BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1564
ที่อยู่: หหหห
โพสเมื่อ: Thu May 13, 2021 23:55
ถูกแบนแล้ว
หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ
mRNA vaccine ฉบับอ่านง่าย (for dummies)

ที่มาของบทความนี้ก็คือ พอเขียนเรื่องประวัติศาสตร์ได้แล้วก็เลยอยากรู้ว่าจะเขียนแนวอื่นได้ไหม เผอิญท่านรองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ Phichet Banyati เคยชวนว่าให้เขียนเรื่อง mRNA vaccine สิ เลยน่าจะลองดู

จะเห็นว่าปัจจุบันวัคซีนโควิดมีการผลิตหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะใช้เชื้อตาย (Sinovac), ชิ้นส่วนของไวรัส (Aztra) แต่อันที่เป็นที่ฮือฮามากที่สุดก็น่าจะเป็น mRNA เทคนิค

แล้วจริงๆมันคืออะไรเหรอ ?!?!

นักเรียนสายวิทย์คงทราบมาตั้งแต่สมัยเรียนชีววิทยา ม.ปลายแล้ว (ถ้าจำได้) ว่าส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของร่างกายก็คือโปรตีน ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนทางกายวิภาคหรือสรีรวิทยาของร่างกายก็ต้องมีโปรตีนเกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น คราวนี้โปรตีนสร้างจากอะไร มันก็มีสูตรของมัน คือ
"DNA สร้าง RNA สร้าง โปรตีน" (ดูภาพด้านล่าง) อันนี้คือแบบแผนที่แน่นอนและไม่มีการเปลี่ยนแปลงชั่วนิรันดร์สำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายนะครับ สรุปก็คือโปรตีนที่เราต้องการจะถูกสร้างมาจาก RNA ต้นแบบ ซึ่งมี 3 ชนิด แต่ที่สำคัญมากก็คือ mRNA

หลักการของ mRNA วัคซีนก็คือ ใส่ mRNA ที่สร้างโปรตีนของไวรัสโควิด (ซึ่งอันนี้เราสามารถรู้ได้อยู่แล้วจากการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัส เหมือนเราทำขนมแหละครับ mRNA คือสูตรขนม เราก็สร้างโปรตีนคือตัวขนมออกมาได้) เข้าไปในร่างกาย เมื่อเซลล์ของร่างกายรับ mRNA นี้เข้ามาก็จะสร้างโปรตีนที่รูปร่างหน้าตาเหมือนตัวไวรัสออกมา (คิดง่ายๆ mRNA คือสูตรขนม เซลล์ของร่างกายมีวัตถุดิบเช่นแป้ง น้ำตาล ฯลฯ อยู่แล้ว เมื่อเซลล์ของร่างกายมีสูตรขนมก็ใช้วัตถุดิบผลิตเป็นขนมขึ้นมา)

แต่เท่านี้ยังไม่จบ เมื่อร่างกายสร้างไวรัสจำลองออกมาแล้ว ไวรัสจำลองเหล่านี้ก็จะไปกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกาย ทำให้สร้างสารทางภูมิคุ้มกันออกมา (ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติเพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีอยู่ในร่างกายมาก่อน เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมพวกนี้เกิดขึ้นมาร่างกายก็ย่อมสร้างภูมิคุ้มกันมาต่อต้าน ซึ่งเป็นกลไกในการปกป้องร่างกายตามธรรมชาติ) และภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นนี้ก็จะปกป้องเราเมื่อมีการติดเชื้อโควิดไวรัสจริงเข้ามา (ก็แน่ล่ะ เพราะอาศัยสูตรขนมเดียวกัน คือลอก mRNA มานิ)

ฟังดูตามหลักการแล้วก็น่าจะดีเนอะ
แต่คราวนี้ปัญหามันอยู่ที่ว่า

1. ไม่เคยมีวัคซีนที่ผลิตโดยเทคนิคนี้ขึ้นมาก่อนในโลก ดังนั้นก็เหมือนขนมที่ไม่เคยมีใครผลิตมาก่อน ใช้วัตถุดิบแปลกใหม่ที่เพิ่งคิดค้นขึ้น เรากินแล้วจะมีปัญหาอะไรไหม ?

2. ปกติการสร้างโปรตีนของร่างกาย มันจะมีระบบควบคุมต่างๆเพื่อไม่ให้การสร้างโปรตีนผิดเพี้ยนไป (เหมือนคอยควบคุมไม่ให้ขนมผิดสูตร) แต่คราวนี้ mRNA ตัวนี้ไม่ใช่ของร่างกาย แต่เป็นของที่ฉีดเข้ามา (จาก Pfizer, Moderna คงคุ้นชื่อเนอะ) ระบบควบคุมคุณภาพเหล่านี้จะไปจับความผิดพลาดได้ไหม (เหมือนคุณมีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสในคอม แต่ถ้าไวรัสแปลกๆเข้ามา มันอาจจะตามไม่ทันถ้าไม่อัพเดท หรือถ้าเปรียบเทียบกับทำขนม แทนที่จะหยิบน้ำตาลมาใส่ ดันไปหยิบเกลือโดยไม่รู้ตัวเพราะมันเป็นเกล็ดขาวๆ เหมือนกันก็จะได้ขนมรสชาติแปลกประหลาดออกมา)

