ฟิลิปป์ ลาห์ม อดีตกัปตันทีม บาเยิร์น มิวนิค มองว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำทีมนับตั้งแต่ออกจาก บาร์เซโลน่า และเล่นแบบรัดกุมกว่าเดิมกับที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

กุนซือชาวสแปนิช สร้างชื่อขึ้นมาพร้อมระบบการเล่นแบบ ติกิ-ตาก้า ที่ทัพ "ต่างดาว" จนทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกและยังคงทำผลงานได้ดีมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

"หลังจากจุดสูงสุดที่สเปน คุณจะเห็นได้ว่า กวาร์ดิโอล่า กำลังปรับตัว" ลาห์ม กล่าวกับ El Pais

"ตอนนั้น บาร์เซโลน่า เป็นทีมที่ดีมาก นักเตะเกือบทุกคนทำหน้าที่กันได้หลากหลาย หลังจากที่พวกเขาคว้าแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อีป 2009 และ 2011 เขาทำให้คู่แข่งหายใจไม่ออก"

"ที่สไตล์แบบนี้เป็นไปได้เพราะทั้งสโมสรทำตามแนวทางโทเทิลฟุตบอลของ โยฮัน ครัฟฟ์ และ เป๊ป เองก็ทำตามแนวทางนี้ หากทำได้เขาคงส่ง อิเนียสต้า ลงไปเล่น 11 คน"

"แต่เมื่อเป็นที่อื่นเขาต้องยอมสละอุดมคติของเขาลงเล็กน้อย ที่ มิวนิค เขาปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญอย่าง ริเบรี่ และ ร็อบเบน ไปเล่นที่ริมเส้น และให้ฟูลแบ็คทั้งสองข้างโยกเข้ามาด้านไหนในขณะที่ทีมกำลังครองบอล"

"ซิตี้ ตอนนี้ก็เล่นแบบรัดกุมกว่าเดิมด้วยการอาศัยกองหลังที่ปราดเปรียวเก็บลูกกลางอากาศได้ บางครั้งพวกเขาก็ปล่อยบอลไปแล้วถอยลงมา ป้องกันตามพื้นที่ หยุดหายใจสักพักแล้วรอสวนกลับ"

"เขาได้เรียนรู้แล้วที่จะเอ็นจอยประตูง่ายๆจากลูกเตะมุมหรือการยิงนอกกรอบ เขามองว่าประตูเหล่านั้นก็มีเสน่ห์ของมันเอง ตอนนี้เขาไม่ได้คลั่งไคล้บอลบุกแหลกแบบ ติกิ-ตาก้า แล้ว"

ติกิ ตาก้า มันไม่ได้ใช้กันได้ทุกทีมเนียนๆเท่าบาซ่านี้แหละ แต่เป๊ปเน้นรับมากกว่าเดิม อาจจะด้วย เน้นรัดกุมมากขึ้น

เพราะยังไงทีมของเจ้าตัวก็มักจะทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำอยู่ละ ฤดูกาลที่แล้วแนวรับรั่วสุดๆ

เป๊ปไม่เคยเก่าเลยจริง ๆ บางเวลาที่ฟอร์มซิตี้ดรอป ๆ ก็มีคิดบ้างนะว่าหรือเขาเริ่มจับทางบอลเป๊ปได้แล้ว

แต่สุดท้ายเป๊ปก็จะแก้ไขในรายละเอียดที่เราอาจจะไม่รู้ จนมันก็กลับมายอดเยี่ยมในทุก ๆ ครั้ง

"เขาได้เรียนรู้แล้วที่จะเอ็นจอยประตูง่ายๆจากลูกเตะมุมหรือการยิงนอกกรอบ เขามองว่าประตูเหล่านั้นก็มีเสน่ห์ของมันเอง ตอนนี้เขาไม่ได้คลั่งไคล้บอลบุกแหลกแบบ ติกิ-ตาก้า แล้ว"

ประโยคนี้เทียบได้กับอาร์เซน่อลช่วงยุค เวนเกอร์

ไม่รู้พี่จะต่อบอลทำซิ่งกันเข้าประตูเลยหรือไง บางครั้งยิงง่ายๆ อยาง ปีกโยนเข้าหัวกองหน้า หรือเตะมุมฟรีคิกธรรมดาบ้างก็ได้

