[RE: FA เตรียมสอบ "คาวานี่" หลังโพสต์ข้อความเชิงส่อเหยียด]
ACTART พิมพ์ว่า:
NaShZ พิมพ์ว่า:
ACTART พิมพ์ว่า:
NaShZ พิมพ์ว่า:
ACTART พิมพ์ว่า:
NaShZ พิมพ์ว่า:
ผมไม่ค่อยเข้าใจความเพียรพยายามในการโยง เอฟรา กับ ซัวเรส ของแฟนบอลลิเวอร์พูล(บางท่าน)เท่าไรนัก
ที่แปลกใจมากกว่านั้นคือ ผมกลับไม่เห็นแฟนบอลแมนซิมากร้องกรี๊ดๆ เรียกร้องความยุติธรรมให้แบนคาวานี่ตามที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เคยโดนมาด้วยนะครับ ทั้งๆที่เรื่องนี้ มันดูยังไงก็เป็นเคสเดียวกับ แบร์นาร์โด้ มากกว่าซัวเรส จะมองมุมไหนก็คนละบริบทกันเลยไม่น่าจะเอามาโยงกันได้ ผมได้แต่ยิ้ม และยังสงสัยอยู่ว่ายูสที่มาแสดงความคิดเห็นแบบนั้นเค้าไม่เข้าใจจริงๆ หรือครับว่า
"การใช้บางคำคุยกับเพื่อน มันต่างจากการเจตนาเหยียดเพื่อนร่วมอาชีพทีมฝั่งตรงข้าม"
นี้ยังไม่รวมสโมสรให้ท้ายทำเสื้อแจกออก PR ประหนึ่งซัวเรสไม่ผิดอีกนะครับ เฉียบไหมละ!
แต่ก็ดูกันต่อไปครับ ส่วนตัวผมอยากให้แบนนะจะได้เหมือน แบร์นาร์โด้ ซิลวา หรือจะแบนหนักกว่านั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรก็ตามกฎกันไปครับ และคงด่าหากแมนยูทำเสื้อปกป้องคาวานี่
แต่...อีกใจนึงก็อยากให้คดีพลิกไม่โดนแบนครับ
ผมอยากเห็นคนดื้นโยงตรรกะความแปลกประหลาดสนุกดีครับ
ผมเอาบทความจากสำนักข่าวนึงมาให้อ่านเล่นๆกันดูละกันครับ
Spoil
9 ปีแห่งความโกรธ "เอฟรา" รำลึกโดน "ซัวเรซ" ด่า "ไอ้ดำ"
เผยแพร่: 5 พ.ค. 2563 01:39 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ปาทริซ เอฟรา อดีตแบ็กซ้ายขวัญใจ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจรำลึกความหลัง 9 ปีที่แล้ว กับเรื่องราวบาดหมางระหว่างตัวเองกับ หลุยส์ ซัวเรซ อดีตกองหน้า ลิเวอร์พูล ในมุมที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล เกม เอฟเอ คัพ ซัวเรซ กับ เอฟรา โต้เถียงกันอย่างรุนแรง โดยฝ่ายแรกใช้คำพูดเหยียดผิวอีกฝ่ายก่อน จนกลายเป็นความบาดหมางที่โด่งดังไปทั่วโลก
เอฟร่า เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ ซัวเรซ ต้องโดนแบนสถานหนัก 8 เกม และปรับเงินอีก 40,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) ว่าแข้งชาวอุรุกวัย เจตนาเหยียดหยามตนเองจริง และไม่พอใจที่นักเตะ ลิเวอร์พูล ยังให้การหนุนหลัง
"ผมคิดว่าหลายคนยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเบื้องหลัง เกมที่เราเจอกับ ลิเวอร์พูล เรากำลังเล่นได้ดีและผมก็ไปประกบเขาระหว่างเล่นลูกเตะมุม เขาพูดกับผมเป็นภาษาสเปนว่า อย่ามาแตะต้องกู กูไม่อยากพูดกับพวกนิโกร"
"บางทีเขาอาจไม่รู้ว่าผมพูดสเปนได้และถามเขากลับไปว่าพูดอะไรวะ เขาตอบว่า ใช่ มึงเข้าใจถูกแล้ว กูไม่อยากพูดกับพวกนิโกร กรรมการวิ่งมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเห็นสายตาผมเปลี่ยนและถามว่าโอเคไหม ผมบอกกรรมการว่าผมโดนเหยียดผิวและเขาก็บอก โอเค เดี๋ยวไปคุยกันหลังเกม เล่นกันต่อและอย่าทำอะไรงี่เง่า"
"ผมจำได้ดี ระหว่างเกม ผมคุยกับตัวเองบ่อยครั้งว่าจะต่อยมันดีไหม แต่เขาก็จะเห็นคุณเป็นผู้ร้ายทันทีและลืมไปเลยว่าเขาพูดอะไร ผมเลยต้องบอกตัวเองว่าไม่ อย่าทำแบบนั้น แต่มันก็ทำให้ผมมีสมาธิกับเกมไม่ได้เลยให้ตายเถอะ"
แม้จะแก้ต่างภายหลังว่าคำว่า นิโกร หมายถึง เพื่อน แต่ ซัวเรซ ก็ได้รับการตัดสินโทษหลังจบเกมดังกล่าว และความไม่พอใจก็ยิ่งปะทุขึ้นเมื่อได้เห็นนักเตะ ลิเวอร์พูล สวมเสื้อเบอร์ 7 หนุน ซัวเรซ ในเกมแดงเดือดนัดถัดมา
"ตอนผมได้ยินว่า หลุยส์ ซัวเรซ ลงตัวจริงและเขาโกหกว่า นิโกร ที่เขาพูดหมายถึง เพื่อน ผมถึงกับคิดว่านั่นไม่ใช่ชื่อกูโว้ย แม่กูตั้งชื่อมาให้แล้ว ไม่ใช่สีผิว และผมจำได้ดี นักเตะลิเวอร์พูล ใส่เสื้อหนุน ซัวเรซ ทั้งที่เขาโดนแบนเพราะเหยียดผิว และทุกคนยังทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ มันทำให้ผมหัวเสียและหงุดหงิดฉิบหาย"
อย่างไรก็ตาม อดีตแข้งทีมชาติฝรั่งเศส ก็ระบุว่ารู้สึกดีขึ้นเมื่อผู้บริหารของ ลิเวอร์พูล อย่าง ปีเตอร์ มัวร์ แสดงความขอโทษอย่างจริงใจ และทั้งสองคนก็ยุติเรื่องบาดหมางนี้ไปแล้วหลังมีโอกาสเจอกันอีกครั้งในเกม ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ปี 2015 โดยซัวเรซ เล่นให้ บาร์เซโลน่า และ เอฟร่า เล่นให้ ยูเวนตุส แถมจับมือกันก่อนแข่งสมานฉันท์
"ผมไม่เคยเรียก ซัวเรซ ว่าไอ้จอมเหยียดผิว เพราะผมไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว แม้กระทั่งเราเล่นนัดชิง แชมเปียนส์ ลีก ผมเล่นให้ ยูเวนตุส ผมก็จับมือเขาและพูดคุยกัน การให้อภัยเกิดขึ้นอบ่างรวดเร็ว เพียงแค่ไม่เข้าใจว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ตกเป็นเหยื่อ ทำไมสื่อหรือคนอื่นๆต้องบอกให้หยุดร้องไห้ ผมไม่ได้ร้องสักหน่อย ผมจะร้องไห้ทำไม"
Credit :
https://mgronline.com/sport/detail/9630000046727
อะไหนๆก็โยงมาละ ผมเอาข่าวที่ตำนานได้พูดไว้มาให้อ่านเพิ่มละกันนะครับ :)
Spoil
https://www.express.co.uk/sport/football/1193857/Liverpool-Jamie-Carragher-Luis-Suarez-mistake
ผมว่ามันก็เหมือนทั้ง2เคสอ่ะครับ คำพูดเหมือนของซัวเรสที่อเมริกาใต้ใช้เป็นคำทั่วไป แต่ที่อังกฤษเป็นคำเหยียด
ส่วนบริบท นี่ยังไงก็เหมือนของแบร์นาโด้ คือพูดคุยเล่นกับเพื่อน ยังไงก็โดนแบนไม่หนักมากแบบแบร์นาโด้อยุ่แล้ว
คุณคิดเยอะไปป่าวว
ผมก็ไม่ได้คิดเยอะอะไรนะครับ
เพียงแค่หยิบยกจากความคิดเห็นข่าวนี้ จากแฟนลิเวอร์พูลบางท่านที่มาแสดงความคิดเห็นนะครับ แต่ท่านทำให้ผมแปลกใจเข้าไปอีกขนาดยูสที่ตอบระดับ 30,430 ยังคิดว่ามันเหมือนกันเลยครับ ผมก็ไม่แปลกใจอะไรกับสังคมที่ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ครับ :)
แต่ผมก็อยากให้คาวานี่โดนแบนนะครับ จะได้อยู่ในกติกาเดียวกับ แบร์นาร์โด้
คำเหมือนกัน แต่ใช้ต่างกรรมต่างวาระต่างสถาณที่ ผมคิดว่ามันไม่เหมือนกันหลอกครับ
แต่สำหรับซัวเรส ผมคิดว่าไม่น่าเอามาโยงหรือเอามาเปรียบเทียบได้นะครับ มันแย่กว่ากันเยอะ :)
ถ้าไม่เข้าใจที่ผมจะสื่อผมก็ขี้เกียจโควทต่อละครับ เสียเวลาอธิบายไห้ยาวยืด
ท่านหรือผมไม่เข้าใจครับ ?
แต่ก็จริงของท่านครับ เสียเวลาอธิบายไห้ยาวยืด
อ่ะแล้วผมพูดผิดตรงไหนครับ
ผมพูดว่า
การใช้คำของซัวเรส กับ คาวานี่ เหมือนกัน คือคำพูดที่อุรุกวัยไม่ใช่คำเหยียด แต่ที่อังกฤษ เป็นคำเหยียด เช่นคำว่า negrito กับ negro
แต่ บริบท การใช้ ซัวเรส กับ คาวานี่ ไม่เหมือนกันแน่นอน เพราะคาวานี่ใช้กับเพื่อน
บริบทการใช้คาวานี่ เหมือนกับ แบร์นาโด้
แล้ว3ประโยคนี้ ประโยคไหนไม่ถูกต้องหรอ
แล้วทำไมถึงโยงซัวเรสไม่ได้ ในเมือในเนื้อข่าวก็พูดถึงซัวเรสมันแปลกตรงไหนที่มีคนพูดถึงซัวเรส ในเมื่อในข่าวยังอ้างถึง ปสด
ท่านต้องอ่านที่ผมพิมพ์หน่อยนะครับ ไม่ต้องรีบ
ผมไม่ได้บอกว่าท่าผิดอะไรเลยครับ บอกด้วยซ้ำว่า "ผมก็ไม่แปลกใจอะไรกับสังคมที่ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ครับ :)"
และท่านเองก็ยังบอกอีกว่า
ถ้าผมไม่เข้าใจที่ผมจะสื่อผมก็ขี้เกียจโควทต่อละครับ เสียเวลาอธิบายไห้ยาวยืด
ผมก็นึกว่านี้จะจบละนะครับ ปสด :)
ท่านเปิดใจแล้วอ่านข้อความผมก่อนเถอะครับ
เรื่องโดนแบนผมไม่มีปัญหาเลย ทำไปตามกฎคำต้องห้ามจัดไปเถอะครับ ผมไม่ซีนะครับว่าจะโดนแบบเท่าซัวเรสหรือเปล่า ถ้าผิดก็จัดไปครับ มันคือกฎคือกติกา
แต่จะไปโยงเรื่องใกล้กันคำเหมือนกัน แต่คนละกรณีที่ใช้ต่างกรรมต่างวาระต่างสถานที่ได้อย่างไร
ที่ผมรู้สึกเแปลกใจคือการพยายามเอามาโยงกันให้ได้นี้ละครับ
ท่านมีความคิดของท่าน ผมก็มีความคิดของผมครับ แต่เรายังต้องอยู่ในบอร์ดเดียวกันครับ :)