3. มันมีโรคทางระบบประสาทหลายโรค ที่ปัจจุบันยอมรับแล้วว่าเกิดจากโปรตีนที่ผิดเพี้ยนในร่างกาย (เรียกว่า misfolded protein) เช่น อัลไซเมอร์, พาร์คินสัน, ALS (ใครดูหนังเรื่อง the theory of everything หรือรู้จักอัจฉริยะฟิสิกส์ Stephen Hawking ก็โรคนั้นแหละครับที่เขาเป็น) ดังนั้นถ้าจากเหตุผลในข้อ 2 แล้วมีโปรตีนผิดเพี้ยนต่างๆเกิดขึ้นมาในอนาคต เราจะเป็นโรคเหล่านี้ไหม ? ก็ไม่มีใครบอกได้

เหตุผลที่เอาเทคนิคนี้มาใช้ผลิตวัคซีนโควิดเพราะว่าวิธีนี้สามารถสร้างวัคซีนขึ้นมาในปริมาณมากโดยใช้เวลาไม่นาน เหมาะกับภาวะเร่งด่วนแบบที่เราเจอวิกฤตในปัจจุบัน แต่ด้วยเหตุผลทางด้านบนจึงมีนักวิทยาศาสตร์หลายคนตั้งข้อกังขาและไม่สบายใจเกี่ยวกับ mRNA วัคซีนที่ใช้กันเยอะในเมืองนอกตอนนี้ อย่างไรก็ตามมันเป็นแค่ทฤษฎีนะครับ คงต้องรอเก็บข้อมูลในอนาคตต่อไป

เพิ่มเติม : ด้านล่างสำหรับเด็กสายวิทย์นะครับ ไม่ใช่สายวิทย์ผ่านไปได้เลย เพราะใช้ศัพท์ฟุ่มเฟือยเยอะ

ประเด็นที่น่ากังวลของ mRNA vaccine คือ

1. ไม่เคยมี mRNA vaccine ใช้มาก่อนเลยในโลกนี้

2. จะเอาวัคซีนเข้าร่างกาย RNA ต้อง stable มาก และต้องให้เซลล์มัน uptake เข้าไป และสร้างไวรัสจำลองขึ้นมา ร่างกายถึงสร้าง immunity จะคุม stability ยังไงให้มั่นใจ

3. วิธีการใส่ mRNA เข้าไปในร่างกายถ้าจะให้เข้าเซลล์ได้มีประสิทธิภาพจริงก็ไม่สามารถฉีดไปแบบฉีดยาธรรมดา มันต้องใช้ Gene gun หรือ electroporation ซึ่งเขาก็ปรับปรุงโดยใช้ nanoparticle มาหุ้ม แล้วทำให้เข้าเซลล์ง่ายขึ้นโดยใช้การฉีดแบบวัคซีนธรรมดาได้ แต่ยังไม่รู้ว่า nanoparticle เหล่านี้จะมีผลข้างเคียงใดๆในระยะสั้นหรือระยะยาวไหม {ตอนนี้ Moderna vaccine เจอบวมแดงที่แขนมากหลังฉีดหลายราย เป็นพวก hypersensitivity type 4 (หรืออาจจะ type 3 ในบางคนแบบ Arthus reaction) อาจถึงขนาดเป็นตุ่มน้ำพอง ไม่ทราบว่าจะจาก nanoparticle พวกนี้ไหม}

4. มีโอกาสที่ mRNA มันจะสร้างโปรตีนอื่นที่ผิดเพี้ยนขึ้นมา ถ้าดันเป็น misfolded protein คนไข้มีสิทธิ์เป็น Alzheimer's หรือโรค neurodegenerative disease อื่นๆได้

แค่ฉีดให้มันเข้าไปในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วเซลล์รับมันเข้าไปข้างใน และสร้างโปรตีนไวรัสจำลองออกมานี้ก็ยากแล้ว และยังไม่รู้เลยว่าพอมันอยู่ในเซลล์แล้วจะพลาดไปสร้างโปรตีนอะไรประหลาดๆออกมาไหม มันเหมือนเรารับ foreign genetic material อันนึงเข้าไปในร่างกายและไม่รู้จะควบคุมได้แค่ไหน

**บทความนี้เป็นแค่ความเห็นตามทฤษฎีนะครับ ถ้าต่อไปข้อมูลจากการใช้จริงของ mRNA vaccine ยิ่งมายิ่งดี พวกบทความแบบผมมันก็จะหายไปเองตามกาลเวลา อะไรที่มันพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ความจริงมันอยู่ได้ไม่ทนหรอกในโลกวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ความคิดที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้แบบลัทธิหรือหลักศาสนา**

**เขียนเพื่อจุดมุ่งหมายทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ไม่มีนัยยะเกี่ยวกับการเมืองใดๆทั้งสิ้น**

ภาพประกอบ : กฎเหล็กของ DNA-RNA-protein

[FB dr.judd chontavat
7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
แข้งลีกเอิง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Jan 2009
ตอบ: 3034
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 00:15
Top Comment [RE: หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ]
วันก่อนเห็นอดีต หัวหน้า ที่เป็นเด็กทุนเมกา บอกตัวเค้าอยากได้วัคซีน ที่ผลิตด้วยวิธีการแบบเก่า เพราะมันใช้สร้างมาหลายวัคซีนแล้ว แล้วก็ร่ำๆว่าอยากได้ แอสตร้า มาฉีด และบอกว่าในเมกาเค้าก็มีคนบ่นอยากได้แอสตร้าเหมือนกัน เค้าก็ด่ารัฐบาลเหมือนกัน

