ใข้คำว่าลดจะยั่งยืนแต่ไม่กินดีที่สุดก็เปลี่ยนจากกินน้ำหวานขนมก็เปลี่ยนไปกินน้ำเปล่า หรือชาไม่มัน้ำตาลแทนครับตอนผมปรับก็ทำแบบนี้

จากประสบการณ์เป็นเบาหวานมา 3 ปี

หักดิบได้ แต่เสี่ยงตบะแตก

ค่อยๆลดก็ดี ตั้งเป้าหมายสั้นๆทีละหน่อย ค่อยเป็นค่อยไป

เลี่ยงสารแทนความหวานได้จะดีกว่า ให้ร่างกายเลิกติดความหวาน

อย่าลืมตรวจดวงตาและเท้า ระวังเรื่องการเป็นแผล

ทำใจไว้เลยว่าใช้ชีวิตลำบากขึ้นแน่ๆ แต่ถ้าเปลี่ยนพฤติกรรมได้ระยะยาวก็ชิลขึ้น

เท่าที่ผมทราบมา ร่างกายเราก็ต้องการน้ำตาลนะครับ การจะไม่กินหวานเลยคงเป็นไปไม่ได้ครับ เรียกว่าต้องควบคุมให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมมากกว่า ยิ่งถ้าเป็นเบาหวานด้วยแล้ว การจะหักดิบไม่กินน้ำตาลเลย อาจถึงขั้นช็อกเสียชีวิตได้เลยนะครับ

ปล.ถ้าข้อมูลผิดพลาดต้องขออภัยด้วยครับ

มันจะอยากกินหวานครับ

55

ผมออกกำลังกายประจำ กินอาหารโคตรเลือก ยังหยุดไม่ได่เลย

โรตี ปังเย็น อะไรกรอบๆ มันๆ หวานๆ นี่ผมโคตรชอบ

ขอแนะนำว่า ให้ศึกษาอาหารที่เราจะทาน เป็นอาหารประเภทใด และเมื่อทานเข้าไป ร่างกายจะได้อะไรจากสิ่งที่เราทาน

ยกตัวอย่างข้าวก็แล้วกัน ข้าวเป็นคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงาน ร่างกายเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล ท่านลดขนมหวานแต่ทานข้าวหลายทัพพี ก็เหมือนเติมน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายทางอ้อม

โชคดีสำหรับผมครับผมไม่กินกาแฟ ถ้ากินแล้วเวียนหัว

ถ้าหักดิบไปเลย มันจะรู้สึก หน้าจะมืดช่วงที่ต้องใช้พลังงานเยอะๆช่วงออกกำลังกายเงี้ยครับ อาจจะหาพวก ผลไม้มีน้ำตาลไม่มากกินแทนอันนี้ได้

ถึงเราจะงดน้ำตาลเชิงซ้อน แต่เราก็ได้รับน้ำตาลเชิงเดี่ยวจากผักผลไม้อยุ่แล้ว

หักดิบไม่ได้มีผลอะไรกับร่างกายโดยตรง ยกเว้นว่าคุณมีโรคประจำตัวอยู่

เอาใจช่วยครับ ผมก็กำลังพยายามลดน้ำหนักเหมือนกันครับ

อันนั้นในกรณีที่เราไม่กินแป้งไม่กินผลไม้ด้วยครับ ถึงจะเกิด น้ำตาลในเลือดตกครับ ถ้ายังกินข้าวอยู่ กิน ขนมปัง กิน ผลไม้ยังไงก็ไม่เป็นไรครับ

เป็นความคิดที่ดีครับในการลดการกินหวาน ดีต่อร่างกายเรา ลดความเสื่อมของเซลล์ซึ่งเป็นต้นตอของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหลายๆโรค ส่วนการเลิกการกินหวานนั้นหากเลือกที่จะหักดิบ สิ่งที่ต้องเผชิญคือน้ำตาลในเลือดจะตกเร็วเกินไป ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทัน อาการเวียนหัว หัวตื้อ ซึม ไม่ค่อยสดชื่นจะมีแน่นอน ยิ่งถ้าออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย ยิ่งแรงหมดเร็ว

น้ำตาลก็คือส่วนนึงของคาร์โบไฮเดรตซึ่งต้องได้รับต่อวันอยู่แล้วจากข้าว แป้ง ส่วนของหวานมันคือส่วนเกินที่เราได้รับแบบไม่จำเป็น หากต้องการลดการกินหวานก็ควรลดของหวานที่เป็นส่วนเกินพวกนี้แหละ ค่อยๆลดเป็นขั้นๆไป เช่น เริ่มลดปริมาณเค้กให้ชิ้นเล็กลงหรือสั่งน้ำต่างๆแบบหวานน้อย ให้ร่างกายเคยชินและก็ลดไปเรื่อยๆจนเลิกได้

ยังไงซะพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตก็ยังจำเป็น เราแค่ควบคุมไม่ให้รับเกินปริมาณที่กำหนดต่อวันก็โอเค