สุดท้ายแม้อาร์เซนอลเล่นดีกว่าทีมอื่นเกือบทุกนัดแต่ไปแพ้จังหวะเล็กๆน้อยๆอยู่บ่อยๆโดยเฉพาะคู่แข่งที่ขนาดใกล้เคียงกัน

เมื่อก่อนเป๊ปแกกะเอาสวยงามทุกช็อตไง ไม่ยิงไกล ไม่ครอสโหม่ง พอไปเจอทีมอุดแพ็คหลังแน่นๆนี่เยี่ยวเหนียวเลย ตอนนั้นแอบรำคาญเหมือนกันว่าทำไมไม่ยิงยัดๆหรือโยนวัดดวงไปมั่งฟระ

เป็นโค้ชที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอจริงๆ ยืดหยุ่นไปตามนักเตะกับทีมที่เจอ เสียดายจริงๆ ที่พี่แกเลือกไปเพื่อนบ้าน

ยังไงปีนี้ขอ เชียร์เป๊บแหละ ให้พิสูจน์ตัวเองได้ หลังออกมาจากบาซ่า

แต่เชื่อว่าถึงได้แชมป์มา ก็จะโดนบลัฟเรื่องใช้เงินอยู่ดี

ก็ไช่ไงเขาถึงยืน1 ณตอนนี้ เพราะปรับตัว เปลี่ยนแปลง พัตทนาไปข้างหน้าเสมอ

พูดได้เต็มปากเลยว่า โคตรของจริง ถ้าไม่ติดว่ารักป๋า ผมจะบอกว่าเขาคือที่1ตลอดกาลด้วยซ้ำ

จะเล่นแบบนั้นได้ต้องมีนักเตะที่เข้าใจระบบและฝีเท้าขั้นเทพอย่าง ซาบี้, อิเนียสต้า, บุสเกต์, เมสซี่ ในทีม

ทุกอย่างล้วนตเองมีปรับเปลี่ยนครับเรื่องปกติเลย

เราต้องมีอุปกรณ์ในมือเยอะๆ เพื่อสามารถรองรัยปัญหาที่หลากหลายได้

ไม่ใช่ถือค้อนแล้วจะไม่ถืออย่างอื่น ในวันที่ปัญหามันไม่ใช่ตะปู เราจัฝะแก้ไขมันยังไงละครับ ส่วนนี่ชื่นชมเป๊ปมากก

แต่เอาจริง ดูเป๊บมาสิบปี มันก้ยังเดิมๆอยุ่นะ เรื่องการเข้าทำอะ

ผมว่าแมนซิฤดูกาลนี้เปลี่ยนไปเยอะเลย สังเกตุจากฤดูกาลก่อนที่มีเอลกุน ห้อยหน้า
กับตอนนี้ที่ไม่จำเป็นต้องมีกองหน้า เปีปก็หาวิธีเข้าทำได้..
หลักๆเลยที่ผมเซอร์ไพร์สคือ เอาวิงแบ๊กมาเล่นคล้ายๆ Creative midfield

เหตุผลหลักมันอาจจะไม่ใช่เพราะว่าเปลี่ยนนักเตะอย่างเดียวหรอก
ผมว่าสไตล์บอลแต่ละประเทศ แตกต่างกัน แผนที่ใช้ได้ดีก็ควรต้องแตกต่างกัน

สไตล์ติกี้ตาก้า ใช้ไปนานๆ คนก็หาทางแก้ลำได้มากขึ้น

ทั้งคน เวลา สถานที่ เปลี่ยนหมด ขืนยังยึดติดรูปแบบเดิมๆ ไม่ปรับตัว ก็คงไม่ประสบความสำเร็จ

tiki taka จะได้ผลต่อเมื่อมีนักเตะอย่าง ชาบี้ อินเนสต้า บุสเกต และเมสซี่

แต่จากที่ดูบอลมาทั้งหมด ผมชอบติกิตากาที่สุดละ

เคยไม่ชอบเป๊บนะ เพราะเชียร์ทีมตรงข้ามกับที่แกคุมตลอด

แต่มาถึงตอนนี้ ต้องยอมรับแล้วล่ะ

ว่าเป็น 1 ใน ผู้จัดการทีมทีดีที่สุดตลอดกาล