แล้วเค้าก็แชร์บทความของ จขกท นี่แหละ ผมอ่านแล้วผมก็เฉยๆนะ ไม่ได้รู้สึกกลัว mRNA และวันนี้พอดีมีคนเขียน บทความเกี่ยวกับmRNA เหมือนกันเลยขอเอามาแชร์เทียบกันเลย



ช่วงนี้ใกล้จะมีการฉีดวัคซีนเป็นวงกว้างแล้ว พบว่ามีคนแชร์ข้อมูลความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนบางชนิด โดยเฉพาะวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งอาจทำให้คนหวาดกลัวหรือลังเลในการฉีดวัคซีนมากขึ้นอีก เลยอยากอธิบายเกี่ยวกับ mRNA vaccine และ Viral vector vaccine ซักนิด
1. mRNA ที่ใช้ในวัคซีน เป็นเพียงส่วน mRNA ของ spike protein มีขนาดเล็กมาก ไม่ใช่ RNA จากเชื้อทั้งตัว เข้าสู่ร่างกายแล้วเราไม่ติดและไม่ป่วย และ mRNA นั้นไม่มีความเสถียรเลย เพราะสลายตัวได้ง่ายมากจึงต้องเก็บในอุณหภูมิเย็นจัด ดังนั้น mRNA ที่ใช้ในวัคซีน เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้ว mRNA ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วย nanoparticles ทำด้วยไขมัน nanoparticles นี้มีหน้าที่เป็นตัวนำส่ง mRNA เข้าสู่เซลล์ mRNA จะทำหน้าที่เป็น "แม่พิมพ์" ในการผลิต spike protein เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเราให้สร้าง antibody ต่อ spike หลังจากนั้น mRNA จะสลายตัวไปหมด ไม่ผนวกกับ DNA เรา ไม่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ ไม่ก่อมะเร็ง
2. Viral vector vaccine มีลักษณะการทำงานคล้ายกับ mRNA vaccine ในข้อ 1 คือ virus ที่ใช้ (adenovirus) มีหน้าที่นำส่ง DNA ที่เป็นต้นแบบของ spike protein เข้าสู่เซลล์เท่านั้น (เปรียบเทียบกัน adenovirus ก็จะเหมือน lipid nanoparticles ในข้อ 1) จากนั้น DNA ส่วนที่ผลิต spike protein ก็จะทำหน้าที่สร้าง mRNA ก่อน แล้วกระบวนการที่เหลือก็จะเหมือนข้อ 1 ทุกประการ
ตัว adenovirus นั้นถูกออกแบบมาไม่ให้แบ่งตัวได้ จึงไม่สามารถทำให้เราเจ็บป่วยได้อีก นอกจากนี้ไวรัสที่ใช้ใน AstraZeneca vaccine มีต้นแบบจากไวรัสของชิมแปนซี จึงไม่ติดและแพร่เชื้อก่อโรคในมนุษย์ และไม่ผนวกกับ DNA ของมนุษย์
3. โปรตีนของ spike ที่สร้างขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจาก mRNA หรือ viral vector vaccine ทำหน้าที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วจะถูกระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกำจัดไปหมด เหมือนกับร่างกายกำจัดเชื้อไวรัส ซึ่งแสดงว่าวัคซีนที่ฉีดได้ผลดี ดังนั้นร่างกายจะไม่เหลือโปรตีนนี้อยู่อีก ความเชื่อที่ว่าโปรตีนที่สร้างขึ้นมาจะคงค้างอยู่และอาจเกิด misfolded protein ตกตะกอน ก่อโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ALS จึงไม่เป็นความจริง
4. เทคโนโลยีการสร้างไขมันห่อหุ้มแบบ lipid nanoparticles ใช้กันมานานในวงการแพทย์พอสมควร เป็นวิธีการนำส่งยา (delivery system) แบบนึง เพื่อทำให้สามารถส่งยาไปยังเป้าหมายได้ดี ยาหลายชนิด เช่นยาต้านเชื้อรา ก็ใช้พวก liposome ห่อหุ้ม มีผลให้ยาออกฤทธิ์ดีขึ้น ผลข้างเคียงน้อยลง ไขมันที่ใช้สร้างก็คือตระกูล triglycerides และ cholesterol
5. แม้วัคซีนทั้งสองแบบจะใช้เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งไม่เคยใช้มาก่อนเป็นวงกว้าง แต่เทคโนโลยีเหล่านี้พัฒนากันมาเป็นสิบปีจนมีประสิทธิภาพดีมาก การพัฒนาแต่เดิมใช้ระยะเวลานานเพราะไม่มีสถานการณ์รีบด่วน ด้วยปัญหาการระบาดของ COVID ทำให้ทุกคนเร่งการทำงานขึ้นมาก วัคซีนทั้งสองแบบผ่านการศึกษา phase 3 ในกลุ่มอาสาสมัครเกิน 150,000 คน และมีการใช้จริงรวมกันกว่า 600 ล้านคนแล้ว ผลข้างเคียงรุนแรงพบได้น้อยมาก โดยเฉลี่ย 1:300,000-1:400,000 คน และรักษาได้
เทคโนโลยีใหม่ไม่ได้แปลว่าน่ากลัวหรืออันตรายแบบที่หลายท่านเชื่อกัน การศึกษาและการใช้จริงกับประชาชนเป็นวงกว้าง น่าจะพิสูจน์ตัวมันเองได้ดี
การสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน นอกจากจะช่วยกันยับยั้งหรือแก้ไขข้อมูลผิด ๆ แล้ว ยังต้องช่วยกันเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย ภาพนี้เป็น infographics จาก US CDC ที่ผมเห็นว่ากระชับและเข้าใจง่าย นอกจากนี้ เขายังทำรายละเอียดสั้น ๆ ที่อธิบายข้อสงสัยให้ประชาชนเป็นเวบที่เนื้อหาชัดเจน ยกประเด็นข้อสงสัยที่พบบ่อยมาตอบ เป็นสิ่งที่บ้านเราควรมีเหมือนกันครับ ถ้าภาครัฐ หรือสื่อต่าง ๆ ช่วยทำและเผยแพร่ น่าจะช่วยมาก
ทำความเข้าใจ mRNA vaccine https://www.cdc.gov/.../vacc.../different-vaccines/mrna.html
ทำความเข้าใจ viral vector vaccine https://www.cdc.gov/.../different-vaccines/viralvector.html

เครดิต ต้นทาง
https://www.facebook.com/manopsi/posts/10160924367893448
ออนไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 27218
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 00:01
[RE: หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ]
มันก็จริงอย่างที่เค้าว่าแน่แหละครับ

คือมันเป็นของใหม่ เรายังไม่รู้ผลข้างเคียงระยะยาวที่แท้จริง

แต่ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่ต้องยอมเสี่ยงอะไรบางอย่างครับ

ซึ่งพอดูจากตัวเลขสถิติอะไรหลายๆอย่างในระยะเบื้องต้น

ไฟเซอร์มันดูคุ้มเสี่ยงที่สุด คนเลยอยากได้อันนี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
สสจ ที่ย่อมาจาก สะใจจัง

ออนไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1564
ที่อยู่: หหหห
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 00:04
ถูกแบนแล้ว
[RE: หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ]
blackhunter พิมพ์ว่า:
มันก็จริงอย่างที่เค้าว่าแน่แหละครับ

คือมันเป็นของใหม่ เรายังไม่รู้ผลข้างเคียงระยะยาวที่แท้จริง

แต่ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่ต้องยอมเสี่ยงอะไรบางอย่างครับ

ซึ่งพอดูจากตัวเลขสถิติอะไรหลายๆอย่างในระยะเบื้องต้น

ไฟเซอร์มันดูคุ้มเสี่ยงที่สุด คนเลยอยากได้อันนี้  
โดยส่วนตัวถ้าฉีดฟรี ผมเอา อย่างน้อยก็ฉิบหายพร้อมยิวเมกา ถ้าซื้อผมยอมซิโนแวค ไม่คิดว่าตัวเองตายเพราะโควิดอ่ะ555
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แข้งลีกเอิง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Jan 2009
ตอบ: 3034
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 00:15
[RE: หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ]
วันก่อนเห็นอดีต หัวหน้า ที่เป็นเด็กทุนเมกา บอกตัวเค้าอยากได้วัคซีน ที่ผลิตด้วยวิธีการแบบเก่า เพราะมันใช้สร้างมาหลายวัคซีนแล้ว แล้วก็ร่ำๆว่าอยากได้ แอสตร้า มาฉีด และบอกว่าในเมกาเค้าก็มีคนบ่นอยากได้แอสตร้าเหมือนกัน เค้าก็ด่ารัฐบาลเหมือนกัน

แล้วเค้าก็แชร์บทความของ จขกท นี่แหละ ผมอ่านแล้วผมก็เฉยๆนะ ไม่ได้รู้สึกกลัว mRNA และวันนี้พอดีมีคนเขียน บทความเกี่ยวกับmRNA เหมือนกันเลยขอเอามาแชร์เทียบกันเลย



ช่วงนี้ใกล้จะมีการฉีดวัคซีนเป็นวงกว้างแล้ว พบว่ามีคนแชร์ข้อมูลความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนบางชนิด โดยเฉพาะวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งอาจทำให้คนหวาดกลัวหรือลังเลในการฉีดวัคซีนมากขึ้นอีก เลยอยากอธิบายเกี่ยวกับ mRNA vaccine และ Viral vector vaccine ซักนิด
1. mRNA ที่ใช้ในวัคซีน เป็นเพียงส่วน mRNA ของ spike protein มีขนาดเล็กมาก ไม่ใช่ RNA จากเชื้อทั้งตัว เข้าสู่ร่างกายแล้วเราไม่ติดและไม่ป่วย และ mRNA นั้นไม่มีความเสถียรเลย เพราะสลายตัวได้ง่ายมากจึงต้องเก็บในอุณหภูมิเย็นจัด ดังนั้น mRNA ที่ใช้ในวัคซีน เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้ว mRNA ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วย nanoparticles ทำด้วยไขมัน nanoparticles นี้มีหน้าที่เป็นตัวนำส่ง mRNA เข้าสู่เซลล์ mRNA จะทำหน้าที่เป็น "แม่พิมพ์" ในการผลิต spike protein เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเราให้สร้าง antibody ต่อ spike หลังจากนั้น mRNA จะสลายตัวไปหมด ไม่ผนวกกับ DNA เรา ไม่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ ไม่ก่อมะเร็ง
2. Viral vector vaccine มีลักษณะการทำงานคล้ายกับ mRNA vaccine ในข้อ 1 คือ virus ที่ใช้ (adenovirus) มีหน้าที่นำส่ง DNA ที่เป็นต้นแบบของ spike protein เข้าสู่เซลล์เท่านั้น (เปรียบเทียบกัน adenovirus ก็จะเหมือน lipid nanoparticles ในข้อ 1) จากนั้น DNA ส่วนที่ผลิต spike protein ก็จะทำหน้าที่สร้าง mRNA ก่อน แล้วกระบวนการที่เหลือก็จะเหมือนข้อ 1 ทุกประการ
ตัว adenovirus นั้นถูกออกแบบมาไม่ให้แบ่งตัวได้ จึงไม่สามารถทำให้เราเจ็บป่วยได้อีก นอกจากนี้ไวรัสที่ใช้ใน AstraZeneca vaccine มีต้นแบบจากไวรัสของชิมแปนซี จึงไม่ติดและแพร่เชื้อก่อโรคในมนุษย์ และไม่ผนวกกับ DNA ของมนุษย์
3. โปรตีนของ spike ที่สร้างขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจาก mRNA หรือ viral vector vaccine ทำหน้าที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วจะถูกระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกำจัดไปหมด เหมือนกับร่างกายกำจัดเชื้อไวรัส ซึ่งแสดงว่าวัคซีนที่ฉีดได้ผลดี ดังนั้นร่างกายจะไม่เหลือโปรตีนนี้อยู่อีก ความเชื่อที่ว่าโปรตีนที่สร้างขึ้นมาจะคงค้างอยู่และอาจเกิด misfolded protein ตกตะกอน ก่อโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ALS จึงไม่เป็นความจริง
4. เทคโนโลยีการสร้างไขมันห่อหุ้มแบบ lipid nanoparticles ใช้กันมานานในวงการแพทย์พอสมควร เป็นวิธีการนำส่งยา (delivery system) แบบนึง เพื่อทำให้สามารถส่งยาไปยังเป้าหมายได้ดี ยาหลายชนิด เช่นยาต้านเชื้อรา ก็ใช้พวก liposome ห่อหุ้ม มีผลให้ยาออกฤทธิ์ดีขึ้น ผลข้างเคียงน้อยลง ไขมันที่ใช้สร้างก็คือตระกูล triglycerides และ cholesterol
5. แม้วัคซีนทั้งสองแบบจะใช้เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งไม่เคยใช้มาก่อนเป็นวงกว้าง แต่เทคโนโลยีเหล่านี้พัฒนากันมาเป็นสิบปีจนมีประสิทธิภาพดีมาก การพัฒนาแต่เดิมใช้ระยะเวลานานเพราะไม่มีสถานการณ์รีบด่วน ด้วยปัญหาการระบาดของ COVID ทำให้ทุกคนเร่งการทำงานขึ้นมาก วัคซีนทั้งสองแบบผ่านการศึกษา phase 3 ในกลุ่มอาสาสมัครเกิน 150,000 คน และมีการใช้จริงรวมกันกว่า 600 ล้านคนแล้ว ผลข้างเคียงรุนแรงพบได้น้อยมาก โดยเฉลี่ย 1:300,000-1:400,000 คน และรักษาได้
เทคโนโลยีใหม่ไม่ได้แปลว่าน่ากลัวหรืออันตรายแบบที่หลายท่านเชื่อกัน การศึกษาและการใช้จริงกับประชาชนเป็นวงกว้าง น่าจะพิสูจน์ตัวมันเองได้ดี
การสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน นอกจากจะช่วยกันยับยั้งหรือแก้ไขข้อมูลผิด ๆ แล้ว ยังต้องช่วยกันเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย ภาพนี้เป็น infographics จาก US CDC ที่ผมเห็นว่ากระชับและเข้าใจง่าย นอกจากนี้ เขายังทำรายละเอียดสั้น ๆ ที่อธิบายข้อสงสัยให้ประชาชนเป็นเวบที่เนื้อหาชัดเจน ยกประเด็นข้อสงสัยที่พบบ่อยมาตอบ เป็นสิ่งที่บ้านเราควรมีเหมือนกันครับ ถ้าภาครัฐ หรือสื่อต่าง ๆ ช่วยทำและเผยแพร่ น่าจะช่วยมาก
ทำความเข้าใจ mRNA vaccine https://www.cdc.gov/.../vacc.../different-vaccines/mrna.html
ทำความเข้าใจ viral vector vaccine https://www.cdc.gov/.../different-vaccines/viralvector.html

เครดิต ต้นทาง
https://www.facebook.com/manopsi/posts/10160924367893448
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 14700
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 00:16
[RE: หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ]
ถามว่ามันต่างจาก viral vector ยังไงดีกว่า 55

