ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status: เกรียนพอสนุก
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Sep 2013
ตอบ: 1016
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 21, 2021 11:43
[RE: ESL ท่านชอบคำพูดไหนของยอดนักธุรกิจ CEO แห่ง SS มากที่สุด]
jalaalob พิมพ์ว่า:
เห็นด้วยกับ​ ESL เห็นด้วยกับ​ ปิรามิด​ ฟุตบอล

แต่ไม่เห็นด้วยกับยอดปิรามิดที่เป็น​ EUFA

อยากให้โมเดล​ ESL คล้าย​ UCL​ เดิม​ แต่ตัดยู่ฟ่าอออกไป​

คือดำเนินงานโดยไม่ผ่านนายหน้า​ หรือหาก​ UEFA​ ยังอยู่ โครงสร้างรายได้​ และ​ โครงสร้างการบริหาร
ควรต้องมีการเปลี่ยนแปลง  


เหมือนให้จัดไทยลีกแต่ห้ามมีบริษัทไทยลีก 555 คำว่า เสือนอนกินต้องมาแล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: 【=◈︿◈=】
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 19216
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Wed Apr 21, 2021 11:51
[RE: ESL ท่านชอบคำพูดไหนของยอดนักธุรกิจ CEO แห่ง SS มากที่สุด]
เรื่อง ESL นี่ ผมมีจุดที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ของทั้ง 2 ฝั่ง

จะบอกว่าฝ่ายไหนถูกหรือผิดตรงๆแบบนั้นไม่ได้
ในทั้ง 2 ฝั่ง ก็มีความสมเหตุสมผลของมันอยู่

ขึ้นอยู่กับว่าจะหาจุดลงตัวตรงกลางแบบไหนเท่านั้น


แต่ไอ้พวกพอฝั่งนึงชนะ แล้วมาเคลมเครดิตเข้าตัว โชว์ว่าตัวเองเก่ง เจ๋ง ฉลาด
แถมยังทับถมเยาะเย้ย เห็นอีกฝั่งเป็นตัวตลก เห็นคาวมคิดอีกฝั่งเป็นอะไรที่ต้องเอามาหัวเราะเยาะ

ผมว่าไอ้พวกนี้น่าสมเพชว่ะ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ติ่งโล้นครับผม คลั่งโล้นนะ
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status: เกรียนพอสนุก
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Sep 2013
ตอบ: 1016
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 21, 2021 12:00
[RE: ESL ท่านชอบคำพูดไหนของยอดนักธุรกิจ CEO แห่ง SS มากที่สุด]
ติ่งโล้น พิมพ์ว่า:
เรื่อง ESL นี่ ผมมีจุดที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ของทั้ง 2 ฝั่ง

จะบอกว่าฝ่ายไหนถูกหรือผิดตรงๆแบบนั้นไม่ได้
ในทั้ง 2 ฝั่ง ก็มีความสมเหตุสมผลของมันอยู่

ขึ้นอยู่กับว่าจะหาจุดลงตัวตรงกลางแบบไหนเท่านั้น


แต่ไอ้พวกพอฝั่งนึงชนะ แล้วมาเคลมเครดิตเข้าตัว โชว์ว่าตัวเองเก่ง เจ๋ง ฉลาด
แถมยังทับถมเยาะเย้ย เห็นอีกฝั่งเป็นตัวตลก เห็นคาวมคิดอีกฝั่งเป็นอะไรที่ต้องเอามาหัวเราะเยาะ

ผมว่าไอ้พวกนี้น่าสมเพชว่ะ  


พอเขาเอาคืน รับไม่ด้าย ใจบาง น่าสมเพศเหมือนกัน 555
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Sep 2010
ตอบ: 1687
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 21, 2021 12:05
[RE: ESL ท่านชอบคำพูดไหนของยอดนักธุรกิจ CEO แห่ง SS มากที่สุด]
R.ManCini พิมพ์ว่า:
jalaalob พิมพ์ว่า:
เห็นด้วยกับ​ ESL เห็นด้วยกับ​ ปิรามิด​ ฟุตบอล

