ผมยังเชื่อในเรื่องของระบบฟุตบอลที่ต้องยืดหยุ่นตามช่วงเวลาของซีซั่นและการเล่นของฝ่ายตรงข้ามเป็นหลัก

อาจจะยืดถือปรัชญาและแท็คติกส์หลักๆที่ใช้ประจำเพียงแค่เพิ่มและลดบางจุดเพื่อชิงความได้เปรียบ

ลีดส์ ยูไนเต็ด อาจจะเป็นขวัญใจผู้ชมทั้งแฟน “ยูงทอง” เองและแฟนทั่วไปเพราะดูลูกทีมของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ไม่มีหลับสนุกทั้ง 90 นาที

แต่อย่างที่ผมเคยบอกสโมสรจากยอร์คเชียร์ตะวันตกยัง “พาซื่อ” และ “ไร้เล่ห์เหลี่ยม”

ชัยชนะ 3-0 ของ สเปอร์ส ผมรู้สึกว่านี่คือเกมที่เด็กๆ โจเซ่ มูรินโญ่ เล่นแล้วสัมผัสได้ว่าทุกคนสนุก ได้เล่นฟุตบอลที่เหมือนฟุตบอลจริงๆ

ผมเชื่อว่า “น้ามู” ทำการบ้านมาดีเพราะรู้ว่า ลีดส์ ชอบตั้งเกมจากแดนหลังขึ้นมาและตรงนี้แหละครับที่มันมีช่องโหว่

ทีมเยือนชอบเล่นเสี่ยงและเคาะบอลตรงหน้าปากประตูเราจึงเห็นการเสียบอลเป็นพักๆเพียงแต่ สเปอร์ส ไม่ได้ฉวยโอกาสนั้นไว้จนกระทั่งโดนจุดโทษที่เริ่มต้นจากการที่ อิลยาน เมสลิเยร์ ผู้รักษาประตูจ่ายยัดไปให้เพื่อนที่หน้าหัวกระโหลกแต่บอลไม่ตรง

เป็นการเล่นที่เสี่ยงและหวาดเสียวมากซึ่ง ลิเวอร์พูล และ แมนฯซิตี้ ก็เล่นแบบนี้บ่อยแต่ตัวโฮลดิ้งห้ามตายห้ามพลาดซึ่ง ลีดส์ คุม % ให้เออเรอร์เป็น 0 ยังไม่ได้ (เช่นเดียวกับ ไบรจ์ตัน ที่ชอบเล่นแนวนี้และมีพลาดให้เห็นเรื่อยๆเช่นกัน)

ก่อนเสียจุดโทษ “ยูงทอง” เป็นฝ่ายเข้าทำและไล่บดอย่างเมามันเหมือนที่เราเห็นกันจนชินตาเพียงแค่ แพทริค แบมฟอร์ด ยังใช้โอกาสเปลืองโหม่งโล่งๆข้ามคานและหลังจากนั้นพอตามหลังโอกาสของทีมเยือนก็เริ่มเฟดหายไปตามจังหวะของ “ไก่เดือยทอง” ที่เป็นฝ่ายบุกนวดหนักขึ้นเรื่อยๆ

ผมว่าวันนี้ สเปอร์ส ไม่ต้องทำอะไรมากแค่ไปยืนเพรสแบบเบาๆเดี๋ยว ลีดส์ จ่ายบอลเสียให้แน่ๆ ยังไงต้องมีโดยเฉพาะ ลุค อายลิ่ง ปราการหลังเอาแค่ครึ่งแรกอย่างเดียวจ่ายบอลเสียแถวๆหน้ากรอบเขตโทษไปจนถึงกลางสนามผมว่าไม่น่าต่ำกว่า 5 ครั้ง

ผมมองว่าปรัชญา “วิ่งควาย” ของ ลีดส์ มีจุดอ่อนอยู่ตรงที่ว่านักเตะถูกปลูกฝังให้จ่ายบอลกล้าได้กล้าเสีย ทำให้ความละเอียดต่อการเล่นมีน้อยตามไปด้วย

กล่าวคือบางจังหวะต่อบอลดีๆกำลังได้ที่แต่จู่ๆก็จ่ายทั้งๆที่ไม่ใช่เหลี่ยมจ่ายหรือมีผู้เล่นยืนขวางอยู่โดยเพื่อนไม่พร้อม ให้ความรู้สึกที่ว่าไม่เป็นไรเสียแล้วยังไงเราวิ่งไล่เอาคืนมาได้ ความฟิตเราไม่เป็น 2 รองใครอยู่แล้ว อะไรเทือกนั้น

ซึ่งเป็นทัศนคติที่ตรงข้ามกับบรรดาทีมใหญ่ๆหรือทีมเขี้ยวๆที่ “rate” การเก็บบอลไว้กับตัวเป็น priority สูงสุด คล้ายๆความหมายที่นักพากย์ชื่อดังเคยบอกว่าบอลอยู่กับเราคู่แข่งยังไงก็ยิงเราไม่ได้

