ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 9646
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 15:24
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
ผมว่ากฏNBAมันแฟร์สุดในทุกลีกในโลกละครับ
นอกจากSalary Capหรือสิทธิ์ท็อปดราฟทีมท้ายตารางที่รู้กันอยู่แล้ว
อย่างกฏการต่อสัญญาฉบับที่สองต่อจากสัญญารุกกี้ที่ต่อกับทีมเดิมได้เงินมากสุด
ก็ช่วยให้ทีมตลาดเล็กรั้งสตาร์อายุน้อยๆไว้กับทีมได้เพิ่ม4-5ปีอะ
ไม่งั้นอย่างADย้ายหนีPelicanนานละ ไม่ใช่เพิ่งมาเลเกอร์ปีสองปีนี้หรอก
หรือBookerงี้ ถ้าไปที่อื่นก็ได้สัญญาแพงเท่านี้ ไม่มีทางต่อกับซันอะ

ทีมตลาดใหญ่มันได้เปรียบอยู่แล้ว เหมือนทีมในกทม คนก็อยากย้ายไปมากกว่าอยู่ต่างจังหวัดแน่ๆ
ต่อให่ค่าจ้างเท่ากัน แต่ทีมใหญ่มันมีฐานแฟนให้ต่อยอด การตลาดที่ได้มันมากกว่าอยู่ทีมเล็กแน่ๆ

 


ใช่ มันแฟร แต่มันไม่สนุกไง

เทียบกับบอลก้ได้ ลีคดีสุดของโลกคือพรีเมีย

ใครมันจะไปสนว่าแฟร กับเวสบรอม แฟรกับ สโต๊กมั้ย คนมาดูกีฬาเค้ามาดูความเอนเตอเทน ใครมันจะไปสนว่าจะแฟร์กับทีมไหนยังไง เค้าอยากได้ความสนุก ความสะใจ ใส่กันทุกนัด ไม่ใช่มานั่งปั้นเด็กมั่ง ขยันลงไปบ๊วยมั่ง


ลองมองในมุมของทีมมั่ง สมมติตลาดรายได้ 10,000ล้าน มี 20ทีม

แจกให้ทีมละเท่าๆกัน ทีมละ 500 ล้าน


กลับกัน ถ้าทำให้มันสนุกคนดูทั้งโลกแบบฟุตบอล ตลาด 100,000 มี20ทีม

แจกทีมบนสุด 20000ล้าน ไล่ๆไป ไอทีมล่างสุดยังได้มากกว่า 500เลย สุดท้ายมันก้วินๆทุกฝ่าย

สุดท้ายเด็กมันก้เกิดได้เองแหละไม่ต้องมานั่งดราฟ ถ้ากลัวเด็กไม่ไป ทีมมันก้ต้องมีไรมาชูโรงอะ เหมือนฟุตบอล ถ้าคิดแบบนี้หมด เด็กมันก้ไปเข้าแมนยูหมดแล้วสิ ทีมใหญ่ๆอะ ทีมเล็กๆก้คงไม่มีทีมแล้ว สุดท้ายระบบมันก้เข้ารูปของมันเองอะ

ทุกวันนี้ถามจริงใครจะมานั่งตามเชียทีมมั่งเวลาแท้งอะ okc 76ปีแท้งงี้ 82นัด ถามจริงแฟนบาสจะดูกี่นัดถึง15มั๊ย  

ผมขอชวนคุยทีละประเด็นนะครับ เรื่องงานเรื่องเงินก่อนละกัน
มูลค่าทีมที่ต่ำที่สุดอันดับ30 คือ Memphis Grizzlies มีมูลค่า $1.3 billion
ส่วนฝั่งฟุตบอล PSG ทีมที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ11 มีมูลค่าแค่$1.1 billion
หรือถ้าจะเอาทีมที่มูลค่าเยอะสุดมาเทียบกัน New York Knicks($5 billion) ก็มูลค่ามากกว่ทั้งมาดริด บาซ่า แมนยูอะครับ
ยอมรับนะครับว่าฟุตบอลได้รับความนิยมมากกว่าNBAเยอะ แต่เห็นคุณยกประเด็นเงินๆทองๆมา
เลยอยากเอาตัวอย่างมาให้เห็นชัดๆว่าความนิยมน้อยกว่าไม่ได้แปลว่ามูลค่าจะน้อยกว่านะครับ


ต่อมาเรื่องการไม่มีตกชั้น คุณก็พูดเองว่าสุดท้ายระบบมันก้จะเข้ารูปของมันเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมด ฟุตบอลยุโรปอาจจะเหมาะกับการมีเลื่อนชั้นตกชั้น แต่ระบบแบบนี้มันก็คงเหมาะกันอเมริกันเกมแล้ว
การที่จะมีทีมระบบNBAได้ มันต้องพร้อมมาก ใช้เงินเยอะ ต้องมีสนามที่ได้มาตรฐาน ไหนจะค่าเดินทางที่แพงจัดๆ เพราะต้องบินข้ามประเทศ
ยิ่งโดยเฉพาะค่าเหนื่อยนักกีฬา ที่มีเพดานขั้นต่ำปีละ100กว่าล้าน จะมาทำทีมประหยัดแบบทีมฟุตบอลบางทีมใช้แต่นักกีฬาค่าเหนื่อยถูกๆไม่ได้นะครับ ผิดกฏลีก แค่นี้ก็นักลงทุนที่จะสร้างทีมที่พร้อมมาเล่นในNBAยากละครับ

แล้วถ้ามีระบบเลื่อนชั้นตกชั้นคงต้องรื้อระบบใหม่หมดอะครับ ทั้งSalary cap การเซ็นต์สัญญาต่างๆ
อย่างปีนี้ สมมติวิซาดตกชั้น ปีหน้าทีมจะจ่ายค่าเหนื่อยWestbrookปีละ40กว่าล้านยังไงไหวครับ
เพราะตกไปดิวิชั่น2 รายได้พวกค่าลิขสิทธ์ต่างๆต้องหายไปเยอะแน่ๆ
ทีมล้มละลายได้ง่ายๆเลย

ส่วนเรื่องความสนุก มันก็อยู่ที่ความชอบอะครับ ฟุตบอลก็ไม่ได้สนุกทุกคู่ พรีเมียร์ลุ้นแชมป์ก็กร่อยมาสองปีละ
UCL รอบแบ่งกลุ่ม หรือแม้แต่รอบ16ทีมคนหลายๆคนก็ไม่ค่อยดู ถ้าไม่ใช่แฟนบอลจริงๆ
บาสยังไงก็มีคนดูทุกทีมครับ เพราะมันต่างกันบอลตรงที่มันมีคนดูผูกพันธ์กับสตาร์มากกว่าทีม
ทีมเกือบทุกทีมมีสตาร์หมด คนที่ชอบ ถ้าว่างๆก็ดูกันแทบทุกคู่ทุกวันที่เวลาไม่ชนอะ
ผมว่าจะมีตกชั้นหรือไม่มี มันก็สนุกคนละรูปแบบอะ ไม่เห็นต้องเหมือนกัน

 


ตัวเงินผมไม่ได้หมายถึงเอามาชนโต้งๆ ถ้าแบบนั้นทำไมจะไม่รุ้ครับ แต่เงินมันกระจุกอยุ่แค่นี้ มันไม่กระจายออกไป

เรื่องตกชั้นไม่ตกชั้นปรับระบบใหม่ก้ปรับสิ ถ้าไม่ปรับมันก้วนๆอยุ่แค่นี้

แต่สุดท้ายNBA มันไม่มีทางแซง EPL ได้ถ้ามันยังเป็นสเกลแบบนี้อยุ่ ตลาดNBA มันใช้คำว่าหยุดโตมานานแล้ว
(อาจจะบอกว่ามูลค่าทีม มูลค่าถ่ายทอดมันก้เยอะขึ้นทุกปี) แต่ถ้าลองมองที่% ที่จำนวนคนดูการเติบโต เทียบกับ EPL ต้องบอกว่าน้อยกว่าพอสมควร

สุดท้ายแแฟนบาสทั่วไปก้จะบอกว่าแบบนี้ดีอยุ่แล้วเปลีย่นทำไม แต่ลองถามแฟนบาสพวกนั้นสิ ดูปีละกีเกม เทียบกับบอลดูปีละกี่เกม

เทียบกับแฟนทีมฟุตบอลอะ แต่ช่างมันเถียงกันไปก้ไม่ได้ไรขึ้นมา  


แล้วทำไม nfl ใช้ระบบเดีนยวกันเลยตอนนี้โตเอาๆ เจาะตลาดฝั่งยุโรปได้อีก  


โตเอาๆ นี่โตแค่ไหนอะ ในรอบ 30ปีหลัง ฟุตบอลนี่แซงแบบยับๆ  


แซงยังไงเหรอครับ ขอหลักฐาน ทีมใน epl ที่ว่าดีสุดในโลกยังต้องทำสนามเผื่อเอา nfl คู่ที่เจียดๆมาให้ดู ไม่ใช่คู่ใหญ่ด้วยมาแข่งหวังเงินจากตรงนั้น วัดมูลค่าสโมสร คุณก็บอกวัดไม่ได้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2020
ตอบ: 20316
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 15:49
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
ผมว่ากฏNBAมันแฟร์สุดในทุกลีกในโลกละครับ
นอกจากSalary Capหรือสิทธิ์ท็อปดราฟทีมท้ายตารางที่รู้กันอยู่แล้ว
อย่างกฏการต่อสัญญาฉบับที่สองต่อจากสัญญารุกกี้ที่ต่อกับทีมเดิมได้เงินมากสุด
ก็ช่วยให้ทีมตลาดเล็กรั้งสตาร์อายุน้อยๆไว้กับทีมได้เพิ่ม4-5ปีอะ
ไม่งั้นอย่างADย้ายหนีPelicanนานละ ไม่ใช่เพิ่งมาเลเกอร์ปีสองปีนี้หรอก
หรือBookerงี้ ถ้าไปที่อื่นก็ได้สัญญาแพงเท่านี้ ไม่มีทางต่อกับซันอะ

ทีมตลาดใหญ่มันได้เปรียบอยู่แล้ว เหมือนทีมในกทม คนก็อยากย้ายไปมากกว่าอยู่ต่างจังหวัดแน่ๆ
ต่อให่ค่าจ้างเท่ากัน แต่ทีมใหญ่มันมีฐานแฟนให้ต่อยอด การตลาดที่ได้มันมากกว่าอยู่ทีมเล็กแน่ๆ

 


ใช่ มันแฟร แต่มันไม่สนุกไง

เทียบกับบอลก้ได้ ลีคดีสุดของโลกคือพรีเมีย

ใครมันจะไปสนว่าแฟร กับเวสบรอม แฟรกับ สโต๊กมั้ย คนมาดูกีฬาเค้ามาดูความเอนเตอเทน ใครมันจะไปสนว่าจะแฟร์กับทีมไหนยังไง เค้าอยากได้ความสนุก ความสะใจ ใส่กันทุกนัด ไม่ใช่มานั่งปั้นเด็กมั่ง ขยันลงไปบ๊วยมั่ง


ลองมองในมุมของทีมมั่ง สมมติตลาดรายได้ 10,000ล้าน มี 20ทีม

แจกให้ทีมละเท่าๆกัน ทีมละ 500 ล้าน


กลับกัน ถ้าทำให้มันสนุกคนดูทั้งโลกแบบฟุตบอล ตลาด 100,000 มี20ทีม

แจกทีมบนสุด 20000ล้าน ไล่ๆไป ไอทีมล่างสุดยังได้มากกว่า 500เลย สุดท้ายมันก้วินๆทุกฝ่าย

สุดท้ายเด็กมันก้เกิดได้เองแหละไม่ต้องมานั่งดราฟ ถ้ากลัวเด็กไม่ไป ทีมมันก้ต้องมีไรมาชูโรงอะ เหมือนฟุตบอล ถ้าคิดแบบนี้หมด เด็กมันก้ไปเข้าแมนยูหมดแล้วสิ ทีมใหญ่ๆอะ ทีมเล็กๆก้คงไม่มีทีมแล้ว สุดท้ายระบบมันก้เข้ารูปของมันเองอะ

ทุกวันนี้ถามจริงใครจะมานั่งตามเชียทีมมั่งเวลาแท้งอะ okc 76ปีแท้งงี้ 82นัด ถามจริงแฟนบาสจะดูกี่นัดถึง15มั๊ย  

ผมขอชวนคุยทีละประเด็นนะครับ เรื่องงานเรื่องเงินก่อนละกัน
มูลค่าทีมที่ต่ำที่สุดอันดับ30 คือ Memphis Grizzlies มีมูลค่า $1.3 billion
ส่วนฝั่งฟุตบอล PSG ทีมที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ11 มีมูลค่าแค่$1.1 billion
หรือถ้าจะเอาทีมที่มูลค่าเยอะสุดมาเทียบกัน New York Knicks($5 billion) ก็มูลค่ามากกว่ทั้งมาดริด บาซ่า แมนยูอะครับ
ยอมรับนะครับว่าฟุตบอลได้รับความนิยมมากกว่าNBAเยอะ แต่เห็นคุณยกประเด็นเงินๆทองๆมา
เลยอยากเอาตัวอย่างมาให้เห็นชัดๆว่าความนิยมน้อยกว่าไม่ได้แปลว่ามูลค่าจะน้อยกว่านะครับ


ต่อมาเรื่องการไม่มีตกชั้น คุณก็พูดเองว่าสุดท้ายระบบมันก้จะเข้ารูปของมันเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมด ฟุตบอลยุโรปอาจจะเหมาะกับการมีเลื่อนชั้นตกชั้น แต่ระบบแบบนี้มันก็คงเหมาะกันอเมริกันเกมแล้ว
การที่จะมีทีมระบบNBAได้ มันต้องพร้อมมาก ใช้เงินเยอะ ต้องมีสนามที่ได้มาตรฐาน ไหนจะค่าเดินทางที่แพงจัดๆ เพราะต้องบินข้ามประเทศ
ยิ่งโดยเฉพาะค่าเหนื่อยนักกีฬา ที่มีเพดานขั้นต่ำปีละ100กว่าล้าน จะมาทำทีมประหยัดแบบทีมฟุตบอลบางทีมใช้แต่นักกีฬาค่าเหนื่อยถูกๆไม่ได้นะครับ ผิดกฏลีก แค่นี้ก็นักลงทุนที่จะสร้างทีมที่พร้อมมาเล่นในNBAยากละครับ

แล้วถ้ามีระบบเลื่อนชั้นตกชั้นคงต้องรื้อระบบใหม่หมดอะครับ ทั้งSalary cap การเซ็นต์สัญญาต่างๆ
อย่างปีนี้ สมมติวิซาดตกชั้น ปีหน้าทีมจะจ่ายค่าเหนื่อยWestbrookปีละ40กว่าล้านยังไงไหวครับ
เพราะตกไปดิวิชั่น2 รายได้พวกค่าลิขสิทธ์ต่างๆต้องหายไปเยอะแน่ๆ
ทีมล้มละลายได้ง่ายๆเลย

ส่วนเรื่องความสนุก มันก็อยู่ที่ความชอบอะครับ ฟุตบอลก็ไม่ได้สนุกทุกคู่ พรีเมียร์ลุ้นแชมป์ก็กร่อยมาสองปีละ
UCL รอบแบ่งกลุ่ม หรือแม้แต่รอบ16ทีมคนหลายๆคนก็ไม่ค่อยดู ถ้าไม่ใช่แฟนบอลจริงๆ
บาสยังไงก็มีคนดูทุกทีมครับ เพราะมันต่างกันบอลตรงที่มันมีคนดูผูกพันธ์กับสตาร์มากกว่าทีม
ทีมเกือบทุกทีมมีสตาร์หมด คนที่ชอบ ถ้าว่างๆก็ดูกันแทบทุกคู่ทุกวันที่เวลาไม่ชนอะ
ผมว่าจะมีตกชั้นหรือไม่มี มันก็สนุกคนละรูปแบบอะ ไม่เห็นต้องเหมือนกัน