ถ้ากลัวผลจาก Protein synthesis ควรกลัว viral vector เพราะมันยุ่งตั้งแต่กระบวนการ DNA transcription ด้วยซ้ำ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Jan 2011
ตอบ: 4585
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 00:18
[RE: หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ]
ลองดูบทความนี้ครับ ตอบข้อสงสัยบางอย่างในบทความข้างต้นได้

ช่วงนี้ใกล้จะมีการฉีดวัคซีนเป็นวงกว้างแล้ว พบว่ามีคนแชร์ข้อมูลความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนบางชนิด โดยเฉพาะวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งอาจทำให้คนหวาดกลัวหรือลังเลในการฉีดวัคซีนมากขึ้นอีก เลยอยากอธิบายเกี่ยวกับ mRNA vaccine และ Viral vector vaccine ซักนิด

1. mRNA ที่ใช้ในวัคซีน เป็นเพียงส่วน mRNA ของ spike protein มีขนาดเล็กมาก ไม่ใช่ RNA จากเชื้อทั้งตัว เข้าสู่ร่างกายแล้วเราไม่ติดและไม่ป่วย และ mRNA นั้นไม่มีความเสถียรเลย เพราะสลายตัวได้ง่ายมากจึงต้องเก็บในอุณหภูมิเย็นจัด ดังนั้น mRNA ที่ใช้ในวัคซีน เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้ว mRNA ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วย nanoparticles ทำด้วยไขมัน nanoparticles นี้มีหน้าที่เป็นตัวนำส่ง mRNA เข้าสู่เซลล์ mRNA จะทำหน้าที่เป็น "แม่พิมพ์" ในการผลิต spike protein เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเราให้สร้าง antibody ต่อ spike หลังจากนั้น mRNA จะสลายตัวไปหมด ไม่ผนวกกับ DNA เรา ไม่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ ไม่ก่อมะเร็ง

2. Viral vector vaccine มีลักษณะการทำงานคล้ายกับ mRNA vaccine ในข้อ 1 คือ virus ที่ใช้ (adenovirus) มีหน้าที่นำส่ง DNA ที่เป็นต้นแบบของ spike protein เข้าสู่เซลล์เท่านั้น (เปรียบเทียบกัน adenovirus ก็จะเหมือน lipid nanoparticles ในข้อ 1) จากนั้น DNA ส่วนที่ผลิต spike protein ก็จะทำหน้าที่สร้าง mRNA ก่อน แล้วกระบวนการที่เหลือก็จะเหมือนข้อ 1 ทุกประการ
ตัว adenovirus นั้นถูกออกแบบมาไม่ให้แบ่งตัวได้ จึงไม่สามารถทำให้เราเจ็บป่วยได้อีก นอกจากนี้ไวรัสที่ใช้ใน AstraZeneca vaccine มีต้นแบบจากไวรัสของชิมแปนซี จึงไม่ติดและแพร่เชื้อก่อโรคในมนุษย์ และไม่ผนวกกับ DNA ของมนุษย์

3. โปรตีนของ spike ที่สร้างขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจาก mRNA หรือ viral vector vaccine ทำหน้าที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วจะถูกระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกำจัดไปหมด เหมือนกับร่างกายกำจัดเชื้อไวรัส ซึ่งแสดงว่าวัคซีนที่ฉีดได้ผลดี ดังนั้นร่างกายจะไม่เหลือโปรตีนนี้อยู่อีก ความเชื่อที่ว่าโปรตีนที่สร้างขึ้นมาจะคงค้างอยู่และอาจเกิด misfolded protein ตกตะกอน ก่อโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ALS จึงไม่เป็นความจริง

4. เทคโนโลยีการสร้างไขมันห่อหุ้มแบบ lipid nanoparticles ใช้กันมานานในวงการแพทย์พอสมควร เป็นวิธีการนำส่งยา (delivery system) แบบนึง เพื่อทำให้สามารถส่งยาไปยังเป้าหมายได้ดี ยาหลายชนิด เช่นยาต้านเชื้อรา ก็ใช้พวก liposome ห่อหุ้ม มีผลให้ยาออกฤทธิ์ดีขึ้น ผลข้างเคียงน้อยลง ไขมันที่ใช้สร้างก็คือตระกูล triglycerides และ cholesterol

5. แม้วัคซีนทั้งสองแบบจะใช้เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งไม่เคยใช้มาก่อนเป็นวงกว้าง แต่เทคโนโลยีเหล่านี้พัฒนากันมาเป็นสิบปีจนมีประสิทธิภาพดีมาก การพัฒนาแต่เดิมใช้ระยะเวลานานเพราะไม่มีสถานการณ์รีบด่วน ด้วยปัญหาการระบาดของ COVID ทำให้ทุกคนเร่งการทำงานขึ้นมาก วัคซีนทั้งสองแบบผ่านการศึกษา phase 3 ในกลุ่มอาสาสมัครเกิน 150,000 คน และมีการใช้จริงรวมกันกว่า 600 ล้านคนแล้ว ผลข้างเคียงรุนแรงพบได้น้อยมาก โดยเฉลี่ย 1:300,000-1:400,000 คน และรักษาได้

เทคโนโลยีใหม่ไม่ได้แปลว่าน่ากลัวหรืออันตรายแบบที่หลายท่านเชื่อกัน การศึกษาและการใช้จริงกับประชาชนเป็นวงกว้าง น่าจะพิสูจน์ตัวมันเองได้ดี

การสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน นอกจากจะช่วยกันยับยั้งหรือแก้ไขข้อมูลผิด ๆ แล้ว ยังต้องช่วยกันเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย ภาพนี้เป็น infographics จาก US CDC ที่ผมเห็นว่ากระชับและเข้าใจง่าย นอกจากนี้ เขายังทำรายละเอียดสั้น ๆ ที่อธิบายข้อสงสัยให้ประชาชนเป็นเวบที่เนื้อหาชัดเจน ยกประเด็นข้อสงสัยที่พบบ่อยมาตอบ เป็นสิ่งที่บ้านเราควรมีเหมือนกันครับ ถ้าภาครัฐ หรือสื่อต่าง ๆ ช่วยทำและเผยแพร่ น่าจะช่วยมาก

เผื่อนึกภาพไม่ออกทาง CDC ทำรูปประกอบมาให้ดูควบคู่กันไป

Spoil
 


Credit: https://www.facebook.com/photo?fbid=10160924324328448&set=a.10150266694143448
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวโอลิมปิก
Status: You've called down the thunder, now reap the whirl
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Jan 2009
ตอบ: 9918
ที่อยู่: , Now reap the whirlwind
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 00:32
[RE: หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ]
mRNA vaccine มันเอาแค่บางส่วนของไวรัส ไม่ใช่RNA ทั้งหมดของไวรัส พอเข้าไปในร่างกายก็จะสร้างบางส่วนของไวรัสขึ้นมา่กระตุ้นระบบภูมิคุ่มกัน มันทดลองกันมาเป็น 30 ปีแล้วครับ วัคซีนหลายๆตัวเช่นพิษสุนัขบ้า ไข้ซิก้า ก็มีการทดลองวัคซีนแบบนี้ แต่มันยังติดปํญหาเรื่องความคุ้มทุน แต่เรื่องความปลอดภัยมันมีศึกษาในกลุ่มทดลองตัวอยบ่างเป็นแสนๆคน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8676
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 00:36
[RE: หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ]
ถ้ากลัวเรื่อง mRNA vaccine ก็ไม่ต้องฉีด

แต่กลัวmRNA แล้วยอมฉีด พวก Virus Vector ได้ไง
อย่าง Spunik ที่มี lot ที่ตัดต่อยีนส์พลาด ทำให้ ไวรัสยังมี ส่วนมี่ทำให้แบ่งตัวได้เพิ่ม
ไม่น่ากลัวกว่าหรอ?
ผลของวัคซีนก็สร้าง spike protein เหมือนกัน

ส่วน จะออกมาอวยความปลอดภัยของ Kill vaccineแล้วอย่าลืมเอาเรื่อง ADH มาพูดด้วยน้า

ว่ามีโอกาสปีหน้า คนฉีด Sinovac อาจจะตายเยอะขึ้นเมื่อเทีนยกับไม่ได้ฉีด อย่าลืมมาอธิบายยาวๆแบบนี้บางนะ

กลัวทางทฤษฎี มันเยอะ จะพูดให้น่ากลัวไงก็ได้
ผมก็เลยแนะนำให้เอาเข้ามาให้หมด เลือกกันเอง เลย ไม่ต้องเลือกให้ใคร

ตอนนี่ Kill vaccine ผลงานวิจัยเบื้องต้นมันห่วยเลยต้องมาดิสเครดิต วัคซีนอื่นๆหน่อย
แต่ไม่มีข้อมูลที่เป็น fact ให้ดิส ก็เลยยกทฤษฎี ต่างๆมาดิสแทน

เดียวพรุ่งนี้ผมว่าผมจะตั้งกระทู้ ดิส sinovac ทางทฤษฎีบางดีกว่า ดูดิจะมีคนหล้าฉีดมั้ย
แก้ไขล่าสุดโดย Rinsama เมื่อ Fri May 14, 2021 00:47, ทั้งหมด 1 ครั้ง
6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Talent bringt dich an den start, Einstellung ans ziel.
พรสวรรค์นำคุณไปที่จุดเริ่มต้น ทัศนคตินำคุณไปสู่เส้นชัย
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: For you..
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 202
ที่อยู่: Nakhonsawan
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 00:37
[RE: หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ]
ข้อสัณนิษฐานเต็มไปหมด>> ใช่ไหม? ได้ไหม? แค่ไหน?
ถึง mRNA จะเป็นเทคโนโลยีแบบใหม่แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะทดลองทดสอบกันอยู่แค่คนกลุ่มเดียวนะ แล้วเวลาที่ใช้ในการทดสอบก็หลายเดือนนะ ประเทศที่เจริญแล้วเขายอมรับกันทั่วโลก

บทความที่หมอกล่าวมานี่ก็ไม่เห็นว่าจะสลับซับซ้อนมากมายนะ นักวิทยฯที่เขาคิดกันมานี่จะไม่เคยตั้งคำถามแบบนี้เลย? WHO เป็นองค์กรไก่กาหรือ?

แล้วที่ ** ไว้ตอนท้ายน่ะถ้าเจตนาบริสุทธิ์จริงก็ควรมีการเปรียบเทียบในจุดเดียวกันทั้งสองแบบ ถ้าจะบอกว่าร่างกายคนเราอาจจะไม่รับของใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ละก็ ผมว่าจะใช้ mRNA หรือเชื้อที่ตายแล้วมันก็ไวรัสใหม่ทั้งคู่แหละว่ามั้ย? ผมว่าที่เขียนออกมาตอนนี้ก็เพราะเห็นว่าคนไม่อยากฉีดตัวที่เราสั่งเข้ามามากกว่า เพราะประเด็นมันอยู่ที่คนเขาตั้งคำถามว่าทำไมรัฐสั่งเอาตัวนี้มาแทนที่จะสั่งตัวที่เขาประกาศรับรองแล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย Jone_Plon_Jai เมื่อ Fri May 14, 2021 00:38, ทั้งหมด 1 ครั้ง
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
+++ You'll Never Walk Alone +++
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2007
ตอบ: 47100
ที่อยู่: แขนของทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 00:40
[RE: หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ]
mRNA ไม่ได้ต่างกับ Viral vector เลยในกระบวนการ ต่างกันนิดๆหน่อยๆเอง ถ้ามองว่า mRNA อันตรายตัว VV ก็อันตรายด้วยไม่ต่างกัน เอาจริงๆผมค่อนข้างมั่นใจว่าผลข้างเคียงในอนาคตมันน้อยมากๆแล้วมันจะเป็นแนวทางการพัฒนาวัคซีนในอนาคตเป็นหลักด้วย คือเดิมมันก็วิจัยพัฒนาอยู่แล้วแค่มันเกิดโรคมาพอดีในช่วงนั้นก็เลยเร่งทำออกมาเฉยๆ เป็นปกติของภาวะเร่งด่วน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 3805
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 00:42
[RE: หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ]
อาจมีผลข้างเคียงระยะสั้น+ยาว ก็จริง
แต่ก็อาจไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลยก็ได้ เป็นแค่ข้อสันนิษฐานเฉยๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 648
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 01:06
หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ
ขอปักไว้กลับมาอ่านแบบละเอียดๆ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Sep 2006
ตอบ: 641
ที่อยู่: Molecular world
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 02:47
หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ
Rinsama พิมพ์ว่า:
ถ้ากลัวเรื่อง mRNA vaccine ก็ไม่ต้องฉีด

แต่กลัวmRNA แล้วยอมฉีด พวก Virus Vector ได้ไง
อย่าง Spunik ที่มี lot ที่ตัดต่อยีนส์พลาด ทำให้ ไวรัสยังมี ส่วนมี่ทำให้แบ่งตัวได้เพิ่ม
ไม่น่ากลัวกว่าหรอ?
ผลของวัคซีนก็สร้าง spike protein เหมือนกัน

ส่วน จะออกมาอวยความปลอดภัยของ Kill vaccineแล้วอย่าลืมเอาเรื่อง ADH มาพูดด้วยน้า

ว่ามีโอกาสปีหน้า คนฉีด Sinovac อาจจะตายเยอะขึ้นเมื่อเทีนยกับไม่ได้ฉีด อย่าลืมมาอธิบายยาวๆแบบนี้บางนะ

กลัวทางทฤษฎี มันเยอะ จะพูดให้น่ากลัวไงก็ได้
ผมก็เลยแนะนำให้เอาเข้ามาให้หมด เลือกกันเอง เลย ไม่ต้องเลือกให้ใคร

ตอนนี่ Kill vaccine ผลงานวิจัยเบื้องต้นมันห่วยเลยต้องมาดิสเครดิต วัคซีนอื่นๆหน่อย
แต่ไม่มีข้อมูลที่เป็น fact ให้ดิส ก็เลยยกทฤษฎี ต่างๆมาดิสแทน

เดียวพรุ่งนี้ผมว่าผมจะตั้งกระทู้ ดิส sinovac ทางทฤษฎีบางดีกว่า ดูดิจะมีคนหล้าฉีดมั้ย
 

รอฟังเรื่อง sinovac ครับ อยากเห็นข้อมูลหลายๆด้านครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Feb 2021
ตอบ: 429
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 05:44
[RE: หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ]
อิสราเอลที่ฉลาดสุด ยังฉีดกันทั้งประเทศ

ถ้ามีสิทธิ์ที่ผลลัพธ์ระยะยาวจะแย่จริงๆ เค้าเสี่ยงสิ้นชาติเลยนะ

คิดว่าพวกเขาจะไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลยหรอ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
โค้ช B-License
Status: Middle fingers up if you don't give a f**k
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Apr 2010
ตอบ: 42802
ที่อยู่: ข้าวเหนียวมะม่วงรสช็อคโกแลต
โพสเมื่อ: Fri May 14, 2021 06:49
[RE]หมอท่านนี้อธิบายเรื่อง เทคโนโลยีmrna ใครค้านไหม เห็นเพิ่มไหมครับ
อะไรที่เมกันเขาเลือกให้คนของเขา อันนี้ดีแน่นอน
ส่วนอะไรที่เป็นของจีนแล้วจีนไม่ใช้เนี่ย เลวร้ายสุดๆ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

SAVE OF THE CENTURY !!

ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel