พลังแฟนบอล! "เรือ" 10 คนนำก่อน 2-0 โดน "ไบรจ์ตัน" ฮืดแซง 3-2
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์วันนี้เหมือนจะเริ่มต้นดีขึ้นนำตั้งแต่ 2 นาทีแรกจาก อิคาย กุนโดกัน ก่อนที่ เจา คันเซโล่ จะโดนใบแดงไล่ออกในนาทีที่ 10 เกมก็เลยเป็นของฝั่ง ไบรจ์ตัน เจ้าบ้านที่แม้ครึ่งหลังเริ่มมาจะโดนนำห่างอีก 2-0 แต่ก็ยังฮึดรัวยิงทีเดียว 3 ลูกท้ายเกมแซงชนะไปสุดมันส์ 3-2
ไบรจ์ตัน
Starting Formation: 3-4-3
17.
สตีเว่น อัลซาเต้
65'
6.5
16.
อาลีเรซ่า จาฮานบัคช์
49'
6
18.
แดนนี่ เวลเบ็ค
28'
5.5
10.
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
7
ตัวสำรอง
11.
เลอันโดร ทรอสซาร์
28'
8
14.
อดัม ลัลลาน่า
49'
7
29.
อันดี้ เซกิรี
65'
6.5
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม
อังคาร ที่ 18 พฤษภาคม 2564
กรรมการ สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์
ไบรจ์ตัน
3
2
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
1-2 เลอันโดร ทรอสซาร์ 50'
2-2 อดัม เว็บสเตอร์ 72'
2-3 แดน เบิร์น 76'
0-1 อิคาย กุนโดกัน 2'
0-2 ฟิล โฟเด้น 48'
เจ้าบ้าน ไบรจ์ตัน วันนี้ยังคงไม่มีทั้ง ลูวิส ดังค์ และ นีล โมเปย์ ที่ติดโทษแบนทั้งคู่ส่วน ทาริก แลมป์ตีย์, ซอลลี่ มาร์ช และ โยเอล เฟลท์มัน ก็ยังเจ็บเหมือนเดิม
ฝั่ง แมนฯ ซิตี้ จะได้ เควิน เดอ บรอยน์ กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองโดยพวกเขาจะโรเตชั่น 6 ตำแหน่งจากเกมที่บุกไปชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-3 เมื่อสัปดาห์ก่อน เอแดร์ซอน จะกลับมาลงเฝ้าเสาส่วนแผงหลังจะใช้เป็นตัวหลักอย่าง จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส และแบ็คขวาใช้เป็น โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แนวรุกเลือกใช้เป็น ริยาด มาห์เรซ และ ฟิล โฟเด้น
บุกครั้งแรกเป็นประตู! กุนโดกัน โขกให้ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0
เริ่มเกมมาเป็นทีมเยือนที่บุกเข้ามาครั้งแรกแล้วเป็นประตูขึ้นนำเลย มาห์เรซ ที่ได้บอลลากจี้เข้ามาทางฝั่งขวาก่อนจะมาถึงในกรอบแล้วเปิดเข้ามาด้วยซ้ายให้ กุนโดกัน ที่เสาสองสอดเข้ามาโขกสวนตัว ซานเชซ เข้าไปไม่เหลือ
กรอส ได้ลองส่องนอกกรอบบอลติดบล็อคออกหลัง
เจ้าบ้านบุกคืนมาแล้วได้ลุ้นบ้างจังหวะนี้ กรอส ได้บอลหน้ากรอบก่อนจะลองส่องด้วยขวาบอลยังติดบล็อคออกหลังเป็นเตะมุม
เรือ เหลือ 10 คน! คันเซโล่ โดนแดงโดยตรงไล่ออกสนาม
ทีมเยือนมาเหลือ 10 คน จากจังหวะที่ คันเซโล่ เกี่ยวบอลยาวพลาดแล้วโดน เวลเบ็ค วิ่งแซงมาฉกเข้าไปเจ้าตัวเลยชนล้มลงไปผู้ตัดสินให้เป็นใบแดงโดยตรงทันที พอเช็ค VAR แล้วก็ยืนยันคำตัดสินเดิม
เฟร์ราน ต้องเสียสละเปลี่ยนให้ การ์เซีย ลงมาแทน
ทีมเยือนจำเป็นต้องเปลี่ยนกองหลังลงมาหลัง คันเซโล่ โดนไล่ออกเลยต้องถอด เฟร์ราน ออกแล้วส่ง การ์เซีย ลงมาแทน
โฟเด้น หลุดมาตรงกลางแต่ยังยิงติดบล็อค
โอกาสทองอีกครั้งของทีมเยือน กุนโดกัน แทงบอลให้ โฟเด้น หลุดเข้าไปตรงกลางประตูแต่จังหวะสุดท้ายก็จะง้างยิงยังมีกองหลังเจ้าบ้านมาบล็อคได้ทัน
เจ้าบ้านได้เปลี่ยนตัวบ้าง เวลเบ็ค เจ็บเล่นต่อไม่ไหว ทรอสซาร์ ต้องลงมาแทน
เจ้าบ้านต้องได้ใช้โควต้าเปลี่ยนตัวบ้างหลัง เวลเบ็ค อยู่ๆก็มีอาการบาดจฌบที่ขาจนเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนตัวออกแล้วส่ง ทรอสซาร์ ลงมาแทน
เจ้าบ้านบุกใส่ฝั่งเดียวแต่ยังไม่ได้ลุ้นอะไรมาก
หลังจากได้เปรียบตัวผู้เล่นเจ้าบ้านก็พยายามบุกเข้าใส่ฝั่งเดียวโดยเน้นโจมตีทางฝั่งริมเส้นแต่จังหวะสุดท้ายก็ยังมีแค่ยิงไปติดบล็อคเป็นส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสจะแจ้งอะไร
จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ เหลือ 10 คนบุกมานำ 1-0
ท้ายครึ่งแรกมีจังหวะได้ขึ้นโขกเตะมุมไปคนละฝั่งแต่ก็ไม่ได้ลุ้นอะไรจบครึ่งแรกทีมเยือนได้ประตูนำเร็วแล้วก็มาโดนใบแดงเหลือ 10 คน นอกจากนั้นยังไม่มีจังหวะอะไรเพิ่ม
โฟเด้น โซโล่มาซัดคนเดียว! เรือ นำห่าง 2-0
จังหวะได้ประตูขึ้นนำสุดสวยของทีมเยือน โฟเด้น ได้บอลตั้งแต่แดนตัวเองกลางสนามก่อนจะกระชากมาคนเดียวอาศัยความแข็งแกร่งเบียดกองหลังมาจนถึงในกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะจิ้มด้วยซ้ายสวนตัว ซานเชซ เข้ามุมขวาเข้าไปเลย
ทรอสซาร์ โซโล่เองบ้าง! เจ้าบ้านตีไข่แตกไล่มา 1-2
เจ้าบ้านมาได้ประตูคืนทันควันจากจังหวะสวนขึ้นมา ทรอสซาร์ ได้บอลหน้ากรอบก่อนจะลากเข้ามาเองแล้วล็อคหลอกกองหลังทีมเยือน 2 จังหวะไปจนถึงหน้าเสาขวาก่อนจะกดด้วยขวาเบียดเสาเข้าไปเลย
เรือ สะเทือน! กุนโดกัน เจ็บต้องเปลี่ยนให้ แฟร์นานดินโญ่ ลงมาแทน
กุนโดกัน ที่เป็นคนยิงประตูแรกให้ทีมมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าจนต้องนั่งลงกลางสนามทีมเลยต้องเปลี่ยน แฟร์นานดินโญ่ ลงมาเล่นแทนป้องกันไว้ก่อน
ไวท์ เติมขึ้นมาซัดเต็มข้อบอลก็ยังติดบล็อค
เป็นเจ้าบ้านโหมบุกใส่อยู่ฝั่งเดียวจังหวะนี้ ทอรสซาร์ แตะให้ ไวท์ ที่เติมมาถึงในกรอบฝั่งขวาได้หวดด้วยขวาเต็มๆแต่บอลยังไปติดบล็อคกองหลังทีมเยือน
บิสซูม่า ลองปั่นเองหน้ากรอบบอลหลุดไปไกล
จังหวะนี้ บิสซูม่า เก็บบอลได้หน้ากรอบกลางประตูได้ลองวางเท้าปั่นด้วยขวาแต่บอลยังโค้งแรงเหินข้ามคานออกไปไกลไม่ได้ลุ้น
ไวท์ เติมมาหวดมุมเดิมอีกบอลแฉลบหลุดเสานิดเดียว
ไวท์ คนเดิมได้เติมเข้ามายิงด้วยขวาที่ในกรอบฝั่งขวามุมเดิมคราวนี้ใกล้เคียงกว่าเดิมบอลติดบล็อคแฉลบออกหลังไปนิดเดียว
เว็บสเตอร์ โขกหาย! เจ้าบ้านเอาจนได้ตีเสมอ 2-2
เจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะที่ กรอส พาบอลขึ้นมาทางขวามีจังหวะได้เปิดเข้ามาตรงกลางบอลมาถึง เว็บสเตอร์ ได้ขึ้นโขกกลางประตูเหน่งๆบอลเสียบมุมซ้ายเข้าไปไม่เหลือ
มาห์เรซ ได้ปั่นฟรีคิกเกือบหาย ซานเชซ ยังพุ่งไปคว้าทัน
จากจังหวะฟรีคิกหน้ากรอบเยื้องซ้ายของทีมเยือน มาห์เรซ อาสาปั่นด้วยซ้ายบอลพุ่งแรงหนีกำแพงแต่ ซานเชซ ยังพุ่งเซฟไว้ได้ทัน
เบิร์น ซัดอีก! ไบรจ์ตัน แซงนำจนได้ 3-2
เจ้าบ้านโหมบุกจนได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ แม็ค อัลลิสเตอร์ แทงบอลให้ เบิร์น หลุดเข้าไปตรงกลางก่อนจะสะดุดบอลเสียจังหวะยิงไปติดบล็อคแล้วมาเข้าทางตัวเองอีกรอบได้ล้มตัวซ้ำเข้าไปไม่เหลือ
บิสซูม่า ลองส่องอีกบอลก็ยังข้ามคานไปไกล
จังหวะนี้เป็น บิสซูม่า คนเดิมได้ลองส่องหน้ากรอบอีกรอบบอลก็ยังเหินข้ามคานออกไปไกลไม่ได้ลุ้นเพิ่ม
เชซุส ซัดเต็มๆติดเซฟ ซานเชซ!
จากจังหวะที่เจ้าบ้านเสียบอลหน้ากรอบ แฟร์นานดินโญ่ ฉกได้แล้วลากเข้ามาในกรอบฝั่งขวาก่อนจะเปิดให้ เชซุส ในกรอบทางซ้ายได้ซัดด้วยขวาเต็มๆ ซานเชซ ยังพุ่งซูเปอร์เซฟ บอลมาเข้าทาง การ์เซีย กลางประตูได้ซ้ำข้ามคานออกไปไกล
จบเกม เรือ 10 คนบุกพ่าย ไบรจ์ตัน 3-2
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 10 คนนำก่อน 2-0 โดน ไบรจ์ตัน รัวยิงทีเดียว 3 ลูกท้ายเกมแซงชนะไปสุดมันส์ 3-2 แมนฯ ซิตี้ จะได้ปิดซีซั่นเจอกับ เอฟเวอร์ตัน ส่วน ไบรจ์ตัน ได้ไปเยือน อาร์เซน่อล
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
11.
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้
5.5
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
77'
6
8.
อิคาย กุนโดกัน
55'
7.5
21.
เฟร์ราน ตอร์เรส
15'
5
ตัวสำรอง
9.
กาเบรียล เชซุส
77'
6
25.
แฟร์นานดินโญ่
55'
6.5
50.
เอริค การ์เซีย
15'
5.5
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Wed May 19, 2021 03:15, ทั้งหมด 24 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