ข้าต่อให้เจ้า3กระบวนท่า = ฝ่ายบุก บุกมา เราตั้งรับ รับจนมีจังหวะสวนได้ทีนึง แปลว่าจบ1กระบวนท่า ทำแบบนี้ครบ3รอบ ก็ถือว่าต่อให้แล้ว3กระบวน ทีนี้ก็ต่างคนต่างบุกคือ ต่างออกกระบวนท่าเข้าใส่กัน
ดังนั้น ไร้กระบวนท่าคือ จะบุกก็ไม่บุก จะรับก็ไม่รับ ร่ายรำไปเรื่อย พอบุกๆอยู่ นึกจะกลับมารับก็รับ
ผมเข้าใจงี้นะ

ไร้กระบวนท่า = รู้ทุกกระบวนท่าและคิดวิธีแก้ทางได้ทุกอย่าง

วิชาไร้กระบวนท่าในกิมย้งคือวิชานี้ครับ
เก้ากระบี่เดียวดาย
คือการใช้กระบี่ แก้ทางวิชาอีก 9 แขนงกระบี่ ดาบ ทวน กระบอง โซ่ แส้ เพลงฝ่ามือ อาวุธลับ วิชากำลังภายใน ลมปราณ ไม่รู้ครบยัง ผู้ใช้จะใช้เคลดนี้ ทำลายวิชาอีกฝ่าย มันไร้กระบวนท่าเพราะต้องปรับไปตามคู่ต่อสู้ คนใช้จะเก่งหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าเข้าใจศาสตรามากแค่ไหน บางคนสู้ได้แค่ ดาบ ทวน กระบี่
มีแต่ตั้กโกวคิ้วป้ายมั้ง ที่บรรลุถึงสูงสุด คนที่บรรลุวิชานี้ เขาจะเรียกขานว่าไร้กระบวนท่า เพราะไม่มีท่าประจำ
เหมือนพวกดาบสำนักต่างๆ

ในหนังสือเตียซำฮงสอนบ้อกี๋ทั้งฝ่ามือและกระบี่ไท้เก๊กครับ
พอสอนเสร็จซักพักเตียบ้อกี๋ก็ลืมกระบวนท่าทั้งหมด
ก็ใช้ได้ตามใจ ไม่ถูกกระบวนท่าผูกมัดครับ

มัวแต่ลงดันเลยไม่มีเวลามาพิมพ์เลย

คอนเซปของมันก็แค่ไม่ต้องมาคอมโบตามลำดับ คนอื่นเค้าจะ 1>2>3>4 ท่านก็แค่ยัด 4 เข้าหน้าได้เลย

ถามว่ามันเจ๋งกว่าคนอื่นเค้ามั้ย ตรงนี้ท่านต้องมองในมุมมองของโลกวิทยายุทธที่สำนักเล็กใหญ่ 100% ล้วนแต่ฝึกกระบวนท่าครับ

อีกเรื่องคือตรรกะลำดับขั้นความคิดที่จีนชอบเน้นคือ ฝึกกระบวนท่าให้เชี่ยวชาญ พอเชี่ยวชาญแล้วจะบรรลุ เหนือกว่าบรรลุคือไม่ยึดติด พอไม่ยึดติดใดๆก็จะบรรลุเป็นเซียนครับ

ดังนั้นมันก็จะเป็น เชี่ยวชาญกระบวนท่า > ไม่จำเป็นยึดติดกับกระบวนท่า(ไร้กระบวนท่า) > ไม่ต้องยึดติดกับอาวุธ(ไร้อาวุธ) > ไม่ต้องยึดติดทางโลก(บรรลุขั้นเซียน)ครับ

แต่พวกไร้กระบวนท่า ไร้อาวุธอะไรนี่ ไปเจอลมปราณกำลังภายในแข็งๆก็เละนะครับ

กระบวนท่า นี่เปรียบเหมือน ทรงบอล ในกีฬาฟุตบอลปะครับ

อย่างแผนเพลซซิ่งคือ 1 ในกระบวนท่า(ที่จัดว่าเซียน) เปรียบเหมือนกระบี่ที่ทั้งแทงฟัน ผลลัพท์ดี และทวงท่าสวยงาม

เลยกลายเป็นแผนที่นิยม แต่มักมีจุดอ่อนคือเรื่องพละกำลัง กลับอีกกระบวนท่าคือ แผนโต้กลับเร็ว เปรียบเหมือนกระบี่ที่เน้นความเร็ว แต่ขาดความแน่นอน จุดอ่อนคือต้องอดทน ใช้สมาธิ มีวินัยในการรอโอกาส

ส่วนไร้กระบวนท่า คือรู้หมดว่าทุกแผนมายังไง รู้จุดดีจุดด้อยแต่ละแผน และปรับใช้ตามสถานการณ์ ไม่สามารถเดาได้ว่าวันนี้จะมารูปแบบไหน ใกล้เคียงไหมหว่าาา

ยกตัวอย่างก็ ทีมๆหนึ่งเก่งจัดๆ ช่ำชองในแผนนี้มากๆ แต่มักแพ้ทางอีกแผนหนึ่ง วันดีคืนดีไอ้ทีมๆเนี้ยดันบรรลุ อีกแผนหนึ่งขี้นมา(ฝึกแหละ) แล้วเอามาใช้โจมตีจุดอ่อนทีมที่เคยแพ้ทาง จนชนะ เลยบรรลุไปอีกขั้น ว่าต่อไปนี้เลิกยึดติดกับแผนที่ถนัดนะเว้ย เราจะหาจุดอ่อนและปรับกลยุทธ์ตามคู่แข่ง จนช่ำชองทุกแผน สามารถถนัดทุกแผน(มันคงเซียนจริงแหละ ถนัดแม่งหมดเนี่ย) จนเป็นที่ 1 ได้อย่างยาวนาน. มั้งนะ

พิมเองก็งงๆเองเหมือนกัน 555 อ่านขำๆละกันครับ

จะว่าใช่ก็ไม่เชิง เพราะมันคือ anti footballครับ

คิดเอาง่ายๆว่า คู่ต่อสู้มี 100ท่า คนไร้กระบวนท่ามี 100+1 +1ที่มานี่คือกระบวนท่าแก้

มี1000กระบวนท่า ก็ +1 แก้ได้

คอนเซปท์มันคือไม่ให้มีกระบวนท่ามาแก้ทางได้

นึกถึงการต่อสู้ของเฉินหลงคับ

ไร้กระบวนท่าของแท้

ก็เหมือนกระบี่อยู่ที่ใจ แค่กิ่งไผ่ก็ไร้เทียมทาน ..... ก็แบบเดียวกันอะ

เหนือชั้นกว่ามากๆ ไม่ต้องใช้โลหะ ใช้แค่กิ่งไม้ก็สู้คนใช้อาวุธโลหะได้ เช่น เอี้ยก้วย ชนะ ฮ้วงอิดอง (ตอนนั้นแขนยังไม่ขาดเลย = ยังไม่เรียนวิชาจาก ต๊กโกววว)

ฟังข้อมูลแบบละเอียดได้จากช่อง yodyut ครับ


จากที่เข้าใจนะครับ
เคล็ดวิชาแม้ว่าดีขนาดไหนขึ้นอยู่กับคนใช้

ไร้กระบวนท่านั้นจะดีกว่ายังไง สุดท้ายคำตอบคือ ก็ไอ่คนใช้ไร้กระบวนท่าพลังยุทธ์มันดีที่สุดในเรื่องน่ะ

มันถึงเทพ ฝีมือดาดๆ ใช้9กระบี่เดียวดายที่ไร้กระบวนท่า เจอฝีมือกลางๆ ใช้กระบวนท่าก็เละครับท่าน


เพราะฉะนั้นในนิยายจีน ต้องเข้าใจก่อนว่า ไม่ควรตัดสินด้วยตัววิชา ควรตัดสินด้วยพลังยุทธ์ก่อน ค่อยดูตัววิชาที่ใช้


ผมก็อธิบายไม่ค่อยถูก แนะนำช่องเขาแหละ เซิจไปเจอเลย สงสัยอะไรหาฟังเอาเลยครับพี่น้องง

มีกระบวนท่า - เหมือนเราค่อยๆอ่านนารูโตะตั้งแต่เล่มแรก หน้าแรก ไปเรื่อยๆจนจบ

ไร้กระบวนท่า - เหมือนเราอ่านนารูโตะ โดยเริ่มอ่านจากเล่มไหนหน้าไหนก็ได้ ดูตอนจบก่อนก็ยังได้

ผมตีความได้แบบนี้นะ ขัดใจแฟนนิยายกำลังภายในท่านใดก็ขออภัย

อันดับแรก ไร้กระบวนท่า ไม่เท่ากับ ไร้วรยุทธ์ มันคนละเรื่องกันเลย การไร้กระบวนท่า ไม่ได้แปลว่าไม่ใช้หรือไม่รู้หรือไม่เรียนกระบวนท่าอะไรเลย แบบนี้ผมเรียกไร้วรยุทธ์ (ก็ประมาณชาวบ้าน A ชาวบ้าน B ทั่วๆไปในเรื่อง)

ไร้กระบวนท่า สำหรับผมมันคือจุดสูงสุดของยุทธภพ แตกฉานทุกกระบวนท่า ในระดับเชี่ยวชาญ จนสามารถต่อยอดคิดค้นรูปแบบของตัวเอง ปรับใช้กับทุกกระบวนท่าในยุทธภพได้ ไม่ยึดติดกับกระบวนท่าของสำนักใดสำนักหนึ่ง นี่แหละคือไร้กระบวนท่า

ซึ่งเหมือนเป็นกลเม็ดสอนคนในชีวิตจริง เราเริ่มเรียนเริ่มศึกษา ก็เริ่มมาจากการท่องจำ พอเรียนสูงขึ้นไปๆ ก็เริ่มลงลึกในที่มา ใครที่เก่งๆ ก็จะแตกฉานในเชิงทฤษฎี แล้วสามารถประยุกต์ใช้กับงานในชีวิตประจำวันได้ นี่ผมก็นับว่าเป็นการเรียนจนบรรลุถึงจุดไร้กระบวนท่าในชีวิตจริงเหมือนกัน

ยกตัวอย่างง่ายๆ คนธรรมดาเรียนเลขกัน 90% อาศัยท่องจำสูตรกันใช่มั้ยละครับ แต่เพื่อนผมคนนึงที่มันเก่งคณิตศาสตร์แบบสุดตรีน มันไม่เคยใช้สูตรเลยนะ ใช้แค่ความเข้าใจล้วนๆ ในการแก้โจทย์ปัญหา (แม่งเก่งชิบหาย) จนทุกวันนี้ทำงานด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย ก็ไม่เคยใช้สูตร นี่ผมก็นับว่าเป็นหนึ่งใน concept ไร้กระบวนท่าในชีวิตจริง

ไร้กระบวนท่าสำหรับผมคิดว่าคือการโจมตีที่ ไม่ต้องเรียงลำดับ
1>2>3>4 อย่างเช่นวิชานี้มีกระบวนท่า เวลาใช้อาจะต้องแบบแทง บน ล่าง บน ล่าง ซ้าย ขวา อะไรแบบนี้ ถ้าอีกฝ่ายรู้ก็จะรู้ว่ามันจะโจมตียังไง แต่ถ้าไม่มีคือ จะแทงตรงไหนก่อนก็ได้แล้วแต่ผู้ใช้จะมีความเก่งแล้วก็ใช้ออกมาตอนสู้

เป็นนิยามออกแนวเซนอะ นิ่งสงบ สยบเคลื่อนไหว, สุดยอดดาบคือไร้ดาบ, ยอดกระบวนท่าคือไร้กระบวนท่า
ออกแนวพอถึงแก่นแท้จริงๆไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนท่ามากมาย ใช้พลังงานที่มีออกไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
โดยไม่ต้องเยอะกระบวนท่า อย่างจอมยุทธบางคนแค่แทงดาบไปข้างหน้าเฉยๆก็ปิดทางหลบหลีกของคู่ต่อสู้จนหมด
ไม่มีทางเลือกต้องเข้าปะทะอย่างเดียวหรืออาจจะหยิบจับข้อดีข้อเสียของแต่ละกระบวนท่ามาผสมกัน พลิกแพลงเพื่อใช้ออกไปด้วยประสิทธิภาพสูงสุด

ไร้กระบวนท่าก็คือ มีกระบวนท่าแต่ไม่ได้ใช้ตามสเตปไง

เก้ากระบี่ก็มีกระบวนท่า แต่เรียกว่าเคล็ดวิชาแทน ใช้แก้ทางอาวุธต่างๆ แต่ไม่ได้ชนะทุกครั้งหรอก