ทุกคนที่เล่นเกม มักมีภาพจำหรือความทรงจำกับเกมที่เคยเล่นมากันตั้งแต่เด็กๆ จะเล่นกับเพื่อนหรือเล่นคนเดียวจะมี 1 2 3 4 เกมที่เรายังจำมันได้ สมัยเราๆภาพจำสำหรับผมคือ Ro cs1.6 pangya winnig getamped Dota1 Havestmoon

เกมพวกนี้วันนึงถ้าถูกรีเวิร์ค หรือนำกลับมาเปิดใหม่ ถ้าว่างทุกครั้งจะแวะเข้าไปเล่นเสมอ อาจไม่ได้เล่นจริงจังเหมือนแต่เล่นเอาบรรยากาศ

ที่ผมพูดถึงเรื่องนี้ หลายครั้งที่ผมกลับไปเยี่ยมยายที่ต่างจังหวัดจะเจอหลานชาย เล่นเกมคล้ายๆมายคราฟชื่อ Roblox และเล่นมายคราฟอีก และมีอีกเกมนึงคือ Freefire ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปร้านเกมได้ล้มหายไปเยอะมาก มือถือเข้ามาแทนที่ เกมที่ผมว่ามาคือเล่นกันทั้งชั้นเรียนของหลาน ทำให้ผมกลับมาคิดว่าเกมพวกนี้มันกลายเป็นภาพจำของเด็กๆไปแล้ว เมื่อเขาโตขึ้นถ้าพูดถึงชื่อเกมเหล่านี้ คงเหมือนเราคุยถึงแร็คนารอค เคาเตอร์ หรือดอท1

ญาติๆผมเขาก็เป็นห่วงหลานว่าเล่นเกมแนวรุนแรงหรือเปล่า ผมเลยลองไปดูว่าหลานเล่นยังไง สรุปเกม Roblox มันเหมือนเกมที่คนสร้างแมพ จะคัสตอมยังไงก็ได้ตามตีมไป มีทั้งวันพีช นารูโตะ และอื่นๆ ผมก็มองว่าเออรูปแบบนี่เด็กๆได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ถือว่าโอเค และอย่าง Freefire เป็นเกมแนวโดดร่ม แต่ภาพไม่ได้ดูสมจริงหรือดูมีความรุนแรงอะไร อย่างหลานผมถ้าไม่ได้เล่นกับเพื่อนก็จะโดดคนเดียว toxic เกมค่อนข้างน้อย ถึงเกมนี้เด็กจะเล่นเยอะก็ตาม เกมอาจดูไม่ถูกใจใครหลายคน แต่ลองคิดดูว่าเด็กคนนึง เวลาเล่นก็ต้องคิดว่าจะไปมุมไหนเข้าวงยังไง ใช้ของอะไรดี ในการที่จะเป็นแชมป์ได้ หรือได้อันดับที่ดี เออพอเรามองในมุมนี้แล้วตั้งคำถามให้เขาคิด กลายเป็นเกมช่วยเสริมทักษะในการตัดสินใจให้หลานเหมือนกัน

เกมอย่าง Roblox Freefire ที่หลายคนเบลม พอผมเข้าไปใกล้ชิดหลานทำให้เข้าใจหลายๆมุมว่าทำไมเด็กๆถึงตัดสินใจเล่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุผล เพราะเพื่อน เพราะสนุก หรือมันเสริมทักษะบางอย่าง แต่ในมุมผมเกมเหล่านี้ได้แทรกเข้าไปอยู่ในภาพจำของเขาแล้ว

เกมส์ Freefire ไม่ผิดอะไรหรอก แต่ผมแค่ไม่ชอบส่วนตัว

เอาจริงๆอาจจะเกือบทุกเกมส์แหละ อยู่ที่คนเล่นผมเข้าใจ และเกมส์ Freefire ก็เป็น 1 ในนั้น ที่เป็นแนว Pay to win แบบชัดเจนมาก คือเติมเงินซื้อสกิน ซื้อตัวละคร สัตว์เลี้ยง อื่นๆ มันทำให้เก่งขึ้นต่างกับเดิมๆ

ซึ่งหลานสาวผมเนี่ย ป.6 มันเติมเกมส์นี้ทุกอาทิตย์ เจอหน้าผมขอตังเติมเกมส์ตลอด ( ผมไม่เคยให้นอกจากวันเกิด ) และเคยมีเคสเอาบัตรเครดิตแม่ไปเติมหลายหมื่นบาท เนื่องจากแม่มันก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เติมเงินให้ลูกคิดว่าครั้งเดียวที่ไหนได้มันผูกกับ apple เติมได้รัวๆ

แต่ ณ ปัจจุบันหลานผมมันสำนึกผิดเลิกเล่นเกมส์นี้ไปละ เลิกเติมเงินฟุ่มเฟือยไปเลย ช่วงนั้นคือวันๆเล่นแต่เกมส์ ตื่นบ่าย อาบน้ำตอนเย็น

ส่วนนึงอาจเป็นเพราะเลี้ยงลูกตามใจด้วยแหละ เกมส์คงไม่ผิดหรอก


ถ้าลองนึกย้อนกลับไป สมัยก่อนผมก็เติมเกมส์เหมือนกัน อย่าง RO บัตร 89บาท กองเป็นภูเขา
Pangya ขอเงินแม่เติมเป็นพัน ก็คงไม่ต่างกัน

ในยุคหนึ่ง Battlefield ก็ถูกนำมาเปรียบเทียบกับ Special Forces เพราะคนสมัยก่อนยังไม่มีความหลากหลายทางเกมมากนัก เห็นยิงๆก็เอามาเทียบกัน

ซึ่งจากเกมที่ล้นตลาดในปัจจุบัน การเปรียบเทียบและแบ่งประเภทมันก็ชัดขึ้น

Freefireของน้องๆสมัยนี้ มันคือSpecial Forecของเราสมัยก่อนอ่ะ 555