคานออกไปเฉย
ไวจ์นัลดุม หวดเหน่งๆก็ยังติดบล็อคอีก
จังหวะโหมบุกต่อเนื่องของ เนเธอร์แลนด์ ฟาน อานโฮลท์ คนเดิมเติมมาทางซ้ายเกือบสุดเส้นแตะบอลให้ ไวจ์นัลดุม วิ่งมาหวดด้วยขวากลางประตูบอลก็ยังติดบล็อคกองหลังตัวสุดท้าย
ไวจ์นัลดุม ได้ส่องหน้ากรอบบอลยังติดบล็อค
เริ่มครึ่งหลังมา ออสเตรีย เริ่มมีจังหวะได้บุกเข้ามาพื้นที่อันตรายบ้างแต่ยังไม่ได้ลุ้นอะไรเพิ่มกลายเป็นเจ้าบ้านมีจังหวะที่ ไวจ์นัลดุม ได้ง้างเท้าซ้ายซัดหน้ากรอบแต่บอลติดบล็อคยังไม่มีอะไรมาก
เดอ ไฟรจ์ โขกเต็มๆแต่ บัคมันน์ ซูเปอร์เซฟ!
โอกาสทองน่าจะเป็นประตูนำห่างของ เนเธอร์แลนด์ จากเตะมุมฝั่งซ้าย เว็กฮอร์สต์ โขกชงให้ เดอ ไฟรจ์ ได้โขกเน้นๆแต่ บัคมันน์ ยังซูเปอร์เซฟระยะเผาขนมาเข้าทาง เดอ ลิกท์ ซ้ำหน้าปากประตูก็ยังไปติดบล็อคหลุดเสาออกไป
ดุมฟรีส์ แปโล่งๆ! เนเธอร์แลนด์ นำห่างอีกลูก 2-0
เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูนำห่างจากจังหวะที่ เดปาย ดีดบอลให้ มาเลน ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรองหลุดไปตั้งแต่กลางสนามลากไปถึงในกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะแตะให้ ดุมฟรีส์ ทางขวาโล่งๆแปเข้าไปไม่เหลือ
ฮินเตอร์เรกเกอร์ ได้ขึ้นโขกบอลยังข้ามคาน
โอกาสลุ้นไม่กี่หนของ ออสเตรีย คราวนี้จากเตะมุมฝั่งขวา อลาบา เปิดเข้ามาให้ ฮินเตอร์เรกเกอร์ ได้ขึ้นโขกกลางประตูแต่บอลเหินข้ามคานออกไป
อลาบา เติมมาส่องได้ลุ้นบอลหลุดเสานิดเดียว
จังหวะนี้ อลาบา ได้พาบอลเติมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะได้กดด้วยซ้ายหน้ากรอบเต็มๆบอลโค้งเฉียดเสาขวาออกไปนิดเดียวถือว่าได้ลุ้น
โอนิซิโว ลงมาได้โขกบอลติดเซฟ
คาลัดจ์ซิช หน้ากรอบทางขวาเปิดบอลครอสเข้ามาให้ โอนิซิโว ตัวสำรองได้สอดเข้ามาโขกหน้าเสาซ้ายบอลเข้ากรอบหนแรกแต่ติดเซฟ สเตเคเลนเบิร์ก
จบเกม กังหัน ปิดจ็อบผ่านเข้ารอบแชมป์กลุ่ม
เนเธอร์แลนด์ เอาชนะ ออสเตรีย ไป 2-0 จากจุดโทษของ เมมฟีส เดปาย และลูกยิงของ เดนเซล ดุมฟรีส์ คนเดิม ช่วยให้พวกเขาการันตีผ่านเข้ารอบ 16 ทีมในฐานะแชมป์กลุ่ม นัดหน้าส่งท้ายรอบนี้เจอกับ มาซิโดเนีย
ออสเตรีย
Starting Formation: 3-1-4-2
3.
อเล็กซานเดอร์ ดราโกวิช
84'
6.5
4.
มาร์ติน ฮินเตอร์เรกเกอร์
6.5
23.
ซาเวอร์ ชลาเกอร์
84'
6.5
24.
คอนราด ไลเมอร์
62'
6
19.
คริสตอปห์ เบาม์การ์ทเนอร์
70'
6
11.
มิคาเอล เกรกอริทช์
62'
6.5
ตัวสำรอง
10.
ฟลอเรียน กริลลิทช์
62'
6.5
15.
ฟิลิปป์ ไลน์ฮาร์ท
84'
-
20.
คาริม โอนิซิโว
84'
-
22.
วาเลนติโน่ ลาซาโร่
70'
6
25.
ซาซ่า คาลัดจ์ซิช
62'
6.5
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Fri Jun 18, 2021 04:40, ทั้งหมด 15 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
ยิ่งห้ามแม่งยิ่งคิด 
My Locker