เราไม่ต้องดูอื่นไกลก็ สเปอร์ส ที่เล่นวันนี้แหละครับ ปกติไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ก็จะรับแล้วรอสวน มาวันนี้มายืนป้วนเปี้ยนสูงเพื่อรอให้ ลีดส์ เสียบอลหน้าเขตโทษ

และพอเจ้าถิ่นต้องเป็นฝ่ายรับบ้างจึงไม่ใช่ปัญหาเลยครับเพราะปกติถูกขึงใส่หนักกว่านี้และการเล่นหลากหลายกว่านี้ “ไก่เดือยทอง” ผ่านมรสุมมาอย่างโชกโชน

ดังนั้นการลำเลียงบอลให้เหนียวและเสียระหว่างทางน้อยที่สุดจึงเป็น “หัวใจ” ของการขึ้นเกมของ มูรินโญ่

ประตู 2-0 ที่มาจากการปลายเท้าของ 2 คู่รักคู่เดิม แฮร์รี่ เคน และ ซน เฮือง มิน ต้อง 2 คนนี้เท่านั้นครับ จ่ายลึกกว่านี้ก็เข้ามือประตู จ่ายน้ำหนักน้อยกว่านี้แข้งเกาหลีถลำแน่นอน

จุดเริ่มเกิดจาก ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก ทำหน้าที่ขโมยบอลและรีบฝากให้ เคน ซึ่งเป็นจังหวะที่ ปาสกาล สเตร้าจ์ค ของ ลีดส์ ไม่ทันระวังตัวยืนคุมหอกทีมชาติอังกฤษ ห่างแค่ 2 ก้าวแต่เป็น 2 ก้าวที่ทำให้เกิดลูกที่ 100 ของซนกับสโมสร

นอกจากนี้ยังกลายเป็นสถิติใหม่ที่คู่นี้ผลิตสกอร์(ยิงและจ่าย)ให้กันรวม 13 ประตูในซีซั่นนี้เทียบเท่า อลัน เชียร์เรอร์ และ คริส ซัตตัน ที่ทำไว้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เมื่อฤดูกาล 1994-95

แต่ต้องไม่ลืมว่าสถิติเก่าของ “ดูโอกุหลาบไฟ” ทำไว้ทั้งซีซั่นแต่ของ “ซนและเคน” เพิ่งเตะมาแค่ 16 นัดเท่านั้น พอเปรียบเทียบแบบนี้เราเห็นความโหดของคู่นี้ได้เห็นภาพชัดเจนที่สุดแล้วครับ

การโดน 3-0 ไวตั้งแต่ต้นครึ่งหลังจากความผิดพลาดของผู้รักษาประตูทำให้การคัมแบ็คไม่ต้องพูดถึงแล้วครับเพราะตั้งแต่ครึ่งแรกเล่นไปเรื่อยๆจากโอกาส half chance ที่พอมีบ้างก็เริ่มหาโอกาสพาบอลเข้าเขตโทษแบบได้เหลี่ยมแทบไม่มีเลย

ถ้า ลีดส์ ลงสนามในทุกๆนัดแล้วไม่เปลี่ยนสไตล์ใดๆแบบนี้ฝั่งตรงข้ามวางหมากมาแก้ลำมันก็เข้าทาง 100% ที่เหลือขึ้นกับปัจจัยอื่นๆเพราะถ้าวั้นนั้น “ยูงทอง” เกิดแม่นยำใช้โอกาสไม่เปลืองคุณก็จะต้องเหนื่อยกับการเจอบอล “วิ่งควาย” ไล่บดจนท้อไปเอง

ถ้ามีคนแย้งว่าที่ทำให้ ลีดส์ ชนะ 7 นัดในฤดูกาลนี้ก็เพราะการเล่นสไตล์นี้หรือเปล่า?

ใช่ครับแต่ต้องไม่ลืมว่ายิ่งเล่นแบบนี้เหมือนเดิมไปเรื่อยๆการศึกษาหาจุดอ่อนจากฝ่ายตรงข้ามก็ยิ่งมีมากขึ้นเช่นกัน อาจจะเป็นของใหม่ในช่วงแรกแต่อะไรที่มันดู “คุกคาม” ก็มักจะมีคนหาวิธี “ทำลาย” ตามหลักไม่ว่าจะเรื่องไหน

ครับสำหรับ “ไก่เดือยทอง” นี่คือการยิงเกิน 2 ประตูเป็นหนแรก(เฉพาะในลีก) นับตั้งแต่เสมอกับ “ขุนค้อน” 3-3 เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม

สเปอร์ส ของอาจจะกลับมาเล่นแบบเดิมในนัดอื่นตามสไตล์ที่ถนัดแต่อย่างน้อย มูรินโญ่ ก็ปรับเปลี่ยนการเล่นตามรูปแบบของคู่แข่งซึ่งวันนี้ต้องยกให้แกไปเต็มๆ

ส่วน มาร์เซโล่ บิเอลซ่า คงต้องยอมแกคนนึง นอกจากแก่แล้วแต่พี่แกนั่งยองโชว์พลังเข่าทุกๆนัด เป็นคนยอมหักไม่ยอมงอจนตอนนี้แพ้มากกว่าชนะและลูกได้เสียติดลบไปแล้ว

แต่ถ้าพิจารณาจาก 3 ทีมท้ายตารางอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, เวสต์บรอม และ ฟูแล่ม ที่เอาแต้มมารวมกันแล้วยังน้อยกว่า ลีดส์ ทีมเดียวพวกซาดิสต์ที่ชอบบอล “บิลเอลซ่า” สไตล์ก็ยังพออุ่นใจได้อยู่ครับ...

