'เฮาเก้' โชว์เทพ! "มิลาน" เฉือนสปาร์ต้า 1-0 ลิ่วแชมป์กลุ่ม
ประตูโซโล่สุดสวยของ เยนส์ เพตเตอร์ เฮาเก้ ช่วยให้ เอซี มิลาน ชุดผสมบุกมาเฉือนชนะ สปาร์ต้า ปราก 1-0 เก็บรวมเป็น 13 แต้ม ผ่านเข้ารอบ 32 ทีมของศึกยูโรป้าลีก ในฐานะแชมป์กลุ่ม หลัง ลีลล์ บุกไปแพ้ เซลติก 3-2
สปาร์ต้า ปราก
Starting Formation: 3-5-2
16.
มิชาล ซาเช็ค
82'
6
36.
อดัม คาราเบ็ค
45'
6
11.
มาร์ติน มินเชฟ
65'
6.5
22.
เซอร์ดาน พาราฟซิค
65'
6.5
ตัวสำรอง
7.
เดวิด โมเบิร์ก-คาร์ลสัน
65'
6
9.
ลาดิสลาฟ เครซี่ (1)
82'
-
37.
ลาดิสลาฟ เครซี่ (2)
45'
6.5
39.
ลูก้า ยูลิส
65'
6
ฟุตบอลยูโรป้าลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ปเอช
สนาม เจเนราลี่ อารีน่า
พฤหสับดี ที่ 10 ธันวาคม 2563
กรรมการ ดาเนี่ยล ซีเบิร์ท
สปาร์ต้า ปราก
0
1
เอซี มิลาน
0-1 เยนส์ เพตเตอร์ เฮาเก้ 23'
เอซี มิลาน ที่เข้ารอบแน่นอนแล้ว ส่วนอันดับแชมป์กลุ่มก็ต้องไปลุ้นให้ ลีลล์ พลาดด้วย วันนี้เลยเลือกสั่งตัวสำรองผสมกับดาวรุ่งลงสนามเป็นส่วนใหญ่
ที่ข้างสนามจะมีนักเตะที่เจ็บไปนานแบบ มาเตโอ มูซัคคิโอ และ ราฟาเอล เลเอา กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรอง ส่วนที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแผงหลังจะเป็นสำรองเป็นส่วนใหญ่นำโดยสำรองอย่าง ปิแอร์ คาลุลู และ เลโอ ดูอาร์เต้
ส่วนตรงกลางกับแนวรุกจะยังให้ ซานโดร โตนาลี่ และ ซามู คาสติเญโฆ่ ลงสนามต่ออีกนัด ที่เหลือจะเป็นดาวรุ่งอย่าง ลอเรนโซ่ โคลอมโบ และ ดาเนี่ยล มัลดินี่ รวมไปถึง เยนส์ เพตเตอร์ เฮาเก้ เป็นตัวจริง
ดาโลต์ ทักทายได้ลุ้น! ติดเซฟนิดเดียว
เริ่มเกมมาเป็นฝั่งทีมเยือนที่ได้โอกาสจะแจ้งก่อน จากจังหวะที่ คอนติ พาบอลขึ้นมาถึงเกือบสุดเส้นขวาก่อนจะโยนเข้ามาให้ ดาโลต์ ที่เติมขึ้นมาหน้าเสาซ้ายได้วิ่งมาซัดด้วยซ้ายเต็มๆ แต่ เฮช่า ประตูเจ้าบ้านยังล้มตัวเซฟด้วยขาไว้ได้นิดเดียว
เจ้าบ้านได้ลุ้นบ้าง โพริดาร์ หลุดเข้ามาจิ้มเข้ามือ ชิปริยาน
โพริดาร์ เจ้าบ้านได้โอกาสลุ้นจะแจ้งบ้างจากจังหวะที่ ซาเช็ค โยนบอลให้ โพริดาร์ ได้หลุดเข้ามากลางประตู แต่จังหวะสุดท้ายยังจิ้มเบาไปตรงตัว ชิปริยาน รับไว้ไม่มีปัญหา
คาราเบ็ค ได้จบในกรอบบอลหลุดไปไกล
เจ้าบ้านยังคงโหมบุกและมีจังหวะได้ลุ้นต่อเนื่องคราวนี้เป็น พาราฟซิค โยนบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาให้ คาราเบ็ค กระโดดยันในกรอบแบบไม่จับ แต่บอลหลุดออกไปไกล
เฮาเก้ ปล่อยของลากมาซัดนิ่มๆ! มิลาน บุกมานำ 1-0
เริ่มจากจังหวะที่ ดาโลต์ พาบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนจะจ่ายคืนให้ เฮาเก้ ด้านข้างกรอบพาบอลล็อคหนีกองหลัง 2 คนเข้ามาถึงในกรอบก่อนจะได้แปจบนิ่มๆลอดขาก่อนหลังหน้าเสาแรก บอลผ่านตัว เฮซ่า เสียบเสาขวาไม่เหลือ มิลาน บุกมานำแล้ว
โคลอมโบ ได้ขึ้นโขกแต่บอลยังหลุดเสา
จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวาของทีมเยือน โตนาลี่ เปิดเข้ามากลางประตูให้ โคลอมโบ ได้ขึ้นโขกแต่โดยไม่ค่อยเต็มบอลหลุดเสาซ้ายออกไป
ซามู โซโล่เข้ามาซัดติดเซฟ เฮช่า เต็มๆ
จังหวะที่ คาสติเญโฆ่ ตัดบอลได้ที่ริมเส้นขวาก่อนจะลากฝ่าเข้ามาหลายจังหวะถึงหน้าเสาแรก แล้วได้ซัดด้วยขวาเต็มๆ แต่ เฮช่า ยังปิดมุมเซฟออกมาได้
เฮาเก้ ได้ลากมาซัดมุมเดิมแต่คราวนี้ เฮช่า รับสบาย
เริ่มครึ่งหลังมา เฮาเก้ มีจังหวะได้ลากบอลเข้ามาซัดด้วยขวาในกรอบจุดเดียวกับที่ได้ประตูขึ้นนำ แต่คราวนี้ยิงเบาไปตรงตัว เฮช่า รับสบาย
เครซี่ (2) ได้หวดจ่อๆ แต่ติดเซฟ ชิปริยาน!
จังหวะที่น่าเป็นประตูตีเสมอของเจาบ้าน โพริดาร์ โยนบอลจากทางซ้ายเข้ามาให้ มินเชฟ ตรงกลางดีดต่อให้ เครซี่(2) หน้าเสาขวาได้จบโล่งๆ แต่จังหวะสุดท้ายยิงไปติดเซฟ ชิปริยาน ออกหลังเป็นเตะมุม
ซามู ปั่นหน้ากรอบบอลเข้าซอง เฮช่า
จังหวะสวนกลับเร็วของทีมเยือน บอลสุดท้ายมาถึง คาสติเญโฆ่ หน้ากรอบได้วางเท้าปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งเข้ากลางประตูแต่ เฮช่า ล้มตัวรับไว้ไม่มีปัญหา
เกมเริ่มช้าลง ทั้งสองทีมไม่มีจังหวะได้ลุ้นเพิ่ม
เจ้าบ้านไม่มีอะไรได้ลุ้นอยู่แล้ว เลยดูไม่ค่อยเน้นมากช่วงท้ายๆเริ่มเหมือนผ่อนลงทั้งสองทีม และยังไม่มีโอกาสได้ลุ้นประตูเพิ่มทั้งคู่
เจ้าบ้านเหลือ 10 คน พลีชาตี้ โดนใบแดงไล่ออกสนาม
พลีชาตี้ ไปเสียบเข้าหนัก เลเอา ในจังหวะสวนกลับกลางสนาม ผู้ตัดสินให้ใบแดงโดยตรงไล่ออกจากสนามทันที
เครซี่ (2) ได้ลองส่องหน้ากรอบอีกแต่บอลหลุดไปไกล
จังหวะที่ ชูเช็ค ตัดบอลได้กลางสนามบอลก่อนจะจ่ายมาถึง เครซี่ (2) หน้ากรอบได้ลองหวดด้วยซ้ายเต็มๆ บอลหลุดข้ามคานออกไปไกล
โมเบิร์ก-คาร์ลสัน หลุดมาซัดยังไม่ผ่าน ชิปริยาน!
ท้ายเกมเจ้าบ้านมีโอกาสสวยๆจากจังหวะที่ โมเบิร์ก-คาร์ลสัน ได้หลุดเข้ามากลางประตูแต่จังหวะสุดท้ายยังยิงไม่ผ่านมือ ชิปริยาน ล้มตัวเซฟไว้ได้
จบเกม มิลาน บุกเฉือน 1-0 ลิ่วแชมป์กลุ่ม
เยนส์ เพตเตอร์ เฮาเก้ ช่วยให้ เอซี มิลาน บุกมาเฉือนชนะ สปาร์ต้า ปราก 1-0 เก็บรวมเป็น 13 แต้ม ผ่านเข้ารอบ 32 ทีมของศึกยูโรป้าลีก ในฐานะแชมป์กลุ่ม หลัง ลีลล์ บุกไปแพ้ เซลติก 3-2
เอซี มิลาน
Starting Formation: 4-3-3
27.
ดาเนี่ยล มัลดินี่
78'
7
29.
ลอเรนโซ่ โคลอมโบ
67'
6.5
15.
เยนส์ เพตเตอร์ เฮาเก้
90+1'
8
ตัวสำรอง
17.
ราฟาเอล เลเอา
67'
6.5
21.
บราฮิม ดิอาซ
90+1'
-
79.
ฟรองค์ เคสซิเย่
78'
6.5
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Fri Dec 11, 2020 05:12, ทั้งหมด 24 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
My Locker
