ขอไม่นับสถานการณ์โควิดนะครับ

ในมุมของมาดริด กับ บาซ่าที่มีเงินซื้อเยอะ เพราะหาเงินได้เยอะไงครับ ค่าตั๋วแต่ละปี ค่าสปอนเซอร์ ค่าการแข่ง ucl หาเงินได้เยอะ ก็ใช้ได้เยอะ

แต่กับปารีส หรือ แมนซิ ไม่สามารถหาเงินได้เยอะแบบนั้น เลยใช้เล่ห์เหลี่ยมให้เจ้าของทีมมาซื้อสปอนเซอร์ในมูลค่าที่มันเกินกว่าการตลาด หรืออย่าง psg ที่จ้างเนย์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในราคาที่สามารถซื้อสัญญาตัวเองจากบาซ่าได้

ซึ่งมองได้ว่ามันไม่ใช่รายได้ที่เป็นไปตามปกติไงครับ

แต่ในมุมของแมนซิ psg ผมเข้าใจว่าจะรอให้สร้างทีม ให้มีฐานคนดู ให้มีแรงดึงดูดสปอนเซอร์ มันก็ต้องใช้เวลานานเกินไป สู้ใช้วิธีลัดให้ชื่อชั้นมันทัดเทียมทีมใหญ่ทีมอื่นก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยสร้างฐานรายได้ให้มันพอดี  

ค่าตั๋วแมนซิแพงได้กี่ซีซันเองครับ ก่อนหน้านี้ตอนยังไม่ย้ายสนามมาเอติฮัด ค่าตั๋วก็ไม่ได้แพงแน่นอนเพราะทีมเพิ่งเลื่อนชั้นมา แถมแมทต์นึงคนดูก็ 30000 กว่าที่นั่งเอง ก่อนที่โทนี่(คุณทักษิณ)จะขายทีมให้ชีค ตอนนั้นซิตี้ก็ไม่ใช่ทีมยอดนิยมเหมือนตอนนี้ แมนซิเพิ่งทุ่มแบบมหาศาลก็หลังจากได้ชีคมาเป็นเจ้าของทีม สมัยโทนี่ก็ทุ่มแบบทีมทั่วไปครับ

ส่วนของบาซ่า สนามคัมป์นูนี่จุได้เกือบแสนคน แค่นี้ก็เยอะกว่าแมนซิ 3 เท่าแล้ว และสปอนเซอร์มันไม่ได้มีแค่ที่คาดอกด้วยครับ สปอนเซอร์อื่น ๆ บาซ่าก็ได้เยอะเพราะชื่อเสียงมันดึงดูด ส่วนแมนซิถ้าไม่นับตอนนี้ ก่อนหน้านี้ไม่รู้จะได้ค่าสปอนเซอร์เท่าไหร่กันเชียวครับ

ถ้าเทียบตอนนี้ซิตี้ก็เริ่มดึงดูดสปอนเซอร์จริง ค่าตั๋วอาจแพงขึ้นจริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้ซิตี้ก็ใช้วิธีเอาเงินชีคมาซื้อสปอนเซอร์ให้ทีมตัวเองแบบแพง ๆ เหมือนกันครับ

ประเด็นของผมคือ ไม่ได้บอกว่าบาซ่าไม่ทุ่มนะครับ แต่เงินที่มามันต่างกันกับของแมนซิ(ก่อนหน้านี้)ครับ  

ก็จริง

แล้วก็ก่อนหน้านั้น ยังมีอีกทีมนึง  

เชลซีรึเปล่าครับ