แต่ไม่เห็นด้วยกับยอดปิรามิดที่เป็น​ EUFA

อยากให้โมเดล​ ESL คล้าย​ UCL​ เดิม​ แต่ตัดยู่ฟ่าอออกไป​

คือดำเนินงานโดยไม่ผ่านนายหน้า​ หรือหาก​ UEFA​ ยังอยู่ โครงสร้างรายได้​ และ​ โครงสร้างการบริหาร
ควรต้องมีการเปลี่ยนแปลง  

อันนี้ผมถามแบบใสๆเลยนะ ในความเข้าใจของคุณ ยูฟ่า ไม่ดียังไงครับ
 


ตามความเข้าใจของผม

โครงสร้างการบริหารงานและตัดสินใจ

-UEFA มีหน้าที่เสมือนเจ้าของพื้นที่ (เจ้าของรายการแข่งขัน) ที่เอาสินค้าดีๆ ที่คนสนใจมาวางขาย (สโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียง) และเก็บส่วนแบ่งจากรายได้ จากการขายสินค้าเหล่านั้น โดยเป็นผู้กำหนดโครงสร้างรายได้ในพื้นที่ของตน และเป็นเจ้าของพื้นที่เดียวที่สินค้าเหล่านั้นจะมาวางขายได้ ในปัจจุบัน (ผูกขาดทางการค้า) ดังนั้น เจ้าของสินค้าเหล่านั้นไม่มีทางเลือกยังไงก็มาขายที่นี่แหละ แม้ว่าเงื่อนไขรายได้ที่เจ้าของจะได้รับ จะไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่นัก เนื่องจากบรรดาเจ้าของต้องลงทุนเองทุกอย่างและเป็นเงินจำนวนมาก

- การตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบ การแข่งขัน ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มจำนวนทีมแข่งขัน จำนวนแมตแข่งขัน รายได้ที่เพิ่มขึ้น เทียบกับ ความเสี่ยงในการบริหารจัดการของสโมสรที่ลงแข่ง ไม่คุ้มค่ากัน แถมบรรดาสโมสรเหล่านั้นยังไม่มีสิทธิ์ที่จะคัดต้านการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่บรรดาสโมสรเหล่านั้น ต้องเป็นผู้แบกรับความเสี่ยง ด้วย เนื่องจากไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ ถ้าอยากมาขายที่นี่ก็ต้องทำตามเท่านั้น

- ช่วงวิกฤตโควิด เมื่อรายได้บรรดาทีมใหญ่ ลดลงมหาศาลจากการที่ไม่มีแฟนบอลเข้าชม แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆยังเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการแข่งขัน ค่าเหนื่อย เป็นต้น จนมีข่าว บรรดาสโมสร ต่างขอลดค่าจ้างนักเตะ เพื่อพยุงฐานะทางการเงินของสโมสร แต่ UEFA เจ้าของพื้นที่ไม่มีมาตรการช่วยเหลือใดๆ แก่สโมสรผู้เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อพยุงฐานะทางการเงินของสโมสรเหล่านั้น ยังคงได้รับส่วนแบ่งเท่าเดิมสบายใจ ไม่เดือดร้อน ในขณะที่บรรดาเจ้าของสินค้าต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ยังต้องแบกรับต่อไปเพราะดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

- ข่าวต่างๆ ที่ออกมา ชวนให้สงสัยในความโปร่งใสในการบริหารจัดการขององค์กร UEFA และ FIFA ซึ่งเหมือนดินแดนสนธยา ตรวจสอบไม่ได้

- จึงเป็นการเร่งกระบวนการของแนวคิด USL ที่บรรดาเจ้าของสโมสรต่างๆ มองว่าเป็น 1 ในทางรอด และมีความเป็นธรรมในเรื่องของรายได้และการบริหารจัดการมากกว่า ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด แต่จากข้อมูล USL ที่เปิดเผยออกมาในปัจจุบัน ก็มีความกังวลเกี่ยวกับ ปิรามิด ฟุตบอล ที่จะไปกระทบกับทีมเล็กๆ ต่างๆ

โดยสรุป ผมจึงคิดว่าแนวคิด USL เป็นแนวคิดที่ดี แต่ต้องปรับเงื่อนไข โดยอยากให้ สโมสรต่างๆ มีสิทธิเข้าร่วมตามเงื่อนไข คล้ายกับ UCL เพื่อคงไว้ในความตื่นเต้นจากการแข่งขัน และ ปิรามิดฟุตบอล แต่ถ้า UEFA ยังอยู่คงต้องมีการปรับโครงสร้างพอสมควร

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 5797
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 21, 2021 13:41
[RE: ESL ท่านชอบคำพูดไหนของยอดนักธุรกิจ CEO แห่ง SS มากที่สุด]
AlfaZero พิมพ์ว่า:
El Coco11 พิมพ์ว่า:
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1993113

ทุกคำในมู้นี้ เด็ดจริงบอกเลย

 
มู้ ESL ที่ทำให้ไม่นึกถึงESL  


จริงท่าน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
COYS

ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Sep 2020
ตอบ: 2506
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 21, 2021 13:46
ถูกแบนแล้ว
[RE: ESL ท่านชอบคำพูดไหนของยอดนักธุรกิจ CEO แห่ง SS มากที่สุด]
MachineRedz พิมพ์ว่า:
โคตรเจ๋งไปเลยครับ คนอื่นเค้าแสดงความคิดเห็น แสดงมุมมอง พอเป็นฝ่ายผิด หรือ ผลมันออกมาอีกอย่างงี่

ก็หยิบมาถ่มกันซะแบบนี้ ของแบบนี้มันก็แล้วแต่มุมมองรึเปล่า สิ่งแวดล้อมหรือประสบการณ์และสิ่งที่เห็นมันก็ไม่เหมือนกันรึเปล่า

คือส่วนตัวไม่ได้อะไรนะ ถ้าอาจจะไม่ชอบความคิดเห็นหรือมุมมอง ก็แจ้งมันซะตรงนั้น

บางทีแค่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเป็นมุมมอง ไม่เห็นจะแย่ตรงไหนเลยนี่นา  

แลกเปลี่ยนความคิดเห็น จะอยู่ฝั่งไหนมันไม่เท่าไหร่หรอกครับ

แต่ไอคำว่านักธุรกิจ SS สำหรับไอพวกมั่นใจเกินตัว คิดว่าตัวเองเก่งมาก ต้องแซะ ดูถูกอีกฝั่งที่ไม่เห็นด้วย คิดว่าอีกฝั่งโง่มาก อวยตัวเองเป็นพวกคิดแบบนักธุรกิจ ถ้าได้ลองอ่านผ่านๆก็จะเจอบ่อยๆ ช่วงที่ผ่านมา
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 718
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 21, 2021 16:37
[RE: ESL ท่านชอบคำพูดไหนของยอดนักธุรกิจ CEO แห่ง SS มากที่สุด]
Spoil
jalaalob พิมพ์ว่า:
R.ManCini พิมพ์ว่า:
jalaalob พิมพ์ว่า:
เห็นด้วยกับ​ ESL เห็นด้วยกับ​ ปิรามิด​ ฟุตบอล

แต่ไม่เห็นด้วยกับยอดปิรามิดที่เป็น​ EUFA

อยากให้โมเดล​ ESL คล้าย​ UCL​ เดิม​ แต่ตัดยู่ฟ่าอออกไป​

คือดำเนินงานโดยไม่ผ่านนายหน้า​ หรือหาก​ UEFA​ ยังอยู่ โครงสร้างรายได้​ และ​ โครงสร้างการบริหาร
ควรต้องมีการเปลี่ยนแปลง  

อันนี้ผมถามแบบใสๆเลยนะ ในความเข้าใจของคุณ ยูฟ่า ไม่ดียังไงครับ
 


ตามความเข้าใจของผม

โครงสร้างการบริหารงานและตัดสินใจ

-UEFA มีหน้าที่เสมือนเจ้าของพื้นที่ (เจ้าของรายการแข่งขัน) ที่เอาสินค้าดีๆ ที่คนสนใจมาวางขาย (สโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียง) และเก็บส่วนแบ่งจากรายได้ จากการขายสินค้าเหล่านั้น โดยเป็นผู้กำหนดโครงสร้างรายได้ในพื้นที่ของตน และเป็นเจ้าของพื้นที่เดียวที่สินค้าเหล่านั้นจะมาวางขายได้ ในปัจจุบัน (ผูกขาดทางการค้า) ดังนั้น เจ้าของสินค้าเหล่านั้นไม่มีทางเลือกยังไงก็มาขายที่นี่แหละ แม้ว่าเงื่อนไขรายได้ที่เจ้าของจะได้รับ จะไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่นัก เนื่องจากบรรดาเจ้าของต้องลงทุนเองทุกอย่างและเป็นเงินจำนวนมาก

- การตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบ การแข่งขัน ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มจำนวนทีมแข่งขัน จำนวนแมตแข่งขัน รายได้ที่เพิ่มขึ้น เทียบกับ ความเสี่ยงในการบริหารจัดการของสโมสรที่ลงแข่ง ไม่คุ้มค่ากัน แถมบรรดาสโมสรเหล่านั้นยังไม่มีสิทธิ์ที่จะคัดต้านการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่บรรดาสโมสรเหล่านั้น ต้องเป็นผู้แบกรับความเสี่ยง ด้วย เนื่องจากไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ ถ้าอยากมาขายที่นี่ก็ต้องทำตามเท่านั้น

- ช่วงวิกฤตโควิด เมื่อรายได้บรรดาทีมใหญ่ ลดลงมหาศาลจากการที่ไม่มีแฟนบอลเข้าชม แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆยังเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการแข่งขัน ค่าเหนื่อย เป็นต้น จนมีข่าว บรรดาสโมสร ต่างขอลดค่าจ้างนักเตะ เพื่อพยุงฐานะทางการเงินของสโมสร แต่ UEFA เจ้าของพื้นที่ไม่มีมาตรการช่วยเหลือใดๆ แก่สโมสรผู้เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อพยุงฐานะทางการเงินของสโมสรเหล่านั้น ยังคงได้รับส่วนแบ่งเท่าเดิมสบายใจ ไม่เดือดร้อน ในขณะที่บรรดาเจ้าของสินค้าต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ยังต้องแบกรับต่อไปเพราะดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

- ข่าวต่างๆ ที่ออกมา ชวนให้สงสัยในความโปร่งใสในการบริหารจัดการขององค์กร UEFA และ FIFA ซึ่งเหมือนดินแดนสนธยา ตรวจสอบไม่ได้

- จึงเป็นการเร่งกระบวนการของแนวคิด USL ที่บรรดาเจ้าของสโมสรต่างๆ มองว่าเป็น 1 ในทางรอด และมีความเป็นธรรมในเรื่องของรายได้และการบริหารจัดการมากกว่า ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด แต่จากข้อมูล USL ที่เปิดเผยออกมาในปัจจุบัน ก็มีความกังวลเกี่ยวกับ ปิรามิด ฟุตบอล ที่จะไปกระทบกับทีมเล็กๆ ต่างๆ

โดยสรุป ผมจึงคิดว่าแนวคิด USL เป็นแนวคิดที่ดี แต่ต้องปรับเงื่อนไข โดยอยากให้ สโมสรต่างๆ มีสิทธิเข้าร่วมตามเงื่อนไข คล้ายกับ UCL เพื่อคงไว้ในความตื่นเต้นจากการแข่งขัน และ ปิรามิดฟุตบอล แต่ถ้า UEFA ยังอยู่คงต้องมีการปรับโครงสร้างพอสมควร

 
 

ขอบคุณมากครับ พอจะเข้าใจมุมมองคุณหละ
เรามาไล่เรื่องนี้ตั้งแต่อดีตดีมั๊ยครับ
ประเด็นแรก คุณบอกผลตอบแทนไม่พอกับสโมสร เราลองย้อนไป 10 ปีก่อนดีมั๊ย วันนึงมันเคยพอแบบเหลือเฟือ วันนึงสโมสรเหล่านั้นอัพค่าใช้จ่ายตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องของนักเตะ วันนี้จะเป็นฝ่ายมาบอกว่า (เห้ย มันไม่พอแล้วเฟ้ย ) ก็ดูจะยังไงๆอยู่เช่นกัน

ประเด็น 3 Covid มันกระทบทุกภาคส่วน ทุกเศรษฐกิจ คุณรักสโมสรคุณเลยโฟกัสที่ความอยู่รอดสโมสรก็เข้าใจได้ครับ แต่คนอื่นๆก็ลำบากเช่นเดียวกัน สมมติว่างบที่ยูฟ่าเก็บมาแล้วปีๆนึงแทบไม่เหลือเลย distribute ไปยัง ลีคหญิง ลีคเด็ก ลีคคนพิการ และอีกหลายๆส่วน ผมเพิ่งอ่านเรื่องทีมงานที่ร่วมมือกับ sportradar ในการ monitor การโกงทั้งก่อน+ระหว่าง เกมส์ โดยคนที่จะคอยโกงก็พวก สโมสร555 กรรมการ มาเฟีย ซึ่งอะไรเหล่านี้ใช้แรงงานคน ใช้เงินทั้งสิ้น ในเมื่อ cash balance ปีๆนึงเท่ากับ 0 นั่นเท่ากับว่าถ้าจะให้ช่วยเหลือทีมใหญ่ด้วยการแบ่งเงินให้เยอะขึ้นในช่วงนี้ คำถามคือแล้วจะต้องไปตัดส่วนไหนมาให้แทน image ที่เกิดคือคนเลยมองว่า ไอ้พวกนักลงทุนธุรกิจจ๋าเห็นแก่ตัว 12-15 ทีมนี้ พอเรือจะล่มแล้วเห็นแก่ตัว เอาตัวรอด ไม่สนใจองคาพยพ (อันนี้ไม่ใช่ผมนะ ก็เป็นภาพที่สังคมมองแหละครับ)

ประเด็น 4 ต้องไปดูบรษัทที่ทำหน้าที่ audit แหละว่าเป็นใคร แต่น่าจะมีชื่่อแหละครับ หลังจากประเด็นพลาตินี่ และ แบลตเตอร์ ผมเชื่อว่าการโกงเกิดได้ค่อนข้างยาก เพราะคนจับตาเยอะ จะว่าไปไอ้พลาตินี่ ก็ไม่ได้เป็นการเอาเงินจากกองทุนกลาง(เช่นเงินที่เก็บจาก ucl) แต่เป็นเงินจากการ์ต้าผู้ให้ผลประโยชน์ แค่ราวๆ 2ล้านดอล ซึ่งกลับมาปัจจุบัน จะใช้เรื่อง corupt มาเป็นจุดอ้างเรือง esl ก็ไม่ได้เพราะไม่ได้เอาเงินกองกลาง และ ตัวเงินแทบไม่มีนัยยะ เมื่อเทียบกับสิ่งที่ esl ต้องการคือ 300x15 ทีม ร่วมๆ 45xx ล้าน อาจจะสรุปแปลกๆนิดคือ โกง/ไม่โกง โปร่งใส/ไม่โปร่งใส ในเชิงตัวเลขนับว่าไม่มีนัยยะ ที่ตอบโจทย์ ผมเชื่อว่าเปเรซก็หยิบข้อนี้มาพูดเพียงเพื่อให้ฝั่งนั้นมีความชอบธรรม คือถึงมันโปร่งใส 12 ทีมก็อยากดัน esl เพราะช๊อตเงินอยู่ดี

หลักๆคือข้อ 3 แหละ ครับ ที่ถามคุณเพราะผมอ่านไปอ่านมา เวปนี้หลายๆคนเข้าใจว่ายูฟ่าเป็นบริษัทเหมือน เทสล่า ฮอนด้า ปตท ที่แสวงหากำไร เอาเงินไปแบ่งพวกพ้องกันเอง ทำนาบนหลังคนอะไรเทือกๆนั้นเลยหละครับ คำว่า พ่อค้าคนกลาง ยี่ปั๊ว ซึ่งจริงๆเค้าก็เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาที่รันวงการฟุตบอล เช่น เวงเกอร์ตอนนี้ที่ทำงานอยุ่ หรือ ราคิติค ที่ถูกเซ็นให้ช่วยเหลือโครงการกับเด็กๆ โค๊ชโปรไลเซ็น ล้วนแล้วแต่ใช้เงินในการ operate
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Sep 2010
ตอบ: 1687
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Apr 22, 2021 14:38
[RE: ESL ท่านชอบคำพูดไหนของยอดนักธุรกิจ CEO แห่ง SS มากที่สุด]
R.ManCini พิมพ์ว่า:
Spoil
jalaalob พิมพ์ว่า:
R.ManCini พิมพ์ว่า:
jalaalob พิมพ์ว่า:
เห็นด้วยกับ​ ESL เห็นด้วยกับ​ ปิรามิด​ ฟุตบอล

แต่ไม่เห็นด้วยกับยอดปิรามิดที่เป็น​ EUFA

อยากให้โมเดล​ ESL คล้าย​ UCL​ เดิม​ แต่ตัดยู่ฟ่าอออกไป​

คือดำเนินงานโดยไม่ผ่านนายหน้า​ หรือหาก​ UEFA​ ยังอยู่ โครงสร้างรายได้​ และ​ โครงสร้างการบริหาร
ควรต้องมีการเปลี่ยนแปลง  

อันนี้ผมถามแบบใสๆเลยนะ ในความเข้าใจของคุณ ยูฟ่า ไม่ดียังไงครับ
 


ตามความเข้าใจของผม

โครงสร้างการบริหารงานและตัดสินใจ

-UEFA มีหน้าที่เสมือนเจ้าของพื้นที่ (เจ้าของรายการแข่งขัน) ที่เอาสินค้าดีๆ ที่คนสนใจมาวางขาย (สโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียง) และเก็บส่วนแบ่งจากรายได้ จากการขายสินค้าเหล่านั้น โดยเป็นผู้กำหนดโครงสร้างรายได้ในพื้นที่ของตน และเป็นเจ้าของพื้นที่เดียวที่สินค้าเหล่านั้นจะมาวางขายได้ ในปัจจุบัน (ผูกขาดทางการค้า) ดังนั้น เจ้าของสินค้าเหล่านั้นไม่มีทางเลือกยังไงก็มาขายที่นี่แหละ แม้ว่าเงื่อนไขรายได้ที่เจ้าของจะได้รับ จะไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่นัก เนื่องจากบรรดาเจ้าของต้องลงทุนเองทุกอย่างและเป็นเงินจำนวนมาก

- การตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบ การแข่งขัน ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มจำนวนทีมแข่งขัน จำนวนแมตแข่งขัน รายได้ที่เพิ่มขึ้น เทียบกับ ความเสี่ยงในการบริหารจัดการของสโมสรที่ลงแข่ง ไม่คุ้มค่ากัน แถมบรรดาสโมสรเหล่านั้นยังไม่มีสิทธิ์ที่จะคัดต้านการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่บรรดาสโมสรเหล่านั้น ต้องเป็นผู้แบกรับความเสี่ยง ด้วย เนื่องจากไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ ถ้าอยากมาขายที่นี่ก็ต้องทำตามเท่านั้น

- ช่วงวิกฤตโควิด เมื่อรายได้บรรดาทีมใหญ่ ลดลงมหาศาลจากการที่ไม่มีแฟนบอลเข้าชม แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆยังเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการแข่งขัน ค่าเหนื่อย เป็นต้น จนมีข่าว บรรดาสโมสร ต่างขอลดค่าจ้างนักเตะ เพื่อพยุงฐานะทางการเงินของสโมสร แต่ UEFA เจ้าของพื้นที่ไม่มีมาตรการช่วยเหลือใดๆ แก่สโมสรผู้เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อพยุงฐานะทางการเงินของสโมสรเหล่านั้น ยังคงได้รับส่วนแบ่งเท่าเดิมสบายใจ ไม่เดือดร้อน ในขณะที่บรรดาเจ้าของสินค้าต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ยังต้องแบกรับต่อไปเพราะดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

- ข่าวต่างๆ ที่ออกมา ชวนให้สงสัยในความโปร่งใสในการบริหารจัดการขององค์กร UEFA และ FIFA ซึ่งเหมือนดินแดนสนธยา ตรวจสอบไม่ได้

- จึงเป็นการเร่งกระบวนการของแนวคิด USL ที่บรรดาเจ้าของสโมสรต่างๆ มองว่าเป็น 1 ในทางรอด และมีความเป็นธรรมในเรื่องของรายได้และการบริหารจัดการมากกว่า ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด แต่จากข้อมูล USL ที่เปิดเผยออกมาในปัจจุบัน ก็มีความกังวลเกี่ยวกับ ปิรามิด ฟุตบอล ที่จะไปกระทบกับทีมเล็กๆ ต่างๆ

โดยสรุป ผมจึงคิดว่าแนวคิด USL เป็นแนวคิดที่ดี แต่ต้องปรับเงื่อนไข โดยอยากให้ สโมสรต่างๆ มีสิทธิเข้าร่วมตามเงื่อนไข คล้ายกับ UCL เพื่อคงไว้ในความตื่นเต้นจากการแข่งขัน และ ปิรามิดฟุตบอล แต่ถ้า UEFA ยังอยู่คงต้องมีการปรับโครงสร้างพอสมควร

 
 

ขอบคุณมากครับ พอจะเข้าใจมุมมองคุณหละ
เรามาไล่เรื่องนี้ตั้งแต่อดีตดีมั๊ยครับ
ประเด็นแรก คุณบอกผลตอบแทนไม่พอกับสโมสร เราลองย้อนไป 10 ปีก่อนดีมั๊ย วันนึงมันเคยพอแบบเหลือเฟือ วันนึงสโมสรเหล่านั้นอัพค่าใช้จ่ายตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องของนักเตะ วันนี้จะเป็นฝ่ายมาบอกว่า (เห้ย มันไม่พอแล้วเฟ้ย ) ก็ดูจะยังไงๆอยู่เช่นกัน

ประเด็น 3 Covid มันกระทบทุกภาคส่วน ทุกเศรษฐกิจ คุณรักสโมสรคุณเลยโฟกัสที่ความอยู่รอดสโมสรก็เข้าใจได้ครับ แต่คนอื่นๆก็ลำบากเช่นเดียวกัน สมมติว่างบที่ยูฟ่าเก็บมาแล้วปีๆนึงแทบไม่เหลือเลย distribute ไปยัง ลีคหญิง ลีคเด็ก ลีคคนพิการ และอีกหลายๆส่วน ผมเพิ่งอ่านเรื่องทีมงานที่ร่วมมือกับ sportradar ในการ monitor การโกงทั้งก่อน+ระหว่าง เกมส์ โดยคนที่จะคอยโกงก็พวก สโมสร555 กรรมการ มาเฟีย ซึ่งอะไรเหล่านี้ใช้แรงงานคน ใช้เงินทั้งสิ้น ในเมื่อ cash balance ปีๆนึงเท่ากับ 0 นั่นเท่ากับว่าถ้าจะให้ช่วยเหลือทีมใหญ่ด้วยการแบ่งเงินให้เยอะขึ้นในช่วงนี้ คำถามคือแล้วจะต้องไปตัดส่วนไหนมาให้แทน image ที่เกิดคือคนเลยมองว่า ไอ้พวกนักลงทุนธุรกิจจ๋าเห็นแก่ตัว 12-15 ทีมนี้ พอเรือจะล่มแล้วเห็นแก่ตัว เอาตัวรอด ไม่สนใจองคาพยพ (อันนี้ไม่ใช่ผมนะ ก็เป็นภาพที่สังคมมองแหละครับ)

ประเด็น 4 ต้องไปดูบรษัทที่ทำหน้าที่ audit แหละว่าเป็นใคร แต่น่าจะมีชื่่อแหละครับ หลังจากประเด็นพลาตินี่ และ แบลตเตอร์ ผมเชื่อว่าการโกงเกิดได้ค่อนข้างยาก เพราะคนจับตาเยอะ จะว่าไปไอ้พลาตินี่ ก็ไม่ได้เป็นการเอาเงินจากกองทุนกลาง(เช่นเงินที่เก็บจาก ucl) แต่เป็นเงินจากการ์ต้าผู้ให้ผลประโยชน์ แค่ราวๆ 2ล้านดอล ซึ่งกลับมาปัจจุบัน จะใช้เรื่อง corupt มาเป็นจุดอ้างเรือง esl ก็ไม่ได้เพราะไม่ได้เอาเงินกองกลาง และ ตัวเงินแทบไม่มีนัยยะ เมื่อเทียบกับสิ่งที่ esl ต้องการคือ 300x15 ทีม ร่วมๆ 45xx ล้าน อาจจะสรุปแปลกๆนิดคือ โกง/ไม่โกง โปร่งใส/ไม่โปร่งใส ในเชิงตัวเลขนับว่าไม่มีนัยยะ ที่ตอบโจทย์ ผมเชื่อว่าเปเรซก็หยิบข้อนี้มาพูดเพียงเพื่อให้ฝั่งนั้นมีความชอบธรรม คือถึงมันโปร่งใส 12 ทีมก็อยากดัน esl เพราะช๊อตเงินอยู่ดี

หลักๆคือข้อ 3 แหละ ครับ ที่ถามคุณเพราะผมอ่านไปอ่านมา เวปนี้หลายๆคนเข้าใจว่ายูฟ่าเป็นบริษัทเหมือน เทสล่า ฮอนด้า ปตท ที่แสวงหากำไร เอาเงินไปแบ่งพวกพ้องกันเอง ทำนาบนหลังคนอะไรเทือกๆนั้นเลยหละครับ คำว่า พ่อค้าคนกลาง ยี่ปั๊ว ซึ่งจริงๆเค้าก็เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาที่รันวงการฟุตบอล เช่น เวงเกอร์ตอนนี้ที่ทำงานอยุ่ หรือ ราคิติค ที่ถูกเซ็นให้ช่วยเหลือโครงการกับเด็กๆ โค๊ชโปรไลเซ็น ล้วนแล้วแต่ใช้เงินในการ operate  


ขอบคุณสำหรับมุมมองครับ ซึ่งผมว่าก็ยังมีคำถามอยู่ดีแหละครับว่า ตกลงแล้ว UEFA บริหารงานโปร่งใสหรือไม่ หรือโครงสร้างส่วนแบ่งรายได้เป็นธรรมหรือไม่ หรือโครงสร้าวค่าตอบแทนฝ่ายบริหารเป็นอย่างไร เพราะว่าไม่มีการเปิดเผย

แต่ส่วนตัวผมเห็นว่า องค์กร อย่าง UEFA เทียบกับ Tesla ฮอนด้า ปตท. ค่อนข้างต่างกันชัดเจน Tesla, ฮอนด้า, ปตท. นั้นลงทุนในโครงสร้างและนวัตกรรมมหาศาล ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหาผลกำไรอยู่แล้ว ซึ่งนั่นเป็นเรื่องปกติมากครับ

อีกทั้ง เนื่องจาก บ. เหล่านี้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ถูกกำกับดูแลโดยตลาด และมี auditor ท็อปของโลกเป็นผู้สอบอยู่แล้ว ซึ่งในรายงานประจำปีต้องเปิดเผยข้อมูลแก่สาธารณะพอสมควร โครงสร้างค่าตอบแทนฝ่ายบริหารก็ต้องเปิดเผย ดังนั้น ความโปร่งใสก็น่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง

ขณะที่ UEFA ผมไม่แน่ใจว่าเป็น องค์กร ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อแสวงหาผลกำไรหรือไม่ แต่การที่ข้อมุลหลายอย่างไม่ได้มีการเปิดเผยแก่สาธารณชน และไม่มีหน่วยงานไปกำกับดูแล มันจึงมีการตั้งคำถามเป็นธรรมดาครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel