ชนะเป็นพอ! นาโช่ซัด 'ราชัน' เชือดหืดบิลเบา 1-0 ตาม 2 แต้ม ลุ้นนัดท้าย
เรอัล มาดริด เล่นไม่สวยเท่าไหร่แต่ก็ได้ผลการแข่งที่ต้องการ หลังจากบุกไปเบียดเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0 จากประตูโทนในครึ่งหลังของ นาโช่ นาที 68 ทำให้ราชัชุดขาวมีเพิ่มเป็น 81 คะแนนจาก 37 นัด ยังรั้งรองจ่าฝูงตามหลังแอตเลติโก้ มาดริด 2 แต้ม และต้องไปลุ้นกันในเกมสุดท้าย
แอธเลติก บิลเบา
Starting Formation: 4-4-2
27.
อูไน เบนเซดอร์
73'
5.5
14.
ดานี่ การ์เซีย
65'
6.5
2.
ฆอน มอร์ซิโญ่
65'
6
16.
โอยฮาน ซานเชต
72'
6.5
9.
อินญากี้ วิลเลี่ยมส์
65'
6
ตัวสำรอง
22.
ราอูล การ์เซีย
65'
5
7.
อิไบ โกเมซ
73'
6
8.
อูไน โลเปซ
72'
6
20.
อาเซียร์ บีญาลิเบร
65'
5.5
6.
มิเกล เบสก้า
65'
6
ลาลีก้า
สนาม ซาน มาเมส
อาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2564
กรรมการ อันโตนิโอ มาเตว
แอธเลติก บิลเบา
0
1
เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวบุกไปเพือสามแต้ม พวกเขายังมีปัญหาแนวรับเจ็บเพียบเหมือนเดิม ในระบบ 4-3-3 แผงหลังซ้ายไปขวาเป็น มิเกล,นาโช่,มิลิเตา,โอดริโอโซล่า ตรงกลางมี โมดริช,คาเซมิโร่,บัลเบร์เด้ และแนวรุกเป็น เบนเซม่า,โรดรีโก้,วินิซิอุส
บิลเบาไม่มีอะไรต้องลุ้นในเกมนี้ พวกเขามาเล่น 4-4-2 โดยให้ อินญากี้,ซานเชต ยืนเป็นคู่หน้าและมีตัวหนุนอย่าง มอร์ซิโญ่,เบนเซดอร์,การ์เซีย,เบเรนเกร์
• เจอกันในลีก 11 นัดหลัง เรอัล มาดริด ชนะ 7 เสมอ 4
• เรอัล มาดริด ไม่แพ้ในลีก 16 นัดติด
• บิลเบา ไม่แพ้เกมเหย้าในลีก 9 นัดติด
• เรอัล มาดริด ไปเยือน บิลเบา และไม่แพ้ 9 จาก 10 นัดหลังทุกรายการ
ต้นเกมยังไม่ค่อยมีโอกาส
ช่วงต้นเกมยังไม่มีโอกาสหวาดเสียวมากนักจากทั้งสองฝั่ง จังหวะนี้โรดรีโก้รับบอลจากโอดริโอโซล่าแล้วได้ยิงด้วยขวาแต่ก็ไม่ตรงกรอบ
ราชันเซ็ง VAR ไม่ให้จุดโทษ
มาดริดพยายามฟ้องเอาจุดโทษจากจังหวะที่โอดริโอโซล่าเปิดบอลไปโดนแขนของมอร์ซิโญ่ แต่ VAR เช็คแล้วไม่ว่าอะไร
เบนซ์โขกเตะมุมไม่ตรงกรอบ
จังหวะมุมทางฝั่งขวาของมาดริด โมดริชเปิดเข้าไปตรงกลางแล้วเป็นเบนเซม่าที่ได้โหม่งแต่ก็ไม่ตรงกรอบอยู่ดี
เบเรนเกร์ปั่นฟรีคิกเกือบเฮ
ก่อนจบครึ่งแรกบิลเบาได้ฟรีิคิกหน้ากรอบเขตโทษและเป็นเบเรนเกร์ที่รับหน้าที่ปั่นด้วยขวา บอลพุ่งผ่านกำแพงฮุคหลุดกรอบไปนิดเดียว
จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0 โดยทั้งสองฝั่งยังไม่มีจังหวะเข้าทำที่จะแจ้งกันเท่าไหร่ แต่มาดริดเป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่มากกว่า
มิลิเตาโขกเตะมุมข้ามคาน
โอกาสแรกในครึ่งหลังเป็นของราชัน จังหวะที่โมดริชเปิดเตะมุมทางฝั่งขวาเข้าไปตรงกลางให้มิลิเตาเทคโหม่งเน้นๆ แต่บอลก็พุ่งหลุดข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
มอร์ซิโญ่หวดด้วยซ้ายติดเซฟคูร์กตัวส์
จังหวะได้ลุ้นของบิลเบา มอร์ซิโญ่ได้บอลจากซานเชตทางกรอบฝั่งซ้าย เขาจัดการวางเท้ากดด้วยซ้ายเน้นๆบอลพุ่งตรงกรอบแต่ไปตรงตัวติดเซฟคูร์กตัวส์ที่ทุบออกไปได้
คาเซมิโร่โขกชนคานเน้นๆ
ราชันน่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จากจังหวะที่เตะมุมฝั่งซ้ายที่โมดริชเปิดเข้าไปตรงกลางเลยถึงเสาสองแล้วเป็นคาเซมิโร่ที่เทคโหม่งย้อนศรแล้วบอลพุ่งไปชนคานเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
กว่าจะได้!นาโช่ชาร์จจ่อ VAR ยืนยันประตู 1-0
ราชันได้เฮจนได้เมื่อพวกเขาส่งบอลตุงตาข่ายสำเร็จ จากจังหวะเตะมุมสั่นทางฝั่งซ้ายแล้วเป็นอเซนซิโอ้ที่เปิดเข้าไปตรงกลางแล้วฝั่งบิลเบาเคลียร์ไม่ขาดมาเข้าทางโรดรีโก้หน้ากรอบเขตโทษ เขาแทงให้คาเซมิโร่หลุดไปทางกรอบฝั่งขวาก่อนเปิดพุ่งไปเสาสองให้นาโช่ชาร์จจ่อๆไม่เหลือ
จังหวะนี้ดูเหมือนนเบนเซม่าจะอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าและมีส่วนกับการเล่น แต่ VAR ให้สัญญาณยืนยันเป็นประตู ทำให้มาดริดขึ้นนำ 1-0 จนได้
ราชันรอด...บีญาลิเบรชาร์จข้ามคาน
บิลเบาน่าได้ประตูตีเสมอแบบสุดๆ จังหวะทีี่อิไบเปิดบอลจากทางริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปตรงกลางให้บีญาลิเบรโฉบแปด้วยขวาแต่บอลพุ่งหลุดคานไปนิดเดียว
เบสก้าโขกหลุดเสานิดเดียว
บิลเบาครองบอลขึงหวังจะเอาประตูตีเสมอ จังหวะนี้ได้ลุ้นเลยเมื่อโลเปซตักบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา แล้วเป็นเบสก้าที่เทคโหม่งเน้นๆ บอลพุ่งเฉี่ยวหลุดเสาสองไปนิดเดียว
การ์เซียโดนแดง บิลเบาเหลือ 10 ตัว
ท้ายเกมบิลเบามาเหลือ 10 คน เมื้อ ราอูล การ์เซีย โดนใบแดงโดยตรงจากจังหวะที่ดูเหมือนว่าเขาจะไปพูดอะไรบางอย่างที่ไม่เหมาะสมใส่ผู้ตัดสิน
ราชันซิวสามแต้มลุ้นแชมป์นัดท้าย
สุดท้ายจบเกมเป็นราชันที่เบียดเอาชนะไปได้ 1-0 จากประตูโทนของนาโช่ในช่วงครึ่งหลัง ทำให้พวกเขายังรั้งรองจ่าฝูงตามหลังแอตเลติโก้ที่ก็ชนะเหมือนกันอยู่ 2 แต้ม และต้องไปวัดกันในเกมสุดท้าย
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
20.
วินิซิอุส จูเนียร์
59'
6.5
25.
โรดรีโก้
77'
6.5
ตัวสำรอง
7.
เอแด็ง อาซาร์
77'
6
11.
มาร์โก อเซนซิโอ้
59'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Mon May 17, 2021 03:57, ทั้งหมด 7 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
My Locker