อันเดรีย อันเญลลี่ ประธานสโมสร ยูเวนตุส เผยมุมมองต่อวงการฟุตบอลว่าไม่ได้เป็นแค่เกมกีฬาอีกต่อไป แต่กลายเป็นอุตสาหกรรมประเภทหนึ่งที่ต้องการความมั่นคง ทำให้เขาต้องร่วมก่อตั้งยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก

12 ทีมยักษ์ของยุโรปร่วมก่อตั้งยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก รายการฟุตบอลระดับทวีปที่จะลงเตะในช่วงกลางสัปดาห์, ชนกับรายการเดิมอย่างแชมเปี้ยนส์ลีก

อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสต่อต้านจากแฟนบอล, สโมสรอื่นๆ และองค์กรต่างๆ ทำให้หลายๆทีมต้องถอนตัวไป

กระนั้น ประธานสโมสร "ม้าลาย" ก็เคยเผยถึงมุมมองต่อเกมฟุตบอล โดยกล่าวว่ามันกลายเป็นอุตสาหกรรมไปแล้ว และต้องการความมั่นคง ในโลกที่ต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มออนไลน์

อันเญลลี่ ใหัสัมภาษณ์กับ La Repubblica ก่อนที่ 6 ทีมจากอังกฤษจะถอนตัวว่า "เราอยากอยู่ใกล้ชิดกับแฟนบอล พวกเราจะสร้างรายการที่จะนำผลประโยชน์มาสู่ทุกส่วนของพีระมิดฟุตบอล, และกระจายรายได้ให้กับสโมสรอื่นๆมากขึ้น"

"ผมขอเน้นย้ำว่ามันจะเป็นการแข่งขันที่เปิด และยังมีที่ว่างอีก 5 ตำแหน่งสำหรับทีมอื่นๆ การบ่มเพาะนักเตะดาวรุ่งจะยังดำเนินต่อไป ปัญหาใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมฟุตบอลคือความมั่นคง"

"40 เปอร์เซ็นต์ของคนวัยระหว่าง 15-24 ปีไม่สนใจฟุตบอล เราต้องมีรายการที่พอจะสู้กับสิ่งที่พวกเขาผลิตบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่เปลี่ยนโลกเสมือนให้ความจริง"

"ฟุตบอลไม่ใช่แค่เกมกีฬาอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นอุตสาหกรรมประเภทหนึ่งที่ต้องการความมั่นคง แม้แต่ในถิ่นกำเนิดที่ยุโรป, เกมที่มีมูลค่าสูงสุดไม่ใช่นัดชิงของแชมเปี้ยนส์ลีก แต่เป็นรอบเพลย์ออฟของแชมป์เปี้ยนชิป เพื่อชิงตั๋วขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก มันมีมูลค่าถึง 150 ล้าน, นี่มันไม่ได้มั่นคงเลย"

"เราต้องต้องมีกฏการเงินที่เข้มงวดอย่างที่เราจะทำในซูเปอร์ลีก"

อย่างไรก็ตาม เมื่อตอนนี้ 6 สโมสรใหญ่จากอังกฤษถอนตัวไป ก็ดูเหมือนว่าโปรเจกต์ดังกล่าวจะไม่มีความมั่นคงอีกต่อไป

ที่มันล่มเพราะแบบนี้แหละ จะด่ายูฟ่าจะเกลียดยูฟ่ายังไงก็ได้ แต่สุดท้ายมันมาตกม้าตายตรงที่ตอบไม่ได้ว่า ESL มันตอบโจทย์สิ่งที่ตัวเองด่ายูฟ่าไว้อย่างไร มันจะกระจายรายได้ได้มากขึ้นอย่างไร มันพัฒนาวงการฟุตบอลอย่างที่พูดยังไง

ถ้าตอบแฟนๆได้ผมว่าทุกคนพร้อมสนับสนุน ไม่มีใครชอบยูฟ่าอยู่แล้ว ปัญหาคือสิ่งที่ตัวเองเสนอมันก็สวนทางกับสิ่งที่ตัวเองพูดเหมือนกัน

ที่มันล่มก็เพราะคุณคิดถึงแค่เงิน แค่ฐานะของสโมสร โดย ไม่ถามความเห็นของแฟนบอล ที่ทำให้สโมสรมีทุกวันนี้นั่นเอง

