คล๊อปใช้เวลา 4 ปี
เป๊ปใช้เวลา 1ปี
ส่วนคอนเต้มาปุ๊ปใช้แชมป์ปั๊บ แล้วก็ไปแล้ว

สำหรับ Pep กับแมนซิใช้เวลาปรับตัวแค่ปีเดียวเองมั้งครับ

ส่วน Liverpool กว่า JK จะนำทีมกลับมายิ่งใหญ่ได้นี้อย่างหนักเลย

ครึ่งปีแรกเข้ามา นักเตะมีแต่เกรด B รับต่อจาก BRเลย ไม่มี Gerrard Suarez Sterling อะไรเลยด้วยซ้ำ ของดีในทีมมีแค่ Sturridge Milner Lallana กับ Coutinho ที่ฝากความหวังได้ นอกนั้นพวก Firmino ก็ใหม่มากๆ

ปีแรก 15-16 เน้นลองทีมเต็มตัว ก็คือปีใหม่ JK ซื้อแค่ Grujic และปล่อยยืม กับยืม Caulker มาเล่นหน้าเท่านั้น พลาดการได้ตัว Alex Teixeira นอกนั้นคือให้โอกาสนักเตะในทีมอย่างเต็มที่เพื่อลองทีม แต่มาปีแรกจะบอกว่าดีเลยก็ได้ เพราะพาเข้าชิงบอลถ้วย กับชิงยูโรป้า แต่ก็แพ้ทั้งคู่ ชนะแบบสวยๆหลายเกม ตอนนั้นมาปีแรกพกระบบวิ่งเพลสแบบรากเลือดเข้ามาด้วย ทำให้นักเตะเจ็บกันเพียบ ตัวแทบจะไม่มีใช้ เพราะนักเตะล้ากันเร็วมากๆ ไม่ชินระบบเลย

ระหว่างซีซั่นนี้กับซีซั่นหน้า JK เปลี่ยน staff หลายฝ่ายมากๆ กว่าจะลงตัว

16-17 คุมเต็มๆปีแรก จัดการโล๊ะนักเตะที่ไม่ได้ออกเพียบ และซื้อตัวแกนหลักจนถึงตอนนี้มาคือ Mane & Wijnaldum ตอนแรกจินี่มาแฟนๆหวังจะได้ playmaker ตัวจิ๊ด ที่ไหนได้ JK จับมาเล่น CM เต็มตัวจ้า และปีนี้เอง Firmino ค่อยย้ายมาเล่น False Nine และมีฟอร์มสุดเทพจาก Mane & Coutinho นักเตะยังคงเพลสกันอย่างบ้าคลั่ง แต่ระบบ ยังไม่ลงตัว คนที่ปรับตัวได้คนแรกมีแค่ Lallana จบซีซั่นด้วยการพาทีมจบ Top 4 กลับไปเล่น UCL มีการดัน TAA ขึ้นมาเบาๆ

17-18 วางรากฐานทั้งในทีม staff อื่นๆหมดแล้ว ปีนี้ระบบเริ่มลงตัว นักเตะเริ่มชินกับระบบจริงๆ ไม่วิ่งกันจนเกินเลย ไม่ล้ากันง่ายแล้ว และเริ่มท้าทาย ความสำเร็จแล้ว เปิดมาด้วยการเสริม Salah Robbo Ox และการดัน TAA ขึ้นมาเต็มตัว ทำให้ทีมได้ Key Man 3 คนมาแล้ว JK เลือกจะไม่ซื้อกองหน้าและใช้ Firmino เล่น False Nine เต็มตัว สี่เทพ Countinho Salah Mane Firmino ฟอร์มดีเหลือเกิน ทำให้ Salah ระเบิดฟอร์มยิงกระจายตั้งแต่ปีแรก นักเตะหลายๆคนกับมาเล่นดีเช่น Moreno แต่ก็ดันซวยเจ็บ เป็นโอกาสให้ Robertson ก้าวขึ้นมาได้ ปีนี้ TAA ยังคงเป็นแพะ เพราะความรั่วในเกมรับ ทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่สุดท้ายคูตี้มาทิ้งไป แต่กลับกันได้ VVD เข้ามาแทน แต่การออกของคูตี้ไม่มีผลอะไรกับทีมเท่าไหร่ กลับกันการมาของ VVD เติมเต็มหงส์ให้กลายเป็นยอดทีม เข้าชิง UCL ถึงแม้ Salah จะโดนเล่นงาน และ Karius ปล่อยของก็เหอะ จนได้แค่รองแชมป์

18-19 ทุกอย่างในทีมของ JK ลงตัวแล้ว ทั้งแนวรุก แดนกลาง และเสริมด้วยแนวรับ นักเตะใหม่ Alisson Fabinho Shaqiri Keita เข้ามาเติมทีม ในเยี่ยมกว่าเดิม และปีนี้ แนวรุกยิงกระจาย แนวรับเสียประตูยาก โกลเซฟเทพ กลางยังคงวิ่งควาย และที่สำคัญที่สุดคือแจ้งเกิด Fullback TAA+Robbo เต็มตัว ระบบลงตัว พาทีมคว้าแชมป์ UCL แบบเหนือๆ ทั้งปีแพ้นัดเดียวในลีก ในลีกจบด้วยการเป็นรองแชมป์ที่แต้มเยอะที่สุดในประวัติ EPL และตามแมนซิแค่จิ๊ดเดียวจริงๆ


19-20 หงส์กลับมาเป็นทีมที่น่ากลัวที่สุดของยุโรปอย่างแท้จริง JK เลือกจะไม่เสริมนักเตะ โดนบ่นยับ ที่ไหนได้พาทีมชนะรวด จะมาเสียก็หลังช่วงโควิทนี้แหละ ทำให้มีหลุดแพ้ แถมได้แชมป์เร็วนักเตะเลยชิล เซฟตัวกันสะเยอะ ถึงแม้จะวืด UCL แต่ก็ได้แชมป์ EPL สมัยแรกมาได้แบบเหนือชั้นอีกแล้ว แถมยังได้แชมป์ Super Cup, สโมสรโลกอีกด้วย


จนมาปีนี้ฟอร์มอาจจะดูหลุดๆไปบ้าง แต่ก็ยังคงน่ากลัว แถมเสริมนักเตะชั้นอ๋องแบบ Thiago Jota มาอีก ปีนี้น่าจะได้ลุ้นหลายถ้วยยาวๆล่ะนะ




ตัว timeline คือ

JK ใช้ ครึ่งซีซั่นในการลองทีมล้วนๆ เพื่อดูว่านักเตะคนไหนควรจะอยู่หรือไป และอีกหนึ่งปีในการเซ็ทระบบทีมให้ลงตัว และค่อยๆหานักเตะที่เข้ากับระบบเข้ามา รวมถึง staff coach ด้วย

ใช้อีกหนึ่งปีเพื่อลองระบบ นักเตะ staff coach ที่เซ็ทมาให้จนลงตัว

สรุป JK ใ้ช 2 ปีครึ่งในการวางระบบทีม และโค้ชกับ staff ปล่อยนักเตะ ซื้อนักเตะที่จำเป็น

และอีก 1 ปีก็ซื้อนักเตะให้ครบตำแหน่งตามต้องการ

= 3 ปีครึ่งกว่า JK จะได้ 11 ตัวจริงที่ดีที่สุด ประกอบไปด้วย Alisson - TAA - Robbo - VVD - Matip - Fabinho - Henderson - Wijnaldum - Salah - Mane - Firmino

จากนั้นก็ค่อยๆต่อยอดความสำเร็จมาด้วยการเสริม Thiago Jota Minamino

Jk เข้ามาคือมีรูปแบบการเล่นที่ชัดเจนเลยครับ พร้อมกับการเรียนรู้รูปแบบของบอลพรีเมียร์ลีคไปด้วย สถิติอัตราการวิ่งในแต่ละปีลดลงตลอด
ด้วยระบบของ jk ต้องใช้เวลาในการเข้าใจระบบอยู่แล้ว+ความสามารถของนักเตะด้วย

ส่วนตัวคิดว่าทั้งสองคนมาถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนเกิดขึ้นทั้นทีครับ

คือโดนล้อเพราะผลงานไม่ค่อยดีแต่ดูวิธีการเล่นแล้วเราเชื่อว่าทีมยกระดับแน่นอนจากการคุมของกุนซือสองท่านนี้

JK ตอนแรกก็มีโดนด่า โดยเฉพาะเรื่องวิ่ง


มีนักวิจารณ์ติงเยอะว่าวิ่งเยอะเกินไป จนมีผลกระทบท้ายซีซั่น


แต่ปีต่อมาก็ยังวิ่งเยอะอยู่แต่ผลงานดีขึ้น จนตอนนี้หลายๆทีมที่ผลงานดีก็ค่าเฉลี่ยในการวิ่งต่อเกมส์สูงขึ้นมาก


ขอแค่ผลงานดี คำวิจารณ์มันก็จะจางไปเอง

มันต่างกันตรงที่ JK กับ Pep

มีผลงานการันตีมาก่อนแล้ว

เลยไม่ต้องมีอะไรให้พิสูจน์ตัวเองมากนัก

JK มาปีแรกไม่ถึงกับพัง(เพราะของเดิมมันพังอยู่แล้ว ฮาาา) ได้เข้าชิงบอลถ้วย ใช้นักเตะเดิมปรับจูนตามแทคติคใหม่ ตอนนั้นถือว่าไปได้สวยเพราะก่อนหน้านั้นเล่นไร้ทรงอย่างมาก แทคติคโครตสุดแต่นักเตะไม่สุดตามเลยมาตกม้าตายตอนท้ายๆฤดูกาล

สรุปมาปีแรกแค่พอเห็นทรงบอล เห็นทิศทางที่คล็อปกำลังจะพาไป ผมก็โอเคแล้วครับ

เอาแค่ปีแรกนะครับ ตัดเรื่องถ้วยรางวัลออกไป คาแรกเตอร์ทีมต้องชัดบนพื้นฐานของการเล่นเกมรุก

คล็อป บอลวิ่งควายเกเก้นเพรส ยิงมายิงกลับ ใครยิงเยอะกว่าชนะ
เป็บ ติกต้อกพาสซิ่ง เล่นบอลครึ่งสนาม ขึงคู่แข่งจนต้องร้องขอชีวิต

ยิ่งเป็นยูเว่ ทีมเบอร์1ของลีคแถมมีซุปตาร์โด้อยู่ในทีม เกมรุกต้องปรุงให้เนี้ยบ ถ้ามาแบบครึ่งๆกลางๆยึกๆยักๆก็เตรียมเปลี่ยนชื่อเป็นปิลวยได้เลย

นึกถึงแล้วก็ตลกคนที่บอกว่าเป๊บคือโล้นจิบน้ำ

ให้ 3 ปี
ปีแรก ปรับแก้
ปีสอง ซื้อเพื่อเข้าแทคติคและระบบ บอลถ้วยก็น่าจะทะลุรอบลึก
ปีสาม ต้องมีลุ้นแล้ว บอลยุโรปต้องมีรอบลึกๆ

เป็ป โล้นจิบน้ำ

คล็อปป์ นี่ถ้าจำไม่ผิดโดนล้อฟันเหลืองปะ

ก่อนจะไปทำสีฟันกับฟีร์มีโน่ โคตรขาว

กรุณาอย่าเรียกตาแว่นด้วย คว้าแชมป์มาให้เท่าไหร่แล้ว

มันพูดยากนะ คือ หงส์ตอน JK เข้ามา ทีมก็ไม่ได้ดีหรอก แต่ชัดเจนว่า ทุหคนวิ่งเยอะขึ้นมากๆ วิ่งไล่สุดๆ

คือเห็นชัดว่าจะเล่นแบบนี้ วิธีการแบบนี้

กว่านักเตะจะเข้าใจระบบ และได้นักเตะที่เล่นเข้ากับระบบได้ ก็ 2 ปีมั่ง

คือทุกคนรู้ว่า

เป๊บชอบมีบอลกะตัวเยอะๆ ขึงคู่แข่ง
JK วิ่งเยอะ แย่งบอลกลับมา สวนไว

แต่....ปิโร่ ยังไม่มีตรงนี้มั่งครับ คือภาพมันยังมัวๆ ไม่รู้ว่าเค้าเล่นแบบไหน

ลองดูมรดกที่ได้รับตอนเข้ามาทำทีมสิครับ

จขกท หาพวกใช่มั๊ยครับ

เอาจริงๆไม่น่ายกพวกเป๊บ คลอปป์มาเทียบเลย เพราะสองคนนี้เค้าโปรไฟล์ดีมากตั้งแต่มาอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องการคุมทีม แต่เป็นเรื่องบุคลิก บารมีต่างๆมาครบองค์เลย ถ้าจะเทียบจริงๆ ต้องเทียบกับพวกยุคใหม่ที่สำเร็จแล้วหรือไม่ก็ย้อนกลับไปสมัยพวกโค้ชเก่งๆขึ้นมาใหม่ๆ ซึ่งบอกได้เลยว่าให้ทำใจครับ นอกนั้นต้องตะลุยหาประสบการณ์แล้วก็เก่งขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เห็นๆก็อาจจะกัตตูโช่

แต่ถ้าจะเป็นส่วนน้อยก็จะมีแค่ซีดานเองที่ขึ้นมาแล้วโหดเลย เอาจริงๆปีร์โล่ก็หวังแบบซีดานได้นะ ทั้งเรื่องบุคลิก ขุมกำลังในลีค แต่อยากให้ทำใจมากกว่าว่าไม่ง่าย

ส่วนตัวถ้าคิดแบบในละคร ผมอาจจะแช่งให้แกคุมทีมไม่ดีแล้วแตกหักกับยูเว่ เผื่อแกจะซมซานกลับมาเป็นตำนานมิลานแบบอันเช่ (ล้อเล่นนะครับ ผมเอาใจช่วยแกเต็มที่ คนนี้ผมรัก)