เหมือนหลายๆคนจะยังสับสน​ มึนงง​ และคิดว่าESLคือบอลลีคที่จับบิ๊กทีม12+8มาหวดกันทั้งฤดูกาลอยู่เลย

ใจเย็นนะครับ​ ESL​ คือบอลถ้วยที่จะตั้งมาแยกกับUCL​เพราะทีมใหญ่ทั้ง12ทีมไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มทีมของUCLที่จะใช้​Swiss Model ที่เกมเพิ่มขึ้นมาเป็นร้อยแต่รายได้เท่าเดิม

ไอประเด็นจะหนีไปตั้งลีคเตะกันเอง​ นั่นคือกรณีที่FAของแต่ละประเทศจะแบนทีมใหญ่ไม่ให้ลงแข่งในประเทศนะครับ​ ซึ่งตรงข้อนี้ยากมากว่าจะเกิดขึ้น​ คิดสภาพลีคสเปนไม่มีสองมาดริด​ ไม่มีบาซ่า​ ก็พอ​ ใครมันจะซื้อลิขสิทธิ์ไปดู

สรุป​ ESL​ มันก็คือบอลถ้วยกลางสัปดาห์ที่ทีมใหญ่เขาจะตั้งกันเองเพราะเบื่อที่จะร่วมทำธุรกิจกับเสือนอนกินอย่างUEFAแล้วแค่นั้นแหละคร๊าบบบ

ผมก็เขียนอธิบายหลายรอบแล้วนะวันนี้
มันก็ยังมีคนไม่เข้าใจอะไรอีก

ไม่ใช่แค่ในบอร์ดนี้นะ ต่างประเทศก็เยอะ
คือไม่ศึกษาเลย เห็นอะไรลงท้ายด้วยลีค
ก็คิดว่าเขาจะเป็นตั้งลีคแบบแข่ง 38 นัด
เหมือนลีคในประเทศ

อธิบายจนท้ออะ

ตามนั้นครับ พอสายข่าวรู้ว่า ยูฟ่าอนุมัติการแข่งแบบใหม่ ซุปเปอรลีคก็ชิงใส่ก่อนเลย บอกเลยยูฟ่าไม่มีทางแบนทีมจากบอลลีค หรือทีมชาติได้แน่นอน ดีไม่ดียูฟ่าจะพังทั้งระบบเอง

เอาตรงๆนะ ถ้ามีให้เลือก 2 ระหว่าง ESL เป็นลีกไปเลย กับ ESL เป็นถ้วยยุโรปแทน UCL ผมเลือกเป็นลีกดีกว่าอีก

ถ้าเป็นลีกไปเลยก็คิดซะว่าเป็นโมเดล NBA/NFL เตะกันไป 20 ทีม แล้วก็เพลย์ออฟส์หาแชมป์ ไม่ต้องไปยุ่งกับคนอื่นเลย

แต่ถ้าเป็นถ้วยยุโรป แล้วยังเล่นลีก คิดดูสมมุติปีนี้อาร์เซน่อลจบพรีเมียร์ลีกอันดับ 10 แล้วได้ไป ESL ทุกปี ที่ได้เงินเยอะกว่า UCL ที่เลสเตอร์จบอันดับ 4 ได้ไป เป็น 2-3 เท่า แค่คิดก็อายแล้วว่ะ

แต่ถ้าให้เลือกจริงๆ ผมไม่สนับสนุน ESL ซักทางอยู่แล้ว ต้องขอให้ Uefa ยอมบ้าง จะได้กลับมาแบบเดิม

อยากเห็นระบบเมกันเกมเหมือนกัน​ แต่พวกลีคในประเทศมันตะกลายเป็นG=League​แทนมั้ยล่ะนั้น5555

ตามนั้นละ

ยังงงอยู่เลยว่ามันทำลายวัฒนธรรมยังไงฟะ

UCLมันก็เอาท็อป4ไปนานนมแล้ว16ทีมที่เหลือไม่ได้โอกาสไม่เห็นบ่นกันเลย เชฟฟิลด์เงี้ยเคยได้ไปเหรอUCL แค่นี้มันก็ไม่เท่าเทียมแล้ว

แล้วคิดเหรอว่าระดับนักธุรกิจรวมกันจะโง่ขนาดเตะแพทเทิร์นเดียวทุกปี

กร่อยจะตายห่า เรายังรู้คิดเหรอพวกนั้นไม่รู้ มันก็แค่ระบบในปีแรก

ESL มันมีความเป็นลีคผสมบอลถ้วยปะครับเจอกันหมดก่อนเอาดับ1-2ไปแข่งต่อ เหมือารมณ์ลีกซ้อนลีก คนเลยไม่ค่อยพอใจ

