33 ยังแจ๋ว!'วาร์ดี้' ฉีกแนวรับเรือ 'กดแฮตทริก' จิ้งจอกทำช็อกถล่ม 5-2
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงกับไปไม่เป็นเมื่อต้องมาเจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ งานละเอียดเล่นแทคติกส์เกมรับ 4-5-1 รอโต้กลับอย่างมีวินัยจนได้ดี ทำ 4 ประตูรวดแซงหน้าเข้าป้ายพลิกชนะไป 5-2 เจมี่ วาร์ดี้ ในวัย 33 ปี ยังเด็ดดวง ป่วนแนวรับเรือใบและกดแฮตทริกได้สำเร็จ ก่อนเจมส์ แมดดิสัน และยูริ ทีเลอม็องส์ ทำเพิ่มให้ทีมอีกคนละประตู เจ้าถิ่นเสีย 5 ประตูครั้งแรกใน 438 นัดที่เอติฮัด และเป๊ปคุมทีมเสีย 5 ประตูครั้งแรกใน 686 เกม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1
25.
แฟร์นานดินโญ่
51'
6.5
47.
ฟิล โฟเด้น
64'
5.5
ตัวสำรอง
21.
เฟร์ราน ตอร์เรส
64'
6
48.
เลียม ดีแลป
51'
6
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2563
กรรมการ ไมเคิล โอลิเวอร์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
2
5
เลสเตอร์ ซิตี้
1-0 ริยาด มาห์เรซ 4'
2-4 นาธาน อาเก้ 84'
1-1 เจมี่ วาร์ดี้ 37' (Pen.)
1-2 เจมี่ วาร์ดี้ 54'
1-3 เจมี่ วาร์ดี้ 58' (Pen.)
1-4 เจมส์ แมดดิสัน 77'
2-5 ยูริ ทีเลอม็องส์ 88' (Pen.)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านในเกมที่พวกเขามีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพียบ ไม่มี 2 หัวหอกธรรมชาติอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ และกาเบรียล เชซุส ต้องดันผู้เล่นจากทีมเยาวชน ที่เพิ่งโชว์ผลงานได้ดีในเกมคาราบาว คัพ ขึ้นมาเสริมที่ซุ้มม้านั่งสำรอง ทั้งแซค สเตฟเฟ่น, ทอมมี่ ดอยล์, โคล พัลเมอร์ และเลี่ยม ดีแลป
ในเกมรุก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกใช้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ขยับขึ้นเป็นยืนหน้าเป้า มี 3 เกมรุกเป็น เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น และริยาด มาห์เรซ ในเกมรับเลือก เอริค การ์เซีย จับคู่กับนาธาน อาเก้
เลสเตอร์ ซิตี้ วางแผนมาตั้งรับแล้วสวนกลับชัดเจนจากระบบ 5-4-1 มีทีเด็ดอยู่ที่ เจมี่ วาร์ดี้ และฮาร์วี่ย์ บาร์นส์
เรือนำเร็ว 1-0 จากลูกยิงเต็มข้อของมาห์เรซ
แมนฯซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำไว จากจังหวะที่แนวรับเลสเตอร์ ซิตี้ สกัดบอลทิ้งลูกมาตกเข้าทาง มาห์เรซ วิ่งเข้ามาสวนตูมเสียบสามเหลียมเสาไกลสุดปัญญาชไมเคิลจะป้องกัน
เลสเตอร์ไม่ลนยังรับรอโต้กลับตามแผน
เลสเตอร์ ยังเล่นตามแผนที่เตรียมมาคือเน้นเกมรับเหนียวแน่น แล้วใช้เกมโต้กลับเร็วจากผู้เล่นที่มีความคล่องตัวอย่าง เจมี่ วาร์ดี้ และฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ทุกครั้งที่มีโอกาส
ราฮีมทำชิ่งได้ยิงแต่เบาไป
โอกาสอีกครั้งของแมนฯซิตี้ จังหวะสเตอร์ลิ่ง ทำชิ่งกับมาห์เรซ ได้หลุดเดี่ยวยิงเสาใกล้ น้ำหนักทิศทางยังเอาชนะชไมเคิลไม่ได้
แฟร์นานดินโญ่ได้โขกชไมเคิลรับหนึบ
แมนซิตี้ ที่ขลึงเกมบุกอยู่ฝ่ายเดียว มีลุ้นจากฟรีคิกของเดอ บรอยน์ เปิดไปเสาไกลเข้าหัวแฟร์นานดินโญ่สบัดโขกไปตรงตัวชไมเคิล
วาร์ดี้จับบอลลั่นไม่งั้นเรือมีร้อง
เกมโต้กลับของเลสเตอร์ก็น่ากลัว แต่จังหวะสุดท้าย วาร์ดี้ ดันจับบอลลั่นไม่งั้นได้หลุดเดี่ยวล่อเป้ากับเอแดร์ซอนอย่างแน่นอน
โรดี้โขกเข้าแต่ถูกจับล้ำหน้า
เดอ บรอยน์ ฟรีคิกตำแหน่งเดิมไปที่เสาไกล คราวนี้ โรดรี้ เทคตัวโหม่งบอลเสียบตาข่ายได้สำเร็จ แต่มีธงล้ำหน้า ไม่ได้ประตู สกอร์ยัง 1-0 เช่นเดิม
วาร์ดี้เรียกจุดโทษสำเร็จ
แมนฯซิตี้ บุกอย่างข้างเดียว แต่เลสเตอร์มีทีเด็ดอยู่ที่ตัวรุก เมื่อจังหวะนี้บาร์นส์ ไหลบอลให้วาร์ดี้ หลุดเข้าเขตโทษก่อนโดนวอล์คเกอร์เกี่ยวล้ม ได้จุดโทษทันที
วาร์ดี้ซัดโทษเต็มข้อตีเสมอ 1-1
วาร์ดี้ ลุกขึ้นมาสังหารจุดโทษเอง เลือกซัดเต็มแรงส่งบอลเสียบตาข่ายตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ
จบครึ่งเลสเตอร์รับแน่นโต้กลับได้ลุ้น
แมนฯซิตี้ ครองบอลเยอะกว่าก็จริง แต่เลสเตอร์เลือกแพคเกมรับเหนียวแน่นทำให้พวกเขาไม่มีช่องเจาะในพื้นที่สุดท้าย ขณะเดียวกันหมากโต้กลับของรอดเจอร์สก็สุดอันตราย ขึ้นเกมมาทีได้ลุ้นตลอด
เดอ บรอยน์ซัดทัพทายก่อนเลย
ออกสตาร์ตครึ่งหลัง แมนฯซิตี้ได้ลุ้นก่อนเลยจากลูกยิงนอกกรอบของเดอ บรอยน์ ที่วิ่งหลุดเสาไกลออกหลังไป
เป๊ปแก้เกมไว้ส่งหนูดีแลปทำเกมรุก
ไม่ต้องรอนาน เป๊ป ติดไวทำไว แก้เกมถอดเอามิดฟิลด์ตัวรับอย่างแฟร์นานดินโญ่ออก แล้วอัดเกมรุกเข้าไป เป็นเจ้าหนูดีแลป วัย 17 ปี ในตำแหน่งศูนย์หน้า
มาห์เรซได้โอกาสยิงเองไม่ตรงกรอบ
โอกาสทองของแมนฯซิตี้ จากมาห์เรซ ได้บอลหน้าเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายไม่ไหลให้โฟเด้นตามช่อง แต่เลือกยิงเองไม่ตรงกรอบ
วาร์ดี้ไขว้หลังยิงเหนือชั้น,เลสเตอร์พลิกนำ 2-1
งานเข้าแมนฯซิตี้เต็มๆจากทีเลอม็องส์ แทงบอลตามช่องให้ คาสติเญ่ วิ่งสอดถึงสุดเส้นหลัง ก่อนตบเข้ากลางให้ วาร์ดี้ ไขว้หลังยิงเข้าเสาแรกผ่านตัวเอแดร์ซอนเข้าประตูอย่างเหนือชั้น
การ์เซียเสียท่าวาร์ดี้ทำเสียจุดโทษ
หายนะมาเยือนแมนฯซิตี้ เมื่อ การ์เซีย ไปเสียท่าให้กับวาร์ดี้ โดนหัวหอกเลสเตอร์วิ่งโฉบถึงบอลก่อนกลายเป็นทำฟาวล์เสียจุดโทษทันที
วาร์ดี้ซัดเองไม่พลาด 3-1 ทำแฮตทริกสำเร็จ
วาร์ดี้ ทำหน้าที่ของตัวเอง ลุกมาสังหารจุดโทษ เสียบมุมขวาอย่างเด็ดขาด เป็นแฮตทริกและประตูที่ 5 ของซีซั่นนี้่แล้ว
ดีแลปได้โขกชนคาน
ดีแลป มีโอกาสลุ้นครั้งแรกจากลูกโหม่งไปชนคานออกหลัง
เรือยังเจาะแนวรับจิ้งจอกไม่สำเร็จ
เข้าช่วง 20 นาทีสุดท้าย แมนฯซิตี้ ครองบอลเยอะแต่ยังเจาะแนวรับที่สุดแน่นหนาของทีมจิ้งจอกไม่สำเร็จ
แมดดิสันยิงสุดสวยหนีไปไกล 4-1
สกอร์ไปไกล 4-1 จากลูกยิงสุดสวยของแมดดิสัน ที่ลงสำรองมาไม่ถึง 10 นาที ซัดสุดสวยนอกกรอบฮุคเสียบเสาไกลอย่างดงาม
อาเก้โขกเตะมุม 4-2 ยังพอได้ลุ้น
แมนฯซิตี้ยังพอได้ลุ้น เมื่อ อาเก้ เทคตัวโขกลูกเตะมุมเข้าประตุไปให้เจ้าถิ่นไล่มาเป็น 4-2
เรือเสียจุดโทษที่ 3 ในนัดนี้
เผลอแปปเดียว แมนฯซิตี้ มาโดนจุดโทษที่ 3 ในเกมนี้ เมื่อเมนดี้ไปทำฟาวล์แมดดิสันในเขตโทษ
ทีเลอม็องส์ซัดเองไม่พลาด 5-2
วาร์ดี้ไม่อยู่แล้ว คนทำหน้าที่เป็นทีเลอม็องส์ ที่ซัดเข้าทางขวาอย่างมั่นใจ สกอร์ไปไกล 5-2 แล้ว
หมดเวลา แมนฯซิตี้ ทำช็อกโดนเลสเตอร์ ซิตี้ ยำเละเทะคารัง 5-2 จากผลงานอันยอดเยี่ยมของ เจมี่ วาร์ดี้ ที่ทำแฮตทริกได้ในนัดนี้ด้วย
เลสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 5-4-1
6.
จอนนี่ อีแวนส์
80'
7
26.
เดนนิส ปราต
69'
7
9.
เจมี่ วาร์ดี้
85'
9.5
ตัวสำรอง
28.
คริสเตียน ฟุคส์
80'
6.5
14.
เคเลชี่ อิเฮียนาโช่
85'
6
10.
เจมส์ แมดดิสัน
69'
7.5
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Mon Sep 28, 2020 07:20, ทั้งหมด 25 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