แฟนบอล แค่มาทวงสมบัติทางความรู้สึกของเค้า ที่คุณเป็นเจ้าของตามกฎหมายคืนก็แค่นั้น

"Football is nothing without fans"

ก็ชัดนะว่าเค้าเ็นแก่เงิน มองว่ามันนำกีฬาไปแล้ว ให้กีฬาตามหลัง แต่ผมไม่ชอบการคิดแบบนี้ เพราะถ้าผมเลือกเชียร์ทีมด้วยเหตุผลเรื่องเงิน ตัวเล่นเก่งๆดังๆมาเยอะ ผมเลือกเชียร์มาดริด แมนซิตไปนานแล้ว

เห็นแก่เงินอ่ะดิ

อืม อันนี้ชัดว่ามองแบบธุรกิจนําล้วนๆ

ยังอีก ยังจะอ้างว่า 5 ทีมเป็นการแข่งขันที่เปิดอีก เขาด่าเยอะๆก็เรื่องนี้แหละ

มีตั้งห้าทีมที่จะได้หมุนเวียนมาเตะ

เอ็งนิยามคำว่าฟุตบอล แค่ 12 ทีมไม่ได้ เอ็งต้องไปพูดคำอื่น เช่น ทำให้เสาหลักของวงการฟุตบอลอยู่รอด อะไรก็ว่าไป

การทำให้ฟุตบอลมั่นคง อาจจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ แต่ไม่ใช่แบบที่คิดมา ต้องมีช่องให้ทีมอื่นบ้าง ไม่ใช่แค่ 5 ทีม

ต้องมีแผนการกางออกมาว่าจะกระจายความมีส่วนร่วมยังไงให้มันดูไม่ผูกขาดแบบนี้ 12 ทีมต้องมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามผลงาน

อุตส่าห์รอดู ESL มันส์ๆ ดันออกแบบโดยใช้ธุรกิจนำเกินไปแบบนี้มันก็ล่มสิวะ คราวหน้า วางแผนใหม่แล้วไปหาแฟนบอลแนวร่วมมาก่อน ค่อยออกมา

อย่าเอาแฟนบอลมาเป็นตัวประกัน

ก้ทีมท่านเล่นทุ่มค่าเหนื่อยขนาดนั้นก้สมควรแหละที่ต้องการ ESL

มั่นคงแค่พวกตัวเองไง ไม่ได้มั่นคงกับภาพรวมเลย

บางทีนายก็ซื่อต่อตัวเองมากไปนะ นี่มันไม่ใช่ยูเวนตุสทีมเดียว หรือ Exor นะ
จะเป็นผู้นำบางทีก็ต้องชนะใจคนหมู่มากให้ได้ก่อน
แต่ตอนนี้มันไม่ได้เหมือนที่หวังแล้วอันเดรีย จะเอาไงต่อไปละนี่

บัญชีแดงรอบนี้ยูฟ่าจ้องแน่นอนจะเอาเงินจากตระกูลหรือบ.ในเครือไม่ได้ง่ายๆ อีกต่อไปแน่

แหม่ไม่อยากจะถ่มน้ำลาย

อันนี้พูดถูกเลย

เด็กสมัยใหม่จะไม่ค่อยสนใจฟุตบอลมากเท่าไหร่ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ผู้ชายทุกคนจะต้องมีทีมโปรดทีมที่รัก

แต่เด็กสมัยใหม่กับมุ่งไปทางแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างพวกเกมส์ง่ายๆ

สมัยเราเตะบอลพลาสติกลูกสิบยี่สิบบาทมีความสุข มากๆแล้ว
สมัยใหม่นู่นเติมเกมส์เข้าระบบฟีฟ่าออนไลน์ทีหลายพันหลายร้อย ทั้งๆที่พ่อแม่ให้เงินไปบางคนยังให้ไม่ถึงร้อยต่อวัน

เด็กสมัยนี้หาเงินเก่งครับ ผมกล้าพูดเลยว่าบางคนหาเงินได้เก่งกว่าผู้ใหญ่มากๆ

จนเด็กสมัยนี้ลืมเลือนของโลกกีฬาไปเลย

คุณลองเดินถามเด็กสักสิบคนว่าดูบอลไหม ผมว่ากล้าบอกเลย บางคนไม่รู้แม้กระทั่งชื่อนักบอลด้วยซ้ำ
อาจจะเพราะโลกออนไลน์มันดูดคนรุ่นใหม่ออกจากกีฬาไปเยอะมากๆ

คิดแล้วใจหายครับ