เอล กลาซิโก้ ไม่มาตามนัด! "ชุดขาว" โดนบิลเบาอัด 2-1 ร่วงซูเปอร์คัพ
เอล กลาซิโก้ ที่ทุกคนรอคอยไม่มาตามนัดหลัง เรอัล มาดริด แชมป์เก่ามาโดนทีเด็ดของ แอธเลติก บิลเบา รัวอัดทีเดียว 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรกจากสองประตูของ ราอูล การ์เซีย และแม้จะไล่มา 2-1 จาก คาริม เบนเซม่า แต่ก็ไม่ทัน จบเกมกลายเป็นยอดทีมจากแคว้นบาสก์ ที่ผ่านเข้าไปเจอกับ บาร์เซโลน่า ในรอบชิงฯของศึกสแปนิช ซูเปอร์คัพ วันอาทิตย์นี้
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
5.
ราฟาเอล วาราน
46'
6
10.
ลูก้า โมดริช
67'
6.5
9.
คาริม เบนเซม่า
88'
7
7.
เอแด็ง อาซาร์
67'
6
ตัวสำรอง
6.
นาโช่
46'
6.5
15.
เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้
67'
7
20.
วินิซิอุส จูเนียร์
67'
7
24.
มาเรียโน่ ดิอาซ
88'
-
สแปนิช ซูเปอร์คัพ รอบรองชนะเลิศ
สนาม เอสตาดิโอน ลา โรซาเลดา
พฤหัสบดี ที่ 14 มกราคม 2564
กรรมการ ฆวน มาร์ติเนซ
เรอัล มาดริด
1
2
แอธเลติก บิลเบา
0-1 ราอูล การ์เซีย 18'
0-2 ราอูล การ์เซีย 38' (Pen.)
มาดริด จะยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมกับเกมที่บุกไปเสมอ โอซาซูน่า เมื่อวันเสาร์ เพราะยังไม่ได้กลับบ้าน ตัวผู้เล่นจะขาดแค่ตัวสำรองอย่าง ดิเอโก้ อัลตูเบ้ และ อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า ที่ไม่มีชื่อวันนี้
ส่วน บิลเบา ที่ได้พักยาวมาเมื่ออาทิตย์ก่อน เพราะเกมกับ แอตเลติโก้ มาดริด โดนเลื่อนเปลี่ยน 2 ตำแหน่งจากเกมกับ บาร์เซโลน่า ก่อนหน้านั้นโดย มิเกล บาเลนเซียก้า จะได้ลงเล่นแบ็คซ้ายแทน ยูริ เบร์ชิเช่ ที่ได้รับบาดเจ็บ และ ดานี่ การ์เซีย จะได้ลงสนามเป็นตัวจริงในแดนกลางแทน มิเกล เบสก้า
โมดริช ได้ส่องทักทายก่อนบอลเข้าซอง ซิมอน
เริ่มเกมมาเป็นฝั่งมาดริด ได้ทักทายก่อนจากจังหวะโต้กลับเร็ว เมนดี้ ทางซ้ายจ่ายมาให้ โมดริช ได้จบด้วยขวาหน้ากรอบแต่บอลก็ยังไปตรงตัว ซิมอน รับไว้ไม่พลาด
อาซาร์ ได้ซัดบ้าง ซิมอน ต้องปัดออกหลัง
จังหวะนี้เป็น อาซาร์ ได้บอลนอกกรอบฝั่งขวาก่อนจะได้วางเท้าซัดเน้นๆ บอลไม่แรงมากแต่ ซิมอน เกือบหลงทางยังดีล้มตัวย้อนมาปัดออกหลังได้ทัน
รามอส ได้ขึ้นโขกยังเขามือ ซิมอน
มาดริด ได้ฟรีคิกนอกกรอบฝั่งซ้ายแล้วเป็น โครส เปิดเข้ามากลางประตูให้ รามอส ได้ขึ้นโขกคนเดียวแต่บอลยังเบาไปตรงตัว ซิมอน รับติดมือสบาย
ราอูล การ์เซีย หลุดมาซัดนิ่มๆ! บิลเบา นำก่อนแล้ว 1-0
จังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไรแต่อยู่ดีๆ วาราน ในแดนตัวเองจ่ายพลาดไปเข้าทาง ดานี่ การ์เซีย ฝั่งซ้ายได้บอลแล้วแทงทะลุให้ ราอูล การ์เซีย หลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายแล้วยิงผ่านตัว คูร์กตัวส์ เข้าไปตุงตาข่ายไม่เหลือ
ราอูล ได้ซัดอีกบอลเฉียดเสาออกหลัง
บิลเบา ได้ลุ้นอีกรอบจากจังหวะต่อบอลสุดสวนหน้ากรอบ ราอูล ได้บอลตรงกลางก่อนจะซัดด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งหลุดเสาขวาออกไปไม่เยอะพอได้ลุ้น
อเซนซิโอ้ ลากมากดเองก็ยังไม่เข้าเป้า
จังหวะนี้ อเซนซิโอ้ มีโอกาสได้พาบอลจากฝั่งขวาลากฝ่าเข้ามาก่อนจะกดด้วยซ้ายหน้ากรอบ แต่บอลก็ยังหลุดเสาซ้ายออกไปอีก
อเซนซิโอ้ จิ้มบอลเปลี่ยนทางบอลผ่านหน้าปากประตูออกหลัง
จังหวะที่ บาซเกซ พาบอลเข้ามาถึงในกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดเข้ามาตรงกลาง อเซนซิโอ้ หน้ากรอบได้แตะบอลเปลี่ยนทาง เบนเซม่า ชาร์จไม่ทันบอลไหลผ่านหน้าปากประตูออกไปนิดเดียว
บิลเลา ได้จุดโทษ! ราอูล คนเดิมซัดไม่เหลือ บิลเบา นำห่าง 2-0
จากจังหวะที่ บาซเกซ ไปเหนี่ยว มาร์ติเนซ ล้มในเขตโทษผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษทันที แล้วเป็น ราอูล คนเดิมซัดเข้าไปเต็มๆไม่เหลือ บิลเบา นำห่างอีกลูกแล้ว
โครส ส่องไกลนอกกรอบ ซิมอน รับสบาย
มาดริด ก็ยังพยายามเจาะหาประตูตีตื้นเรื่อยๆ จังหวะนี้ โครส มีโอกาสได้ลองส่องไกลด้วยขวาประมาณ 30 หลา บอลพุ่งเบาไปตรงตัว ซิมอน รับติดมือสบาย
มาดริด ขยับเปลี่ยนก่อนส่ง นาโช่ ลงมาแทน วาราน
เริ่มครี่งหลังมา มาดริด ตัดสินใจเปลี่ยนตัวก่อนเลือกเปลี่ยน วาราน ที่สร้างความผิดพลาดช่วงครึ่งแรกออกแล้วส่ง นาโช่ ลงมายืนหลังแทน
มูเนียอิน โขกเกือบหาย! บอลหลุดเสาไปนิดเดียว
จังหวะที่เกือบเป็นประตูนำห่างของบิลเบา จากจังหวะสวนกลับเร็ว เด มาร์กอส พาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะเปิดเน้นๆเข้ามาให้ มูเนียอิน ได้ขึ้นโขกหน้าเสาแรกบอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว คูร์กตัวส์ ได้แต่มอง
อเซนซิโอ้ ได้ปั่นหน้ากรอบบอลข้ามคานนิดเดียว
จากจังหวะที่ คาเซมิโร่ ตรงกลางแตะบอลให้ อเซนซิโอ้ หน้ากรอบได้วางเท้าปั่นด้วยซ้ายเน้นๆ บอลโค้งข้ามคานออกไปนิดเดียวถือว่าได้ลุ้น
อเซนซิโอ้ หวดชนเสาเต็มๆ! มาดริด ก็ยังตีไข่แตกไม่ได้
จังหวะที่น่าจะได้ประตูที่สุดในเกมของมาดริด ที่สุด อาซาร์ ที่สุดเส้นซ้ายแตะบอลย้อนมาให้ อเซนซิโอ้ วิ่งมาซัดเน้นๆหน้าเสาซ้ายบอลพุ่งไปเชนเสาเต็มๆ เด้งออกมาก็ไม่มีใครซ้ำทัน พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
อเซนซิโอ้ ได้ปั่นเน้นๆบอลก็ไปชนคานอีก!
ถือว่าเป็นวันที่โชคร้ายของ อเซนซิโอ้ จังหวะนี้มีโอกาสได้ลองปั่นด้วยซ้ายหน้ากรอบอีกครั้ง บอลพุ่งข้ามมือ ซิมอน ไปชนคานเต็มๆแล้วเด้งออกมาถือเป็น 3 จังหวะติดที่เจ้าตัวเกือบทำประตูได้
เบนเซม่า จิ้มหาย VAR ให้เป็นประตู! มาดริด ไล่มาแล้ว 2-1
มาดริด มาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่ คาเซมิโร่ ได้บอลยาวหลุดมาหน้าเสาขวาก่อนจะโขกต่อเข้าตรงกลางให้ เบนเซม่า จิ้มจ่อๆเข้าไปไม่เหลือ ผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าไปก่อน แต่พอเช็ค VAR แล้วยืนยันว่าเป็นประตู
บีญาลิเบร หลุดเดี่ยวมาชิปไม่ผ่านมือ คูร์กตัวส์
จังหวะที่เกือบได้ประตูนำห่างอีกรอบของบิลเบา ดานี่ การ์เซีย แทงบอลกลางสนามให้ บีญาลิเบร หลุดเดี่ยวเข้ามาถึงในกรอบฝั่งซ้ายก่อนจังหวะสุดท้ายจะเลือกชิปข้ามตัว คูร์กตัวส์ แต่ไม่ผ่านโดนคว้าไว้ได้ทัน
รามอส โขกเต็มๆ เฉียดเสาไปนิดเดียว!
จังหวะน่าได้ประตูอีกครั้งของมาดริด วินิซิอุส โยนบอลจากทางซ้ายเข้ามาให้ รามอส ได้ขึ้นโหม่งเต็มๆที่เสาสองบอลพุ่งเฉียดเสาออกไปนิดเดียว ถือว่าใกล้เคียงจริงๆ
เมนดี้ วางเท้าซัดเน้นๆบอลข้ามคาน
จังหวะสุดท้ายของเกม มาดริด โหมบุกต่อเนื่องจนบอลมาถึง เมนดี้ หน้ากรอบได้ง้างเท้าหวดด้วยขวาเต็มๆ บอลเหินข้ามคานออกไป
จบเกม มาดริด พ่าย บิลเบา 2-1 ร่วงซูเปอร์คัพ
จบเกม เรอัล มาดริด ไล่ไม่ทันแพ้ แอธเลติก บิลเบา 2-1 พลาดโอกาสเข้าไปชิง สแปนิช ซูเปอร์คัพ กับ บาร์เซโลน่า โปรแกรมต่อไปจะได้เจอกับ อัลโคยาโน่ ในศึกโกปาเดลเรย์ รอบ 32 ทีมคืนวันพุธหน้า
แอธเลติก บิลเบา
Starting Formation: 4-4-2
21.
อันเดร์ กาป้า
68'
7
24.
มิเกล บาเลนเซียก้า
80'
7
27.
อูไน เบนเซดอร์
68'
6.5
10.
อิเคร์ มูเนียอิน
71'
7
22.
ราอูล การ์เซีย
79'
8.5
ตัวสำรอง
2.
ฆอน มอร์ซิโญ่
80'
-
6.
มิเกล เบสก้า
68'
6.5
12.
อเล็กซ์ เบเรนเกร์
71'
6.5
15.
อิญิโก้ เลเก้
68'
6
20.
อาเซียร์ บีญาลิเบร
79'
6.5
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Fri Jan 15, 2021 07:08, ทั้งหมด 28 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker