ผมมีรายได้มากกว่านั้นพอสมควร แต่ก็ไม่กล้าซื้อเหมือนกันนะรถราคา 2 ล้าน

ผ่อนรถเดือนละ 20k แล้วค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกี่ยวกับรถก็ต้องเพิ่มขึ้นอีก ค่าประกันก็น่าจะไม่เบาเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่น

ถ้าในมุมที่ผู้ใหญ่ว่าไม่รู้จักอดออมอันนี้ก็ถูก เพราะเดือน ๆ นึงน่าจะเหลือเงินเก็บน้อยกว่าที่ผ่อนรถ

อยากทำไรทำ ไม่เดือดร้อนคนรอบข้างรอบตัว
รับผิดชอบได้จัดไป
ถ้าวันไหนไม่ไหวก็เจ็บเองทำเองไม่มีไรต้องเสียใจ อย่าดึงคนอื่นมาเจ็บมาเดือดร้อนด้วยแล้วกัน

จริงๆก็เรื่องเค้าแหละ

แต่ส่วนตัวมองว่าไม่เหมาะที่จะซื้ออ่ะเงินเดือน 60k

ถ้าผ่อน 20k จริง ไม่ดาวน์สักเกือบล้าน ก็มีบอลลูนอ่ะ

ไหนจะประกันและอื่นๆเล็กๆน้อยๆตกเดือนละ 3-4 พันอีก

ก็มีส่วนครับ

เงินเดือน60k ผมคงขับแค่ civic เหมือนกัน

รุ่นน้องท่านน่าจะอยู่กับที่บ้าน ไม่ต้องผ่อนค่าบ้าน เงินเก็บเหลือเลยซื้อรถยุโรปได้
แต่ผมเข้าใจทั้ง2ฝ่ายนะ ในมุมผู้ใหญ่แล้วถ้าเปรียบเทียบกัน คนรุ่นเราก็ใช้จ่ายมากกว่าจริงๆ
ในมุมเด็กก็จะแบบ ยุ่งอะไร ก็มีตังพอผ่อน ไม่ได้ขอนี่
แต่จริงๆยิ่งอายุยังน้อย แล้วถ้ายิ่งไม่มีภาระหนี้จากทางบ้านอีก ควรจะรีบเก็บออม+ลงทุน อายุกลางๆคนแล้วอยู่ตัวแล้ว นั่นแหละผมว่าช่วงนี้อยากซื้ออะไรก็ซื้อเถอะ

ปล.เงินเดือน 60k ผ่อน 20k นี่เค้าทำบอลลูนป่าวครับท่าน ถ้าบอลลูนนี่ผมขอบอกนะว่าดอกเบี้ยแพงมาก มันหลอกตา ผ่อนเงินต่ำได้ แต่ยิ่งผ่อนส่งตอนเสียตังรวมจริงๆแพงนะ บอลลูนเหมาะกับคนเปลี่ยนรถบ่อย พวกเล่นรถยุโรปจะทำกันคือพอผ่อนครบ5ปี6ปีตามสัญญาก็ขายต่อ เอาเงินไปซื้อคันใหม่ ทำบอลลูนวนไป ได้รถใหม่ขับตลอด(แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของ)

60k

ค่ารถ20k เหลือ40kเหมือนจะเยอะ

แต่ค่าใช้จ่ายละมีอะไรบ้าง สมมติเอาพวกค่ากิน ผ่อนที่อยู่อาศัย(ถ้ามี) ค่าเดินทาง(น้ำมัน ขนส่ง) ค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่ารายเดือนมือถือ เน็ตบ้าน บลาๆ รวมค่าใช้เล่นคร่าวๆแบบกินของว่างสบายๆ กาแฟ ชานม ของหวานแล้ว เหลือถึง20kไหม

ถ้าถึงผมก็ว่าโอเคนะ อาจจะเก็บสัก10k อีก10kคือเผื่อไว้ใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆได้อีก แต่ถ้าไม่ใช้ก็เก็บ20kล้วน ไว้เผื่อซ่อมเผื่ออะไรมันก็พอไหว แต่ผมเองก็ไม่มั่นใจละนะ ผมเองก็เดือนชนเดือนอยู่

พ่อมีสิทธิบ่น เพราะคงเป็นห่วง กลัวจะผ่อนไม่ไหว ลูกจะลำบากตามมาทีหลัง
ส่วนลูกก็มีสิทธิ์ที่จะไม่แคร์ เพราะถ้าผ่อนไหว มันก็ความสุขของเขา เขาซื้อเองรับผิดชอบเอง ไม่ได้เดือดร้อนใคร
ส่วนผู้ชมอย่างเราๆ ก็มีสิทธ์ที่จะวิเคราะห์ แต่ไม่ควรก้าวก่าย เพราะในอนาคต ไม่มีใครรู้ทั้งนั้น ว่าจะผ่อนสำเร็จด้วยตัวเอง หรือจะโดนยึดคืนไป

ดูแล้วอาจจะเป็น บอลลูน

ถ้าเป็นบอลลูนก็ตามนั้นครับ ไม่วางแผนชีวิต อาจจะลำบากทีหลัง


แต่ถ้าเขาวางแผนก่อนซื้อรถคันดังกล่าวก็ไม่ใช่ปัญหา

สำหรับผม 60k จะว่าเยอะ ก็ไม่... จะว่าน้อยก็ไม่ อยู่ที่การบริหาร

ก็ไม่แปลกที่พ่อจะว่า เมื่อเทียบกับของที่ต้องผ่อนและเงินที่หาได้ครับ

ผมเงินเดือน 30,000 ผ่อน Civic Fd 9,000 กว่า เเละยังใช้อยู่จนวันนี้ บอกเลยครับว่าเหนื่อย

น้องผมเงินเดือน 200,000 ผ่อน Civic Fc 9,000 กว่าเช่นกัน มันยังไม่กล้าซื้อ Benz BMW เลยครับ

เป็นผมผมก็ไม่กล้าผ่อนเหมือนกันอะ

เรื่องของเขาไม่ก้าวก่ายครับ

แต่ขอเอาเกร็ดการบริหารเงินมาเล่าให้เป็นแนวทางแล้วกัน
คนทั่วไปควรมีหนี้ไม่เกิน 40% ของรายได้ เพือไม่ให้คุณภาพชีวิตมันแย่ลง
เพราะส่วนอื่นๆอีก 60% ควรต้องกลายไปเป็นเงินออม และรายจ่ายประจำอย่างอื่น

ดังนั้น ในหนี้ 40% ที่ว่า เราก็ต้องมาคิดแล้วครับว่า จะเป็นหนี้อะไรบ้าง
จะให้เป็นหนี้ดีเท่าไหร่ หรือหนี้แย่เท่าไหร่
ถ้ามีแต่หนี้แย่ๆ เช่นซื้อรถ(ไม่ได้เอามาเป็นเครื่องมือทำมาหากิน) ซื้อโทรศัพท์
หนี้บัตร(เพราะสมัคร OLF หลายคน) แบบนี้เราจะเสียโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัวครับ

ออกความเห็นเฉพาะเรื่องรถละกัน

เงินเดือน 60k ผ่อน 20k กว่าๆ ถือว่าค่อนข้างตึงเลยแหละ

อีกอย่างคือ รถ 2 ล้าน ผ่อน 20k นี่เดาว่าบอลลูน
อีก 3-5 ปีรู้เรื่องแน่ครับ ถ้าไม่มีเงินก้อนไปปิดบอลลูนนะ

เงิน 60 K ผ่อน 20K เหมือนจะสบาย

แต่รถ 2 ล้านค่าบำรุงรักษาไม่ใช่เหมือนรถราคาแสนแน่นอน

ผมเคยใช้รถยุโรป บอกเลยค่าซ่อม ค่าอะไหล่Mแพงเรือหาย

ผู้ใหญ่เค้าเคยล้มเคยลุกมาก่อน เค้ามองขาดกว่าเราเยอะ

ผมเงินเดือนแสนต้นถึงกลาง ขับแค่ chr ยังเหนื่อยเลยครับ ผู้ใหญ่เตือนถูกแล้ว