เอาแบบที่เคยได้ยินมาเลยนะ จากหลายๆคนที่เคยเป็นอดีตนายก แม่ทัพภาค , อดีต รมต. , หนึ่งในทีมหมอส่วนตัวของแม่
แม้วไม่ได้รักสถาบันแต่ก็ไม่ได้เกลียด ก็เหมือนนายทหาร ตำรวจ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคนคล้ายๆกันไม่ได้แบบเทิดทูน คลั่งมากเหมือนชาวบ้าน ดารารุ่นใหญ่หลายคนที่เป็นอยู่ตอนนี้

คนที่เกลียดแม้วมากๆคือแม่ บอกว่าแม้วดื้อสั่งอะไรไม่เคยทำตาม หลังจากนั้นก็อย่างที่เห็นวุ่นวายมาจนถึงทุกวันนี้

น่าจะขัดใจแฟนคลับทักษิณแน่ๆ เยอะมากที่นี่

1. ทักษิณไม่ได้จงรักหรือไม่จงรักภักดีหรอกครับ มันคือผลประโยชน์ ทักษิณเล่นการเมืองเป็นและเก่งนะครับ

อย่าคิดว่าเพิ่งเข้าเส้นทางนี้ตอนเป็นนายก เค้ามาก่อนหน้านานพอควรแล้ว

2. ทักษิณเองทำประเทศเจริญจริง เพราะนี่คือครั้งแรกที่ผู้นำรัฐบาลเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักปกครอง นักกฎหมาย

เช่นในอดีต Model การทำงานจำนวนมากจึงเป็น เอกชน ครับ ซึ่งดีแน่นอน

3. เจ้าพ่อคนแรกแห่งประชานิยม ใครจะด่าผมก็ด่าเลยครับ ไม่แคร์ แต่เค้าทำนโยบายประชานิยมจริง

กองทุนหมู่บ้าน!! การใช้สินเชื่อต่างๆมากระตุ้นเศรษฐกิจ การสร้างตลาดสินค้าเพิ่มเติมจากช่องทางเดิมๆ

คือตรงนี้คนอาจไม่คิดแต่ลองมองย้อนนะครับ นักกฎหมายเดิมๆแบบชวน หรืออื่นๆ ผ่านวิกฤติมา

แนวคิดคือประหยัด อดทน ขยันอดออม แต่ในมุมนักการเงินนักธุรกิจ เงินต่อเงินอ่ะเร็วสุดแล้ว

การปล่อยสินเชื่อออกไปช่วยให้เกิดการโตของเศรษฐกิจมากขึ้นเยอะมาก (ถ้ามันเวิร์ค) แล้วลองมองภาพ

ชาวบ้านไม่เคยมี อย่ๆได้มีรถ ตู้เย็น บลาๆ ใครจะไม่ชอบล่ะครับ

ชื่อทักษิณยิ่งเด่นดัง จากนายกธรรมดา เป็นนายกเทวดาเลยล่ะครับ นั่นแหละทำให้รัฐบาลทักษิณ 2

ปัญหาย่อมตามมา ธรรมดาของคนที่ประสบความสำเร็จสูงบางครั้งก็ลืม ซึ่งบางข้อกล่าวหาก็ไม่อาจปฎิเสธได้นะ

เรื่อง พรบ ครู ที่ยื่นไปแล้วผิดพลาดอันนี้ทางเทคนิคจริงๆ ไม่เป็นไร แต่ก่อให้เกิดการใช้สิทธิ Vito ครั้งแรก

ของกษัตริย์ (ซึ่งตรงนี้ผมโอเคมากครับ แสดงว่าทีมงานท่านพิจารณารอบคอบมาก ได้ปฎิบัติหน้าที่กษัตริย์

อย่างดีเลย) แต่

การไปทำบุญวัดพระแก้วนั่นแหละ สาเหตุปัญหานึงเหมือนกันนะผมว่า เพราะมันคือการทาบรัศมี ทาบบารมี

ใครไม่คิดแต่ลองมองว่าคุณเป็น King ที่ๆเฉพาะครอบครัวตัวเองที่ใช้งานได้อยู่ๆมาใช้งานบอกทำบุญประเทศ

วัดอื่นใหญ่ๆก็มี แล้วจังหวะการขออนุญาติ หน่วยงานก็...มันก็ยิ่งทำให้รู้สึกแหละครับแล้วตัวนายกเอง

หลังๆก็ออกอาการไม่น่ารัก สุดท้ายก็เลยตามเลยไป

สรุปสั้นๆ ทักษิณ ก็คนธรรมดาแหละครับ ไม่ได้รักสถาบันอะไร แต่ก็ไม่ได้เกลียดอะไร

เห็นด้วยเลยครับ ตอน 4 ปีแรกนี่ผมชมเลย หลายเรื่องที่ทำไว้นี่ดีมาก ถึงแม้ว่าช่วงแรกที่ขึ้นมาผมจะกังขา เพราะว่ามีปัญหาเรื่องซุกหุ้น แต่ปัญหามันมาเกิดช่วง 4 ปีหลังจริงๆ คือมนุษย์เราคล้ายกันจริงๆ พอยิ่งมีอำนาจมากขึ้น ยิ่งเริ่มมองไม่เห็นหัวใคร คนรู้จักผมหลายคนที่พอได้เป็นใหญ่เป็นโต ก็เริ่มออกอาการแบบนี้เหมือนกัน สงสัยคงจะโดนคนใกล้ตัวยกยอปอปั้นกันเยอะ แล้วค่อยกลับมานิสัยเดิมๆ พอลงจากตำแหน่ง

ที่ผมขำคือ เลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อๆมา ทาง ปชป ก็ยังไม่เรียนรู้ข้อผิดพลาดตัวเอง ทั้งๆที่โอกาสมาแล้ว

รููปแบบ IMC แพ้เพื่อไทยกระจุย ตัวนโยบายอ่ะแทบไม่ต่างบางเรื่องดีกว่า บางเรื่องแย่กว่า

แต่การนำเสนอ บอกเลย ยังนักกฎหมายสไตล์แบบเดิม = ="

คนถัดมาที่ทำได้ดีคือ อนาคตใหม่ นี่แหละพื้นฐานนักกฎหมายกับนักธุรกิจ มันต่างกันมาก

ไม่ใช่นักกฎหมายไม่ดีนะ แต่คุณไม่รู้จะทำไงให้ผู้บริโภคซื้อคุณไง

ผมว่าสงสัยประชาธิปัตย์คงไม่ได้พลาดแค่การนำเสนอแน่เลย แต่ไม่มีคนที่เข้าใจและสามารถเอานโยบายไปใช้จริงได้เหมือนเพื่อไทย เลยยิ่งแพ้เละ สรุปคือแย่ทั้งทฤษฎี และปฏิบัติเลย เลยยิ่งวนลูปจมลงเรื่อยๆ ไม่ฟื้นอีกเลย เพราะชื่อเสียงนี่มันกู้คืนมายากสุดหละ เมื่อคนหมดความเชื่อใจไปแล้ว