ยกฟ้องสิบล้อมียาบ้า 1 เม็ด ชี้พยานหลักฐานได้มาไม่ชอบ มีเหตุควรสงสัย
ศาลยกฟ้องโชเฟอร์สิบล้อ วัย 47 ปี ชาวชุมพร ถูกตำรวจด่านสามร้อยยอดจับแจ้งข้อหาครอบครองยาบ้า 1 เม็ด ระบุคดีมีเหตุควรสงสัยจึงยกประโยชน์ให้จำเลย เจ้าตัวเตรียมฟ้องกลับตำรวจชุดจับกุม ทำให้เสียโอกาส ถูกยึดใบขันขี่ ต้องไปเป็น รปภ.หาเลี้ยงชีพ
จากกรณีนายโสภณ วงศ์สวัสดิ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/26 หมู่ 5 ตำปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร คนขับรถบรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 70-2434 ชุมพร ตกเป็นผู้ต้องหาหลังถูกตำรวจด่านตรวจ สภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับกุมแจ้งข้อหาครอบครองยาบ้า 1 เม็ด บริเวณที่วางของด้านข้างที่นั่งคนขับ ขณะบรรทุกยางพาราจาก จ.ชุมพร ไปส่งที่ จ.ระยอง แต่นายโสภณ ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา
ต่อมา สื่อออนไลน์ได้มีการนำคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ภายในห้องโดยสารหน้ารถบรรทุก 10 ล้อ ออกมาเผยแพร่ระหว่างเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น มีลักษณะไม่ชอบมาพากล คล้ายมีการยัดยาบ้าโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อขอความเป็นธรรม หากมีการยัดยาบ้าทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย
ความคืบหน้า ล่าสุดวันที่ 22 ก.ย. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 4 ศาลจังหวัดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้นัดพร้อมพนักงานอัยการฝ่ายโจทก์ และจำเลย จากนั้นผู้พิพากษาใช้เวลาอ่านคำพิพากษา 10 นาที ให้ยกฟ้องจำเลยในคดีดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนายแรกขึ้นไปค้นหายาเสพติดบริเวณหน้ารถ แต่ไม่พบยาเสพติด ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกรายขึ้นไปค้นแล้วพบยาเสพติดยาบ้า 1 เม็ด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรายอื่นไม่พบเห็นยาเสพติดดังกล่าว และขณะตรวจค้น จำเลยไม่ได้อยู่ร่วมด้วย พยานหลักฐานที่ได้มาจึงไม่ชอบ คดีมีเหตุควรสงสัย ศาลพิเคราะห์แล้วจึงยกข้อสงสัยให้เป็นประโยชน์ของจำเลย
นายโสภณ วงศ์สวัสดิ์ กล่าวว่า ช่วงระหว่างต่อสู้คดีตนเสียโอกาสมาก ทำให้ขาดอาชีพ และรายได้ ทั้งค่าผ่อนรถยนต์ ค่าผ่อนบ้าน แต่บางเรื่องก็ได้รับการพักชำระหนี้ไว้ก่อน เพราะตนต้องถูกเรียกสอบปากคำ อีกทั้งต้องเตรียมตัวสู้คดี และเดินทางไปขึ้นศาลหลายครั้ง ทำให้ตนเสียโอกาสและได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก หลังศาลมีคำพิพากษา ได้หารือกับทีมทนายความเพื่อติดตามว่าภายใน 30 วัน พนักงานอัยการจะพิจารณายื่นอุทธรณ์ในคดีดังกล่าวหรือไม่ เพื่อจะเดินหน้าฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทั้งหมดที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ ซึ่งตนยืนยันในความบริสุทธิ์มาตลอด อีกทั้งผลการตรวจหาสารเสพติดของกระทรวงยุติธรรมยังพบว่าตนไม่เคยเสพสารเมทแอมเฟตามีน
นายโสภณ กล่าวว่า ตอนนี้ตนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความยุติธรรมมีจริง และอยากให้ผู้ที่ถูกกระทำแบบตน อย่าได้ยอมให้กับเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ให้ลุกขึ้นสู้เพื่อให้การทุจริตคอร์รัปชัน การรีดไถหมดไป และฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย ตำรวจไม่ดีไม่ควรให้อยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือโยกย้ายไปทำชั่วที่อื่นอีก อยากให้ไล่ออกไปเลยจะดีกว่า
นายโสภณ กล่าวด้วยว่า หลังจากถูกดำเนินคดีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมาได้สูญเสียโอกาสหลายอย่าง โดยเฉพาะครอบครัวอยู่ในสถานะยากลำบาก เนื่องจากขาดรายได้หลักจากประกอบอาชีพขับรถสิบล้อ ได้เงินเดือน เดือนละ 2 หมื่นกว่าบาท ปัจจุบันต้องไปทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยได้เงินเดือนเพียง 1 หมื่นบาท นอกจากนั้น ยังถูกยึดใบขับขี่สาธารณะไม่สามารถกลับไปประกอบอาชีพรับจ้างขับรถบรรทุกได้เหมือนเดิม.
ตลิปข่าวเมื่อปลายปี62ครับ
ขอขอบคุณที่มา ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1935081?fbclid=IwAR2qhc5FO_WzDy8oPjpr_BJMBd3-AygwXyuUYr4KOl9c1_if6TW_aeDnilQ