งบไปไหนหมดครับท่านๆ

แล้วแต่หมอกับพยาบาลเจ้าหน้าที่ ที่ทำหน้าที่ตรงนั้นครับ
ถ้าเค้าว่าดี ก็ดีถ้าว่าไม่ดีก็ไม่ดี ซึ่งผมดูแล้ว มันเหมือนมาเข้าค่าย
มากกว่ามารักษาโรคน่ะ

แนวๆนี้ไม่มีที่กั้น รวมชายหญิงนี่ที่ไหนทำมั่งอ่ะคับ

มันไม่ได้เปลืองงบอะไรเลยถ้าคิดจะทำ

ที่ไม่กั้นผมคิดออกอย่างเดียวว่าเพื่อให้ดูแลได้ง่ายทั่วถึง แต่อีกมุมก็คิดว่าคนที่มาอยู่ที่นี่ช่วงนี้อาการก็น่าจะไม่หนัก
กั้นนิดนึงแบบพวกบูทงานท่องเที่ยว งานหนังสือก็ได้มั้ง

ให้พวกสลิ่มติดแล้วขนไปโรงบาลสนามสิ ดูซิมันจะเปลี่ยนความคิดมั้ย

ข้อดีของไม่มีฉากกั้น
-พยาบาลสามารถเห็นคนป่วยได้ครั้งละเยอะๆ และช่วยเวลาการเดินตรวจได้
-ลดงบประมาณและใช้เวลาติดตั้งรวดเร็วในการทำผนังกั้น
-แสงสว่างอาจจะเพียงพอกว่าการทำฉากกั้น
ข้อเสียของการไม่มีฉากกั้น
-การไม่เป็นส่วนตัว
-ไม่สามารถแยกคนป่วยเบาและหนักออกจากกันใน
-การแพร่เชื้อจะกระจายทั่วถึงกันทั้งห้อง
คำถาม
1.บุคลากรทางการแพทย์ไม่สามารถเพิ่มได้ฃในระยะเวลาอันสั้น เ-ข้อนี้จะทำยังไง
2.งบประมาณในการทำ รพ.สนาม จริงครับมีความจำเป็นสูง
-วัคซีน ถ้าโดสละ1,000บาท ใช้คนละ2โดส ใช้เงินแค่ หนึ่งแสนสี่หมื่นล้าน ทำไมไม่เร่งรีบนำวัคซีนเข้ามา
ถ้ารัฐบาลอนุมัติซื้อวีคซีนทุกยี่ห้อแบบเร่งด่วนแบบเป็นสภาวะฉุกเฉิน
ทำเป็นไมครับ รัฐบาล
ชั่วโมงนี้อย่ากอบโกยให้มากนัก
รู้จักสร้างบุญบารมีบ้างเห้ย

ไว้ลองให้ไอคนพูดมันไปนอนดูครับ

- ดีแล้วที่ไม่มีฉากกั้น ขนาดอเมริกา สเปน ก็ยังไม่มีเลย

ทำไมของสเปน เสิร์ช แล้วเจออันนี้ ????

คำถามส่วนนึงนะครับ

1. การกั้นช่วยการกระจายเชื้อได้มากน้อยเพียงใด เพราะสุดท้าย Airflow เดียวกันหมด

2. ถ้าการกั้นช่วยได้ ผมก็อยากแนะนำให้กั้น กับการเว้นระยะเตียงเพิ่มจะดีกว่ามั้ย กรณ๊เราไม่มีงบพอ

สำหรับทำฉากกั้น (ปล ผมไม่อยากมานั่งวิจารณ์เรื่องการใช้งบแล้ว เพราะมันไม่ช่วยอะไร

คือเงินเป็นทรัพยากรมีจำกัด โจทย์มีเงินเท่านี้แหละ แต่คิดใหม่เถอะว่าทำไงให้ดีสุด)

3. เท่าที่ผมเห็นใช้อาคารศูนย์กีฬามาทำ ผมว่า Airflow แย่มากนะ แถมร้อนอบอ้าวด้วย ช่วงนี้หน้าร้อน

มันพอจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะใช้พื้นที่อื่นเพิ่มเติม จริงๆผมมองว่า โรงเรียนมันจะมีอาคารอเนกประสงค์

ที่มีแต่หลังคา Airflow น่าจะดีกว่ามั้ยครับ อาจจะต้องเหนื่อยกระจายหน่อย

4. เท่าที่เห็นตอนนี้ คนที่หนักมากน่าจะพวก mt แต่อัตราการจ้าง mt ในรพ ต่ำมาก ทำไมรัฐไม่บรรจุเพิ่มเลย

ต่อไปถึงจะมีมากในรพ ก็เท่ากับเราสามารถสั่งตรวจเพิ่มได้ในการวินิจฉัยโรคต่างๆ ไม่ต้องให้หมอมาเสี่ยง

ดูจากอาการทางคลีนิคอย่างเดียว ซึ่งถ้ามัน intergrate กับระบบประกันสุขภาพดีๆ (มองว่า 30 บาท

คือประกันสุขภาพตัวนึง) มันก็น่าจะช่วยให้การรักษาโรคทำได้ดีขึ้น ลดข้อผิดพลาด ไม่ต้องให้หมอมาเดา

(อย่างมีหลักการ) เพราะมีผล lab มาช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง ซึ่งพยาบาลก็เช่นกัน

จริงๆผมมองว่าด้วยประสิทธิภาพของสาธารณสุขไทยสูงขนาดนี้ ต่อไปถ้ารัฐรู้จักวางแผนดีๆ

นี่จะเป็นหนึ่งในตัวทำเงินมหาศาล บริหารให้ดีๆ เงินที่ได้ก็มาลดผลขาดทุน รพ รัฐ ได้เยอะมากๆ

บุคคลากรก็มีรายได้เพิ่มขึ้น สมองไหลน้อยลง happy มากขึ้นได้ บางทีก็สงสารนะ

หลายๆคนทำงานอย่างกับวัวควายไถนา มีหัวหน้าโง่ๆ แต่ไม่ได้ลงแรงเองเลย อาศัยเกาะกินบนหลังเด็กๆ

หายโควิด แต่ติดวัณโรค

กั้นโรคอาจจะไม่ได้ช่วย 100% แต่มันช่วยเรื่องส่วนตัวได้แบบ 100% เวลานอนก็ไม่ได้อยากให้ใครมาจ้องอะไรมากมายหรือเปล่า ไหนจะเรื่องทรัพสินด้วย ไม่ต้องกั้นทุกคน ทุกเตียงก็ได้ แต่ก็แบบเป็นโซนๆหน่อย กั้นเชิงแบบเวลาจัดงานร้านขายของ แบบบูทต่างๆ ไม่ได้จะแพงอะไรมากมายเลย

เอออันนี้ดีไปอยู่ รพ สนามมีแต่คนป่วยอาการหนักขึ้นไปอีก รพ ไรอะทำงงี้ได้ด้วย

ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด กับการจัดการทรัพยากร ผมมองแค่จุดนี้ครับ โวยวายไปทำไมงบทหารได้ อันนี้ไม่ได้

มันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรอ่ะผมว่า เข้าใจทุกคนอยากได้ความเป้นส่วนตัว แต่คำว่า รพ สนาม

มันก็อาจจะได้แค่นี้ ถึงจุดๆนึง เราอาจจะพูดแค่ว่า มีเตียงให้ มี แพทย์มาดูแลก็พอแล้ว

ผมไม่ได้ชอบการกระทำของรัฐบาลแต่มองว่า ด้วยทรัพยากรตอนนี้ ทำอะไรได้บ้างมากกว่านี้ ถ้าให้เลือก

เอาเงินไปทำฉากกั้น ผมก็คงเลือกเอาไปทำอย่างอื่นครับ ในฐานะผู้บริหาร เพราะงบมีแค่นี้

ภารกิจหลักไม่ได้ให้ความสะดวกสบาย แต่ทำไงให้หายแล้วออกๆไปไวไว ก็เท่านั้น

สลิ่มก็คือสลิ่มอยู่วันยันค่ำ