แต่ถ้าอยากสร้างทีมไปเป็นทีมใหญ่จริงๆ ยังไงก้ต้องต่อบอลจากหลังไปหน้าให้ได้

อาจจะเปลี่ยนระบบทีมเล็กๆน้อยๆ แต่หลักๆก้ต้องต่อบอลจากโกล เป็นสูตรสำเร็จช่วงนี้

ฟุตบอลบางทีก็เล่นเอามันอย่างเดียวไม่ได้

ความล้าสะสมเริ่มแสดงผลละ จะมาวิ่งควายในช่วงคริสมาสนี่ยับแน่ๆ

สไตล์ลีดส์ ผู้เล่นต้องดีกว่านี้

มันสะท้อนถึงบอลเป๊บเหมือนกันว่า ถ้าไม่ทุ่มเงินมหาศาลเอาตัวดีๆ มาลงระบบ. ก็จะได้ทีมแบบลีดส์เล่นนี่แหละ

มันก็เหมือนจานหรูดูไฮโซ อาหารวัตถุดิบก็ต้องมีระดับเหมาะสมกันไปด้วย. มันถึงจะเสริฟโรงแรมห้าดาวได้

แฟนบอลลีดส์จริงๆ เขาไม่สงสัยในตัวบิเอลซ่า โค้ชที่พาลีดส์ขึ้นชั้นได้ในรอบ 10 กว่าปีหรอก อันที่จริงเป้าหมายแรกของลีดส์คือพาทีมอยู่รอดในพรีเมียร์ แต่ด้วยสไตล์การเล่นที่เป็นบอลบุก เพรสสูง ทำให้แฟนบอลทีมอื่นๆ ไปยกให้ลีดส์จะลุ้นกลับไปติดท็อปซิกซ์ อะไรอย่างนี้เลย มันก็ดูเกินจริงไปหน่อย ขนาดลิเวอพูลของเจอเกนคล็อปปีแรกๆ ก็โดนปรามาสไม่ต่างกันว่าจะเพรสอะไรขนาดนั้น มันก็ต้องค่อยๆปรับจูนกันไป

ส่วนกรณีต้องเปลี่ยนสไตล์ไหม? ผมกลับมองว่าทีมเล็กไม่จำเป็นต้องเล่นรับหรือรสบัสกันหมด ลีดส์ก็มีทรงบอลของตัวเอง ซึ่ง 5 นัดหลังสุด ลีดส์เก็บถึงได้ 9 แต้ม ขนาดพาเลสที่เล่น 4-4-2 เชี่ยวชาญการเล่นเคาเตอร์จากปีก ยังเก็บแต้มได้น้อยกว่าเลย

สุดท้ายถ้าจบกลางตารางได้นี่ก็ประสบความสำเร็จแล้วในปีแรก กับทีมที่ตกชั้นร่วม 16 ปี

เอาตรงๆ คือ Formation และระบบแกดีมากเลยแหละ บิเอลซ่านะ

แต่ด้วยลักษณะบอลชวนทะเลาะ ถอยไม่เป็นแบบนี้ มันทำให้อ่านทางได้ง่าย

แถมนักเตะคุณภาพก็ไม่ได้ดี เล่นไม่ค่อยละเอียด (หลังพลาดง่าย หน้าไม่คม)

มันไม่แปลกที่จะใช้ได้ดีในระดับแชมเปี้ยนชิพ แต่ใช้กับพรีเมียร์ลีกไม่ได้

ถ้าระบบดี ทยอยเอานักเตะ มาเติม คน 2 คนไปเรื่อยๆ ทีมมันก็จะค่อยๆดีขึ้นเอง

ผมเป็นพวกซาดิสต์ซะด้วย55555

ลีดส์เป็นรองทีมอื่นแค่นักเตะ ถ้าได้เกรด B หรือแค่ B+ มาเสริมมากไป (ไม่ต้องใช้ระดับ A A+) หลายๆอย่างจะไม่ใช่แบบทุกวันนี้

ส่วนตลาดเที่ยวนี้จะเป็นไงนั่นเป็นเรื่องอนาคต

ถ้าลีดส์รอดตกชั้นได้ ปีหน้ามีตังเสริมตัวอีกเพียบแน่ๆ

ปัญหาของลีดส์คือกองหน้าใช้โอกาสเปลืองครับ ถ้าได้กองหน้าที่ดีกว่านี้ บทความนี้อาจจะแตกต่างออกไป