[RE: เพื่อนหมั่นไส้ไม่คบ! 'โด้' อภิสิทธิ์มากไป-เบี้ยวซ้อมรับรถหรู]
timematoom พิมพ์ว่า:
SignoraDybala พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
SignoraDybala พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
Demokratia พิมพ์ว่า:
ไม่รู้ความจริงเป็นยังไง
แต่คนที่ยืนข้างโด้ คือ จอห์น เอลคานน์ ประธานบริหารเฟอร์รารี่ ถัดมาคือ อัญเญลลี่ ประธานสโมสรยูเวนตุส ซึ่งตระกูลอัญเญลลี่เป็นเจ้าของกลุ่มเฟียตที่เป็นเจ้าของเฟอร์รารี่อีกที
ผมคิดว่าโด้คงไม่ไปรับรถวันที่ต้องมีซ้อมหรอก ถ้าผู้บริหารไม่ต้องการให้มาช่วยทำประชาสัมพันธ์ให้
ตอนนี้กลุ่มเฟียตกับเฟอร์รารี่แยกกันแล้วครับ กลุ่มเฟียตไปรวมกับ PSA ตั้งเป็นบ.ใหม่ ส่วนเฟอร์รารี่แยกออกจากเฟียตก่อน ยังบริหารเองอยู่ (แต่คนถือหุ้นส่วนนึงเป็นกลุ่มเดียวกัน Exor
ทั้ง Ferrari และ Stellantis มีผู้ถือหุ้นใหญ่สุด คือ Exor ค่ะ
จะใช้ว่า Exor เป็นผู้ถือหุ้น Stellantis ใหญ่ที่สุดก็ได้แหละ เพราะถ้าดูเปอร์เซนต์ Exor ก็ถือเยอะสุด แต่จริงๆหุ้นถูกแบ่งให้ PSA 50% FCA 50%
แค่ดูชื่อ Chairman ก็น่าจะพอบอกได้แล้วนะคะ ว่าระหว่างทีม FCA กับ ทีม PSA Group ฝั่งไหนน่าจะมีอิทธิพลมากกว่ากันใน Stellantis
แต่ CEO ก็ให้ PSA นะครับ แล้วบอร์ด 11 คน ก็เป็น FCA 5 PSA 6 นะครับ
สุดท้ายเป้าหมายเค้าคือแบ่งเค้กเท่าๆกันนั่นแหละครับ แค่ว่ามันมีคนนั่ง chairman สองคนไม่ได้ แล้วก็มีคนนั่ง CEO สองคนไม่ได้
ใช่ค่ะ ฝั่ง PSA Group มี 6 คน เพราะบอร์ดทั้ง 11 คน นั้นนับรวม ตาวาเรซ อดีต CEO ของ PSA ซึ่งปัจจุบันนั่งแท่น CEO ของ Stellantis เข้าไปด้วย
ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการแบ่งกันถือหุ้นบริษัทละ 50:50 ตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงการควบรวมกิจการ แต่บริษัทที่ถือหุ้นใหญ่สุดของ Stellantis ก็ยังเป็น Exor ไม่ได้ผิดจากที่เราเขียนไว้
และก็ใช่อีกเช่นเดียวกันค่ะ ที่บริษัท ๆ หนึ่งจะมี คนนั่ง chairman สองคนไม่ได้ แล้วก็มีคนนั่ง CEO สองคนไม่ได้ เพราะตำแหน่งทั้งสองตำแหน่งนั้นต่างกันมาก
Chairman (ประธานบริษัท) กับ CEO (ประธานกรรมการบริหาร) คงไม่ต้องย้ำหลายรอบนะคะว่าตำแหน่งไหนใหญ่กว่าและมีอำนาจมากกว่ากัน
ดังนั้น การที่ทีมงานจากฝ่ายไหนได้นั่งแท่นประธานบริษัท มันก็บอกอะไร ๆ ได้อย่างชัดเจนในตัวมันเองแล้วนะคะ ว่าฝ่ายไหนมีอิทธิพลและอำนาจมากกว่ากันในการดูแล Stellantis
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker
