คริปโตมันไม่ได้ขายธุรกิจอุตสาหกรรมนี่ครับ

มันขายไอเดีย+การบริหารจัดการ

ถ้ามันมีเหรียญใหม่ที่ดีกว่า คนนิยมกว่า เหรียญเก่าไม่มีคนใช้มันก็หมดค่าไปเลย

มันคนละเรื่องกันเลยครับ หุ้นมันมีหลายตัว มันมีพื้นฐาน มันผูกกับพื้นฐานหลายอย่างอย่าง GDP ประเทศ แล้วหุ้นมันมีกองทุนที่ช่วยพยุงราคา มีนักวิเคราะห์เป็นเรื่องเป็นราว แต่เหรียญนี่คนละเรื่องเลย เหรียญนี่เสกมาจากในอากาศ ตัวเหรียญเองไม่มีการทำเงิน แล้วเหรียญมันมีแต่รายย่อย มันเลยทำให้ราคามันเหวี่ยงตามอารมณ์ตลาดมากๆ ไอ้ประเภทว่าคนคนเดียว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการออกนโยบายการเงินอะไรด้วยนะ ออกมาทวีตเล่นๆแล้วมันตกไป 10% เนี่ย

เหมือนจตุคามอ่ะครับ

เหรียญตอนนี้ตัวมันเองไม่มีมูลค่าอะไรเลย แต่คนยอมรับกันทำให้มันมีมูลค่าขึ้นมา คนพอใจที่จะซื้อขายกันราคานี้ แต่ถ้าสมมติอนาคตมีเหรียญใหม่ที่มันดีกว่า หรือคนเลิกฮิตไปดื้อๆ มันก็ไม่มีมูลค่า เหมือนจตุคามอ่ะ แต่ก่อนองค์ละล้าน เดี๋ยวนี้ร้อยเดียวยังไม่มีคนซื้อเลย

เพราะงั้นอนาคต เราก็ไม่รู้หรอก ที่เราถือมันจะเป็นสมเด็จวัดระฆัง หรือจตุคาม

ถ้าแบบนี้ เรามีเงิน ไปหุ้นน่าจะปลอดภัยกว่าหรือเปล่าครับ

เพราะถึงจะตกยังไง แต่ถ้าบริษัทที่เราถือว่ามันไม่ถึงขั้นเจ๊ง

มันก็คงไม่ตกจนเหลือ 0 ได้แบบเหรียญ

มันคือการจัดการความเสี่ยงแหละ ผมว่า

มันก็อาจจะเก็บได้นะ แต่เราก็ไม่ควรเอาชีวิต 100% ไปฝากกับของใหม่ที่เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง

เป็นผมคงแบ่งซัก 10%-20% ไปลงเหรียญแหละ ที่เหลือก็ไปลงอะไรที่มันจับต้องได้หน่อยดีกว่า อย่างหุ้น บ้าน ที่ดิน

ไม่เสมอไปครับ บางบริษัทเราเข้าซื้อตอนราคามันสูงเกินจริงตอนเขาปั่นกัน
หรือบางทีมันเป็นมูลค่าในอดีค ปัจจุบันเขาไม่ได้ทำกำไรขนาดนั้นแล้วแถมยังขาดทุนอีก

กรณีไม่รู้ชาติไหนราคามันจะกลับมา
ถึงจะมองว่าอย่างน้อยเราก็ยังมีหุ้นอยู่ในบริษัทก็ตาม
แต่มันก็เหมือนเอาเงินไปจมอยู่กับที แทนที่จะยอมตัดใจขาดทุนเอาเงินไปทำอย่างอื่น

ปล. อย่างที่ท่าน SerraAvatar ว่าเลยครับ เราควรบริหารความเสี่ยงลงทุนในหลายๆ ด้านดีกว่า