 


ตัวเงินผมไม่ได้หมายถึงเอามาชนโต้งๆ ถ้าแบบนั้นทำไมจะไม่รุ้ครับ แต่เงินมันกระจุกอยุ่แค่นี้ มันไม่กระจายออกไป

เรื่องตกชั้นไม่ตกชั้นปรับระบบใหม่ก้ปรับสิ ถ้าไม่ปรับมันก้วนๆอยุ่แค่นี้

แต่สุดท้ายNBA มันไม่มีทางแซง EPL ได้ถ้ามันยังเป็นสเกลแบบนี้อยุ่ ตลาดNBA มันใช้คำว่าหยุดโตมานานแล้ว
(อาจจะบอกว่ามูลค่าทีม มูลค่าถ่ายทอดมันก้เยอะขึ้นทุกปี) แต่ถ้าลองมองที่% ที่จำนวนคนดูการเติบโต เทียบกับ EPL ต้องบอกว่าน้อยกว่าพอสมควร

สุดท้ายแแฟนบาสทั่วไปก้จะบอกว่าแบบนี้ดีอยุ่แล้วเปลีย่นทำไม แต่ลองถามแฟนบาสพวกนั้นสิ ดูปีละกีเกม เทียบกับบอลดูปีละกี่เกม

เทียบกับแฟนทีมฟุตบอลอะ แต่ช่างมันเถียงกันไปก้ไม่ได้ไรขึ้นมา  


แล้วทำไม nfl ใช้ระบบเดีนยวกันเลยตอนนี้โตเอาๆ เจาะตลาดฝั่งยุโรปได้อีก  


โตเอาๆ นี่โตแค่ไหนอะ ในรอบ 30ปีหลัง ฟุตบอลนี่แซงแบบยับๆ  


แซงยังไงเหรอครับ ขอหลักฐาน ทีมใน epl ที่ว่าดีสุดในโลกยังต้องทำสนามเผื่อเอา nfl คู่ที่เจียดๆมาให้ดู ไม่ใช่คู่ใหญ่ด้วยมาแข่งหวังเงินจากตรงนั้น วัดมูลค่าสโมสร คุณก็บอกวัดไม่ได้  



ต้องเอากราฟไหนให้ดูดี เอาจริงใช้ common sense ก้น่าจะรุ้แล้วนะะ ในระดับโลก nfl nba สุ้บอลไม่ได้หรอก


เอากราฟไหน หรือบทความไหนมาก้ได้ ยังไงบอลก้ชนะขาดๆ

แล้วอย่ามาบอกว่า บอลคนเล่นทั่วโลกเยอะกว่านะ ก้แล้วทำไมคนทั่วโลกไม่เล่นบาสละ ก้มันไม่อินไง กระแสเลยจุดไม่ติดเท่าบอล

ส่วน nflนี่ไปเก็บเลย ถ้าทั่วโลกจริงๆน่าจะแพ้บาสด้วยซ้ำมั้ง แต่ในเมกาชนะอยุ่



http://www.biggestglobalsports.com/





0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

เมื่อไหร่โดนบังคับให้ไม่พูดสิ่งที่ควรพูด ถือว่าเราตายไปแล้ว :D
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 9646
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 15:55
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
ผมว่ากฏNBAมันแฟร์สุดในทุกลีกในโลกละครับ
นอกจากSalary Capหรือสิทธิ์ท็อปดราฟทีมท้ายตารางที่รู้กันอยู่แล้ว
อย่างกฏการต่อสัญญาฉบับที่สองต่อจากสัญญารุกกี้ที่ต่อกับทีมเดิมได้เงินมากสุด
ก็ช่วยให้ทีมตลาดเล็กรั้งสตาร์อายุน้อยๆไว้กับทีมได้เพิ่ม4-5ปีอะ
ไม่งั้นอย่างADย้ายหนีPelicanนานละ ไม่ใช่เพิ่งมาเลเกอร์ปีสองปีนี้หรอก
หรือBookerงี้ ถ้าไปที่อื่นก็ได้สัญญาแพงเท่านี้ ไม่มีทางต่อกับซันอะ

ทีมตลาดใหญ่มันได้เปรียบอยู่แล้ว เหมือนทีมในกทม คนก็อยากย้ายไปมากกว่าอยู่ต่างจังหวัดแน่ๆ
ต่อให่ค่าจ้างเท่ากัน แต่ทีมใหญ่มันมีฐานแฟนให้ต่อยอด การตลาดที่ได้มันมากกว่าอยู่ทีมเล็กแน่ๆ

 


ใช่ มันแฟร แต่มันไม่สนุกไง

เทียบกับบอลก้ได้ ลีคดีสุดของโลกคือพรีเมีย

ใครมันจะไปสนว่าแฟร กับเวสบรอม แฟรกับ สโต๊กมั้ย คนมาดูกีฬาเค้ามาดูความเอนเตอเทน ใครมันจะไปสนว่าจะแฟร์กับทีมไหนยังไง เค้าอยากได้ความสนุก ความสะใจ ใส่กันทุกนัด ไม่ใช่มานั่งปั้นเด็กมั่ง ขยันลงไปบ๊วยมั่ง


ลองมองในมุมของทีมมั่ง สมมติตลาดรายได้ 10,000ล้าน มี 20ทีม

แจกให้ทีมละเท่าๆกัน ทีมละ 500 ล้าน


กลับกัน ถ้าทำให้มันสนุกคนดูทั้งโลกแบบฟุตบอล ตลาด 100,000 มี20ทีม

แจกทีมบนสุด 20000ล้าน ไล่ๆไป ไอทีมล่างสุดยังได้มากกว่า 500เลย สุดท้ายมันก้วินๆทุกฝ่าย

สุดท้ายเด็กมันก้เกิดได้เองแหละไม่ต้องมานั่งดราฟ ถ้ากลัวเด็กไม่ไป ทีมมันก้ต้องมีไรมาชูโรงอะ เหมือนฟุตบอล ถ้าคิดแบบนี้หมด เด็กมันก้ไปเข้าแมนยูหมดแล้วสิ ทีมใหญ่ๆอะ ทีมเล็กๆก้คงไม่มีทีมแล้ว สุดท้ายระบบมันก้เข้ารูปของมันเองอะ

ทุกวันนี้ถามจริงใครจะมานั่งตามเชียทีมมั่งเวลาแท้งอะ okc 76ปีแท้งงี้ 82นัด ถามจริงแฟนบาสจะดูกี่นัดถึง15มั๊ย  

ผมขอชวนคุยทีละประเด็นนะครับ เรื่องงานเรื่องเงินก่อนละกัน
มูลค่าทีมที่ต่ำที่สุดอันดับ30 คือ Memphis Grizzlies มีมูลค่า $1.3 billion
ส่วนฝั่งฟุตบอล PSG ทีมที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ11 มีมูลค่าแค่$1.1 billion
หรือถ้าจะเอาทีมที่มูลค่าเยอะสุดมาเทียบกัน New York Knicks($5 billion) ก็มูลค่ามากกว่ทั้งมาดริด บาซ่า แมนยูอะครับ
ยอมรับนะครับว่าฟุตบอลได้รับความนิยมมากกว่าNBAเยอะ แต่เห็นคุณยกประเด็นเงินๆทองๆมา
เลยอยากเอาตัวอย่างมาให้เห็นชัดๆว่าความนิยมน้อยกว่าไม่ได้แปลว่ามูลค่าจะน้อยกว่านะครับ


ต่อมาเรื่องการไม่มีตกชั้น คุณก็พูดเองว่าสุดท้ายระบบมันก้จะเข้ารูปของมันเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมด ฟุตบอลยุโรปอาจจะเหมาะกับการมีเลื่อนชั้นตกชั้น แต่ระบบแบบนี้มันก็คงเหมาะกันอเมริกันเกมแล้ว
การที่จะมีทีมระบบNBAได้ มันต้องพร้อมมาก ใช้เงินเยอะ ต้องมีสนามที่ได้มาตรฐาน ไหนจะค่าเดินทางที่แพงจัดๆ เพราะต้องบินข้ามประเทศ
ยิ่งโดยเฉพาะค่าเหนื่อยนักกีฬา ที่มีเพดานขั้นต่ำปีละ100กว่าล้าน จะมาทำทีมประหยัดแบบทีมฟุตบอลบางทีมใช้แต่นักกีฬาค่าเหนื่อยถูกๆไม่ได้นะครับ ผิดกฏลีก แค่นี้ก็นักลงทุนที่จะสร้างทีมที่พร้อมมาเล่นในNBAยากละครับ

แล้วถ้ามีระบบเลื่อนชั้นตกชั้นคงต้องรื้อระบบใหม่หมดอะครับ ทั้งSalary cap การเซ็นต์สัญญาต่างๆ
อย่างปีนี้ สมมติวิซาดตกชั้น ปีหน้าทีมจะจ่ายค่าเหนื่อยWestbrookปีละ40กว่าล้านยังไงไหวครับ
เพราะตกไปดิวิชั่น2 รายได้พวกค่าลิขสิทธ์ต่างๆต้องหายไปเยอะแน่ๆ
ทีมล้มละลายได้ง่ายๆเลย

ส่วนเรื่องความสนุก มันก็อยู่ที่ความชอบอะครับ ฟุตบอลก็ไม่ได้สนุกทุกคู่ พรีเมียร์ลุ้นแชมป์ก็กร่อยมาสองปีละ
UCL รอบแบ่งกลุ่ม หรือแม้แต่รอบ16ทีมคนหลายๆคนก็ไม่ค่อยดู ถ้าไม่ใช่แฟนบอลจริงๆ
บาสยังไงก็มีคนดูทุกทีมครับ เพราะมันต่างกันบอลตรงที่มันมีคนดูผูกพันธ์กับสตาร์มากกว่าทีม
ทีมเกือบทุกทีมมีสตาร์หมด คนที่ชอบ ถ้าว่างๆก็ดูกันแทบทุกคู่ทุกวันที่เวลาไม่ชนอะ
ผมว่าจะมีตกชั้นหรือไม่มี มันก็สนุกคนละรูปแบบอะ ไม่เห็นต้องเหมือนกัน

 


ตัวเงินผมไม่ได้หมายถึงเอามาชนโต้งๆ ถ้าแบบนั้นทำไมจะไม่รุ้ครับ แต่เงินมันกระจุกอยุ่แค่นี้ มันไม่กระจายออกไป

เรื่องตกชั้นไม่ตกชั้นปรับระบบใหม่ก้ปรับสิ ถ้าไม่ปรับมันก้วนๆอยุ่แค่นี้

แต่สุดท้ายNBA มันไม่มีทางแซง EPL ได้ถ้ามันยังเป็นสเกลแบบนี้อยุ่ ตลาดNBA มันใช้คำว่าหยุดโตมานานแล้ว
(อาจจะบอกว่ามูลค่าทีม มูลค่าถ่ายทอดมันก้เยอะขึ้นทุกปี) แต่ถ้าลองมองที่% ที่จำนวนคนดูการเติบโต เทียบกับ EPL ต้องบอกว่าน้อยกว่าพอสมควร

สุดท้ายแแฟนบาสทั่วไปก้จะบอกว่าแบบนี้ดีอยุ่แล้วเปลีย่นทำไม แต่ลองถามแฟนบาสพวกนั้นสิ ดูปีละกีเกม เทียบกับบอลดูปีละกี่เกม

เทียบกับแฟนทีมฟุตบอลอะ แต่ช่างมันเถียงกันไปก้ไม่ได้ไรขึ้นมา  


แล้วทำไม nfl ใช้ระบบเดีนยวกันเลยตอนนี้โตเอาๆ เจาะตลาดฝั่งยุโรปได้อีก  


โตเอาๆ นี่โตแค่ไหนอะ ในรอบ 30ปีหลัง ฟุตบอลนี่แซงแบบยับๆ  


แซงยังไงเหรอครับ ขอหลักฐาน ทีมใน epl ที่ว่าดีสุดในโลกยังต้องทำสนามเผื่อเอา nfl คู่ที่เจียดๆมาให้ดู ไม่ใช่คู่ใหญ่ด้วยมาแข่งหวังเงินจากตรงนั้น วัดมูลค่าสโมสร คุณก็บอกวัดไม่ได้  



ต้องเอากราฟไหนให้ดูดี เอาจริงใช้ common sense ก้น่าจะรุ้แล้วนะะ ในระดับโลก nfl nba สุ้บอลไม่ได้หรอก


เอากราฟไหน หรือบทความไหนมาก้ได้ ยังไงบอลก้ชนะขาดๆ

แล้วอย่ามาบอกว่า บอลคนเล่นทั่วโลกเยอะกว่านะ ก้แล้วทำไมคนทั่วโลกไม่เล่นบาสละ ก้มันไม่อินไง กระแสเลยจุดไม่ติดเท่าบอล

ส่วน nflนี่ไปเก็บเลย ถ้าทั่วโลกจริงๆน่าจะแพ้บาสด้วยซ้ำมั้ง แต่ในเมกาชนะอยุ่



http://www.biggestglobalsports.com/





 


นึกว่าพูดเรื่องรายได้ ทำไมสู้เค้าไมไ่ด้อะ ทั้งที่แฟนบอลเยอะมกาๆๆๆๆ จขนาดนั้นกินขาดสุดๆ แต่เม็ดเงินต่อลีคต่อทีมน้อยกว่า เพราะอะไรนะ ระบบลีคหรือป่าว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ตำนาน Hall OF Frame
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 11781
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 16:34
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
ก่อนจะทำให้nbaเหมือนepl

ให้ลองนึกถึงความใหญ่ของประเทศก่อนและมองถึงการเดินทาง เมกาถ้าให้มองง่ายๆคือ50ประเทศ ตรงนี้มันคือสเกลระดับucl

ถ้าจะทำแบบฟุตบอลนั้นคือทุกรัฐต้องมีลีคของตัวเอง รัฐใหญ่ๆมี20ทีม รัฐเล็กๆมี10กว่าทีมแบบนี้แบบในยุโรป

แล้วก็จัดระหว่างรัฐแบบuclแบบนี้

แต่มันคือการลดสเกลระบบลีกเพราะเมกามันประเทศใหญ่
แก้ไขล่าสุดโดย อย่าแซงกูกูรีบ เมื่อ Sun Apr 04, 2021 16:42, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
อย่าตามกูกูหลง
ออนไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Jun 2010
ตอบ: 5019
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 17:05
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
ข้อเสียของบายเอ๊าคือแม่งไปเซนมินคอนแทคได้เนี่ยสิ

ปีหน้าคิดว่ามีเปลี่ยนตรงนี้แน่ๆ ต้องมีกฎอะไรมาคุมแล้วแหละ

จากรับอยู่ดีๆ20-30ล้าน ไปโผล่ทีมลุ้นแชมป์1ล้านงี้ แตกยับ

ลอง บีล ขอบายเอ๊าแล้วไปโผล่ที่เลเกอร์ดูสิ คนแม่งจะด่ากันยิ่งกว่าเนสอีก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 5017
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 19:47
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
ตอบผิดมู้
แก้ไขล่าสุดโดย Nomeartor เมื่อ Sun Apr 04, 2021 19:47, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2019
ตอบ: 2092
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 20:16
ถูกแบนแล้ว
NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา
ผมเห็นปัญหาคล้ายหลายๆคนนะ

Buy Out ไม่ใช่ Pain เพราะมันสร้างสถานการณ์ Win-Win ระหว่างทีมและผู้เล่น

ปัญหาใหญ่คือมันไปเซ็น Min ทีมอื่นได้

มันควรมีกฎขึ้นมาประมาณว่า ถ้าคุณ Buy Out ตั้งแต่หลัง All Stars เป็นต้นไป แล้วไปเซ็นทีมอื่น ต้องได้รับค่าตัวไม่ต่ำกว่า40-50%ของสัญญาเดิมในปีนั้นไรเงี้ย ถึงจะโอเค

มันจะมีผลกับ Cap มากขึ้น ส่งผลต่อ Tax ให้ทีมต้องปวดหัวมากกว่าเดิม เพราะรวยขนาดไหนก็ไม่อยากเสียเงินเพิ่มหรอก



โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 575
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Apr 05, 2021 17:39
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
ผมว่าสนุกดีนะกับการมี Buyout เพราะยังไงส่วนใหญ่คนที่ Buyout ออกสัญญาก็เหลือปีเดียวอยู่ดี พอปีถัดไปไม่มีทางที่จะรั้งได้อยู่แล้ว มันแค่ประเดี๋ยวประด๋าวน่ะครับ ไม่เหมือน NFL ปีล่าสุดที่พวก star ยอมทำสัญญาค่าจ้างตัวเองใหม่เพื่อลดเพดานทีมลงเพราะจะได้มีเงินเซ็น free agent ได้

ผมว่าแบบนี้โคตรสนุก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2006
ตอบ: 1729
ที่อยู่: KMITL
โพสเมื่อ: Tue Apr 06, 2021 05:32
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
ผมว่ากฏNBAมันแฟร์สุดในทุกลีกในโลกละครับ
นอกจากSalary Capหรือสิทธิ์ท็อปดราฟทีมท้ายตารางที่รู้กันอยู่แล้ว
อย่างกฏการต่อสัญญาฉบับที่สองต่อจากสัญญารุกกี้ที่ต่อกับทีมเดิมได้เงินมากสุด
ก็ช่วยให้ทีมตลาดเล็กรั้งสตาร์อายุน้อยๆไว้กับทีมได้เพิ่ม4-5ปีอะ
ไม่งั้นอย่างADย้ายหนีPelicanนานละ ไม่ใช่เพิ่งมาเลเกอร์ปีสองปีนี้หรอก
หรือBookerงี้ ถ้าไปที่อื่นก็ได้สัญญาแพงเท่านี้ ไม่มีทางต่อกับซันอะ

ทีมตลาดใหญ่มันได้เปรียบอยู่แล้ว เหมือนทีมในกทม คนก็อยากย้ายไปมากกว่าอยู่ต่างจังหวัดแน่ๆ
ต่อให่ค่าจ้างเท่ากัน แต่ทีมใหญ่มันมีฐานแฟนให้ต่อยอด การตลาดที่ได้มันมากกว่าอยู่ทีมเล็กแน่ๆ

 


ใช่ มันแฟร แต่มันไม่สนุกไง

เทียบกับบอลก้ได้ ลีคดีสุดของโลกคือพรีเมีย

ใครมันจะไปสนว่าแฟร กับเวสบรอม แฟรกับ สโต๊กมั้ย คนมาดูกีฬาเค้ามาดูความเอนเตอเทน ใครมันจะไปสนว่าจะแฟร์กับทีมไหนยังไง เค้าอยากได้ความสนุก ความสะใจ ใส่กันทุกนัด ไม่ใช่มานั่งปั้นเด็กมั่ง ขยันลงไปบ๊วยมั่ง


ลองมองในมุมของทีมมั่ง สมมติตลาดรายได้ 10,000ล้าน มี 20ทีม

แจกให้ทีมละเท่าๆกัน ทีมละ 500 ล้าน


กลับกัน ถ้าทำให้มันสนุกคนดูทั้งโลกแบบฟุตบอล ตลาด 100,000 มี20ทีม

แจกทีมบนสุด 20000ล้าน ไล่ๆไป ไอทีมล่างสุดยังได้มากกว่า 500เลย สุดท้ายมันก้วินๆทุกฝ่าย

สุดท้ายเด็กมันก้เกิดได้เองแหละไม่ต้องมานั่งดราฟ ถ้ากลัวเด็กไม่ไป ทีมมันก้ต้องมีไรมาชูโรงอะ เหมือนฟุตบอล ถ้าคิดแบบนี้หมด เด็กมันก้ไปเข้าแมนยูหมดแล้วสิ ทีมใหญ่ๆอะ ทีมเล็กๆก้คงไม่มีทีมแล้ว สุดท้ายระบบมันก้เข้ารูปของมันเองอะ

ทุกวันนี้ถามจริงใครจะมานั่งตามเชียทีมมั่งเวลาแท้งอะ okc 76ปีแท้งงี้ 82นัด ถามจริงแฟนบาสจะดูกี่นัดถึง15มั๊ย  

ผมขอชวนคุยทีละประเด็นนะครับ เรื่องงานเรื่องเงินก่อนละกัน
มูลค่าทีมที่ต่ำที่สุดอันดับ30 คือ Memphis Grizzlies มีมูลค่า $1.3 billion
ส่วนฝั่งฟุตบอล PSG ทีมที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ11 มีมูลค่าแค่$1.1 billion
หรือถ้าจะเอาทีมที่มูลค่าเยอะสุดมาเทียบกัน New York Knicks($5 billion) ก็มูลค่ามากกว่ทั้งมาดริด บาซ่า แมนยูอะครับ
ยอมรับนะครับว่าฟุตบอลได้รับความนิยมมากกว่าNBAเยอะ แต่เห็นคุณยกประเด็นเงินๆทองๆมา
เลยอยากเอาตัวอย่างมาให้เห็นชัดๆว่าความนิยมน้อยกว่าไม่ได้แปลว่ามูลค่าจะน้อยกว่านะครับ


ต่อมาเรื่องการไม่มีตกชั้น คุณก็พูดเองว่าสุดท้ายระบบมันก้จะเข้ารูปของมันเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมด ฟุตบอลยุโรปอาจจะเหมาะกับการมีเลื่อนชั้นตกชั้น แต่ระบบแบบนี้มันก็คงเหมาะกันอเมริกันเกมแล้ว
การที่จะมีทีมระบบNBAได้ มันต้องพร้อมมาก ใช้เงินเยอะ ต้องมีสนามที่ได้มาตรฐาน ไหนจะค่าเดินทางที่แพงจัดๆ เพราะต้องบินข้ามประเทศ
ยิ่งโดยเฉพาะค่าเหนื่อยนักกีฬา ที่มีเพดานขั้นต่ำปีละ100กว่าล้าน จะมาทำทีมประหยัดแบบทีมฟุตบอลบางทีมใช้แต่นักกีฬาค่าเหนื่อยถูกๆไม่ได้นะครับ ผิดกฏลีก แค่นี้ก็นักลงทุนที่จะสร้างทีมที่พร้อมมาเล่นในNBAยากละครับ

แล้วถ้ามีระบบเลื่อนชั้นตกชั้นคงต้องรื้อระบบใหม่หมดอะครับ ทั้งSalary cap การเซ็นต์สัญญาต่างๆ
อย่างปีนี้ สมมติวิซาดตกชั้น ปีหน้าทีมจะจ่ายค่าเหนื่อยWestbrookปีละ40กว่าล้านยังไงไหวครับ
เพราะตกไปดิวิชั่น2 รายได้พวกค่าลิขสิทธ์ต่างๆต้องหายไปเยอะแน่ๆ
ทีมล้มละลายได้ง่ายๆเลย

ส่วนเรื่องความสนุก มันก็อยู่ที่ความชอบอะครับ ฟุตบอลก็ไม่ได้สนุกทุกคู่ พรีเมียร์ลุ้นแชมป์ก็กร่อยมาสองปีละ
UCL รอบแบ่งกลุ่ม หรือแม้แต่รอบ16ทีมคนหลายๆคนก็ไม่ค่อยดู ถ้าไม่ใช่แฟนบอลจริงๆ
บาสยังไงก็มีคนดูทุกทีมครับ เพราะมันต่างกันบอลตรงที่มันมีคนดูผูกพันธ์กับสตาร์มากกว่าทีม
ทีมเกือบทุกทีมมีสตาร์หมด คนที่ชอบ ถ้าว่างๆก็ดูกันแทบทุกคู่ทุกวันที่เวลาไม่ชนอะ
ผมว่าจะมีตกชั้นหรือไม่มี มันก็สนุกคนละรูปแบบอะ ไม่เห็นต้องเหมือนกัน

 


ตัวเงินผมไม่ได้หมายถึงเอามาชนโต้งๆ ถ้าแบบนั้นทำไมจะไม่รุ้ครับ แต่เงินมันกระจุกอยุ่แค่นี้ มันไม่กระจายออกไป

เรื่องตกชั้นไม่ตกชั้นปรับระบบใหม่ก้ปรับสิ ถ้าไม่ปรับมันก้วนๆอยุ่แค่นี้

แต่สุดท้ายNBA มันไม่มีทางแซง EPL ได้ถ้ามันยังเป็นสเกลแบบนี้อยุ่ ตลาดNBA มันใช้คำว่าหยุดโตมานานแล้ว
(อาจจะบอกว่ามูลค่าทีม มูลค่าถ่ายทอดมันก้เยอะขึ้นทุกปี) แต่ถ้าลองมองที่% ที่จำนวนคนดูการเติบโต เทียบกับ EPL ต้องบอกว่าน้อยกว่าพอสมควร

สุดท้ายแแฟนบาสทั่วไปก้จะบอกว่าแบบนี้ดีอยุ่แล้วเปลีย่นทำไม แต่ลองถามแฟนบาสพวกนั้นสิ ดูปีละกีเกม เทียบกับบอลดูปีละกี่เกม

เทียบกับแฟนทีมฟุตบอลอะ แต่ช่างมันเถียงกันไปก้ไม่ได้ไรขึ้นมา  


แล้วทำไม nfl ใช้ระบบเดีนยวกันเลยตอนนี้โตเอาๆ เจาะตลาดฝั่งยุโรปได้อีก  


โตเอาๆ นี่โตแค่ไหนอะ ในรอบ 30ปีหลัง ฟุตบอลนี่แซงแบบยับๆ  


แซงยังไงเหรอครับ ขอหลักฐาน ทีมใน epl ที่ว่าดีสุดในโลกยังต้องทำสนามเผื่อเอา nfl คู่ที่เจียดๆมาให้ดู ไม่ใช่คู่ใหญ่ด้วยมาแข่งหวังเงินจากตรงนั้น วัดมูลค่าสโมสร คุณก็บอกวัดไม่ได้  



ต้องเอากราฟไหนให้ดูดี เอาจริงใช้ common sense ก้น่าจะรุ้แล้วนะะ ในระดับโลก nfl nba สุ้บอลไม่ได้หรอก


เอากราฟไหน หรือบทความไหนมาก้ได้ ยังไงบอลก้ชนะขาดๆ

แล้วอย่ามาบอกว่า บอลคนเล่นทั่วโลกเยอะกว่านะ ก้แล้วทำไมคนทั่วโลกไม่เล่นบาสละ ก้มันไม่อินไง กระแสเลยจุดไม่ติดเท่าบอล

ส่วน nflนี่ไปเก็บเลย ถ้าทั่วโลกจริงๆน่าจะแพ้บาสด้วยซ้ำมั้ง แต่ในเมกาชนะอยุ่



http://www.biggestglobalsports.com/





 


คุณอย่าเอาความคิดตัวเองมาตัดสินคนทั้งโลก

กราฟที่คุณเอามาโชว์คือ Most popular คุณเห็นมั้ย ว่าทำไมคริกเกตอยู่อันดับสอง เพราะคนอินเดียนิยมเล่นไง แล้วความรู้สึกคุณคิดว่าคริกเกตสนุกกว่าบาสมั้ย ถ้าไม่รู้ก็เท่ากับว่าคุณเอาความคิดคุณมาตัดสินคนส่วนใหญ่ของโลกไม่ได้

ฟุตบอลต้นกำเนิดมาจากยุโรปมากกว่า 200 ปี เมกายังไม่เกิดเลยมั้ง คนยุโรปกระจายไปทั่วโลก ไปประเทศไหนก็เผยแพร่ไปที่นั่น ประเทศไทยเริ่มเล่นฟุตบอลกันตั้งแต่ กีฬาบาสยังไม่ถือกำเนิดที่เมกาเลย บาสเพิ่งเกิดมา~100ปี อย่าบอกว่าฟุตบอลแซงบาสไปไกล มันไม่ใช่ ฟุตบอลนำบาสอยู่หลายช่วงตัวมานานแล้ว การที่บาสจะขึ้นมาทัดเทียมฟุตบอลได้ก็เหมือนคุณจะปั้นเอสโคล่าที่เพิ่งเกิดในไทย ให้ชนะโค้กกับเป๊บซี่ที่เกิดมาก่อนเป็นร้อยปีได้ แล้วต้องชนะใจคนทั้งโลกด้วย มันไม่ง่ายเลย บาสนี่เอาแค่ชนะคริกเกตให้ได้ก่อนยังยาก
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ชมนางแบบจีนน่ารักๆได้ที่ >> https://www.facebook.com/preorderkk
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2020
ตอบ: 20316
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 06, 2021 13:48
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
rocky99 พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
ผมว่ากฏNBAมันแฟร์สุดในทุกลีกในโลกละครับ
นอกจากSalary Capหรือสิทธิ์ท็อปดราฟทีมท้ายตารางที่รู้กันอยู่แล้ว
อย่างกฏการต่อสัญญาฉบับที่สองต่อจากสัญญารุกกี้ที่ต่อกับทีมเดิมได้เงินมากสุด
ก็ช่วยให้ทีมตลาดเล็กรั้งสตาร์อายุน้อยๆไว้กับทีมได้เพิ่ม4-5ปีอะ
ไม่งั้นอย่างADย้ายหนีPelicanนานละ ไม่ใช่เพิ่งมาเลเกอร์ปีสองปีนี้หรอก
หรือBookerงี้ ถ้าไปที่อื่นก็ได้สัญญาแพงเท่านี้ ไม่มีทางต่อกับซันอะ

ทีมตลาดใหญ่มันได้เปรียบอยู่แล้ว เหมือนทีมในกทม คนก็อยากย้ายไปมากกว่าอยู่ต่างจังหวัดแน่ๆ
ต่อให่ค่าจ้างเท่ากัน แต่ทีมใหญ่มันมีฐานแฟนให้ต่อยอด การตลาดที่ได้มันมากกว่าอยู่ทีมเล็กแน่ๆ

 


ใช่ มันแฟร แต่มันไม่สนุกไง

เทียบกับบอลก้ได้ ลีคดีสุดของโลกคือพรีเมีย

ใครมันจะไปสนว่าแฟร กับเวสบรอม แฟรกับ สโต๊กมั้ย คนมาดูกีฬาเค้ามาดูความเอนเตอเทน ใครมันจะไปสนว่าจะแฟร์กับทีมไหนยังไง เค้าอยากได้ความสนุก ความสะใจ ใส่กันทุกนัด ไม่ใช่มานั่งปั้นเด็กมั่ง ขยันลงไปบ๊วยมั่ง