ลีกในประเทศก็คงจะกลายเป็นเหมือนลีกบาสยุโรปทั่วไปอ่ะครับ ที่รอป้อนซูเปอร์สตาร์เข้า ESL แล้วก็รับของเหลือ

อย่าง Luka Doncic ก็มาจาก Real Madrid ไง

ไม่ครับ​ เตะเท่าUCLเบย

กลุ่มนึงมี10ทีม​ เตะทีมละ8นัด​ เอาอันดับ1-4 ของสองกลุ่มไปรอบ8ทีม

เตะกันจนจบถึงรอบชิงก็เท่ากับที่ต้องเตะใน​UCLเลย​ เพราะไม่มีรอบ16ทีม

แต่ระบบใหม่ของUCLเนี่ย​ เตะกันหูดับตับไหม้

คือเห็นด้วยกับซุปเปอร์ลีคนะ คงได้ดูบอลมันๆตลอด แต่ก็อดสงสารทีมเล็กๆและทีมไม้ประดับไม่ได้ คือรายได้คงหายไปมากโข
ทีมใหญ่ได้เงินเยอะ ก็เปย์กันสนุกละงานนี้ ซื้อนักเตะทะลุเพดานกันพรึบ พอกลับมาเตะในลีกคงเหมือนบาเยินในบุนเดส ที่ผูกขาดอยู่ทีมเดียว ช่องว่างระหว่างทีมหัว/ท้ายตารางคงห่างกันมาก
หรือผมเข้าใจอะไรผิด รบกวนผู้รู้แนะนำทีครับ

ถ้าอิงระบบอเมริกันเกม ทั้ง 20 ทีมต้องถอนตัวออกมาจากลีกเดิมเลย แล้วก็ต้องเล่นแบบลีกปกติเพียงแต่ไม่มีระบบเลื่อนชั้น ตกชั้น ทั้ง 20 ทีมต้องยกเลิกระบบอคาเดมี่ของตัวเอง มีการกำหนดเพดานค่าเหนื่อยทีมให้เท่ากันทุกทีม ห้ามมีการซื้อขายนักเตะ ปรับเป็นระบบเทรดหรือเซ็นต์ผู้เล่นที่เป็น free agent อย่างเดียว(ห้ามผู้เล่นที่ไม่ผ่านการลงทะเบียนเข้ารับการดราฟต์เข้าลีกโดยเด็ดขาด ไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งนั้น) แล้วอาจจะต้องใช้วิธีใช้เงินของ ESL ในการจ่ายเงินซื้อนักเตะทั่วโลกที่จะลงทะเบียนเข้าสู่ลีก ESL หรือสมาคมไปกำหนดเองว่าเด็กที่จะเข้าลีก ESL ต้องมีเกณฑ์ประมาณไหน โดยกำหนดโควต้ามาเลยว่าปีนึงรับเข้ากี่คน แล้วให้ปรับเป็นระบบดราฟต์แบบอเมริกันเกม ทีมบ๊วยลีก ESL ได้ดราฟต์ no.1 ไล่กันไปจนทีมแชมป์เลือกคนสุดท้าย จะดราฟต์กี่รอบว่ากันไป ถ้าเป็นแบบนี้ได้ ผมเชียร์สุดตัวเลย บอกเลยว่าแฟนๆ ESL จะได้เห็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ และทุกทีมจะมีความหวังในอนาคตเท่ากันทุกทีม

เรื่อง UCL ถึงเชฟฟิลด์ไม่เคยไปเล่น แต่อย่างน้อยเค้าก็มีโอกาสได้สู้นะครับ ไม่ได้มาล็อกโควต้าทีมใหญ่เหมือน Super league เพราะระบบแบบเก่าทีมอย่างสเปอร์หรือเลสเตอร์เลยได้มีโอกาสสู้จนได้ไป UCL ครั้งแรกกับเขาเหมือนกัน

รู้ไหมครับว่าUCLปีแรกก็จิ้มทีมมาเตะ

ถ้าตามนี้ ESL น่าจะเตะ 18 นัด ++
UCL เตะ 6-13 นัดครับ

ผมว่า esl น่าจะต้องลดจำนวนนัดลงอีก

** edit ขอโทษด้วยครับถ้าท่านหมายถึง UCL swiss model จำนวนนัดก็จะใกล้ๆกัน

ไม่รู้ครับ แล้วยังไงต่อครับ