แม้แกจะมีแค่1 เสียง แต่การตัดสินใจสูงสุดอยู่ที่ตัวเขานั่นแหละครับ การอนุมัติซื้อตัว รับเสนอโครงการ แกเป็นคนพิจารณาคนสุดท้าย เหมือนบริษัทที่มีประธานในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย ของเชลซีอาจจะมีเงื่อนไขพิเศษในกรณีความจำเป็นหรือมีผลต่อสโมสร เขาจะมีอำนาจสูงสุดทันที

ผมมองว่าปลดก็ไม่แปลกนะ มันแย่จริงอะ

เห็นด้วยเลย 1 เสียงแต่เสียงใหญ่สุด เป็นเจ้าของสโมสร การตัดสินใจสุดท้ายก็อยู่ที่เขา อาจจะฟังบอร์ดมากขึ้น ลงความเห็นแต่สุดท้ายก็คงให้เสี่ยตัดสินใจ อย่าลืมว่าเชลซีติดหนี้เสี่ยหมีอยู่พันกว่าล้านปอนด์แบบไม่มีดอก ไม่มีใครกล้าต้านทานคำพูดเสี่ยได้

วัฏจักรเชลซี ในยุคเสี่ย

อย่าลืมว่าแลมพ์ใช้ไปสองร้อยกว่าล้านกับผลงานแบบนี้ ในฐานะเจ้าของทีมคงไม่โอเค

แลมพ์สนใจไปเซลติกไหม

ตั้งแต่ปลดน้ามู 2 น้าคอน จนมาเฮียแลมพ์ ผมว่าเสียงส่วนมากชนะชัวร์ เอาเคสน้ามูเป็นบรรทัดฐานที่แกยกมือให้อยู่ต่อ ตอนนั้นเละๆเลย นักเตะชุดแชมป์ฟอร์มดรอปแทบทั้งชุด

ในบอร์ดบริหารคงประกอบด้วยที่ปรึกษา คนที่มีอิทธิพลครับ แต่สุดท้ายคนตัดสินใจคือเสี่ยหมีครับ ถ้าเสี่ยไม่โอเค บอร์ดก็ทำไรไม่ได้หรอก ต้องยอมรับว่าเสี่ยคือคนที่มีอิทธิพลที่สุด และมีอำนาจสุด ถ้าเขาจะปลดบอร์ดทั้งชุดหรือทีละคนก็ทำได้ คนในสังกัดเขานั่นแหละครับ

คือผมเข้าใจนะว่าเสี่ยมีอำนาจสูงของทีม แต่ในกรณีที่การตัดสินใจมันจะส่งผลต่อทิศทางของทีม เสี่ยต้องเคารพคนที่ทำงานด้วย ในเมื่อการโหวตตัดสินใจใหญ่ เป็นหน้าที่ของบอร์ดบริหารและเจ้าของทีม เสี่ยต้องเคารพเสียงของบอร์ดบริหารคนอื่นๆ ไม่งั้นน้ามูก็ยังอาจจะได้คุมต่อในตอนนั้น ถ้าแกไม่เห็นด้วยกับเสียงส่วนมาก

สำหรับผมคิดว่าคงขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาว่าจะออกมาทิศทางไหน ตรงใจหรือเปล่า ผลโหวตเป็นอย่างไร สโมสรได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่ เท่าที่ผมทราบนะคือเสี่ยหมีถือครองหุ้นและเป็นเจ้าของแบบเบ็ดเสร็จแบบเกือบ100% ไม่ใช่แบบ51%แบบสโมสรอื่นๆ ดังนั้นอำนาจตัดสินใจก็อยู่ที่เขาเพียวๆ แต่ก็พร้อมรับฟังและดูผลโหวตไปด้วย

เอาเป็นว่าผมมองว่าในฟุตบอลยุคใหม่ แกต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ของบอร์ดบริหารก่อนเป็นอันดับแรก ไม่อยากให้มองแกเป็นคนที่อยากได้อะไรต้องได้เหมือนเมื่อก่อนมากไป เดี๋ยวนี้ผมว่าแกดรอปๆนิสัยนี้มาแล้วล่ะ

ครับผม ผมกับท่านมองคนละมุม แชร์ความเห็นกันได้ครับ

ครับผม