ผมบอกได้เลยว่า ก็ประมาณทุกวันนี้แหละ อย่างมากก็ไม่หนีมาเลเท่าไร

ผมคิดว่าเรื่องการศึกษาน่าจะไปได้ไกลกว่านี้นะ รุสึกวันนี้ล้าหลังชาวบ้านชาวเมืองเขาเยอะมาก ทุกๆเรื่อง

บางทีก็เคยคิดแบบนัั้นนะแต่สุดท้ายตอนนี้คือผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดและดีที่สุดแล้ว

คือมันแยกชัดเจนจนสามารถโละอะไรที่แย่ๆออกได้ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงและคนก็ยอมรับ
มันไม่เทาเหมือนแต่ก่อนมันแยกเป็นยินหยางแล้วตอนนี้ จะแก้อะไรก็ชัดเจนขึ้น
เสียแค่ตอนนี้มันมืดจัดๆจนต้องทนกับมันไปนานสู้กับมันไปนาน

อนาคตมันอาจจะสว่างกว่าก่อนรัฐประหารก็ได้แต่ตอนนี้มืดกว่านั้นหลายเท่า

เจริญกว่านี้เยอะ แต่ไม่แซงเกาหลีแน่ๆครับ

เราไม่มีเมกาหนุนหลังยาวๆแบบเขา

ส่วนตัวผมว่าน่าจะประมาณ 90% ของไต้หวันตอนนี้

ถ้าไม่มีรัฐประหารเลย ก็จะไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จหรือกลุ่มบุคคลที่จะรวบเอาทรัพยากรของประเทศ

เล่นแร่แปรธาตุเข้ากระเป๋าตัวเองจนรวยอ้วกแตกแบบทุกวันนี้รวมถึงยุคที่ผ่านๆมาด้วย และเมื่อพวก Badass พวกนั้นไม่ได้มี Power

ชี้นำสังคม(โดยยึดผลประโยชน์ส่วนตัวและโคตรเหง้าของมันเป็นหลัก)ทำไมถึงคิดว่าประเทศจะไม่พัฒนาไปไกลกว่านี้ล่ะ

บอกไม่ถูกอะครับว่ามันจะดีขึ้นหรือแย่ลง

แต่ผมเชื่อว่าคนไทยน่าจะมีหัวคิดและสังคมน่าจะ shape ไปในทางที่ดีขึ้นกว่านี้แหละ

ทุกครั้งที่มีการแตะต้องประวัติศาสตร์มักจะมีอันเป็นไปทุกรอบเลย

ผมกำลังนึกภาพจิตร ภูมิศักดิ์นั่งถกการเมืองกับ ส.ศิวลักษ์ หรือกลุ่มคนเดือนตุลา (ที่ไม่ใช่คอมประกอบแบบอเนกนะ) มานั่งสอนเรื่องหลักการไรงี้

จริงๆจะบอกว่าอย่าไปซีเรียสเรื่องคอมมิวนิสต์ให้มากครับ มีหลายสิ่งที่มาจากแนวคิดคอมมิวนิสต์ทั้งนั้นครับ ตั้งแต่ระบบสวัสดิการสังคม สหภาพแรงงาน แม้กระทั้่งลาคลอดหรือวันหยุดประจำปีของบริษัทครับ

พ่อผมเล่าว่าไทยหลังยุคป๋าเปรม ไทยเจริญแบบฮวบฮาบ จะกลายเป็นเสือตัวที่ห้า จนทำเอเชียฟองสบู่แตกไปรอบนึง (555) แต่ก็กลับมาได้ แต่พอเจอหลังปี 49 นี่เหมือนหยุดนิ่งไปลย

ไม่พังมาก ก็ปังมาก

ของเราเหมือนเล่นเกมออฟไลน์ ไม่พอใจเริ่มเกมใหม่ตลอด

คงได้นั่งรถไฟ ไปเชียงใหม่แบบ 4 ชม

ประมาณมาเล ไม่น่าถึงสิงคโปร์

มันเป็นพื้นฐานนิสัยคนไทยที่ยังไงก็ไม่ช่วยกันพายเรือครับ

ประเทศไทยถ้าพัฒนาจริงผมว่าคงไม่ไปทางสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีที่เป็นสายเทคโนโลยีหรอก คงออกแนวนิวซีแลนด์หรืออิตาลีที่เป็นสายชิว ท่องเที่ยว ศิลปะ อาหาร บันเทิงไรแนวนี้เพราะถูกจริตกับคนไทยมากกว่า ไม่ก็ไปทาง Hospitality & wellness สำหรับคนมาพักผ่อนระยะยาวล่ะมั้ง

เอาจริงๆจะเป็นแบบอิตาลีผมว่าศักยภาพเราก็ไปได้นะ

แบบท่านว่าน่าสนใจ พัฒนาแบบสายชิล

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะดีกว่านี้ไหม เพราะการปฏิวัติ 2 ครั้งหลัง มันมีการปลุกมวลชนฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาก่อนโดย ยัดเยียดข้อมูลผิดๆ หรือเอาผลประโยชน์เข้าไปหลอกล่อ ทำให้เกิดความขัดแย้งทางสังคมและมวลชน ซึ่งถ้าไม่ปฏิวัติอาจจะมีการเสียเลือดเสียเนื้อจริงๆอย่างที่ไอ้ตู่มันว่า (แผนของมัน)

อีกมุมนึง แล้วท่านคิดว่า ถ้าประเทศเราไม่เคยมี propaganda คิดว่าจะอยู่จุดไหนตอนนี้

รัฐประหารจะกล้าเกิดขึ้นได้หรือไม่

กลุ่มประเทศ G8 เป็นประเทศราชของ อาณาจักรรัตนโกสินทร์ ครับ