ลองมองในมุมของทีมมั่ง สมมติตลาดรายได้ 10,000ล้าน มี 20ทีม

แจกให้ทีมละเท่าๆกัน ทีมละ 500 ล้าน


กลับกัน ถ้าทำให้มันสนุกคนดูทั้งโลกแบบฟุตบอล ตลาด 100,000 มี20ทีม

แจกทีมบนสุด 20000ล้าน ไล่ๆไป ไอทีมล่างสุดยังได้มากกว่า 500เลย สุดท้ายมันก้วินๆทุกฝ่าย

สุดท้ายเด็กมันก้เกิดได้เองแหละไม่ต้องมานั่งดราฟ ถ้ากลัวเด็กไม่ไป ทีมมันก้ต้องมีไรมาชูโรงอะ เหมือนฟุตบอล ถ้าคิดแบบนี้หมด เด็กมันก้ไปเข้าแมนยูหมดแล้วสิ ทีมใหญ่ๆอะ ทีมเล็กๆก้คงไม่มีทีมแล้ว สุดท้ายระบบมันก้เข้ารูปของมันเองอะ

ทุกวันนี้ถามจริงใครจะมานั่งตามเชียทีมมั่งเวลาแท้งอะ okc 76ปีแท้งงี้ 82นัด ถามจริงแฟนบาสจะดูกี่นัดถึง15มั๊ย  

ผมขอชวนคุยทีละประเด็นนะครับ เรื่องงานเรื่องเงินก่อนละกัน
มูลค่าทีมที่ต่ำที่สุดอันดับ30 คือ Memphis Grizzlies มีมูลค่า $1.3 billion
ส่วนฝั่งฟุตบอล PSG ทีมที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ11 มีมูลค่าแค่$1.1 billion
หรือถ้าจะเอาทีมที่มูลค่าเยอะสุดมาเทียบกัน New York Knicks($5 billion) ก็มูลค่ามากกว่ทั้งมาดริด บาซ่า แมนยูอะครับ
ยอมรับนะครับว่าฟุตบอลได้รับความนิยมมากกว่าNBAเยอะ แต่เห็นคุณยกประเด็นเงินๆทองๆมา
เลยอยากเอาตัวอย่างมาให้เห็นชัดๆว่าความนิยมน้อยกว่าไม่ได้แปลว่ามูลค่าจะน้อยกว่านะครับ


ต่อมาเรื่องการไม่มีตกชั้น คุณก็พูดเองว่าสุดท้ายระบบมันก้จะเข้ารูปของมันเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมด ฟุตบอลยุโรปอาจจะเหมาะกับการมีเลื่อนชั้นตกชั้น แต่ระบบแบบนี้มันก็คงเหมาะกันอเมริกันเกมแล้ว
การที่จะมีทีมระบบNBAได้ มันต้องพร้อมมาก ใช้เงินเยอะ ต้องมีสนามที่ได้มาตรฐาน ไหนจะค่าเดินทางที่แพงจัดๆ เพราะต้องบินข้ามประเทศ
ยิ่งโดยเฉพาะค่าเหนื่อยนักกีฬา ที่มีเพดานขั้นต่ำปีละ100กว่าล้าน จะมาทำทีมประหยัดแบบทีมฟุตบอลบางทีมใช้แต่นักกีฬาค่าเหนื่อยถูกๆไม่ได้นะครับ ผิดกฏลีก แค่นี้ก็นักลงทุนที่จะสร้างทีมที่พร้อมมาเล่นในNBAยากละครับ

แล้วถ้ามีระบบเลื่อนชั้นตกชั้นคงต้องรื้อระบบใหม่หมดอะครับ ทั้งSalary cap การเซ็นต์สัญญาต่างๆ
อย่างปีนี้ สมมติวิซาดตกชั้น ปีหน้าทีมจะจ่ายค่าเหนื่อยWestbrookปีละ40กว่าล้านยังไงไหวครับ
เพราะตกไปดิวิชั่น2 รายได้พวกค่าลิขสิทธ์ต่างๆต้องหายไปเยอะแน่ๆ
ทีมล้มละลายได้ง่ายๆเลย

ส่วนเรื่องความสนุก มันก็อยู่ที่ความชอบอะครับ ฟุตบอลก็ไม่ได้สนุกทุกคู่ พรีเมียร์ลุ้นแชมป์ก็กร่อยมาสองปีละ
UCL รอบแบ่งกลุ่ม หรือแม้แต่รอบ16ทีมคนหลายๆคนก็ไม่ค่อยดู ถ้าไม่ใช่แฟนบอลจริงๆ
บาสยังไงก็มีคนดูทุกทีมครับ เพราะมันต่างกันบอลตรงที่มันมีคนดูผูกพันธ์กับสตาร์มากกว่าทีม
ทีมเกือบทุกทีมมีสตาร์หมด คนที่ชอบ ถ้าว่างๆก็ดูกันแทบทุกคู่ทุกวันที่เวลาไม่ชนอะ
ผมว่าจะมีตกชั้นหรือไม่มี มันก็สนุกคนละรูปแบบอะ ไม่เห็นต้องเหมือนกัน

 


ตัวเงินผมไม่ได้หมายถึงเอามาชนโต้งๆ ถ้าแบบนั้นทำไมจะไม่รุ้ครับ แต่เงินมันกระจุกอยุ่แค่นี้ มันไม่กระจายออกไป

เรื่องตกชั้นไม่ตกชั้นปรับระบบใหม่ก้ปรับสิ ถ้าไม่ปรับมันก้วนๆอยุ่แค่นี้

แต่สุดท้ายNBA มันไม่มีทางแซง EPL ได้ถ้ามันยังเป็นสเกลแบบนี้อยุ่ ตลาดNBA มันใช้คำว่าหยุดโตมานานแล้ว
(อาจจะบอกว่ามูลค่าทีม มูลค่าถ่ายทอดมันก้เยอะขึ้นทุกปี) แต่ถ้าลองมองที่% ที่จำนวนคนดูการเติบโต เทียบกับ EPL ต้องบอกว่าน้อยกว่าพอสมควร

สุดท้ายแแฟนบาสทั่วไปก้จะบอกว่าแบบนี้ดีอยุ่แล้วเปลีย่นทำไม แต่ลองถามแฟนบาสพวกนั้นสิ ดูปีละกีเกม เทียบกับบอลดูปีละกี่เกม

เทียบกับแฟนทีมฟุตบอลอะ แต่ช่างมันเถียงกันไปก้ไม่ได้ไรขึ้นมา  


แล้วทำไม nfl ใช้ระบบเดีนยวกันเลยตอนนี้โตเอาๆ เจาะตลาดฝั่งยุโรปได้อีก  


โตเอาๆ นี่โตแค่ไหนอะ ในรอบ 30ปีหลัง ฟุตบอลนี่แซงแบบยับๆ  


แซงยังไงเหรอครับ ขอหลักฐาน ทีมใน epl ที่ว่าดีสุดในโลกยังต้องทำสนามเผื่อเอา nfl คู่ที่เจียดๆมาให้ดู ไม่ใช่คู่ใหญ่ด้วยมาแข่งหวังเงินจากตรงนั้น วัดมูลค่าสโมสร คุณก็บอกวัดไม่ได้  



ต้องเอากราฟไหนให้ดูดี เอาจริงใช้ common sense ก้น่าจะรุ้แล้วนะะ ในระดับโลก nfl nba สุ้บอลไม่ได้หรอก


เอากราฟไหน หรือบทความไหนมาก้ได้ ยังไงบอลก้ชนะขาดๆ

แล้วอย่ามาบอกว่า บอลคนเล่นทั่วโลกเยอะกว่านะ ก้แล้วทำไมคนทั่วโลกไม่เล่นบาสละ ก้มันไม่อินไง กระแสเลยจุดไม่ติดเท่าบอล

ส่วน nflนี่ไปเก็บเลย ถ้าทั่วโลกจริงๆน่าจะแพ้บาสด้วยซ้ำมั้ง แต่ในเมกาชนะอยุ่



http://www.biggestglobalsports.com/





 


คุณอย่าเอาความคิดตัวเองมาตัดสินคนทั้งโลก

กราฟที่คุณเอามาโชว์คือ Most popular คุณเห็นมั้ย ว่าทำไมคริกเกตอยู่อันดับสอง เพราะคนอินเดียนิยมเล่นไง แล้วความรู้สึกคุณคิดว่าคริกเกตสนุกกว่าบาสมั้ย ถ้าไม่รู้ก็เท่ากับว่าคุณเอาความคิดคุณมาตัดสินคนส่วนใหญ่ของโลกไม่ได้

ฟุตบอลต้นกำเนิดมาจากยุโรปมากกว่า 200 ปี เมกายังไม่เกิดเลยมั้ง คนยุโรปกระจายไปทั่วโลก ไปประเทศไหนก็เผยแพร่ไปที่นั่น ประเทศไทยเริ่มเล่นฟุตบอลกันตั้งแต่ กีฬาบาสยังไม่ถือกำเนิดที่เมกาเลย บาสเพิ่งเกิดมา~100ปี อย่าบอกว่าฟุตบอลแซงบาสไปไกล มันไม่ใช่ ฟุตบอลนำบาสอยู่หลายช่วงตัวมานานแล้ว การที่บาสจะขึ้นมาทัดเทียมฟุตบอลได้ก็เหมือนคุณจะปั้นเอสโคล่าที่เพิ่งเกิดในไทย ให้ชนะโค้กกับเป๊บซี่ที่เกิดมาก่อนเป็นร้อยปีได้ แล้วต้องชนะใจคนทั้งโลกด้วย มันไม่ง่ายเลย บาสนี่เอาแค่ชนะคริกเกตให้ได้ก่อนยังยาก  


ถูกและไม่ถูก

บาสเป็นกีฬาเกิดใหม่กว่ามั๊ยไม่รุ้ แต่บอลฮิตมามากกว่าตั้งแต่แรกอันนี้ชัว

แต่อัตราการเติบโตส่วนใหญ่ของทุกอย่างบนโลก

จาก 100 > 1000 ส่วนมากจะช้ากว่า 10 > 100

แต่ฟุตบอลกับบาสหรือเมกันฟุตบอล มันเติมโตในอัตราแทบจะเท่ากัน แสดงกว่าการเดินเกมแบบนี้ผิด

ยกเว้นคนจะบอกว่า บาส สนุก เท่ากับบอล (Aในเชิงของทั้งรูปแบบการเล่นและB เชิงของความตื่นเต้นเวลาดูความเข้มข้นของลีค)
ซึ่งส่วนตัวมองว่า บาสในเชิงรูปแบบการเล่นดูแล้วสนุกกว่าบอลนิดหน่อย แต่ความตื่นเต้นของลีคที่ชวนให้ติดตามนี่เข้าขั้นติดลบ

B ทีมที่เชียสมมติเก่ง5ปี ลงไปแท้ง5ปี แค่นี้ก้หมดความต่อเนื่องละ เพราะไอปีแท้งนี่แทบไม่ดูเลยยังได้

คุณลองมองเป็นกลางความต่อเนื่องอยุ่ไหน แฟนบูลในอดีตตอนนี้ยังมีเปิดดูบูลเล่นกี่คน

แล้วถ้าไม่ปรับที่ข้อ B แล้วทำยังไงมันถึงจะบูมมากกว่านี้ หรือมองว่าแค่นี้คือดีแล้ว

ดีแล้วจริงหรอที่แฟนบาสของทีมๆนึงเลิกดูเลิกเชียกันเยอะขนาดนี้


0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

เมื่อไหร่โดนบังคับให้ไม่พูดสิ่งที่ควรพูด ถือว่าเราตายไปแล้ว :D
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: ಥ_ಥ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8752
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 06, 2021 21:48
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
rocky99 พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
ผมว่ากฏNBAมันแฟร์สุดในทุกลีกในโลกละครับ
นอกจากSalary Capหรือสิทธิ์ท็อปดราฟทีมท้ายตารางที่รู้กันอยู่แล้ว
อย่างกฏการต่อสัญญาฉบับที่สองต่อจากสัญญารุกกี้ที่ต่อกับทีมเดิมได้เงินมากสุด
ก็ช่วยให้ทีมตลาดเล็กรั้งสตาร์อายุน้อยๆไว้กับทีมได้เพิ่ม4-5ปีอะ
ไม่งั้นอย่างADย้ายหนีPelicanนานละ ไม่ใช่เพิ่งมาเลเกอร์ปีสองปีนี้หรอก
หรือBookerงี้ ถ้าไปที่อื่นก็ได้สัญญาแพงเท่านี้ ไม่มีทางต่อกับซันอะ

ทีมตลาดใหญ่มันได้เปรียบอยู่แล้ว เหมือนทีมในกทม คนก็อยากย้ายไปมากกว่าอยู่ต่างจังหวัดแน่ๆ
ต่อให่ค่าจ้างเท่ากัน แต่ทีมใหญ่มันมีฐานแฟนให้ต่อยอด การตลาดที่ได้มันมากกว่าอยู่ทีมเล็กแน่ๆ

 


ใช่ มันแฟร แต่มันไม่สนุกไง

เทียบกับบอลก้ได้ ลีคดีสุดของโลกคือพรีเมีย

ใครมันจะไปสนว่าแฟร กับเวสบรอม แฟรกับ สโต๊กมั้ย คนมาดูกีฬาเค้ามาดูความเอนเตอเทน ใครมันจะไปสนว่าจะแฟร์กับทีมไหนยังไง เค้าอยากได้ความสนุก ความสะใจ ใส่กันทุกนัด ไม่ใช่มานั่งปั้นเด็กมั่ง ขยันลงไปบ๊วยมั่ง


ลองมองในมุมของทีมมั่ง สมมติตลาดรายได้ 10,000ล้าน มี 20ทีม

แจกให้ทีมละเท่าๆกัน ทีมละ 500 ล้าน


กลับกัน ถ้าทำให้มันสนุกคนดูทั้งโลกแบบฟุตบอล ตลาด 100,000 มี20ทีม

แจกทีมบนสุด 20000ล้าน ไล่ๆไป ไอทีมล่างสุดยังได้มากกว่า 500เลย สุดท้ายมันก้วินๆทุกฝ่าย

สุดท้ายเด็กมันก้เกิดได้เองแหละไม่ต้องมานั่งดราฟ ถ้ากลัวเด็กไม่ไป ทีมมันก้ต้องมีไรมาชูโรงอะ เหมือนฟุตบอล ถ้าคิดแบบนี้หมด เด็กมันก้ไปเข้าแมนยูหมดแล้วสิ ทีมใหญ่ๆอะ ทีมเล็กๆก้คงไม่มีทีมแล้ว สุดท้ายระบบมันก้เข้ารูปของมันเองอะ

ทุกวันนี้ถามจริงใครจะมานั่งตามเชียทีมมั่งเวลาแท้งอะ okc 76ปีแท้งงี้ 82นัด ถามจริงแฟนบาสจะดูกี่นัดถึง15มั๊ย  

ผมขอชวนคุยทีละประเด็นนะครับ เรื่องงานเรื่องเงินก่อนละกัน
มูลค่าทีมที่ต่ำที่สุดอันดับ30 คือ Memphis Grizzlies มีมูลค่า $1.3 billion
ส่วนฝั่งฟุตบอล PSG ทีมที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ11 มีมูลค่าแค่$1.1 billion
หรือถ้าจะเอาทีมที่มูลค่าเยอะสุดมาเทียบกัน New York Knicks($5 billion) ก็มูลค่ามากกว่ทั้งมาดริด บาซ่า แมนยูอะครับ
ยอมรับนะครับว่าฟุตบอลได้รับความนิยมมากกว่าNBAเยอะ แต่เห็นคุณยกประเด็นเงินๆทองๆมา
เลยอยากเอาตัวอย่างมาให้เห็นชัดๆว่าความนิยมน้อยกว่าไม่ได้แปลว่ามูลค่าจะน้อยกว่านะครับ


ต่อมาเรื่องการไม่มีตกชั้น คุณก็พูดเองว่าสุดท้ายระบบมันก้จะเข้ารูปของมันเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมด ฟุตบอลยุโรปอาจจะเหมาะกับการมีเลื่อนชั้นตกชั้น แต่ระบบแบบนี้มันก็คงเหมาะกันอเมริกันเกมแล้ว
การที่จะมีทีมระบบNBAได้ มันต้องพร้อมมาก ใช้เงินเยอะ ต้องมีสนามที่ได้มาตรฐาน ไหนจะค่าเดินทางที่แพงจัดๆ เพราะต้องบินข้ามประเทศ
ยิ่งโดยเฉพาะค่าเหนื่อยนักกีฬา ที่มีเพดานขั้นต่ำปีละ100กว่าล้าน จะมาทำทีมประหยัดแบบทีมฟุตบอลบางทีมใช้แต่นักกีฬาค่าเหนื่อยถูกๆไม่ได้นะครับ ผิดกฏลีก แค่นี้ก็นักลงทุนที่จะสร้างทีมที่พร้อมมาเล่นในNBAยากละครับ

แล้วถ้ามีระบบเลื่อนชั้นตกชั้นคงต้องรื้อระบบใหม่หมดอะครับ ทั้งSalary cap การเซ็นต์สัญญาต่างๆ
อย่างปีนี้ สมมติวิซาดตกชั้น ปีหน้าทีมจะจ่ายค่าเหนื่อยWestbrookปีละ40กว่าล้านยังไงไหวครับ
เพราะตกไปดิวิชั่น2 รายได้พวกค่าลิขสิทธ์ต่างๆต้องหายไปเยอะแน่ๆ
ทีมล้มละลายได้ง่ายๆเลย

ส่วนเรื่องความสนุก มันก็อยู่ที่ความชอบอะครับ ฟุตบอลก็ไม่ได้สนุกทุกคู่ พรีเมียร์ลุ้นแชมป์ก็กร่อยมาสองปีละ
UCL รอบแบ่งกลุ่ม หรือแม้แต่รอบ16ทีมคนหลายๆคนก็ไม่ค่อยดู ถ้าไม่ใช่แฟนบอลจริงๆ
บาสยังไงก็มีคนดูทุกทีมครับ เพราะมันต่างกันบอลตรงที่มันมีคนดูผูกพันธ์กับสตาร์มากกว่าทีม
ทีมเกือบทุกทีมมีสตาร์หมด คนที่ชอบ ถ้าว่างๆก็ดูกันแทบทุกคู่ทุกวันที่เวลาไม่ชนอะ
ผมว่าจะมีตกชั้นหรือไม่มี มันก็สนุกคนละรูปแบบอะ ไม่เห็นต้องเหมือนกัน

 


ตัวเงินผมไม่ได้หมายถึงเอามาชนโต้งๆ ถ้าแบบนั้นทำไมจะไม่รุ้ครับ แต่เงินมันกระจุกอยุ่แค่นี้ มันไม่กระจายออกไป

เรื่องตกชั้นไม่ตกชั้นปรับระบบใหม่ก้ปรับสิ ถ้าไม่ปรับมันก้วนๆอยุ่แค่นี้

แต่สุดท้ายNBA มันไม่มีทางแซง EPL ได้ถ้ามันยังเป็นสเกลแบบนี้อยุ่ ตลาดNBA มันใช้คำว่าหยุดโตมานานแล้ว
(อาจจะบอกว่ามูลค่าทีม มูลค่าถ่ายทอดมันก้เยอะขึ้นทุกปี) แต่ถ้าลองมองที่% ที่จำนวนคนดูการเติบโต เทียบกับ EPL ต้องบอกว่าน้อยกว่าพอสมควร

สุดท้ายแแฟนบาสทั่วไปก้จะบอกว่าแบบนี้ดีอยุ่แล้วเปลีย่นทำไม แต่ลองถามแฟนบาสพวกนั้นสิ ดูปีละกีเกม เทียบกับบอลดูปีละกี่เกม

เทียบกับแฟนทีมฟุตบอลอะ แต่ช่างมันเถียงกันไปก้ไม่ได้ไรขึ้นมา  


แล้วทำไม nfl ใช้ระบบเดีนยวกันเลยตอนนี้โตเอาๆ เจาะตลาดฝั่งยุโรปได้อีก  


โตเอาๆ นี่โตแค่ไหนอะ ในรอบ 30ปีหลัง ฟุตบอลนี่แซงแบบยับๆ  


แซงยังไงเหรอครับ ขอหลักฐาน ทีมใน epl ที่ว่าดีสุดในโลกยังต้องทำสนามเผื่อเอา nfl คู่ที่เจียดๆมาให้ดู ไม่ใช่คู่ใหญ่ด้วยมาแข่งหวังเงินจากตรงนั้น วัดมูลค่าสโมสร คุณก็บอกวัดไม่ได้  



ต้องเอากราฟไหนให้ดูดี เอาจริงใช้ common sense ก้น่าจะรุ้แล้วนะะ ในระดับโลก nfl nba สุ้บอลไม่ได้หรอก


เอากราฟไหน หรือบทความไหนมาก้ได้ ยังไงบอลก้ชนะขาดๆ

แล้วอย่ามาบอกว่า บอลคนเล่นทั่วโลกเยอะกว่านะ ก้แล้วทำไมคนทั่วโลกไม่เล่นบาสละ ก้มันไม่อินไง กระแสเลยจุดไม่ติดเท่าบอล

ส่วน nflนี่ไปเก็บเลย ถ้าทั่วโลกจริงๆน่าจะแพ้บาสด้วยซ้ำมั้ง แต่ในเมกาชนะอยุ่



http://www.biggestglobalsports.com/





 


คุณอย่าเอาความคิดตัวเองมาตัดสินคนทั้งโลก

กราฟที่คุณเอามาโชว์คือ Most popular คุณเห็นมั้ย ว่าทำไมคริกเกตอยู่อันดับสอง เพราะคนอินเดียนิยมเล่นไง แล้วความรู้สึกคุณคิดว่าคริกเกตสนุกกว่าบาสมั้ย ถ้าไม่รู้ก็เท่ากับว่าคุณเอาความคิดคุณมาตัดสินคนส่วนใหญ่ของโลกไม่ได้

ฟุตบอลต้นกำเนิดมาจากยุโรปมากกว่า 200 ปี เมกายังไม่เกิดเลยมั้ง คนยุโรปกระจายไปทั่วโลก ไปประเทศไหนก็เผยแพร่ไปที่นั่น ประเทศไทยเริ่มเล่นฟุตบอลกันตั้งแต่ กีฬาบาสยังไม่ถือกำเนิดที่เมกาเลย บาสเพิ่งเกิดมา~100ปี อย่าบอกว่าฟุตบอลแซงบาสไปไกล มันไม่ใช่ ฟุตบอลนำบาสอยู่หลายช่วงตัวมานานแล้ว การที่บาสจะขึ้นมาทัดเทียมฟุตบอลได้ก็เหมือนคุณจะปั้นเอสโคล่าที่เพิ่งเกิดในไทย ให้ชนะโค้กกับเป๊บซี่ที่เกิดมาก่อนเป็นร้อยปีได้ แล้วต้องชนะใจคนทั้งโลกด้วย มันไม่ง่ายเลย บาสนี่เอาแค่ชนะคริกเกตให้ได้ก่อนยังยาก  


ถูกและไม่ถูก

บาสเป็นกีฬาเกิดใหม่กว่ามั๊ยไม่รุ้ แต่บอลฮิตมามากกว่าตั้งแต่แรกอันนี้ชัว

แต่อัตราการเติบโตส่วนใหญ่ของทุกอย่างบนโลก

จาก 100 > 1000 ส่วนมากจะช้ากว่า 10 > 100

แต่ฟุตบอลกับบาสหรือเมกันฟุตบอล มันเติมโตในอัตราแทบจะเท่ากัน แสดงกว่าการเดินเกมแบบนี้ผิด

ยกเว้นคนจะบอกว่า บาส สนุก เท่ากับบอล (Aในเชิงของทั้งรูปแบบการเล่นและB เชิงของความตื่นเต้นเวลาดูความเข้มข้นของลีค)
ซึ่งส่วนตัวมองว่า บาสในเชิงรูปแบบการเล่นดูแล้วสนุกกว่าบอลนิดหน่อย แต่ความตื่นเต้นของลีคที่ชวนให้ติดตามนี่เข้าขั้นติดลบ

B ทีมที่เชียสมมติเก่ง5ปี ลงไปแท้ง5ปี แค่นี้ก้หมดความต่อเนื่องละ เพราะไอปีแท้งนี่แทบไม่ดูเลยยังได้

คุณลองมองเป็นกลางความต่อเนื่องอยุ่ไหน แฟนบูลในอดีตตอนนี้ยังมีเปิดดูบูลเล่นกี่คน

แล้วถ้าไม่ปรับที่ข้อ B แล้วทำยังไงมันถึงจะบูมมากกว่านี้ หรือมองว่าแค่นี้คือดีแล้ว

ดีแล้วจริงหรอที่แฟนบาสของทีมๆนึงเลิกดูเลิกเชียกันเยอะขนาดนี้


 


เอามาจากไหนครับที่ว่าเลิกดูเลิกเชียร์

แค่เติบโตช้ามันไม่ได้หมายความว่าเค้าเลิกติดตาม เลิกสนใจกันนะครับ

หรือคุณมองว่าการเติบโตคือมันต้องพุ่งขึ้นทุกปี ๆ แบบนี้รึเปล่า แล้วมันจะไปสุดตรงไหนอะครับ

เมกันเกมครับ เกมของคนเมกัน ไม่ได้ทำมาเอาใจใคร

กีฬาแต่ละอย่างมีฐานแฟน ๆ คนดูของตัวเองอยู่แล้วครับ

คนเราชอบไม่เหมือนกัน แบ่งกันไปตามวัฒนธรรม พื้นเพของแต่ละที่ทวีป

ลองประเทศไทยอยู่ใกล้ ๆ เมกาสิครับ time zone เดียวกัน ได้ดูถ่ายทอดในเวลาที่เหมือนเค้า คิดว่าความนิยมเมกันเกมจะพุ่งขึ้นบ้างไหมในบ้านเรา

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
CGM48
••••••••••••••••••••••••••



ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2020
ตอบ: 20316
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 07, 2021 00:10
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
Rafia พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
rocky99 พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
ผมว่ากฏNBAมันแฟร์สุดในทุกลีกในโลกละครับ
นอกจากSalary Capหรือสิทธิ์ท็อปดราฟทีมท้ายตารางที่รู้กันอยู่แล้ว
อย่างกฏการต่อสัญญาฉบับที่สองต่อจากสัญญารุกกี้ที่ต่อกับทีมเดิมได้เงินมากสุด
ก็ช่วยให้ทีมตลาดเล็กรั้งสตาร์อายุน้อยๆไว้กับทีมได้เพิ่ม4-5ปีอะ
ไม่งั้นอย่างADย้ายหนีPelicanนานละ ไม่ใช่เพิ่งมาเลเกอร์ปีสองปีนี้หรอก
หรือBookerงี้ ถ้าไปที่อื่นก็ได้สัญญาแพงเท่านี้ ไม่มีทางต่อกับซันอะ

ทีมตลาดใหญ่มันได้เปรียบอยู่แล้ว เหมือนทีมในกทม คนก็อยากย้ายไปมากกว่าอยู่ต่างจังหวัดแน่ๆ
ต่อให่ค่าจ้างเท่ากัน แต่ทีมใหญ่มันมีฐานแฟนให้ต่อยอด การตลาดที่ได้มันมากกว่าอยู่ทีมเล็กแน่ๆ

 


ใช่ มันแฟร แต่มันไม่สนุกไง

เทียบกับบอลก้ได้ ลีคดีสุดของโลกคือพรีเมีย

ใครมันจะไปสนว่าแฟร กับเวสบรอม แฟรกับ สโต๊กมั้ย คนมาดูกีฬาเค้ามาดูความเอนเตอเทน ใครมันจะไปสนว่าจะแฟร์กับทีมไหนยังไง เค้าอยากได้ความสนุก ความสะใจ ใส่กันทุกนัด ไม่ใช่มานั่งปั้นเด็กมั่ง ขยันลงไปบ๊วยมั่ง


ลองมองในมุมของทีมมั่ง สมมติตลาดรายได้ 10,000ล้าน มี 20ทีม

แจกให้ทีมละเท่าๆกัน ทีมละ 500 ล้าน


กลับกัน ถ้าทำให้มันสนุกคนดูทั้งโลกแบบฟุตบอล ตลาด 100,000 มี20ทีม

แจกทีมบนสุด 20000ล้าน ไล่ๆไป ไอทีมล่างสุดยังได้มากกว่า 500เลย สุดท้ายมันก้วินๆทุกฝ่าย

สุดท้ายเด็กมันก้เกิดได้เองแหละไม่ต้องมานั่งดราฟ ถ้ากลัวเด็กไม่ไป ทีมมันก้ต้องมีไรมาชูโรงอะ เหมือนฟุตบอล ถ้าคิดแบบนี้หมด เด็กมันก้ไปเข้าแมนยูหมดแล้วสิ ทีมใหญ่ๆอะ ทีมเล็กๆก้คงไม่มีทีมแล้ว สุดท้ายระบบมันก้เข้ารูปของมันเองอะ

ทุกวันนี้ถามจริงใครจะมานั่งตามเชียทีมมั่งเวลาแท้งอะ okc 76ปีแท้งงี้ 82นัด ถามจริงแฟนบาสจะดูกี่นัดถึง15มั๊ย  

ผมขอชวนคุยทีละประเด็นนะครับ เรื่องงานเรื่องเงินก่อนละกัน
มูลค่าทีมที่ต่ำที่สุดอันดับ30 คือ Memphis Grizzlies มีมูลค่า $1.3 billion
ส่วนฝั่งฟุตบอล PSG ทีมที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ11 มีมูลค่าแค่$1.1 billion
หรือถ้าจะเอาทีมที่มูลค่าเยอะสุดมาเทียบกัน New York Knicks($5 billion) ก็มูลค่ามากกว่ทั้งมาดริด บาซ่า แมนยูอะครับ
ยอมรับนะครับว่าฟุตบอลได้รับความนิยมมากกว่าNBAเยอะ แต่เห็นคุณยกประเด็นเงินๆทองๆมา
เลยอยากเอาตัวอย่างมาให้เห็นชัดๆว่าความนิยมน้อยกว่าไม่ได้แปลว่ามูลค่าจะน้อยกว่านะครับ


ต่อมาเรื่องการไม่มีตกชั้น คุณก็พูดเองว่าสุดท้ายระบบมันก้จะเข้ารูปของมันเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมด ฟุตบอลยุโรปอาจจะเหมาะกับการมีเลื่อนชั้นตกชั้น แต่ระบบแบบนี้มันก็คงเหมาะกันอเมริกันเกมแล้ว
การที่จะมีทีมระบบNBAได้ มันต้องพร้อมมาก ใช้เงินเยอะ ต้องมีสนามที่ได้มาตรฐาน ไหนจะค่าเดินทางที่แพงจัดๆ เพราะต้องบินข้ามประเทศ
ยิ่งโดยเฉพาะค่าเหนื่อยนักกีฬา ที่มีเพดานขั้นต่ำปีละ100กว่าล้าน จะมาทำทีมประหยัดแบบทีมฟุตบอลบางทีมใช้แต่นักกีฬาค่าเหนื่อยถูกๆไม่ได้นะครับ ผิดกฏลีก แค่นี้ก็นักลงทุนที่จะสร้างทีมที่พร้อมมาเล่นในNBAยากละครับ

แล้วถ้ามีระบบเลื่อนชั้นตกชั้นคงต้องรื้อระบบใหม่หมดอะครับ ทั้งSalary cap การเซ็นต์สัญญาต่างๆ
อย่างปีนี้ สมมติวิซาดตกชั้น ปีหน้าทีมจะจ่ายค่าเหนื่อยWestbrookปีละ40กว่าล้านยังไงไหวครับ
เพราะตกไปดิวิชั่น2 รายได้พวกค่าลิขสิทธ์ต่างๆต้องหายไปเยอะแน่ๆ
ทีมล้มละลายได้ง่ายๆเลย

ส่วนเรื่องความสนุก มันก็อยู่ที่ความชอบอะครับ ฟุตบอลก็ไม่ได้สนุกทุกคู่ พรีเมียร์ลุ้นแชมป์ก็กร่อยมาสองปีละ
UCL รอบแบ่งกลุ่ม หรือแม้แต่รอบ16ทีมคนหลายๆคนก็ไม่ค่อยดู ถ้าไม่ใช่แฟนบอลจริงๆ
บาสยังไงก็มีคนดูทุกทีมครับ เพราะมันต่างกันบอลตรงที่มันมีคนดูผูกพันธ์กับสตาร์มากกว่าทีม
ทีมเกือบทุกทีมมีสตาร์หมด คนที่ชอบ ถ้าว่างๆก็ดูกันแทบทุกคู่ทุกวันที่เวลาไม่ชนอะ
ผมว่าจะมีตกชั้นหรือไม่มี มันก็สนุกคนละรูปแบบอะ ไม่เห็นต้องเหมือนกัน

 


ตัวเงินผมไม่ได้หมายถึงเอามาชนโต้งๆ ถ้าแบบนั้นทำไมจะไม่รุ้ครับ แต่เงินมันกระจุกอยุ่แค่นี้ มันไม่กระจายออกไป

เรื่องตกชั้นไม่ตกชั้นปรับระบบใหม่ก้ปรับสิ ถ้าไม่ปรับมันก้วนๆอยุ่แค่นี้

แต่สุดท้ายNBA มันไม่มีทางแซง EPL ได้ถ้ามันยังเป็นสเกลแบบนี้อยุ่ ตลาดNBA มันใช้คำว่าหยุดโตมานานแล้ว
(อาจจะบอกว่ามูลค่าทีม มูลค่าถ่ายทอดมันก้เยอะขึ้นทุกปี) แต่ถ้าลองมองที่% ที่จำนวนคนดูการเติบโต เทียบกับ EPL ต้องบอกว่าน้อยกว่าพอสมควร

สุดท้ายแแฟนบาสทั่วไปก้จะบอกว่าแบบนี้ดีอยุ่แล้วเปลีย่นทำไม แต่ลองถามแฟนบาสพวกนั้นสิ ดูปีละกีเกม เทียบกับบอลดูปีละกี่เกม

เทียบกับแฟนทีมฟุตบอลอะ แต่ช่างมันเถียงกันไปก้ไม่ได้ไรขึ้นมา  


แล้วทำไม nfl ใช้ระบบเดีนยวกันเลยตอนนี้โตเอาๆ เจาะตลาดฝั่งยุโรปได้อีก  


โตเอาๆ นี่โตแค่ไหนอะ ในรอบ 30ปีหลัง ฟุตบอลนี่แซงแบบยับๆ  


แซงยังไงเหรอครับ ขอหลักฐาน ทีมใน epl ที่ว่าดีสุดในโลกยังต้องทำสนามเผื่อเอา nfl คู่ที่เจียดๆมาให้ดู ไม่ใช่คู่ใหญ่ด้วยมาแข่งหวังเงินจากตรงนั้น วัดมูลค่าสโมสร คุณก็บอกวัดไม่ได้  



ต้องเอากราฟไหนให้ดูดี เอาจริงใช้ common sense ก้น่าจะรุ้แล้วนะะ ในระดับโลก nfl nba สุ้บอลไม่ได้หรอก


เอากราฟไหน หรือบทความไหนมาก้ได้ ยังไงบอลก้ชนะขาดๆ

แล้วอย่ามาบอกว่า บอลคนเล่นทั่วโลกเยอะกว่านะ ก้แล้วทำไมคนทั่วโลกไม่เล่นบาสละ ก้มันไม่อินไง กระแสเลยจุดไม่ติดเท่าบอล

ส่วน nflนี่ไปเก็บเลย ถ้าทั่วโลกจริงๆน่าจะแพ้บาสด้วยซ้ำมั้ง แต่ในเมกาชนะอยุ่



http://www.biggestglobalsports.com/





 


คุณอย่าเอาความคิดตัวเองมาตัดสินคนทั้งโลก

กราฟที่คุณเอามาโชว์คือ Most popular คุณเห็นมั้ย ว่าทำไมคริกเกตอยู่อันดับสอง เพราะคนอินเดียนิยมเล่นไง แล้วความรู้สึกคุณคิดว่าคริกเกตสนุกกว่าบาสมั้ย ถ้าไม่รู้ก็เท่ากับว่าคุณเอาความคิดคุณมาตัดสินคนส่วนใหญ่ของโลกไม่ได้

ฟุตบอลต้นกำเนิดมาจากยุโรปมากกว่า 200 ปี เมกายังไม่เกิดเลยมั้ง คนยุโรปกระจายไปทั่วโลก ไปประเทศไหนก็เผยแพร่ไปที่นั่น ประเทศไทยเริ่มเล่นฟุตบอลกันตั้งแต่ กีฬาบาสยังไม่ถือกำเนิดที่เมกาเลย บาสเพิ่งเกิดมา~100ปี อย่าบอกว่าฟุตบอลแซงบาสไปไกล มันไม่ใช่ ฟุตบอลนำบาสอยู่หลายช่วงตัวมานานแล้ว การที่บาสจะขึ้นมาทัดเทียมฟุตบอลได้ก็เหมือนคุณจะปั้นเอสโคล่าที่เพิ่งเกิดในไทย ให้ชนะโค้กกับเป๊บซี่ที่เกิดมาก่อนเป็นร้อยปีได้ แล้วต้องชนะใจคนทั้งโลกด้วย มันไม่ง่ายเลย บาสนี่เอาแค่ชนะคริกเกตให้ได้ก่อนยังยาก  


ถูกและไม่ถูก

บาสเป็นกีฬาเกิดใหม่กว่ามั๊ยไม่รุ้ แต่บอลฮิตมามากกว่าตั้งแต่แรกอันนี้ชัว

แต่อัตราการเติบโตส่วนใหญ่ของทุกอย่างบนโลก

จาก 100 > 1000 ส่วนมากจะช้ากว่า 10 > 100

แต่ฟุตบอลกับบาสหรือเมกันฟุตบอล มันเติมโตในอัตราแทบจะเท่ากัน แสดงกว่าการเดินเกมแบบนี้ผิด

ยกเว้นคนจะบอกว่า บาส สนุก เท่ากับบอล (Aในเชิงของทั้งรูปแบบการเล่นและB เชิงของความตื่นเต้นเวลาดูความเข้มข้นของลีค)
ซึ่งส่วนตัวมองว่า บาสในเชิงรูปแบบการเล่นดูแล้วสนุกกว่าบอลนิดหน่อย แต่ความตื่นเต้นของลีคที่ชวนให้ติดตามนี่เข้าขั้นติดลบ

B ทีมที่เชียสมมติเก่ง5ปี ลงไปแท้ง5ปี แค่นี้ก้หมดความต่อเนื่องละ เพราะไอปีแท้งนี่แทบไม่ดูเลยยังได้

คุณลองมองเป็นกลางความต่อเนื่องอยุ่ไหน แฟนบูลในอดีตตอนนี้ยังมีเปิดดูบูลเล่นกี่คน

แล้วถ้าไม่ปรับที่ข้อ B แล้วทำยังไงมันถึงจะบูมมากกว่านี้ หรือมองว่าแค่นี้คือดีแล้ว

ดีแล้วจริงหรอที่แฟนบาสของทีมๆนึงเลิกดูเลิกเชียกันเยอะขนาดนี้


 


เอามาจากไหนครับที่ว่าเลิกดูเลิกเชียร์

แค่เติบโตช้ามันไม่ได้หมายความว่าเค้าเลิกติดตาม เลิกสนใจกันนะครับ

หรือคุณมองว่าการเติบโตคือมันต้องพุ่งขึ้นทุกปี ๆ แบบนี้รึเปล่า แล้วมันจะไปสุดตรงไหนอะครับ

เมกันเกมครับ เกมของคนเมกัน ไม่ได้ทำมาเอาใจใคร

กีฬาแต่ละอย่างมีฐานแฟน ๆ คนดูของตัวเองอยู่แล้วครับ

คนเราชอบไม่เหมือนกัน แบ่งกันไปตามวัฒนธรรม พื้นเพของแต่ละที่ทวีป

ลองประเทศไทยอยู่ใกล้ ๆ เมกาสิครับ time zone เดียวกัน ได้ดูถ่ายทอดในเวลาที่เหมือนเค้า คิดว่าความนิยมเมกันเกมจะพุ่งขึ้นบ้างไหมในบ้านเรา

 

ถ้าจะมองแค่ว่า กีฬาเมกา ไม่สนใจประเทศอื่น อันก้ไม่ต้องคุยกันแล้ว คุยกันทำไม นี่คุยกันในประเด็นที่ว่าทำยังไงกีฬาบาส ถึงจะฮิตแซงบอลได้ ต้องปรับเปลี่ยนตรงไหน

มาพูดถึงว่าจะแซงทำไมเอาแค่คนเมกาดูก้จบพอแล้ว .......


ส่วนเรื่องที่บอกคนเลิกดูเลิกเชีย ถ้าไม่หลอกตัวเอง แฟนบาสมันเลิกดูเลิกเชียกันทั้งนั้นอะ หรือไม่ก้เปลี่ยนทีมเชียไปเรื่อยๆเพราะมันไม่ผูกพันกับทีม พูดถึงคนที่ไม่ได้เชียเพราะเกิดเมืองนั้นนะ เอาคนต่างประเทศ
เอาง่ายๆ สมัยจอร์แดน มั่นใจเลยเกิน50%เชียบูลแน่ๆอะ แล้วมาดูตอนนี้ เหลือแฟนบูลกี่คน เผลอๆไม่ถึง5%มั้ง

กีฬามันต้องต่อเนื่องทุกปี ถ้ามันแต่มาโอ๋ แล้วงี้ทีมเล็กเมื่อไหร่จะเกิดงี้ งี้แฟนเซาแธมตัน แฟนสโต๊ก ไม่ร้องไห้ตายแล้วหรอทำไมไม่มีโอกาสเป็นทีมใหญ่บ้าง

แต่แลกกับการที่ฟุตบอลเป็นกีฬาอันดับ1นะ

แต่สุดท้าย ก้มาจบที่ว่า ก้ทำมาให้คนเมกันดูก้จบแล้ว งี้ก้ไม่ต้องคุยกันต่อละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

เมื่อไหร่โดนบังคับให้ไม่พูดสิ่งที่ควรพูด ถือว่าเราตายไปแล้ว :D
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: ಥ_ಥ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8752
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 07, 2021 01:41
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
Spoil
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Rafia พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
rocky99 พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
ผมว่ากฏNBAมันแฟร์สุดในทุกลีกในโลกละครับ
นอกจากSalary Capหรือสิทธิ์ท็อปดราฟทีมท้ายตารางที่รู้กันอยู่แล้ว
อย่างกฏการต่อสัญญาฉบับที่สองต่อจากสัญญารุกกี้ที่ต่อกับทีมเดิมได้เงินมากสุด
ก็ช่วยให้ทีมตลาดเล็กรั้งสตาร์อายุน้อยๆไว้กับทีมได้เพิ่ม4-5ปีอะ
ไม่งั้นอย่างADย้ายหนีPelicanนานละ ไม่ใช่เพิ่งมาเลเกอร์ปีสองปีนี้หรอก
หรือBookerงี้ ถ้าไปที่อื่นก็ได้สัญญาแพงเท่านี้ ไม่มีทางต่อกับซันอะ

ทีมตลาดใหญ่มันได้เปรียบอยู่แล้ว เหมือนทีมในกทม คนก็อยากย้ายไปมากกว่าอยู่ต่างจังหวัดแน่ๆ
ต่อให่ค่าจ้างเท่ากัน แต่ทีมใหญ่มันมีฐานแฟนให้ต่อยอด การตลาดที่ได้มันมากกว่าอยู่ทีมเล็กแน่ๆ

 


ใช่ มันแฟร แต่มันไม่สนุกไง

เทียบกับบอลก้ได้ ลีคดีสุดของโลกคือพรีเมีย

ใครมันจะไปสนว่าแฟร กับเวสบรอม แฟรกับ สโต๊กมั้ย คนมาดูกีฬาเค้ามาดูความเอนเตอเทน ใครมันจะไปสนว่าจะแฟร์กับทีมไหนยังไง เค้าอยากได้ความสนุก ความสะใจ ใส่กันทุกนัด ไม่ใช่มานั่งปั้นเด็กมั่ง ขยันลงไปบ๊วยมั่ง


ลองมองในมุมของทีมมั่ง สมมติตลาดรายได้ 10,000ล้าน มี 20ทีม

แจกให้ทีมละเท่าๆกัน ทีมละ 500 ล้าน


กลับกัน ถ้าทำให้มันสนุกคนดูทั้งโลกแบบฟุตบอล ตลาด 100,000 มี20ทีม

แจกทีมบนสุด 20000ล้าน ไล่ๆไป ไอทีมล่างสุดยังได้มากกว่า 500เลย สุดท้ายมันก้วินๆทุกฝ่าย

สุดท้ายเด็กมันก้เกิดได้เองแหละไม่ต้องมานั่งดราฟ ถ้ากลัวเด็กไม่ไป ทีมมันก้ต้องมีไรมาชูโรงอะ เหมือนฟุตบอล ถ้าคิดแบบนี้หมด เด็กมันก้ไปเข้าแมนยูหมดแล้วสิ ทีมใหญ่ๆอะ ทีมเล็กๆก้คงไม่มีทีมแล้ว สุดท้ายระบบมันก้เข้ารูปของมันเองอะ

ทุกวันนี้ถามจริงใครจะมานั่งตามเชียทีมมั่งเวลาแท้งอะ okc 76ปีแท้งงี้ 82นัด ถามจริงแฟนบาสจะดูกี่นัดถึง15มั๊ย  

ผมขอชวนคุยทีละประเด็นนะครับ เรื่องงานเรื่องเงินก่อนละกัน
มูลค่าทีมที่ต่ำที่สุดอันดับ30 คือ Memphis Grizzlies มีมูลค่า $1.3 billion
ส่วนฝั่งฟุตบอล PSG ทีมที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ11 มีมูลค่าแค่$1.1 billion
หรือถ้าจะเอาทีมที่มูลค่าเยอะสุดมาเทียบกัน New York Knicks($5 billion) ก็มูลค่ามากกว่ทั้งมาดริด บาซ่า แมนยูอะครับ
ยอมรับนะครับว่าฟุตบอลได้รับความนิยมมากกว่าNBAเยอะ แต่เห็นคุณยกประเด็นเงินๆทองๆมา
เลยอยากเอาตัวอย่างมาให้เห็นชัดๆว่าความนิยมน้อยกว่าไม่ได้แปลว่ามูลค่าจะน้อยกว่านะครับ


ต่อมาเรื่องการไม่มีตกชั้น คุณก็พูดเองว่าสุดท้ายระบบมันก้จะเข้ารูปของมันเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมด ฟุตบอลยุโรปอาจจะเหมาะกับการมีเลื่อนชั้นตกชั้น แต่ระบบแบบนี้มันก็คงเหมาะกันอเมริกันเกมแล้ว
การที่จะมีทีมระบบNBAได้ มันต้องพร้อมมาก ใช้เงินเยอะ ต้องมีสนามที่ได้มาตรฐาน ไหนจะค่าเดินทางที่แพงจัดๆ เพราะต้องบินข้ามประเทศ
ยิ่งโดยเฉพาะค่าเหนื่อยนักกีฬา ที่มีเพดานขั้นต่ำปีละ100กว่าล้าน จะมาทำทีมประหยัดแบบทีมฟุตบอลบางทีมใช้แต่นักกีฬาค่าเหนื่อยถูกๆไม่ได้นะครับ ผิดกฏลีก แค่นี้ก็นักลงทุนที่จะสร้างทีมที่พร้อมมาเล่นในNBAยากละครับ

แล้วถ้ามีระบบเลื่อนชั้นตกชั้นคงต้องรื้อระบบใหม่หมดอะครับ ทั้งSalary cap การเซ็นต์สัญญาต่างๆ
อย่างปีนี้ สมมติวิซาดตกชั้น ปีหน้าทีมจะจ่ายค่าเหนื่อยWestbrookปีละ40กว่าล้านยังไงไหวครับ
เพราะตกไปดิวิชั่น2 รายได้พวกค่าลิขสิทธ์ต่างๆต้องหายไปเยอะแน่ๆ
ทีมล้มละลายได้ง่ายๆเลย

ส่วนเรื่องความสนุก มันก็อยู่ที่ความชอบอะครับ ฟุตบอลก็ไม่ได้สนุกทุกคู่ พรีเมียร์ลุ้นแชมป์ก็กร่อยมาสองปีละ
UCL รอบแบ่งกลุ่ม หรือแม้แต่รอบ16ทีมคนหลายๆคนก็ไม่ค่อยดู ถ้าไม่ใช่แฟนบอลจริงๆ
บาสยังไงก็มีคนดูทุกทีมครับ เพราะมันต่างกันบอลตรงที่มันมีคนดูผูกพันธ์กับสตาร์มากกว่าทีม
ทีมเกือบทุกทีมมีสตาร์หมด คนที่ชอบ ถ้าว่างๆก็ดูกันแทบทุกคู่ทุกวันที่เวลาไม่ชนอะ
ผมว่าจะมีตกชั้นหรือไม่มี มันก็สนุกคนละรูปแบบอะ ไม่เห็นต้องเหมือนกัน

 


ตัวเงินผมไม่ได้หมายถึงเอามาชนโต้งๆ ถ้าแบบนั้นทำไมจะไม่รุ้ครับ แต่เงินมันกระจุกอยุ่แค่นี้ มันไม่กระจายออกไป

เรื่องตกชั้นไม่ตกชั้นปรับระบบใหม่ก้ปรับสิ ถ้าไม่ปรับมันก้วนๆอยุ่แค่นี้

แต่สุดท้ายNBA มันไม่มีทางแซง EPL ได้ถ้ามันยังเป็นสเกลแบบนี้อยุ่ ตลาดNBA มันใช้คำว่าหยุดโตมานานแล้ว
(อาจจะบอกว่ามูลค่าทีม มูลค่าถ่ายทอดมันก้เยอะขึ้นทุกปี) แต่ถ้าลองมองที่% ที่จำนวนคนดูการเติบโต เทียบกับ EPL ต้องบอกว่าน้อยกว่าพอสมควร

สุดท้ายแแฟนบาสทั่วไปก้จะบอกว่าแบบนี้ดีอยุ่แล้วเปลีย่นทำไม แต่ลองถามแฟนบาสพวกนั้นสิ ดูปีละกีเกม เทียบกับบอลดูปีละกี่เกม

เทียบกับแฟนทีมฟุตบอลอะ แต่ช่างมันเถียงกันไปก้ไม่ได้ไรขึ้นมา  


แล้วทำไม nfl ใช้ระบบเดีนยวกันเลยตอนนี้โตเอาๆ เจาะตลาดฝั่งยุโรปได้อีก  


โตเอาๆ นี่โตแค่ไหนอะ ในรอบ 30ปีหลัง ฟุตบอลนี่แซงแบบยับๆ  


แซงยังไงเหรอครับ ขอหลักฐาน ทีมใน epl ที่ว่าดีสุดในโลกยังต้องทำสนามเผื่อเอา nfl คู่ที่เจียดๆมาให้ดู ไม่ใช่คู่ใหญ่ด้วยมาแข่งหวังเงินจากตรงนั้น วัดมูลค่าสโมสร คุณก็บอกวัดไม่ได้  



ต้องเอากราฟไหนให้ดูดี เอาจริงใช้ common sense ก้น่าจะรุ้แล้วนะะ ในระดับโลก nfl nba สุ้บอลไม่ได้หรอก


เอากราฟไหน หรือบทความไหนมาก้ได้ ยังไงบอลก้ชนะขาดๆ

แล้วอย่ามาบอกว่า บอลคนเล่นทั่วโลกเยอะกว่านะ ก้แล้วทำไมคนทั่วโลกไม่เล่นบาสละ ก้มันไม่อินไง กระแสเลยจุดไม่ติดเท่าบอล

ส่วน nflนี่ไปเก็บเลย ถ้าทั่วโลกจริงๆน่าจะแพ้บาสด้วยซ้ำมั้ง แต่ในเมกาชนะอยุ่



http://www.biggestglobalsports.com/





 


คุณอย่าเอาความคิดตัวเองมาตัดสินคนทั้งโลก

กราฟที่คุณเอามาโชว์คือ Most popular คุณเห็นมั้ย ว่าทำไมคริกเกตอยู่อันดับสอง เพราะคนอินเดียนิยมเล่นไง แล้วความรู้สึกคุณคิดว่าคริกเกตสนุกกว่าบาสมั้ย ถ้าไม่รู้ก็เท่ากับว่าคุณเอาความคิดคุณมาตัดสินคนส่วนใหญ่ของโลกไม่ได้

ฟุตบอลต้นกำเนิดมาจากยุโรปมากกว่า 200 ปี เมกายังไม่เกิดเลยมั้ง คนยุโรปกระจายไปทั่วโลก ไปประเทศไหนก็เผยแพร่ไปที่นั่น ประเทศไทยเริ่มเล่นฟุตบอลกันตั้งแต่ กีฬาบาสยังไม่ถือกำเนิดที่เมกาเลย บาสเพิ่งเกิดมา~100ปี อย่าบอกว่าฟุตบอลแซงบาสไปไกล มันไม่ใช่ ฟุตบอลนำบาสอยู่หลายช่วงตัวมานานแล้ว การที่บาสจะขึ้นมาทัดเทียมฟุตบอลได้ก็เหมือนคุณจะปั้นเอสโคล่าที่เพิ่งเกิดในไทย ให้ชนะโค้กกับเป๊บซี่ที่เกิดมาก่อนเป็นร้อยปีได้ แล้วต้องชนะใจคนทั้งโลกด้วย มันไม่ง่ายเลย บาสนี่เอาแค่ชนะคริกเกตให้ได้ก่อนยังยาก  


ถูกและไม่ถูก

บาสเป็นกีฬาเกิดใหม่กว่ามั๊ยไม่รุ้ แต่บอลฮิตมามากกว่าตั้งแต่แรกอันนี้ชัว

แต่อัตราการเติบโตส่วนใหญ่ของทุกอย่างบนโลก

จาก 100 > 1000 ส่วนมากจะช้ากว่า 10 > 100

แต่ฟุตบอลกับบาสหรือเมกันฟุตบอล มันเติมโตในอัตราแทบจะเท่ากัน แสดงกว่าการเดินเกมแบบนี้ผิด

ยกเว้นคนจะบอกว่า บาส สนุก เท่ากับบอล (Aในเชิงของทั้งรูปแบบการเล่นและB เชิงของความตื่นเต้นเวลาดูความเข้มข้นของลีค)
ซึ่งส่วนตัวมองว่า บาสในเชิงรูปแบบการเล่นดูแล้วสนุกกว่าบอลนิดหน่อย แต่ความตื่นเต้นของลีคที่ชวนให้ติดตามนี่เข้าขั้นติดลบ

B ทีมที่เชียสมมติเก่ง5ปี ลงไปแท้ง5ปี แค่นี้ก้หมดความต่อเนื่องละ เพราะไอปีแท้งนี่แทบไม่ดูเลยยังได้

คุณลองมองเป็นกลางความต่อเนื่องอยุ่ไหน แฟนบูลในอดีตตอนนี้ยังมีเปิดดูบูลเล่นกี่คน

แล้วถ้าไม่ปรับที่ข้อ B แล้วทำยังไงมันถึงจะบูมมากกว่านี้ หรือมองว่าแค่นี้คือดีแล้ว

ดีแล้วจริงหรอที่แฟนบาสของทีมๆนึงเลิกดูเลิกเชียกันเยอะขนาดนี้


 


เอามาจากไหนครับที่ว่าเลิกดูเลิกเชียร์

แค่เติบโตช้ามันไม่ได้หมายความว่าเค้าเลิกติดตาม เลิกสนใจกันนะครับ

หรือคุณมองว่าการเติบโตคือมันต้องพุ่งขึ้นทุกปี ๆ แบบนี้รึเปล่า แล้วมันจะไปสุดตรงไหนอะครับ

เมกันเกมครับ เกมของคนเมกัน ไม่ได้ทำมาเอาใจใคร

กีฬาแต่ละอย่างมีฐานแฟน ๆ คนดูของตัวเองอยู่แล้วครับ

คนเราชอบไม่เหมือนกัน แบ่งกันไปตามวัฒนธรรม พื้นเพของแต่ละที่ทวีป

ลองประเทศไทยอยู่ใกล้ ๆ เมกาสิครับ time zone เดียวกัน ได้ดูถ่ายทอดในเวลาที่เหมือนเค้า คิดว่าความนิยมเมกันเกมจะพุ่งขึ้นบ้างไหมในบ้านเรา

 

ถ้าจะมองแค่ว่า กีฬาเมกา ไม่สนใจประเทศอื่น อันก้ไม่ต้องคุยกันแล้ว คุยกันทำไม นี่คุยกันในประเด็นที่ว่าทำยังไงกีฬาบาส ถึงจะฮิตแซงบอลได้ ต้องปรับเปลี่ยนตรงไหน

มาพูดถึงว่าจะแซงทำไมเอาแค่คนเมกาดูก้จบพอแล้ว .......


ส่วนเรื่องที่บอกคนเลิกดูเลิกเชีย ถ้าไม่หลอกตัวเอง แฟนบาสมันเลิกดูเลิกเชียกันทั้งนั้นอะ หรือไม่ก้เปลี่ยนทีมเชียไปเรื่อยๆเพราะมันไม่ผูกพันกับทีม พูดถึงคนที่ไม่ได้เชียเพราะเกิดเมืองนั้นนะ เอาคนต่างประเทศ
เอาง่ายๆ สมัยจอร์แดน มั่นใจเลยเกิน50%เชียบูลแน่ๆอะ แล้วมาดูตอนนี้ เหลือแฟนบูลกี่คน เผลอๆไม่ถึง5%มั้ง

กีฬามันต้องต่อเนื่องทุกปี ถ้ามันแต่มาโอ๋ แล้วงี้ทีมเล็กเมื่อไหร่จะเกิดงี้ งี้แฟนเซาแธมตัน แฟนสโต๊ก ไม่ร้องไห้ตายแล้วหรอทำไมไม่มีโอกาสเป็นทีมใหญ่บ้าง

แต่แลกกับการที่ฟุตบอลเป็นกีฬาอันดับ1นะ

แต่สุดท้าย ก้มาจบที่ว่า ก้ทำมาให้คนเมกันดูก้จบแล้ว งี้ก้ไม่ต้องคุยกันต่อละ  
 


หลักฐานเอกสารอะไรที่ว่าเลิกเชียร์เลิกดูคนเลิกนิยมเนี่ย นอกจากมโนเอาเองน่ะมีมั้ยครับ

ผมสงสัยว่ามันกีฬาคนละประเภทกัน คุณจะเอามาเทียบกันเพื่อหาอะไร

เหมือนผมถามคุณว่า เฟดเดอร์เรอร์กับหลินตันใครได้รับความนิยมมากกว่า .... งี้เหรอครับ

ไม่มีใครเขามาสนหรอกว่าอันไหนบูมมากบูมน้อย อันไหนชอบเค้าก็ดูแค่นั้นแหละ

ฟุตบอลนิยมแค่ไหนสุดท้ายขาจรก็ดูแค่บอลโลก

คุณไม่ทำความเข้าใจ คห ที่คนอื่น ๆ เค้าบอกเลย พูดแต่ของตัวเอง fact ก็ไม่มี

มีเม้นด้านบนพูดเรื่องคริกเกต คุณก็เมินทำไม่เห็นซะงั้น

สุดท้าย ไม่คุยก็ไม่คุยครับ ดูเก่งดูไม่น่าคุยตั้งแต่ประโยคเปิดยันปิดละ ขอบคุณครับ







1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
CGM48
••••••••••••••••••••••••••



ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status: my best part
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 988
ที่อยู่: chicago
โพสเมื่อ: Thu Apr 08, 2021 14:25
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
ผมว่ามันก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาอีก แล้วไปก็ใช่ว่าจะแชมป์นะครับ สมดุลมันพังได้เสมอ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 7578
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Apr 09, 2021 14:12
[RE: NBA ควรยกเลิกการ Buyout สัญญา]
Spoil
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Rafia พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
rocky99 พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
itmyway พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Brunswick พิมพ์ว่า:
ผมว่ากฏNBAมันแฟร์สุดในทุกลีกในโลกละครับ
นอกจากSalary Capหรือสิทธิ์ท็อปดราฟทีมท้ายตารางที่รู้กันอยู่แล้ว
อย่างกฏการต่อสัญญาฉบับที่สองต่อจากสัญญารุกกี้ที่ต่อกับทีมเดิมได้เงินมากสุด
ก็ช่วยให้ทีมตลาดเล็กรั้งสตาร์อายุน้อยๆไว้กับทีมได้เพิ่ม4-5ปีอะ
ไม่งั้นอย่างADย้ายหนีPelicanนานละ ไม่ใช่เพิ่งมาเลเกอร์ปีสองปีนี้หรอก
หรือBookerงี้ ถ้าไปที่อื่นก็ได้สัญญาแพงเท่านี้ ไม่มีทางต่อกับซันอะ

ทีมตลาดใหญ่มันได้เปรียบอยู่แล้ว เหมือนทีมในกทม คนก็อยากย้ายไปมากกว่าอยู่ต่างจังหวัดแน่ๆ
ต่อให่ค่าจ้างเท่ากัน แต่ทีมใหญ่มันมีฐานแฟนให้ต่อยอด การตลาดที่ได้มันมากกว่าอยู่ทีมเล็กแน่ๆ

 


ใช่ มันแฟร แต่มันไม่สนุกไง

เทียบกับบอลก้ได้ ลีคดีสุดของโลกคือพรีเมีย

ใครมันจะไปสนว่าแฟร กับเวสบรอม แฟรกับ สโต๊กมั้ย คนมาดูกีฬาเค้ามาดูความเอนเตอเทน ใครมันจะไปสนว่าจะแฟร์กับทีมไหนยังไง เค้าอยากได้ความสนุก ความสะใจ ใส่กันทุกนัด ไม่ใช่มานั่งปั้นเด็กมั่ง ขยันลงไปบ๊วยมั่ง


ลองมองในมุมของทีมมั่ง สมมติตลาดรายได้ 10,000ล้าน มี 20ทีม

แจกให้ทีมละเท่าๆกัน ทีมละ 500 ล้าน


กลับกัน ถ้าทำให้มันสนุกคนดูทั้งโลกแบบฟุตบอล ตลาด 100,000 มี20ทีม

แจกทีมบนสุด 20000ล้าน ไล่ๆไป ไอทีมล่างสุดยังได้มากกว่า 500เลย สุดท้ายมันก้วินๆทุกฝ่าย

สุดท้ายเด็กมันก้เกิดได้เองแหละไม่ต้องมานั่งดราฟ ถ้ากลัวเด็กไม่ไป ทีมมันก้ต้องมีไรมาชูโรงอะ เหมือนฟุตบอล ถ้าคิดแบบนี้หมด เด็กมันก้ไปเข้าแมนยูหมดแล้วสิ ทีมใหญ่ๆอะ ทีมเล็กๆก้คงไม่มีทีมแล้ว สุดท้ายระบบมันก้เข้ารูปของมันเองอะ

ทุกวันนี้ถามจริงใครจะมานั่งตามเชียทีมมั่งเวลาแท้งอะ okc 76ปีแท้งงี้ 82นัด ถามจริงแฟนบาสจะดูกี่นัดถึง15มั๊ย  

ผมขอชวนคุยทีละประเด็นนะครับ เรื่องงานเรื่องเงินก่อนละกัน
มูลค่าทีมที่ต่ำที่สุดอันดับ30 คือ Memphis Grizzlies มีมูลค่า $1.3 billion
ส่วนฝั่งฟุตบอล PSG ทีมที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ11 มีมูลค่าแค่$1.1 billion
หรือถ้าจะเอาทีมที่มูลค่าเยอะสุดมาเทียบกัน New York Knicks($5 billion) ก็มูลค่ามากกว่ทั้งมาดริด บาซ่า แมนยูอะครับ
ยอมรับนะครับว่าฟุตบอลได้รับความนิยมมากกว่าNBAเยอะ แต่เห็นคุณยกประเด็นเงินๆทองๆมา
เลยอยากเอาตัวอย่างมาให้เห็นชัดๆว่าความนิยมน้อยกว่าไม่ได้แปลว่ามูลค่าจะน้อยกว่านะครับ


ต่อมาเรื่องการไม่มีตกชั้น คุณก็พูดเองว่าสุดท้ายระบบมันก้จะเข้ารูปของมันเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมด ฟุตบอลยุโรปอาจจะเหมาะกับการมีเลื่อนชั้นตกชั้น แต่ระบบแบบนี้มันก็คงเหมาะกันอเมริกันเกมแล้ว
การที่จะมีทีมระบบNBAได้ มันต้องพร้อมมาก ใช้เงินเยอะ ต้องมีสนามที่ได้มาตรฐาน ไหนจะค่าเดินทางที่แพงจัดๆ เพราะต้องบินข้ามประเทศ
ยิ่งโดยเฉพาะค่าเหนื่อยนักกีฬา ที่มีเพดานขั้นต่ำปีละ100กว่าล้าน จะมาทำทีมประหยัดแบบทีมฟุตบอลบางทีมใช้แต่นักกีฬาค่าเหนื่อยถูกๆไม่ได้นะครับ ผิดกฏลีก แค่นี้ก็นักลงทุนที่จะสร้างทีมที่พร้อมมาเล่นในNBAยากละครับ

แล้วถ้ามีระบบเลื่อนชั้นตกชั้นคงต้องรื้อระบบใหม่หมดอะครับ ทั้งSalary cap การเซ็นต์สัญญาต่างๆ
อย่างปีนี้ สมมติวิซาดตกชั้น ปีหน้าทีมจะจ่ายค่าเหนื่อยWestbrookปีละ40กว่าล้านยังไงไหวครับ
เพราะตกไปดิวิชั่น2 รายได้พวกค่าลิขสิทธ์ต่างๆต้องหายไปเยอะแน่ๆ
ทีมล้มละลายได้ง่ายๆเลย

ส่วนเรื่องความสนุก มันก็อยู่ที่ความชอบอะครับ ฟุตบอลก็ไม่ได้สนุกทุกคู่ พรีเมียร์ลุ้นแชมป์ก็กร่อยมาสองปีละ
UCL รอบแบ่งกลุ่ม หรือแม้แต่รอบ16ทีมคนหลายๆคนก็ไม่ค่อยดู ถ้าไม่ใช่แฟนบอลจริงๆ
บาสยังไงก็มีคนดูทุกทีมครับ เพราะมันต่างกันบอลตรงที่มันมีคนดูผูกพันธ์กับสตาร์มากกว่าทีม
ทีมเกือบทุกทีมมีสตาร์หมด คนที่ชอบ ถ้าว่างๆก็ดูกันแทบทุกคู่ทุกวันที่เวลาไม่ชนอะ
ผมว่าจะมีตกชั้นหรือไม่มี มันก็สนุกคนละรูปแบบอะ ไม่เห็นต้องเหมือนกัน

 


ตัวเงินผมไม่ได้หมายถึงเอามาชนโต้งๆ ถ้าแบบนั้นทำไมจะไม่รุ้ครับ แต่เงินมันกระจุกอยุ่แค่นี้ มันไม่กระจายออกไป

เรื่องตกชั้นไม่ตกชั้นปรับระบบใหม่ก้ปรับสิ ถ้าไม่ปรับมันก้วนๆอยุ่แค่นี้

แต่สุดท้ายNBA มันไม่มีทางแซง EPL ได้ถ้ามันยังเป็นสเกลแบบนี้อยุ่ ตลาดNBA มันใช้คำว่าหยุดโตมานานแล้ว
(อาจจะบอกว่ามูลค่าทีม มูลค่าถ่ายทอดมันก้เยอะขึ้นทุกปี) แต่ถ้าลองมองที่% ที่จำนวนคนดูการเติบโต เทียบกับ EPL ต้องบอกว่าน้อยกว่าพอสมควร

สุดท้ายแแฟนบาสทั่วไปก้จะบอกว่าแบบนี้ดีอยุ่แล้วเปลีย่นทำไม แต่ลองถามแฟนบาสพวกนั้นสิ ดูปีละกีเกม เทียบกับบอลดูปีละกี่เกม

เทียบกับแฟนทีมฟุตบอลอะ แต่ช่างมันเถียงกันไปก้ไม่ได้ไรขึ้นมา  


แล้วทำไม nfl ใช้ระบบเดีนยวกันเลยตอนนี้โตเอาๆ เจาะตลาดฝั่งยุโรปได้อีก  


โตเอาๆ นี่โตแค่ไหนอะ ในรอบ 30ปีหลัง ฟุตบอลนี่แซงแบบยับๆ  


แซงยังไงเหรอครับ ขอหลักฐาน ทีมใน epl ที่ว่าดีสุดในโลกยังต้องทำสนามเผื่อเอา nfl คู่ที่เจียดๆมาให้ดู ไม่ใช่คู่ใหญ่ด้วยมาแข่งหวังเงินจากตรงนั้น วัดมูลค่าสโมสร คุณก็บอกวัดไม่ได้  



ต้องเอากราฟไหนให้ดูดี เอาจริงใช้ common sense ก้น่าจะรุ้แล้วนะะ ในระดับโลก nfl nba สุ้บอลไม่ได้หรอก


เอากราฟไหน หรือบทความไหนมาก้ได้ ยังไงบอลก้ชนะขาดๆ

แล้วอย่ามาบอกว่า บอลคนเล่นทั่วโลกเยอะกว่านะ ก้แล้วทำไมคนทั่วโลกไม่เล่นบาสละ ก้มันไม่อินไง กระแสเลยจุดไม่ติดเท่าบอล

ส่วน nflนี่ไปเก็บเลย ถ้าทั่วโลกจริงๆน่าจะแพ้บาสด้วยซ้ำมั้ง แต่ในเมกาชนะอยุ่



http://www.biggestglobalsports.com/





 


คุณอย่าเอาความคิดตัวเองมาตัดสินคนทั้งโลก

กราฟที่คุณเอามาโชว์คือ Most popular คุณเห็นมั้ย ว่าทำไมคริกเกตอยู่อันดับสอง เพราะคนอินเดียนิยมเล่นไง แล้วความรู้สึกคุณคิดว่าคริกเกตสนุกกว่าบาสมั้ย ถ้าไม่รู้ก็เท่ากับว่าคุณเอาความคิดคุณมาตัดสินคนส่วนใหญ่ของโลกไม่ได้

ฟุตบอลต้นกำเนิดมาจากยุโรปมากกว่า 200 ปี เมกายังไม่เกิดเลยมั้ง คนยุโรปกระจายไปทั่วโลก ไปประเทศไหนก็เผยแพร่ไปที่นั่น ประเทศไทยเริ่มเล่นฟุตบอลกันตั้งแต่ กีฬาบาสยังไม่ถือกำเนิดที่เมกาเลย บาสเพิ่งเกิดมา~100ปี อย่าบอกว่าฟุตบอลแซงบาสไปไกล มันไม่ใช่ ฟุตบอลนำบาสอยู่หลายช่วงตัวมานานแล้ว การที่บาสจะขึ้นมาทัดเทียมฟุตบอลได้ก็เหมือนคุณจะปั้นเอสโคล่าที่เพิ่งเกิดในไทย ให้ชนะโค้กกับเป๊บซี่ที่เกิดมาก่อนเป็นร้อยปีได้ แล้วต้องชนะใจคนทั้งโลกด้วย มันไม่ง่ายเลย บาสนี่เอาแค่ชนะคริกเกตให้ได้ก่อนยังยาก  


ถูกและไม่ถูก

บาสเป็นกีฬาเกิดใหม่กว่ามั๊ยไม่รุ้ แต่บอลฮิตมามากกว่าตั้งแต่แรกอันนี้ชัว

แต่อัตราการเติบโตส่วนใหญ่ของทุกอย่างบนโลก

จาก 100 > 1000 ส่วนมากจะช้ากว่า 10 > 100

แต่ฟุตบอลกับบาสหรือเมกันฟุตบอล มันเติมโตในอัตราแทบจะเท่ากัน แสดงกว่าการเดินเกมแบบนี้ผิด

ยกเว้นคนจะบอกว่า บาส สนุก เท่ากับบอล (Aในเชิงของทั้งรูปแบบการเล่นและB เชิงของความตื่นเต้นเวลาดูความเข้มข้นของลีค)
ซึ่งส่วนตัวมองว่า บาสในเชิงรูปแบบการเล่นดูแล้วสนุกกว่าบอลนิดหน่อย แต่ความตื่นเต้นของลีคที่ชวนให้ติดตามนี่เข้าขั้นติดลบ

B ทีมที่เชียสมมติเก่ง5ปี ลงไปแท้ง5ปี แค่นี้ก้หมดความต่อเนื่องละ เพราะไอปีแท้งนี่แทบไม่ดูเลยยังได้

คุณลองมองเป็นกลางความต่อเนื่องอยุ่ไหน แฟนบูลในอดีตตอนนี้ยังมีเปิดดูบูลเล่นกี่คน

แล้วถ้าไม่ปรับที่ข้อ B แล้วทำยังไงมันถึงจะบูมมากกว่านี้ หรือมองว่าแค่นี้คือดีแล้ว

ดีแล้วจริงหรอที่แฟนบาสของทีมๆนึงเลิกดูเลิกเชียกันเยอะขนาดนี้


 


เอามาจากไหนครับที่ว่าเลิกดูเลิกเชียร์

แค่เติบโตช้ามันไม่ได้หมายความว่าเค้าเลิกติดตาม เลิกสนใจกันนะครับ

หรือคุณมองว่าการเติบโตคือมันต้องพุ่งขึ้นทุกปี ๆ แบบนี้รึเปล่า แล้วมันจะไปสุดตรงไหนอะครับ

เมกันเกมครับ เกมของคนเมกัน ไม่ได้ทำมาเอาใจใคร

กีฬาแต่ละอย่างมีฐานแฟน ๆ คนดูของตัวเองอยู่แล้วครับ

คนเราชอบไม่เหมือนกัน แบ่งกันไปตามวัฒนธรรม พื้นเพของแต่ละที่ทวีป

ลองประเทศไทยอยู่ใกล้ ๆ เมกาสิครับ time zone เดียวกัน ได้ดูถ่ายทอดในเวลาที่เหมือนเค้า คิดว่าความนิยมเมกันเกมจะพุ่งขึ้นบ้างไหมในบ้านเรา

 

ถ้าจะมองแค่ว่า กีฬาเมกา ไม่สนใจประเทศอื่น อันก้ไม่ต้องคุยกันแล้ว คุยกันทำไม นี่คุยกันในประเด็นที่ว่าทำยังไงกีฬาบาส ถึงจะฮิตแซงบอลได้ ต้องปรับเปลี่ยนตรงไหน

มาพูดถึงว่าจะแซงทำไมเอาแค่คนเมกาดูก้จบพอแล้ว .......


ส่วนเรื่องที่บอกคนเลิกดูเลิกเชีย ถ้าไม่หลอกตัวเอง แฟนบาสมันเลิกดูเลิกเชียกันทั้งนั้นอะ หรือไม่ก้เปลี่ยนทีมเชียไปเรื่อยๆเพราะมันไม่ผูกพันกับทีม พูดถึงคนที่ไม่ได้เชียเพราะเกิดเมืองนั้นนะ เอาคนต่างประเทศ
เอาง่ายๆ สมัยจอร์แดน มั่นใจเลยเกิน50%เชียบูลแน่ๆอะ แล้วมาดูตอนนี้ เหลือแฟนบูลกี่คน เผลอๆไม่ถึง5%มั้ง

กีฬามันต้องต่อเนื่องทุกปี ถ้ามันแต่มาโอ๋ แล้วงี้ทีมเล็กเมื่อไหร่จะเกิดงี้ งี้แฟนเซาแธมตัน แฟนสโต๊ก ไม่ร้องไห้ตายแล้วหรอทำไมไม่มีโอกาสเป็นทีมใหญ่บ้าง

แต่แลกกับการที่ฟุตบอลเป็นกีฬาอันดับ1นะ

แต่สุดท้าย ก้มาจบที่ว่า ก้ทำมาให้คนเมกันดูก้จบแล้ว งี้ก้ไม่ต้องคุยกันต่อละ  
 


บ่นไรอ่ะครับ ผมก็ดูทั้งบอลทั้งบาส

ผมว่า มูลค่า เรทติ้ง มันก็มีในตัวของมัน

แต่ทุกทีมมีภาษีเท่าๆกัน ไม่ต้องมีตกชั้นเลื่อนชั้นหรอก

ผมเชียร์ฟุตบอล อารมณ์ผมก็ยึดติดกะทีมเดียว แต่ถ้าเป็นบาส ผมก็ตามเชียร์ นักบาสที่ชอบ ย้ายทีมผมก็เปลี่ยนทีมเชียร์ตาม

ผมว่ามันก็ดีไปอีกแบบ แล้วอีกอย่าง บาสดูสนุกทุกคู่ แต่ฟุตบอลไม่

ถ้าไม่ใช่ทีมที่ชอบลงเตะ ความสนุกหายไปครึ่งนึง แต่บาสไม่ใช่ทีมที่ชอบก็ดูสนุก

แต่ละทีมก็มีสตาร์ของตัวเอง ประมาณนี้ครับ

ถ้าบาสมาทำเหมือนฟุตบอลผมก็ไม่โอเคเหมือนกัน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน



ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel