แค่คาดเดานะจ๊ะ ผล predict อาจจะไม่ถูกใจบ้าง ลองเล่า predict ของคุณให้ผมฟังบ้างสิ

AFC EAST


Buffalo Bills
เกมป้องกันอันโดดเด่นของ Bills จะทำให้พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นราชาของ AFC East แทน New England Patriots แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกเขาต้องทำคะแนนให้ได้มากกว่านี้ การมาของ Stefon Diggs จะทำให้เกมขว้างของ Josh Allen มีความอันตรายมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆ มา

2019 record: 10-6
Key Acquisitions: Stefon Diggs (from Vikings)
Key Losses: Jordan Phillips (to Cardinals)

ปีที่ผ่านมา Bills ถูกค่อนขอดเรื่องเกมบุกอยู่ไม่น้อยว่าไม่หลากหลาย โดยเฉพาะเกมขว้าง พวกเขาไม่มีปีกนอกระดับซุปตาร์ ทำให้ปีนี้ทีมทุ่มจัดหนักเอาสิทธิ์รอบแรกไปขอแลกกับ Stefon Diggs ของ Minnesota Vikings เรียกว่าจ่ายแพงเอาการ แต่แลกกับการได้ตัวที่จะมาแก้ปัญหาเรื่องรับบอลเชิงลึก นั่นก็ฟังดูเข้าท่าสำหรับทีมที่ได้รับการจัดอันดับว่ามี QB ที่มีพลังแขนดีที่สุดของลีกอย่าง Josh Allen เพราะปีที่ผ่านมามีเพียง John Brown คนเดียวที่เป็นตัวเลือกของเขา เมื่อถูกประกบชิด ก็ทำให้ Josh Allen ต้องวิ่งมากขึ้นอย่างที่เห็น การได้ Stefon Diggs มาทำให้ปีนี้เราอาจจะได้เห็น Allen วิ่งน้อยลง นั่นฟังดูไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่สำหรับคนที่เล็งเขาใน fantasy เพราะปีที่ผ่านมาเขาขโยกไปคนเดียว 510 หลากับอีก 9 touchdowns ปีนี้เกมวิ่งของพวกเขาปล่อยลุง Frank Gore ออกจากทีมไป หลังจาก Devin Singletary ดาวรุ่งที่ดราฟต์มาในปีก่อนโชว์วิ่งคนเดียว เกือบๆ 600 หลาใน 7 เกมสุดท้าย แม้จะไม่ได้เข้าทำใน endzone ไปมากมายก็ตาม ปีนี้พวกเขาดราฟต์ Zack Moss ขาวิ่งสายลุยจาก Utah มาร่วมทีมเป็นหมัด 1-2 ร่วมกับ Singletary แต่อย่าไปคาดหวังมากเพราะ Bills ไม่ค่อยสลับ RB ซักเท่าไหร่

Bills ยังคงมุ่งมั่นกับการสร้างทีมรับอย่างต่อเนื่อง จนบางครั้งเราก็สงสัยว่า ที่มีอยู่ก็ดีมากๆ อยู่แล้ว ทำไมพวกเอ็งยังขวนขวายเสริมเติมปรุงแต่งอยู่อีกวะ ปีนี้พวกเขาเสีย Shaq Lawson, Lorenzo Alexander และ Jordan Philips ออกไป แต่สตีล A.J. Epenesa มาได้ในรอบ 2 นอกจากนี้ยังเสริมสตาร์มากประสบการณ์อย่าง Mario Addison, A.J. Klein, Tyler Matakevich, Quinton Jefferson, Vernon Butler รวมไปถึง Josh Norman อีกคน

ท่ามกลางกระแส New England Patriots & Tom Brady Era กำลังจะหายไป แม้ว่า Bill Belichick จะยังอยู่ แต่เมื่อ QB คู่บุญไม่อยู่แล้ว คงพูดได้เต็มปากแล้วว่าปีนี้แฟนๆ Bills น่าจะคาดหวังเอาไว้สูงมากกับทีม เพราะนี่น่าจะเป็นปีที่มีโอกาสจะก้าวขึ้นไปเป็น No.1 ของ AFC East มากที่สุดแล้วในรอบหลายๆ ปี



Player Focus: Josh Allen ไม่ต้องสงสัยเลย เมื่อทีมของคุณมี O-Line ที่ดี มี receivers ที่หลากหลาย มีตัววิ่งที่พร้อมช่วยในแผง backfield มันจะต้องเป็นปีที่ QB ผลงานระเบิดระเบ้อแน่นอน ที่ผ่านมาผลงานเขาน่าสนใจ โดยเฉพาะการเสีย Intercept ที่ลดลง น่าแสดงให้เห็นว่าเล่นเซฟมากขึ้น และปีที่ผ่านมาก็เห็นทักษะการเอาตัวรอดด้วยสกิลการวิ่งเองของเขาด้วย อย่าแปลกใจถ้าปีนี้เขาขว้างได้มากกว่า 25 touchdowns

Predict: 10-6 (No.1 AFC East)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Miami Dolphins
เกมรุกดูน่าสนใจมากในปีนี้หลังจากที่ทีมผู้เล่นตัววิ่งชื่อดังถึง 2 คน อย่าง Jordan Howard และ Matt Breida กรอปกับชุด receiver ชุดเดิมที่ผลงานดีอยู่แล้วอย่าง DeVante Parker, Preston Williams และ Mike Gesicki

2019 record: 5-11
Key Acquisitions: Tua Tagovailoa (Rd. 1, No. 5 – Alabama)
Key Losses: Reshad Jones (free agent)

Tua Tagovailoa กลายเป็นความหวังของบรรดาแฟนๆ Miami ทันทีตั้งแต่ฤดูกาลยังไม่จบ จากกระแส tank for tua แม้ว่าสุดท้ายทีมจะไม่ได้ no.1 pick แต่เหมือน Tua จะเกิดมาเพื่อ Miami เพราะดันมี Joe Burrow มาระเบิดฟอร์มในปีนี้ ทำให้ Cincinnati แทบจะไม่สนใจ Tua เลยในการดราฟต์ปีนี้ ส่วนหนึ่งมาจากอาการบาดเจ็บสะโพกยาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อนจนต้องเข้ารับการผ่าตัดครั้งใหญ่ จนทุกอย่างดูดีขึ้น(จากข่าว ของจริงยังไม่รู้) Miami เสี่ยงพอสมควรกับการดราฟต์เขาครั้งนี้ อย่างไรก็ดียังไงเชื่อว่า Miami คงต้องให้ Ryan Fitzpatrick เป็นมือ 1 ไปเรื่อยๆ ก่อน จนกว่าจะมั่นใจว่า Tua หายดีแล้ว 100% ค่อยปล่อยลงสนาม อีกอย่าง Fitzpatrick ก็ดูเหมือนเล่นเข้าขากับบรรดา 3 Big Receiver ของทีมไม่น้อย

ปีนี้ Miami Dolphins เรียกว่าได้รับคำชมค่อนข้างมากกับการดราฟต์ เพราะหลายๆ ตัวดราฟต์ตรงใจบรรดาสื่อ ไม่ว่าจะเป็น Tua Tagovailoa, Austin Jackson, Noah Igbinoghene, Raekwon Davis, Brandon Jones, Robert Hunt และ Solomon Kindley เรียกว่าแทบจะเป็นการสตีลในทุกๆ รอบของการดราฟต์เลยก็ว่าได้ที่เหลือก็ปล่อยให้ไปตบตีแย่งตำแหน่งกันเองภายในทีม หลักใหญ่ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัดเลยคือแผงตัวคุมปีก เรียกว่าแทบจะเปลี่ยนใหม่เกือบทั้งหมด การนำเข้า Byron Jones จาก Cowboys จะมาเป็นตัวยืนคู่กับ Xavien Howard โดยอาจจะให้ Noah Igbinoghene เป็นตัวคุมปีกมือ 3 ตั้งแต่สัปดาห์แรก ขณะที่แผง Safety เสีย Reshad Jones ตัวหลักที่อยู่มานานกว่า 10 ปี ย้ายออกไป คาดว่าน่าจะแทนที่ด้วย Eric Rowe ที่ย้ายมาจาก Patriots
เช่นเดียวกับตำแหน่งแผง O-Line ต้องเรียกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ 4 จาก 5 คนจะเป็นหน้าใหม่ไล่มาตั้งแต่ดาวรุ่ง Austin Jackson กับ Robert Hunt ที่ถูกคาดหมายว่าจะยืนเป็น OT ซ้าย-ขวา Ereck Flowers ที่ย้ายมาจาก Redskins จะยืนในตำแหน่ง LG และ Ted Karras, C สำรองของ Patriots จะมาเป็นตัวจริงให้กับ Dolphins ในปีนี้ มันเลยทำให้เราไม่สามารถคาดหวังได้มากกับ O-Line ชุดนี้ว่าจะเล่นเข้าขากันหรือไม่ จะเปิดช่องวิ่งให้ Jordan Howard และ Matt Breida ได้ดีแค่ไหน หรือจะเป็นเพียงการย้ายมาเสียของที่นี่กันแน่


Player Focus: Mike Gesicki พัฒนาการของปีกในหน้าหล่อเป็นไปได้สวย หลังจากเข้าลีกมาผลงานดีวันดีคืน จนกลายเป็นเป้าหลักใน red-zone ของทีมไปแล้วในปัจจุบัน ปีที่ผ่านมารับบอลไป 51 ครั้งทำระยะได้ 570 หลา กับอีก 5 ทัชดาวน์ ทำระยะเฉลี่ยถึง 11.5 หลาต่อการรับบอล 1 ครั้ง เรียกว่าดีกว่าปี rookies แบบคูณ 2 ในแทบจะทุกด้าน ดังนั้นถ้าผลงานปีนี้ดีกว่าปี 2019 เขาจะกลายเป็น TE ระดับ top5 ของลีกแทบจะทันที

Predict: 6-10 (No.3 AFC East)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


New England Patriots
Tom Brady, QB คู่บุญของ Bill Belichick ไม่อยู่แล้ว คิดว่าแฟนๆ Patriots แม้ปากจะบอกว่าเชื่อมั่นในตัวลุง Bill มันก็ต้องมีรู้สึกเคว้งบ้างแหละ แหมม..QB ระดับที่พาทีมคว้าแชมป์ SB 6 สมัยลาทีมเลยนะ หลังจากนี้น่าจะเป็นช่วงที่ AFC East จะเริ่มมีการ balance of power กันแล้วหลังจากอยู่ใต้ร่มเงาของ Patriots มานานนับทศวรรษ

2019 record: 12-4
Key Acquisitions: Cam Newton (from Panthers)
Key Losses: Tom Brady (to Buccaneers)

นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ของแฟนๆ NE จริงๆ รวมไปถึง Bill Belichick ด้วยที่ไม่มี Tom Brady อยู่ในทีม ที่ผ่านมาแม้จะมีฤดูกาลที่เขาไม่ได้ลงสนามบ้างแต่แฟนๆ ก็มีความหวังว่า Brady จะกลับมาช่วยทีมได้ทันเวลาในช่วงปลายฤดูกาล อะไรทำนองนั้น เวลานี้ในตำแหน่งจอมทัพของทีมยังดูสับสน ดาวรุ่งอย่าง Jarrett Stidham แรกๆ เหมือนจะได้รับโอกาศ แต่พอทีมตัดสินใจเซ็นต์ Bryan Hoyer เข้ามา ต่อด้วย Cam Newton ทำให้ทุกอย่างดูไม่แน่นอนแล้วสำหรับทั้ง 3 คน เพราะความกดดันที่ว่าจะมาเล่นแทนตำแหน่งตำนานที่อยู่กับทีมมา 20 ปี มันเป็นอะไรที่ยากมาก แฟนๆ คงหวังแค่ Bill Belichick จะปั้นใครซักคนให้เหมือน Matt Cassel สมัยที่ลงมาทำหน้าที่แทน Tom Brady ในปี 2008 แล้วพาทีมจบสถิติ 11-5 ได้นั่นแหละ

Patriots ในเวอร์ชั้น 2020 เดาเอาไว้ว่าคงจะเน้นเกมเน้นวิ่ง+ขว้างสั้นมากกว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ Rob Gronkowski ตัดสินใจรีไทร์ไป ทีมดูเหมือนมีปัญหาที่แก้ไม่ตกในตำแหน่ง receiver ไม่ว่าใครจะย้ายมาก็ดูเคมีไม่เข้ากันซักที ไล่ตั้งแต่ N’Keal Harry ที่ดราฟต์มาก็เจ็บยาว Antonio Brown, Josh Gordon, Mohammed Sanu ผลงานไม่ดีซักคน จนสุดท้ายเหลือแค่ Julien Edelman กับ James White แค่ 2 คนที่ฝากผีฝากไข้ได้ มาปีนี้ในช่วงตลาด free agent ทีมไม่ได้ขยับอะไรมาก มีแต่การนำเข้าปีกอย่าง Marqise Lee กับ Damiere Byrd ซึ่งก็คงไม่ได้มาเป็นตัวจริง(รายแรกขอใช้สิทธิ์ COVID Out op. ไปแล้ว) ส่วนในการดราฟต์ ปีนี้ทีมจัด TE รวดเดียว 2 คน Devin Asiasi กับ Dalton Keene มาแข่งกันโดยตรง เพราะสำรองในทีมอีก 2 คนอย่าง Ryan Izzo กับ Jake Burt ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร ในส่วน WR ตัวเลือกคาดว่าปีนี้ทีมคงให้ N’Keal Harry, Julien Edelman กับ Mohammed Sanu เป็นตัวยืนไปพลางๆ ที่เหลืองานหนักน่าจะไปตกอยู่กับ Sony Michel และ James White 2 ตัววิ่งหลักของทีม แต่เราอาจจะได้เห็นรูปแบบที่ Bill Belichick เคยใช้เมื่อ 2 ปีก่อนที่ใช้ตัววิ่งหลายๆ คนสลับกันลงมาวิ่งกับรับบอล เพราะตัววิ่งในชุดนั้นอย่าง Rex Burkhead ก็ยังอยู่กับทีม ล่าสุดไปคว้าเอา Lamar Miller มาเสริมทัพเกมวิ่งอีกคน และยังมีดาวรุ่งอย่าง Damien Harris ก็พร้อมใช้งานอีก ขนทัพ RB มาเยอะขนาดนี้ ปีนี้มาเกมวิ่งแน่นอน

ฝั่งทีมรับปีนี้ 2 ผู้เล่นคนสำคัญอย่าง Patrick Chung กับ Dont’a Hightower ขอใช้สิทธิ์ COVID Out op. ไม่ลงสนาม นอกจากนี้ในลิสต์ที่ทีมปล่อยตัวออกไปมีหลายคนที่สำคัญ อย่าง Kyle Van Noy, Jamie Collins Sr., MIchael Bennett, Danny Shelton และ Duron Harmon เรียกว่าทั้งตัวหลักและตัว rotation หายไปเกือบครึ่งทีม ปีนี้น่าจะให้โอกาสบรรดาสำรองดาวรุ่ง กับพวกที่เพิ่งดราฟต์เข้ามาในปีนี้ได้ทดลองแย่งตำแหน่งกันเอง ซึ่งถ้าบอกว่า Bill Belichick ยังไงก็ยังคงเป็น Bill Belichick ที่ผ่านมา 20 ปี มีเพียง 2 ฤดูกาลเท่านั้นที่เขาพาทีมชนะต่ำกว่า 10 เกม แต่ด้วยว่าปีนี้ทีมไม่มี Tom Brady และบรรดาผู้เล่นในทีมหลายๆ คนขอใช้สิทธิ์ COVID Out op. ทำให้ผมคิดว่าปีนี้อาจจะไม่ได้เห็น New England Patriots ในพื้นที่ Playoff เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี


Player Focus: De’Jon Harris ดาวรุ่งจาก Arkansas ที่ทีมเซ็นต์มาแบบ Undrafted หลังจาก Dont’a Hightower ประกาศขอใช้สิทธิ์ Out op. ในตำแหน่ง Inside linebacker อีกตำแหน่งดูเป็นช่องโหว่ใหญ่ทันที แม้ปีนี้ทีมจะดราฟต์ LB มา 2 คนอย่าง Josh Uche และ Anfernee Jenning แต่ทั้งคู่เป็นผู้เล่นในตำแหน่ง SLB และ WLB ขณะที่ ILB มีเพียง Cassh Maluia ขณะที่ตัวเลือกอื่นๆ ในทีมก็มีแค่ Terez Hall ซึ่งทำให้ De’Jon Harris ที่ทำผลงาน total tackle หลัก 100+ ในช่วง 3 ฤดูกาลล่าสุดที่เล่นให้ Arkansas ดูมีภาษีดีกว่าใครเพื่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงของทีมเคียงคู่กับ Ja'Whaun Bentley ในปีนี้

Predict: 7-9 (No.2 AFC East)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


New York Jets
ปีที่ผ่านมาย่ำแย่ด้วยรูปแบบการเล่นโดยเฉพาะเกมบุก แต่ช่วงที่ผ่านมามีการอัพเกรด O-Line ขึ้นมาใหม่ อาจจะทำให้ Sam Darnold และ Le’Veon Bell เล่นง่ายขึ้นกว่าเดิม และถ้าคู่นี้เล่นง่ายขึ้นเกมรุกก็คงจะดีขึ้น

2019 record: 7-9
Key Acquisitions: Denzel Mims (Rd. 2, No. 59 – Baylor)
Key Losses: Robby Anderson (to Panthers)

ตอนนี้ต้องบอกว่าพวกเขาไม่สามารถตอบได้ว่าใครเป็นปีกมือ 1 ของทีม หลังจากที่ปล่อยตัว Robby Anderson ปีกนอกหุ่นขี้ยาออกไป ปีกที่เหลือ Jamison Crowder, Breshad Perriman หรือแม้กระทั่งดาวรุ่งอย่าง Denzel Mims ก็ดูเป็นไปได้ทั้งนั้น นี่ยังไม่นับรวม Chris Herndon ปีกในที่ฤดูกาลที่แล้วเจ็บหนักพักยาวทั้งฤดูกาลด้วยว่าจะกลับมาพร้อมๆ กับฟอร์มสุดยอดเหมือนปี rookie หรือไม่ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ Adam Gase ทางที่ดีควรไปหาทางอื่นเตรียมไว้เผื่อด้วย โดยเฉพาะเรื่องการบล็อกเปิดทางให้ Le’Veon Bell ได้เล่นง่ายๆ เพราะนับตั้งแต่ย้ายออกจาก Pittsburgh Steelers ก็ดูเหมือนชีวิตของตัววิ่ง All-Pro 3 สมัยนั้นทำอะไรก็ดูลำบากเสียเหลือเกิน

มาปีนี้ Joe Douglas, GM คนใหม่ตัดสินใจสร้าง O-Line ใหม่แทบยกชุดไล่ตั้งแต่ดราฟต์ Mekhi Becton มายืน LT, เอา Greg Van Roten มายืน RG, Connor McGovern มาเป็นคนสแนปบอลให้ Sam Darnold รวมไปถึงเซ็นต์ George Fant มาแข่งกับ Chuma Edoga ในการแย่งตำแหน่ง RT นั่นอาจจะทำให้ Le’Veon Bell กลับมาเท้าติดไฟอีกรอบ

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เข้าลีก Sam Darnold ผลงานดูไม่ค่อยดีนัก ขว้างทำระยะรวมได้ 5,889 กลากับอีก 36:28 TD:INT เขาเสีย Intercept มากเกินไป และถ้าภายใต้แนว O-Line ใหม่ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี แล้วผลงานของ Darnold ยังเป็นแบบเดิม หลังจบฤดูกาลนี้อนาคตของเขาน่าจะเจริญรอยตาม Mitchell Trubisky เอาได้ง่ายๆ


Player Focus: Chris Herndon กับผลงานในปี 2018 ทำเอาไว้ 502 หลากับอีก 4 TDs และนอกจาก Ryan Griffin ก็ดูเหมือนทีมไม่ได้หาใครมาเพิ่ม แสดงว่าต้องมั่นใจกับ TE ดาวรุ่งคนนี้ว่าหายเจ็บจะกลับมาได้แน่ๆ และในสถานการณ์ที่ทีมยังไม่สามารถตอบได้ว่าใครจะเป็นเป้าหลักของ Darnold นั่นก็ทำให้ตำแหน่ง TE ดูมีความหวังในการจะก้าวขึ้นมาช่วยทีมให้ประสบความสำเร็จได้ ตามสไตล์ของทีมยุคใหม่ที่ต้องพึ่งพาผู้เล่นในตำแหน่ง TE มากขึ้นในเกมบุก

Predict: 5-11 (No.4 AFC East)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Denver Broncos
หลังจาก Drew Lock, QB ดาวรุ่งเปิดตัวเมื่อท้ายฤดูกาลที่แล้วด้วยผลงาน 4-1 John Elway ก็ไม่รอช้ากับการลงทุนสร้างทีมเพื่อเขาทันทีในปีนี้ ถ้าเขาคือคนที่ใช่ ทีมม้าป่าก็จะกลับเข้าสู่เส้นทางลุ้นพื้นที่ playoff อีกครั้ง

2019 record: 7-9
Key Acquisitions: Jerry Jeudy (Rd. 1, No. 15 – Alabama)
Key Losses: Chris Harris Jr. (to Chargers)

ท้ายฤดูกาล 2019 Drew Lock เด็กจาก Missouri โชว์ผลงานใน 5 เกมสุดท้ายของ Denver เอาไว้ด้วยสถิติ 4-1, 89.7 passer rating เรียกว่าเป็นสถิติที่ดีกว่า QB 3 คนที่ถูกดราฟต์ก่อนหน้าเขาทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ ปีที่ผ่านมาทีมได้ 2 ตัว receiver อย่าง Courtland Sutton และ Noah Fant ที่สถาปนายึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้แล้ว โดย Sutton เป็นปีกที่รับบอลทำระยะเกิน 20 หลาเป็นลำดับที่ 8 ของบรรดาปีกนอกทั้งหมดในลีก ขณะที่ Noah Fant เปิดตัวปีแรกรับบอลรวมไป 562 หลา มาปีนี้ทีมจัดหนักด้วยการดราฟต์ปีกรวดเดียว 2 คนในการดราฟต์ตั้งแต่รอบต้นๆ ทั้งการได้ส้มหล่น Jerry Jeudy ไหลมาถึงมือตัวเอง ก่อนจะเก็บ K.J. Hamler ปีกความเร็วจัดจาก Penn State มาเพิ่มอีกคน ทำให้อาวุธของ Drew Lock มีครบพร้อมสำหรับฤดูกาล 2020 เพื่อจะล้างสถิติที่ทีมไม่เคยทำคะแนนเฉลี่ยได้เกินค่ามาตรฐานของลีกนับตั้งแต่ปี 2014

ปีที่ผ่านมา Broncos ทำคะแนนเฉลี่ย 17.6 point ต่อเกม ปัญหาใหญ่ๆ เลยคือพวกเขาเก็บ third-down ได้ต่ำมาก(ลำดับ 30 ของลีก) รวมไปถึงการทำ TD ในพื้นที่ red-zone ด้วย(ลำดับ 28 ของลีก) ปีนี้พวกเขานำเข้า Melvin Gordon ตัววิ่งตัวเก่งของ Los Angeles Chargers คู่แข่งร่วมสายมาเป็นตัวแทน Royce Freeman ที่ส่อแววจะไม่มีอนาคตกับทีม แต่การจะเปิดทางให้ตัววิ่งทำงานได้สะดวก แนว O-Line Pat Shurmur ได้อัพเกรดขึ้นมาจากเดิม ปีที่ผ่านมาได้ Dalton Risner กลับมาเป็น LG ตัวหลัก หลังจากปีแรกที่ดราฟต์มาแทบไม่ได้ลงสนาม การ์ดฝั่งขวาได้ Graham Glasgow ตัวเก่งของ Detroit Lions มาร่วมทีม แต่ยังน่าห่วงอยู่ดีเพราะคู่ Offensive Tackle ดูไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่ Garett Bolles ก็มีปัญหาเรื่องเสียฟาวล์บ่อย ขณะที่ RT มือ 1 อย่าง Ja’Wuan James ก็ประกาศขอถอนตัวจากการแข่งขันชั่วคราวในปีนี้ ทำให้ทีมอาจจะต้องให้ Elijah Wilkinson หรือ Demar Dotson ลงสนามแทนไปชั่วคราว ขณะที่ตำแหน่ง C ปีนี้เปลี่ยนใหม่ หลังจาก Connor McGovern อดีตเพื่อนร่วมทีมของ Drew Lock สมัยที่เรียนอยู่ Missouri ย้ายไปอยู่กับ New York Jets ทำให้พวกเขาคงต้องใช้บริการของ Lloyd Cushenberry ดาวรุ่งจาก LSU ที่ดราฟต์มาในรอบ 3 ปีนี้ลงสนามเป็นตัวจริงทั้นทีตั้งแต่เกมแรก

ฝั่งทีมรับตั้งบอกว่า สมาชิกชุดแชมป์ SB50 เหลือแค่ Von Miller แค่คนเดียวแล้ว หลังจาก Chris Harris Jr. และ Derek Wolfe ย้ายออกไปในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา แต่พวกเขาได้ A.J. Bouye กับ Jurell Casey แลกคืนกลับมา เรียกว่าไม่ได้ดรอปลงไปเท่าไหร่ หลังบ้านปีนี้บรรดาตัวที่เจ็บหนักในปีที่ผ่านมาจนทำให้ผลงานทีมดรอปลงไปอย่าง Bryce Callahan, De’Vante Bausby และ Bradley Chubb หายเจ็บกลับคืนทีมกันพร้อมหน้า นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่าเกมรับที่ขึ้นชื่อมาตลอดของ Denver กำลังจะกลับมาแล้ว


Player Focus: Alexander Johnson, ILB ของทีม จะเรียกดาวรุ่งก็ไม่ได้ เพราะอายุแกปาไปแล้ว 28 ปี แต่ถูกเลือกเข้าทีมมาแบบ undrafted ในปี 2018 และทำผลงานในปีที่ผ่านได้ยอดเยี่ยม 93 tackles, 2 forced fumbles, 1.5 sacks กับอีก 1 interception ทำให้กลายเป็น ILB อีกคนที่ถูกจับตามองว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้ระบบของ Denver Broncos

Predict: 8-8 (No.3 AFC West)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Kansas City Chiefs
หลังจากได้แชมป์ SB ดูเหมือน KC แทบไม่เสียตัวหลักออกจากทีมไปเลยซักคน ที่น่าจะกระทบมากที่สุดคงเป็นคุณหมอ Laurent Duvernay-Tardif คนเดียวที่ขอไม่เล่นในฤดูกาลนี้ด้วยเหตุผลส่วนตัว

2019 record: 12-4
Key Acquisitions: Clyde Edward-Helaire (Rd. 1, No. 32 – LSU)
Key Losses: Laurent Duvernay-Tardif (COVID-Out Op.)

รับทรัพย์ก้อนใหญ่กันถ้วนหน้าทั้ง 3 สหาย Patrick Mahomes, Travis Kelce และ Chris Jones เรียกว่าขุมกำลังชุดแชมป์ SB อยู่กันพร้อมหน้า แผน Speed ของ KC น่าจะเป็นที่น่ากังวลใจสำหรับหลังบ้านของทุกทีมในลีก บรรดาปีกนอกอย่าง Tyreek Hill, Macole Hardman, Sammy Watkins รวมไปถึง Demarcus Robinson ต่างขึ้นชื่อเรื่องสปีดทั้งนั้น ไหนจะต้องมาพะวงกับโคตร TE อย่าง Travis Kelce อีกคน ปีที่ผ่านมาหลังจากเสีย Kareem Hunt ออกไปทำให้เกมวิ่งดูลดความน่ากลัวลงไปพอสมควร Damien Williams ไม่สามารถแทนที่ช่องว่างที่ Hunt ทิ้งเอาไว้ได้ ทีมตัดสินใจดราฟต์ Clyde Edward-Helaire ตั้งแต่รอบแรกสร้างความเซอร์ไพรส์ไม่น้อย เพราะเขาไม่ใช่ RB ที่ถูกมองว่าเป็น top3 ของปีนี้ แต่กลับถูกเลือกเป็นคนแรก ส่วนหนึ่งคิดว่าน่าจะมาจากการที่ Andy Reid เห็นรูปแบบการเล่นของ LSU คล้ายคลึงกับ KC ในหลายๆ ด้าน ดังนั้นการหยิบ RB ที่คุ้นเคยกับระบบน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าจะลงตัวที่สุดสำหรับ Chiefs ยิ่งพอ Damien Williams ประกาศขอไม่ลงสนามในปีนี้ นั่นทำให้ Clyde Edward-Helaire กลายเป็นคนที่ถูกมองว่าจะเบียดคนอื่นๆ ขึ้นมายึดตำแหน่งมือ 1 ตั้งแต่เกมแรก

สำหรับทีมรับปีนี้ทีมเสียตัวหลักอย่าง Kendall Fuller กับ Reggie Ragland ออกไป แต่เอาจริงๆ น่าจะไม่กระทบเพราะ Fuller ผลงานในปีที่ผ่านมาก็ไม่ดีนัก ขณะที่ Reggie Ragland ก็เสียตำแหน่งตัวจริงให้ Ben Niemann ไปแล้วในช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา ขณะที่แนว Front-7 ดูดีเหมือนเดิม ภาวนาให้ Alex Okafor สมบูรณ์ทั้งฤดูกาลก็พอ รวมไปถึงพัฒนาการของ Derrick Nnadi กับ Tanoh Kpassagnon ก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ


Player Focus: Patrick Mahomes กับความคงเส้นคงวาหลังจากได้รับทรัพย์ก้อนโต ปีนี้ความท้าทายเพิ่มขึ้นเพราะ Laurent Duvernay-Tardif หนึ่งใน O-Line ตัวหลักไม่อยู่ จะส่งผลต่อ O-Line ในฤดูกาล 2020 มากแค่ไหน

Predict: 14-2 (No.1 AFC West)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Las Vegas Raiders
Derek Carr ก้นร้อนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากผ่านมา 3 ปีนับตั้งแต่เข้า Playoff ครั้งสุดท้ายเขายังไม่สามารถพาทีมกลับสู่เส้นทางนั้นได้อีกเลย แม้ผลงานทีมหลังจาก Jon Gruden มาคุมจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับแต่ปีนี้การย้ายมาร่วมทีมของ Marcus Mariota ทำให้อนาคตของเราเริ่มไม่มั่นคงเสียแล้วท่ามกลางกระแสการย้ายมาอยู่ที่ Las Vegas

2019 record: 7-9
Key Acquisitions: Henry Rugg III (Rd. 1, No. 12 – Alabama)
Key Losses: Tahir Whitehead (to Panthers)

จะบอกว่า Jon Gruden เซ็นต์ Marcus Mariota มาเพื่อนั่งสำรอง ผมไม่กล้าพูดได้เต็มปาก เพราะการจ่ายสัญญา 2 ปี $17.6 million นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในตัว backup ที่กินค่าจ้างสูงเอามากๆ มันเป็นการขีดเส้นใต้ใส่ Derek Carr ว่าถ้าพลาดในฤดูกาลนี้เอ็งโดนแน่ๆ หลังจาก 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา Carr ขว้างไม่ถึง 25 touchdowns เลยแม้แต่ปีเดียว แถมมีค่าเฉลี่ยขว้างได้เพียง 6.9 หลา/ครั้ง เรียกว่าเขาอยู่ในลำดับ 34 จาก 37 QB ที่ได้ลงสนามในปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการที่ Raiders ไม่มี WR ที่เป็นมือ 1 ถาวร แต่เดิมทีมตั้งใจจะเอา Antonio Brown มาเป็นมือ 1 แต่ก็นั่นแหละที่รู้ๆ กัน

มาปีนี้ทีมจัดหนักเสริม 3WR ตั้งแต่ไก่โห่ Henry Rugg III, Lynn Bowden(จริงๆ เป็น RB), Bryan Edwards นอกจากนี้ยังไปเอา Nelson Agholor มาจาก Philadelphia Eagles อีกคน ส่วน RB ตอนนี้ Josh Jacob สัมปทานตำแหน่งตัวจริง 100% หลังจากเปิดตัวในปีรุกกี้ด้วยผลงาน ถือบอล 242 ครั้ง ทำระยะไป 1,150 หลากับอีก 7 TDs แต่เสียดายที่เจ็บไหล่ไปก่อนได้เล่นเพียง 13 เกมเท่านั้น

จริงๆ ต้องบอกว่า Mike Mayock โชว์สเตปในการดราฟต์ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ปีที่แล้วทำเซอร์ไพรส์ดราฟต์ Clelin Ferrell ตั้งแต่ลำดับที่ 4 ปีนี้เขาดราฟต์ Damon Arnette ตั้งแต่รอบแรกทั้งๆ ที่หลายๆ โพลไม่ได้ใส่ชื่อเขาลงใน mock draft ทั้งรอบแรกและรอบ 2 ด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังมีการสตีล Amik Robertson ตัวคุมปีกดาวรุ่งของ Louisiana Tech. มาอีกคนเพื่อเป็นตัว rotation กับ Lamarcus Joyner ส่วนแนว front-7 ปีนี้มีการปรับเล็กน้อย ปล่อย Tahir Whitehead ออกไปแต่ได้ Cory Littleton ตัวเทพของ Rams มายืนแทน นอกนั้นทีมเล่นแร่แปรธาตุด้วยการเซ็นต์สัญญากับดาวดังแค่ 1 ปีในการมาช่วยทีมชั่วคราวไล่ตั้งแต่ Maliek Collins, Jason Witten, Damarious Randall, Prince Amukamara และ Devontae Booker


Player Focus: Darren Waller กลายเป็นม้านอกสายตาที่ขึ้นมาเป็นมือ 1 ของทีมหลังจาก Jared Cook ย้ายไปร่วมทีม New Orleans Saints แต่ผลงานดีเกินคาด ปีที่ผ่านมาได้รับบอลมากถึง 90 ครั้ง ทำระยะไป 1,145 หลากับอีก 3 ทัชดาวน์ เรียกว่าด้วยผลงานดังกล่าวส่งให้เขากลายเป็น TE ที่มีผลงานเป็นอันดับที่ 5 ของลีกในปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ล่าสุดเพิ่งได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปเป็นการการันตีว่าเขาจะไปมือ 1 ของทีมไปอีกหลายปี

Predict: 10-6 (No.2 AFC West(AFC wild-card*5))

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Los Angeles Chargers
ปีนี้เปลี่ยนแปลงแทบจะทุกอย่าง เปลี่ยนตั้งแต่ QB, สนาม หรือแม้แต่ uniforms ในขณะที่คู่แข่งร่วมสายทั้ง 3 กำลังดูไปได้ดี แต่ปีนี้ Chargers ดูไม่ดีเอาเสียเลย

2019 record: 5-11
Key Acquisitions: Chris Harris Jr. (from Broncos)
Key Losses: Philip Rivers (to Colts)

การดราฟต์ Justin Herberts, QB ของ Oregon ในปีนี้ ในความรู้สึกเหมือนไม่ได้น่าตื่นเต้นสำหรับแฟนๆ ของ Chargers ซักเท่าไหร่ เพราะคิดว่าคงไม่ได้ลงสนามตั้งแต่ต้นฤดูกาลแน่นอนหลังจาก Tom Telesco, GM และ Anthony Lynn, HC ออกมายืนยันตรงกันแล้วว่าพวกเขาจะให้ Tyrod Taylor ยืนเป็นมือ 1 ในปีนี้ แต่ก็ยังมีลุ้นได้อยู่สำหรับ Justin Herberts เพราะอย่าลืมว่าในปี 2018 Tyrod Taylor เป็นมือ 1 ของ Cleveland ได้เพียงแค่ 3 เกมก่อนจะเสียตำแหน่งไปให้ Baker Mayfield สำหรับอาวุธของทีม ปีนี้หลักๆ คือการต่อสัญญากับ Hunter Henry, TE ตัวเก่งของทีมออกไป แต่พวกเขาเสีย Melvin Gordon ตัววิ่งมือ 1 ของทีมออกไป ส่วนหนึ่งเพราะ Austin Ekeler ผลงานดีและค่าจ้างถูกกว่า ปีนี้ทีมซ่อมแนว O-Line ทันทีหลังจากผลงานย่ำแย่ในปีที่ผ่านมา การเทรด Russell Okung, LT มือ 1 ของทีมให้ Panthers แลกกับ Trai Turner, RG ดีกรี Pro Bowler 5 สมัย กับได้ตัว Bryan Bulaga, RT ตัวเก่งของ Packers มาร่วมทีม ทำให้แนว O-Line ดูดีขึ้นเยอะ

สำหรับ Chargers ปีนี้น่าจะโฟกัสไปที่เกมวิ่งมากกว่าเกมขว้าง ด้วยเพราะ Tyrod Taylor ก็ขึ้นชื่อเรื่องเป็น QB จอมวิ่ง ขณะที่ Justin Herberts ก็เป็นแค่เด็ก rookies นั่นอาจจะทำให้ผลงานของทั้ง Keenan Allen และ Mike Williams ดรอปลงไป แต่แลกกับ Austin Ekeler ที่น่าจะผลงานดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา จับตามองไปที่สำรองของเขาด้วย อย่าง Justin Jackson กับเด็กรุกกี้จาก UCLA ที่ดราฟต์มาในรอบ 4 อย่าง Joshua Kelley ที่อาจจะเป็นเซอร์ไพรส์ในปีนี้

ทีมรับปีนี้ได้ตัว Kenneth Murrey มาทำให้แผง LB ดูน่าสนใจขึ้น ร่วมกับการย้ายมาร่วมทีมของ Chris Harris Jr. ที่น่าจะมารับบทตัวคุมปีก slot ในทีมที่มีคู่หู Edge Rusher ที่โดดเด่น แถมยังได้ตัว Derwin James กลับมาจากอาการบาดเจ็บ ปีนี้อาจจะได้เห็นทีมสายฟ้าเก็บ Intercept ได้เป็นกอบเป็นกำ


Player Focus: Joshua Kelley ตัววิ่งดาวรุ่งจาก UCLA ที่ทำผลงานในระดับมหาวิทยาลัยเอาไว้รวม 2 ปีเอาไว้ที่ 2303 หลา กับอีก 24 touchdown แถมดีกรีเป็นเด็กท้องถิ่นด้วย น่าจะเป็นตัวแทนของ Melvin Gordon ในการกระทุ้งแนวรับคู่ต่อสู้ร่วมกับ Austin Ekeler ในปีนี้

Predict: 2-12 (No.4 AFC West รับ 1st overall draft 2021 ไปครอง)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

NFC WEST


Arizona Cardinals
Kliff Kingsbury กับ Kyler Murray ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จได้ดีในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่กระนั้นผลงาน 5-10-1 ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่จากการเสริมทัพในฤดูกาลนี้ น่าจะทำให้ NFC West ลุกเป็นไฟ

2019 record: 5-10-1
Key Acquisitions: Devon Kennard (from Lions)
Key Losses: David Johnson (to Texans)

ปีที่ผ่านมา Kliff Kingsbury เข้ามารับงานคุมทีมที่มีผลงานในปี 2018 อยู่ในลำดับบ๊วยสุดในเรื่องของการทำคะแนน มันเป็นทางเลือกที่เสี่ยงไม่น้อยสำหรับ Steve Keim, GM ของทีมที่เลือก HC จากระดับมหาวิทยาลัย อาจจะเพราะเห็นแล้วว่าแผน Air Raid ที่ Kingsbury ใช้กับ Texas Tech ดูน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับทีมที่เกมรุกกำลังย่ำแย่ แถมล่าสุดคู่แข่งร่วมดิวิชั่นก็เข้าชิง SB 2 ปีติดต่อกัน เป็นไปได้ที่แนวทางของทั้ง Rams และ 49ers กำลังส่งผลให้ Cardinals อาจจะเลือกเดินทางตามรอยของทั้งคู่ในปีนี้

การดราฟต์ Kyler Murray เข้ามาในปีที่แล้วท่ามกลางข้อกังขาในเรื่องสรีระของเขาดังมาตั้งแต่ก่อนจะเริ่มดราฟต์ด้วยซ้ำ แต่ผลงานกลับดูดีใช้ได้ ทั้งเรื่องการขว้าง รวมไปถึงการเข้าไปอยู่ร่วมกลุ่มทีมนักวิ่งเกิน 500 หลาร่วมกับ Lamar Jackson และ Josh Allen แต่นั่นแค่ปีแรก คงต้องรอดูพัฒนาการต่อไปอีกซัก 1-2 ปีถึงจะบอกได้ว่าดีพอหรือไม่ ปีที่ผ่านมาพวกเขามีปัญหาในเกมวิ่งค่อนข้างมาก ทั้ง David Johnson และสำรองอย่าง Chase Edmonds ผลงานไม่ดีเลย จนทำให้ทีมต้องตัดสินใจไปเทรดเอา Kenyan Drake มาจาก Miami Dolphins ในโค้งสุดท้ายช่วงกลางฤดูกาล และนั่นถึงจะทำให้เริ่มมองเห็นเกมวิ่งของ Cardinals ขึ้นมาบ้าง และปีนี้ทีมปล่อย David Johnson ออกไปแถมแลกเอา DeAndre Hopkins มาได้ เรียกว่าได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง เรียกว่าได้ครบสูตรตามแผน Air Raid เรียบร้อย 3WR+1RB+1TE ซึ่งแน่นอนว่า DeAndre Hopkins อ่ะการันตี 1 ตำแหน่งแน่ๆ แต่กับตำนานอย่าง Larry Fitzgarald กับ Christian Kirk นี่ยังไม่ชัวร์ เพราะบรรดาปีกนอกสำรองอย่าง Andy Isabella กับ Hakeem Butler ยังทำผลงานได้น่าลุ้นอยู่ ถ้าจะมีตำแหน่งที่ดูยังไม่โดดเด่นมากคงจะเป็น Maxx Williams ในตำแหน่ง TE นั่นแหละ ซึ่งถ้าฟอร์มไม่โดดเด่น มีแววว่าเราอาจจะได้เห็น Kliff Kingsbury ทำเหมือนเดิมคือ เทรด TE ซักคนมาแทนที่เขาในช่วงกลางฤดูกาลได้ จับตาไปที่ David Njoku ของ Cleveland ก็มีความเป็นไปได้สูง อีกคนคือ Evan Engram ถ้าหากว่าผ่านไปครึ่งฤดูกาลแล้ว New York Giants ส่อแววหมดลุ้นพื้นที่ Playoff ทีมก็อาจจะเทรดเขาทิ้งไปก่อนจะเสียฟรีๆ

ทีมรับปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก การย้ายมารับทรัพย์ของ Jordan Philips ที่จะมารับตำแหน่ง NT ไม่รู้จะเวิร์กมั้ยเพราะที่ Bills เขาเล่นในระบบ 4-3D ผลงานอาจจะดรอปลงไป แต่ที่น่าสนใจคือแผง Linebacker ของทีมในปีนี้ การได้ส้มหล่นเมื่อ Isaiah Simmons หล่นมาถึงมือ กรอปกับได้ตัว Devon Kennard มาเป็นคู่หูในการเข้ากดดัน QB ร่วมกับ Chandler Jones ปีนี้เกมรับของทีมโดยเฉพาะแผง Front-7 ดูดีสุดๆ เรียกว่า NFC West ทีมรับดุทุกทีม มีแววว่าจะได้เห็น QB ในสายนี้สลับกันลงไปนอนกองกับพื้นแน่ๆ


Player Focus: Kenyan Drake เมื่อไม่มี David Johnson อยู่ เขาก็เป็นมือ 1 แทบจะ 100% เพราะตัวเลือกที่เหลือยังไม่ใช่คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อซักคน แต่มีคนที่อาจจะเบียดได้คือดาวรุ่งอย่าง Eno Benjamin ดาวรุ่งจาก Arizona State ที่ดราฟต์มาในรอบ 7 แต่คิดว่ายังไง Drake ก็เป็นตัวยืนยาวๆ แน่ๆ ผลงานปีที่แล้วหลังจากเทรดมา ได้ลงสนามไป 8 เกมทำไปถึง 814 หลากับอีก 8 ทัชดาวน์ สถิติดูยอดเยี่ยมสุด ดังนั้นปีนี้น่าจับตามองไปที่เขาที่จะได้ลงสนามครบ 16 เกม(ถ้าไม่เจ็บไปกลางทาง) มากกว่าการย้ายมาของ DeAndre Hopkins เสียอีก

Predict: 7-9 (No.4 NFC West)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Los Angeles Rams
เสียตัวผู้เล่นหลักไปมากมายในปีนี้ท่ามกลาง กรอปกับอยู่ร่วมสายกับ 3 ทีมที่แข็งโป๊ก ความกดดันที่บังคับให้ Sean McVay กับ Jared Goff ต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อพา Rams กลับสู่เส้นทางเดิมเหมือนฤดูกาล 2018

2019 record: 9-7
Key Acquisitions: Cam Akers (Rd. 2, No. 52 – Florida State)
Key Losses: Todd Gurley (to Falcons)

ผลงานปีที่ผ่านมา 9-7 จริงๆ ก็ถือว่าไม่ได้แย่มากมายอะไรนะ แต่อย่างว่าเมื่อคุณอยู่ในฝั่ง NFC การชนะไม่ถึงเลข 2 หลักก็มีโอกาสหลุดพื้นที่ playoff ได้เอาง่ายๆ ปีนี้ทีมเสียตัวหลักกระจุยกระจายมาก Todd Gurley, Brandin Cooks, Cory Littleton, Eric Waddle, Dante Fowler Jr, Clay Matthew III และ Nickell Robey-Coleman น่าจะกระทบหนักพอสมควร ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาหลังจากเข้า SB แล้วต้องแจกสัญญาใหม่ๆ แก่ผู้เล่นตัวหลัก ทำให้สุดท้ายทีมต้องแตกเพราะเพดานค่าจ้างไม่พอ Jared Goff, QB ค่าจ้างแพงตลอด 3 ปีที่ผ่านมาผลงานไม่ถือว่าแย่นะ พาทีมมีผลงาน 33-14 มีสถิติ 95.4 passer rating และอยู่ในอันดับ 5 ร่วมสำหรับคนที่ขว้าง touchdown ได้มากที่สุด (82 ครั้ง เท่ากับ Drew Brees) ปีนี้จับตามองไปที่การแย่งตำแหน่งมือ 1 RB หลังจากที่ทีมปล่อย Todd Gurley เจ้าของสถิติ Pro-Bowl 3 สมัยออกไป แทนที่ด้วย Cam Aker ดาวรุ่งจาก Florida ดูมีภาษีไม่น้อย หลังจากฤดูกาลล่าสุดใน NCAA ทำผลงานไป 1,369 หลากับอีก 18 touchdowns เพราะคู่แข่งในทีมอย่าง Darrell Henderson Jr. กับ Malcolm Brown ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าเก่งพอจะเป็นมือ 1 ให้ทีมไหนในก็ตามในลีก ขณะที่ในปีที่ผ่านมาแม้ผลงานภาพรวมของทีมจะไม่สามารถผ่านเข้ารอบ playoff ได้ แต่พวกเขาได้เห็นฟอร์มของ Tyler Higbee, TE ของทีมที่ระเบิดฟอร์มรับบอลไป 69 ครั้ง ทำระยะได้ 734 หลากับอีก 3 ทัชดาวน์ เรียกว่าเรียกฟอร์มได้ทันเวลา จนได้รับสัญญาใหม่กับทีม 4-year, $29 million ปีนี้คงต้องรับบทหนักขึ้นเพราะปีกอย่าง Brandin Cooks ไม่อยู่แล้ว ปีกเชิงลึกตัวหลักเหลือแค่ Robert Woods ที่เหลือต้องมาลุ้นดาวรุ่งอย่าง Van Jefferson ว่าจะสามารถเบียด Josh Raynold ได้หรือไม่

ทีมรับมี 2 ยอดผู้เล่นของลีกประจำการทั้ง Aaron Donalds เจ้าของรางวัล DPOY 2 ปีซ้อนประจำตำแหน่งใน D-Line ขณะที่ Jalen Ramsey ยืนคุมหลังบ้าน เรียกว่าเป็น 2 อุปสรรคของ QB ฝั่งตรงข้ามเสมอเวลาเผชิญหน้ากัน ส่วนที่เหลือดูเหมือนว่าจะเป็นดาวรุ่งทั้งนั้นที่จะได้รับโอกาสในปีนี้


Player Focus: Samson Ebukam กับ Terrell Lewis 2 Edge Rusher ที่มีแววจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมที่จะมาทำหน้าที่ยืนในตำแหน่ง Outside Linebacker แทน 2 ดาวดังอย่าง Dante Fowler Jr กับ Clay Matthew III ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญเพราะฤดูกาลที่ผ่านมา Fowler กับ Matthew 2 คนรวมกัน เก็บไปได้ถึง 19.5 sack ดังนั้นความหวังของ Rams ในการจะแบ่งเบาภาระของ Aaron Donalds ก็น่าจะตกมาอยู่ในมือของ 2 คนนี้แหละ

Predict: 10-6 (No.2 NFC West(NFC wild-card*5))

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


San Francisco 49ers
เสียตัวหลักในเกมรับออกไป แทนที่ด้วยเด็กดาวรุ่งที่ดราฟต์มาใหม่ ท่ามกลางกระแสอาถรรพ์ทีมรองแชมป์ SB แต่คงไม่แย่ถึงขั้นหลุดพื้นที่ playoff แค่เกือบๆ

2019 record: 13-3
Key Acquisitions: Trent Williams (from Redskins)
Key Losses: DeForest Buckner (to Colts)

ปีนี้ทีมรองแชมป์ SB สะเทือนไม่น้อยจากการเสีย 3 ผู้เล่นตัวหลักอย่าง DeForest Buckner, Joe Staley และ Emmanuel Sanders ออกไป ซึ่งคนที่คาดว่าจะมาแทนที่ 2 ใน 3 เป็นดาวรุ่งที่เพิ่งดราฟต์เข้ามาอย่าง Javon Kinlaw กับ Brandon Aiyuk ขณะที่ Trent Williams อดีต LT ระกับ All-Pro น่าห่วงไม่น้อยหลังจากฤดูกาลที่ผ่านมา hold out ประท้วงทีมต้นสังกัดทั้งฤดูกาล เอาจริงๆ ก็ต้องเรียกว่ากลับมาประเดิมสนามใหม่ทั้ง 3 รายนั่นแหละ เกมรุกโดยเฉพาะเกมวิ่ง 3 คู่หูในปีที่ผ่านมา Matt Breida, Tevin Coleman และ Raheem Mostert ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนเป็นหมัดเด็ดพาทีมไปถึง SB ปีนี้เหลือ 2 หลังจากที่ Matt Breida ย้ายไป Dolphins ทำให้ทีมหันกลับมาดู Jerrick McKinnon ตัววิ่งที่เรียกว่าแทบจะถูกลืมไปเลยในปีที่ผ่านมาน่าจะต้องดันขึ้นมาเป็นม้างานช่วยอีก 2 คนที่เหลือ

ในเกมขว้างปีที่ผ่านมา Deebo Samuel ฉายแสงขึ้นมากลายเป็นตัวหลักของทีม ขณะที่ตัวรับบอลมือ 1 อย่าง George Kittle ยังอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือรับทรัพย์อื้อซ่า ถ้าไม่เจ็บไม่ป่วยน่าจะเป็น 2 อาวุธสำคัญในปีนี้ ขณะที่ Brandon Aiyuk ที่มาแทนตำแหน่งของ Emmanuel Sanders ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม เพราะ John Lynch เลือกที่จะดราฟต์ผู้เล่นเกมรับอย่าง Javon Kinlaw ในลำดับที่ 13 ก่อนทั้งๆ ที่ 2 สตาร์ดาวรุ่งอย่าง Jerry Jeudy กับ CeeDee Lamb ยังไม่ถูกเลือก ถ้าผลงานดีก็เรียกว่าทีมน่าจะเฮง 2 ต่อ

ฝั่งเกมรับ คิดว่าคงไม่ต้องพูดถึงมาก ผลงานลูกทีมของ Robert Saleh น่าจะดีต่อเนื่อง เพราะถ้าไม่นับ DeForest Buckner ที่แทนที่ด้วย Javon Kinlaw ที่เหลือก็ต้องเรียกว่าตัวหลักอยู่กันครบทุกตำแหน่ง ถ้าจะมีน่าสนใจบ้างก็คงจะเป็น Richard Sherman ที่สปีดตกลงไปตามสังขาร แต่ก็ยังถือว่าเชื่อมือได้ในปีนี้


Player Focus: Deebo Samuel กับผลงาน 961 หลากับอีก 6 ทัชดาวน์ในปีแรกที่เข้าลีก ทำให้เขาน่าจะกลายเป็นปีกมือ 1 ของทีมโดยสมบูรณ์แล้วในปีนี้ และปีนี้น่าจะเป็นปีที่เขาโดดเด่นกว่า George Kittle ด้วย ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากหลายๆ ทีมน่าจะเตรียมแผนไว้รับมือ Kittle แล้วในปีนี้ ทำให้คาดหวังกับเขามากเหมือนปีที่ผ่านมาไม่ได้

Predict: 9-7 (No.3 NFC West (NFC wild-card*7))

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Seattle Seahawks
ทีมทำผลงานได้ดีเสมอต้นเสมอปลาย เรียกว่าเป็นขาประจำ playoff สำหรับฝั่ง NFC เลยก็ว่าได้ ปีที่ผ่านมาแม้แนว O-Line จะไม่ได้โดดเด่น แต่ Russell Wilson ที่ได้เกมวิ่งมาช่วยเสริมทำให้เขากลายเป็น Russell คนเดิมอีกครััง ปีที่ผ่านมาสิ่งที่พวกเขาเสียหายมีแค่เรื่องเดียวคือ Jadeveon Clowney Edge Rusher คนดังของ Houston Texans ที่ย้ายมาแล้วแป๊กสนั่น แต่ก็แลกกับ DK Metcalf ที่สตีลมาในดราฟต์รอบ 2 แจ้งเกิดกลายเป็นปีกมือ 2 ของทีมทันทีตั้งแต่ปีแรก

2019 record: 11-5
Key Acquisitions: Jordyn Brooks (Rd. 1, No. 27 – Texas Tech)
Key Losses: Justin Britt (free agent)

เรื่องการสตีล DK Metcalf กลายเป็นสิ่งที่คุ้มที่สุดสำหรับ Seahawks เมื่อฤดูกาลก่อน เขาฉายแววว่ากำลังจะเป็นอาวุธหมายเลข 1 ของ Russell Wilson ในเวลาอันใกล้นี้ ด้วยรูปร่างสรีระสูงใหญ่ แต่มีความเร็ว ทำให้ยากต่อการประกบ ปีที่ผ่านมาเขารับบอลไป 58 ครั้ง ทำระยะได้ 900 หลากับอีก 7 touchdowns ขณะที่ปีกมือ 1 ของทีมอย่าง Tyler Lockett รับบอลไป 82 ครั้ง ทำระยะได้ 1,057 หลากับอีก 8 touchdowns ทำให้เชื่อได้ว่า DK Metcalf กำลังจะแซงหน้าในเร็วๆ นี้ ขณะที่น่าสนใจกรณี Seahawks จะเล่นแผน 3WR เราน่าจะได้เห็นการแย่งตำแหน่งกันของ Phillip Dorsett กับ David Moore ขณะที่ตำแหน่งสำคัญอีกตำแหน่งที่ดูมีปัญหาจนต้องเปลี่ยนมาหลายปีอย่าง TE ปีนี้ได้ Greg Olsen ตัวเก๋ากึ๊กจาก Carolina Panthers มายืน ขณะเดียวกันก็มี 2 ตัวหลักจากปีก่อนอย่าง Will Dissly และ Jacob Hollister อยู่ ทั้งนี้ทีมยังได้ดราฟต์ตัว Colby Parkinson ดาวรุ่งจาก Stanford มาเตรียมไว้ด้วยอีกราย น่าสนใจทั้ง 4 คนเพราะคิดว่าน่าจะแย่งตำแหน่งกันสนุก ขณะที่ตำแหน่งตัววิ่งมือ 1 อย่าง Chris Carson น่าจะเป็นตัวยืน แต่ด้วยอาการบาดเจ็บสะโพกเมื่อปลายฤดูกาลก่อน ที่สื่อใช้คำว่า serious injury ทำให้ทีมต้องเซ็นต์เอา Carlos Hyde มาเตรียมสแตนบายไว้อีกคน ร่วมกับสำรองเมื่อปีก่อนอย่าง Rashaad Penny

ปีที่ผ่านมาทีมรับลูกทีมของ Pete Carroll ทำผลงานได้แย่ที่สุดนับตั้งแต่เขาคุมทีมมาจนโด่งดังจากชุด “The Legion of Boom” ปีที่ผ่านมาทั้งทีมเก็บรวมกันไปได้เพียง 28 sacks(อันดับที่ 29 ของลีก) และมีสถิติเข้า blitz กับ pressure คู่ต่อสู้เพียง 129 ครั้ง(อันดับที่ 26 ของลีก) ส่วนหนึ่งมาจาก Jadeveon Clowney ดาวดังของ Texans ที่มาพร้อมความหวังของแฟนๆ แต่จอดป้ายตายสนิทจากอาการบาดเจ็บเล่นงานจนลงสนามไปเพียง 13 เกม และเก็บได้แค่ 3 sacks ทำให้ปีนี้ทีมต้องเปลี่ยน Edge Rushers ใหม่เกือบยกทีม โดยไปเอาเด็กเก่าอย่าง Bruce Irvin และ Benson Mayowa มาเสริมทัพร่วมกับดาวรุ่งอย่าง Rasheem Green ก่อนจะดราฟต์ดาวรุ่งอย่าง Darrell Taylor มาเป็นตัวอะไหล่ซึ่งผมมองว่าดีพอจะเบียด Rasheem Green ขึ้นมาเป็นตัวจริงของทีมได้ อีกตัวที่สำคัญเลยคือ การตัดสินใจดราฟต์ Jordyn Brooks มาตั้งแต่รอบแรก ทำให้แผง linebacker ของ Seahawks น่าจะเป็นแผงที่หยุดเกมวิ่งดีที่สุดของลีกได้ไม่ยาก หลังบ้านได้ Quinton Dunbar มาจาก Washington ล่าสุดไม่รู้คดีไปถึงไหน แต่ถ้าไม่มีปัญหาอะไรน่าจะเบียด Tre Flower ขึ้นเป็นตัวจริงของทีมคุมหลังบ้านร่วมกับ Shaquill Griffin สบายๆ


Player Focus: DK Metcalf ตัววิ่งรุกกี้ปีก่อน ที่ทำผลงานไปด้วยสถิติทำระยะเฉลี่ย 15.5 หลาต่อการถือบอล 1 ครั้ง และสถิติ 9.0 หลาต่อการเป็นเป้ารับบอลจาก Russell Wilson ทำให้ปีนี้มีโอกาสสูงมากที่เขาจะกลายเป็นเป้าหลักของ Russell Wilson แทนที่ Tyler Lockett และน่าจะทำระยะทะลุหลัก 1,000 หลา กับอีก 10+ touchdowns ได้สบายๆ ถ้าไม่เจออาการบาดเจ็บเล่นงาน

Predict: 12-4 (No.1 NFC West)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

NFC SOUTH


Atlanta Falcons
ดูเหมือนทีมจะจับทางได้แล้วว่าต้องซ่อมทีมจากจุดไหนก่อน ปีที่ผ่านมาเริ่มต้น 8 เกมแรก ด้วยสถิติสุดห่วย 1-7 ก่อนที่การปรับทีมรับใหม่จะทำให้ 8 เกมหลังจบด้วยผลงาน 6-2 และดูเหมือนทีมจะขยับอย่างต่อเนื่องในการปรับทีมรับ และนั่นจะทำให้พลพรรค Dirty Bird ล้างแค้น Tom Brady ด้วยการเขี่ย Tampa Bay ออกจากพื้นที่ Playoff

2019 record: 7-9
Key Acquisitions: Dante Fowler Jr. (from Rams)
Key Losses: De'Vondre Campbell (to Cardinals)

การย้ายมาของ 2 ผู้เล่นใหม่ในเกมรุกอย่าง Todd Gurley และ Hayden Hurst ทำให้ Atlanta Falcons กลายเป็นทีมแรกใน NFL ที่กำลังจะมีขุมกำลังในทุกตำแหน่งที่มาจากดราฟต์รอบแรก ปีที่ผ่านมาแนว O-Line กลายเป็นปัญหาหลังจากปล่อยให้ Matt Ryan โดน sacks เฉลี่ยสูงถึง 3.1 ครั้งต่อเกม ทำให้ผลงานของ Matty Ice ดรอปลงไปอย่างชัดเจน มาปีนี้ทีมไม่สามารถรั้งตัว Austin Hooper ปีกในคู่ใจของเขาเอาไว้ได้อีก Thomas Dimitroff, GM ของทีมแก้ปัญหาฉับไวด้วยการไปสู่ขอ Hayden Hurst ปีกในที่ไม่มีที่ยืนใน Baltimore มาร่วมทีม อย่างน้อยๆ เขาก็มีดีกรีเป็นถึง TE ดราฟต์รอบแรกในปี 2018 เอามาให้ Matt Ryan ชุบชีวิตใหม่ ขณะที่อีกตำแหน่งที่ฮือฮาไม่น้อยคือการได้ตัว Todd Gurley ตัววิ่งระดับเทพของ Los Angeles Rams มาแบบงงๆ นั่นทำให้บรรดาอาวุธรอบตัว Matt Ryan ปีนี้แข็งเหลือเกิน นี่ยังไม่รวมคู่หู receiver จาก Alabama อย่าง Julio Jones และ Calvin Ridley อีกนะ

การยอมถอยของ Dan Quinn, HC ของทีมในเรื่องการเรียกแผนเกมรับ แล้วปล่อยให้ Raheem Morris กับ Jeff Ulbrich 2 ผู้ช่วยของเขาทำหน้าที่เรียกแผนแทน ทำให้ Atlanta กลับมามีผลงานดีขึ้นในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง โดยเฉพาะ Raheem Morris ที่ปีนี้รับบท DC เต็มตัว แต่เริ่มมาก็ต้องเสีย De'Vondre Campbell กับ Vic Beasley Jr. ออกจากทีมพร้อมกันทั้งคู่ แต่แลกกับการได้ตัว Dante Fowler Jr. ราชา sacks ที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วกับทั้ง Jacksonville และ LA Rams น่าจะเรียกว่าดีกว่าเดิมแน่ๆ ปีนี้น่าห่วงหน่อยก็แผงหลังบ้านที่คู่ตัวคุมปีกเป็นดาวรุ่งทั้งคู่ อาจจะโดนลองของบ่อยแน่ๆ โดยเฉพาะใน Division ที่มี 2 ลุงอย่าง Drew Brees และ Tom Brady เป็นก้างชิ้นใหญ่


Player Focus: Calvin Ridley ผลงานในปีที่ผ่านมาดีขึ้นทันทีแบบก้าวกระโดดหลังจากทีมตัดสินใจเทรด Mohammed Sanu ไปให้ New England Patriots ซึ่งก่อนหน้าที่ Sanu ยังอยู่ Calvin Ridley มีผลงาน รับบอลเฉลี่ย 4.1 ครั้ง ทำระยะเฉลี่ย 53.3 หลาต่อเกม แต่พอเทรด Sanu ออกไป ผลงานของเขาใน 6 เกมสุดท้าย ขยับมาเป็นรับบอลเฉลี่ย 5.7 กับทำระยะได้ 82.2 หลาต่อเกมเลยทีเดียว ดังนั้นปีนี้ได้ลงเป็นตัวจริงยาวทั้งฤดูกาล น่าสนใจไม่น้อยสำหรับใครจะเลือกเขาเข้าทีมใน fantasy

Predict: 9-7 (No.2 NFC South(NFC wild-card*6))

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Carolina Panthers
ทีมกลับสู่โหมดรื้อสร้างใหม่เรียบร้อยแล้ว ปีนี้พวกเขาเริ่มต้นด้วย new coach, quarterback และ coordinators ทีมทะยอยปล่อยตัวหลักออกไปหลายคนทั้งทีมบุกและทีมรับ แต่แม้ว่าปีนี้อาจจะถูกมองว่าไม่มีลุ้น แต่ Christian McCaffrey คงจะเป็นสิ่งที่ทำให้ Carolina ยังน่าดูอยู่

2019 record: 5-11
Key Acquisitions: Derrick Brown (Rd. 1, No. 7 – Auburn)
Key Losses: Luke Kuechley (retired)

ปิดฉาก 9 ปีที่ Ron Rivera และ Cam Newton สร้างเอาไว้กับ Carolina จบด้วยการเข้ารอบ playoff ได้ 3 สมัยและไปถึงเกม SB 1 สมัย ทีมตัดสินใจปลด Rivera หลังจากทำทีมมีสถิติ 5-7 ก่อนจะตัดตัว Cam Newton ทิ้งหลังจากอาการบาดเจ็บทำให้เขาลงสนามได้เพียงแค่ 2 เกมในปีที่ผ่านมา ปีนี้หลายๆ อย่างประเดประดังใส่ทีม Panthers ไล่ตั้งแต่ Greg Olsen, TE ที่อยู่มานานพอๆ กับ Cam Newton ตัดสินใจไม่อยู่ต่อกับทีม แถมเอา Trai Turner ไปเทรดแลกกับ Russell Okung ของ Chargers เสร็จปุ๊บ Okung ประกาศขอใช้สิทธิ COVID Op.out เรียกว่าเสียหาย 2 ต่อ หนักสุดคือ Luke Kuechley ราชา All-Pro ในตำแหน่ง Middle Linebacker ผู้ครองสถิติ Tackle 100+ ครั้งตลอด 8 ฤดูกาลที่เล่นในอาชีพตัดสินใจ retired ด้วยวัย 29 ปีไปแบบช็อกแฟนๆ ทั้งลีก Matt Rhule โค้ชใหม่ที่มาจาก College ตัดสินใจเลือก Teddy Bridgewater, QB สำรองของ New Orleans Saints ที่ทำผลงาน 5-0 ทำระยะไป 1,370 หลา หลังจากลงมาทำหน้าที่แทน Drew Brees ชั่วคราว แถมไม่มีการดราฟต์ QB มาเพิ่มเรียกว่าให้โอกาสเต็มๆ ยาวๆ ในปีนี้ แถมติดอาวุธชิ้นใหญ่ให้ด้วยการไปคว้าเอา Robby Anderson ปีกมือ 1 ของ New York Jets มาคอยรับบอลจากเขา

ฝั่งทีมรับ Matt Rhule ตัดสินใจหนีบเอา Phil Snow มือขวาของเขาที่ Baylor มารับหน้าที่ DC คนใหม่ของทีม ซึ่งทั้งคู่ตัดสินใจที่จะใช้สิทธิ์ดราฟต์ทั้งหมดในปีนี้ 7 สิทธิ์ ไปกับการดราฟต์ดาวรุ่งในฝั่งทีมรับล้วนๆ และ 4 คนที่ดราฟต์มาใน 4 รอบแรกก็มีโอกาสแย่งตำแหน่งตัวจริงของทีมได้ค่อนข้างสูง ไล่ตั้งแต่ Derrick Brown, Yetur Gross-Matos, Jeremy Chinn และ Troy Pride Jr. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในปีนี้ทุกอย่างดูไม่เป็นใจกับ Carolina Panthers ซักเท่าไหร่ เพราะพวกเขาอยู่ใน Group of Death ที่อีก 3 ทีมมีจอมทัพระดับซุปตาร์ของลีกไม่ว่าจะเป็น Drew Brees, Tom Brady และ Matt Ryan ดังนั้นปีนี้คงเตรียมตัวสร้างทีมไปพลางๆ ก่อน


Player Focus: Robby Anderson เป็นอดีตศิษย์ของ Matt Rhule สมัยที่คุมทีม Temple Owls เมื่อปี 2013-15 การที่ทีมตัดสินใจเซ็นต์เขาเข้าทีมทันที น่าจะเป็นใบสั่งของ Rhule ที่ต้องการจะเอามาเป็นปีกคู่บุญของเขา ดังนั้นมันแน่นอนว่าการย้ายมาของ Robby Anderson ก็เพื่อจะมาเป็นมือ 1 ของทีมแทนที่ Curtis Samuel และ DJ Moore

Predict: 3-13 (No.4 NFC South)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


New Orleans Saints
Saints ในปีนี้ต้องบอกว่ามีลุ้น SB ที่สุดแล้วอีกปีนึง หลังจากติดอาวุธสำคัญอย่าง Emmanuel Sanders มาเป็นคู่หูปีกฝั่งตรงข้ามกับ Michael Thomas ทำให้เกมขว้างของ Drew Brees อันเป็นเครื่องหมายการค้าของเกมรุกของ New Orleans ยิ่งอันตรายมากขึ้นกว่าเดิม เหลือก็แค่ให้ Drew Brees ในช่วงปลายของชีวิตนักกีฬา รักษาสุขภาพของตัวเองไม่เจ็บไม่ป่วยก็เป็นพอ

2019 record: 13-3
Key Acquisitions: Emmanuel Sanders (from Saints)
Key Losses: Vonn Bell (to Bengals)

Drew Brees ก็ยังคงเส้นคงวาเหมือนเดิม พา Saints เข้ารอบ playoff เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ชัดเจนขึ้นในเรื่องผลงาน 3 ปีหลัง Drew Brees ขว้างเสี่ยงน้อยลง เพราะนับตั้งแต่ปี 2016 ย้อนหลังไปเขาเสีย Intercept เกิน 10 ลูกในทุกๆ ปี แต่หลังจากปี 2017 เป็นต้นมา Drew Brees ไม่เคยเสีย Intercept ถึง 10 ครั้งเลย ส่วนหนึ่งเพราะเขาได้ปีกเทพอย่าง Michael Thomas มาเป็นเป้าหลัก แต่อีกส่วนก็มาจากระบบการเล่นที่เพิ่มเกมวิ่งเข้ามาช่วยในเกมบุกด้วย ปีที่ผ่านมาเจออาการบาดเจ็บทั้งของตัวเองและเพื่อนร่วมทีมเล่นงานจนไปไม่ถึงดวงดาว มาปีนี้บรรดาอาวุธชุดเดิมอยู่ครบพร้อมหน้าทั้ง Michael Thomas, Jared Cook, Alvin Kamara แถมยังได้ Emmanuel Sanders มาเพิ่ม ขณะที่แนว O-Line ชุดเดิมอยู่กันเกือบครบมีเพียง Larry Warford ที่ถูกปล่อยตัวทิ้งไปหลังจากทีมดราฟต์ Cesar Ruiz มายืนในตำแหน่ง RG แทน น่าสนใจในตำแหน่ง QB สำรองด้วย หลังจากทีมปล่อยตัว Teddy Bridgewater มือ 2 ออกไป แรกๆ เหมือนจะให้ Tayson Hill เป็นมือ 2 หลังจากได้รับการการันตีด้วยสัญญาฉบับใหม่ แต่แล้วจู่ๆ ทีมก็ตัดสินใจคว้า Jameis Winston อดีตดราฟต์ no.1 ปี 2015 เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวประกันอนาคตถ้าเกิดกรณี Drew Brees บาดเจ็บจนต้องพักหลายเกมแบบปีที่ผ่านมา

ฝั่งทีมรับส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นหน้าเดิมจากปีที่ผ่านๆ มา หลักๆ คือการเสีย Vonn Bell, SS ตัวหลักของทีมออกไป แต่ก็ไปดึง Malcolm Jenkins อดีตเด็กเก่าจาก Philadelphia Eagles มายืนแทน ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ดูจากภาพรวมแล้วขุมกำลังน่าจะพร้อมแทบทุกตำแหน่งแล้วสำหรับลุยฤดูกาลใหม่


Player Focus: Michael Thomas ปีกนอกตัวเทพจาก Ohio State กำลังจะกลายเป็นปีกนอกหมายเลข 1 ของลีกในไม่ช้านี้ หลังจากผลงานนับตั้งแต่ดราฟต์เข้ามาในปี 2016 ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี จนมาปีล่าสุดทำ NFL record ด้วยสถิติรับบอลมากที่สุดใน 1 ฤดูกาลไปที่ 149 ครั้ง และเป็นปีกที่ทำระยะได้มากที่สุดของลีกในปีที่ผ่านมาด้วยผลงานรับไป 1,725 หลากับอีก 9 touchdowns และผมเชื่อว่าเขาเป็นเป้าโปรดของ Drew Brees ดังนั้นการย้ายมาร่วมทีมของ Emmanuel Sanders จะไม่ทำให้ Drew Brees ขว้างให้เขาน้อยลงจากเดิมแน่ๆ ดีไม่ดี Sanders อาจจะเป็นแค่ตัวดึงความสนใจในแนวรับคู่ต่อสู้ ขณะที่เป้าหลักจะเป็น Thomas เหมือนเดิม และนั่นจะทำให้ปีนี้อาจจะเป็นปีแรกที่ Michael Thomas จะรับ touchdowns เป็นเลข 2 หลักได้เป็นปีแรกในชีวิต

Predict: 11-5 (No.1 NFC South)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Tampa Bay Buccaneers
การมาของ Tom Brady และ Rob Gronkowski 2 คู่หูแห่ง New England Patriots ในช่วงปลายของอาชีพ เป็นคำถามว่าเมื่อเขามาเล่นภายใต้ HC ที่ไม่ใช่ Bill Belichick จะยังคงโดดเด่นเหมือนเดิมหรือไม่ ท่ามกลางอาวุธใหม่มากมาย เหมือนที่ Brady เคยปราถนาในปีก่อน

2019 record: 7-9
Key Acquisitions: Tom Brady (from Patriots)
Key Losses: Breshad Perriman (to Jets)

การเปลี่ยนทีมที่เรียกว่าน่าจะออกแนวออกหาความท้าทายครั้งสุดท้ายในอาชีพ สร้างความฮือฮาไม่น้อย แต่อย่างว่า ที่นี่คือ Tampa ไม่ใช่ New England ที่คุ้นเคยอีกแล้ว ทำให้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะออกมาดีหรือเจ๊ง แน่นอนว่าทีมของ Bruce Arians มี 2 คู่หูอย่าง Mike Evans และ Chris Godwin เตรียมไว้รออยู่แล้ว ขณะที่หนึ่งในตำแหน่งโปรดของ Tom Brady อย่าง TE ทีมก็มีของเดิมอย่าง O.J. Howard กับ Cameron Brate อยู่แล้ว แต่ทีมก็ยังลงทุนนำเข้าคู่หูตลอดกาลของเขาอย่าง Rob Gronkowski ที่เลิกเล่นไปแล้ว ให้กลับมาเล่นอีกครั้งในปีนี้ ฝั่งตัววิ่งปีนี้ทีมปล่อย Payton Barber ออกไป เปิดทางให้ Ronald Jones II ได้เป็นมือ 1 เต็มตัว พร้อมกับดราฟต์ Ke’Shawn Vaughn ตัววิ่งของ Vanderbilt เข้ามาเป็นสำรองของเขา ยังไม่นับ LeSean McCoy ที่ไม่รู้เอาเข้ามาเป็นสำรองหรือแค่ต้องการกั๊กทีมอื่นๆ

ฝั่งทีมรับดูเหมือนแก๊งค์จอม rush หน้าเดิมอยู่กันครบ ไม่ว่าจะเป็น Shaqull Barrett, Ndamukong Suh หรือ Jason Pierre-Paul แนว front-7 ที่มีผลงานดีกับการรับมือกับเกมวิ่งคู่ต่อสู้ ขณะเดียวกันสถิติการเข้า sacks QB คู่แข่งก็โดดเด่นอยู่ในลำดับ 6 ของลีก ปีนี้ Jason Licht, GM ของทีมลงทุนไปกับการดราฟต์ Antoine Winfield ในรอบ 2 เพื่อเอามาเป็น Safety ตัวหลักของทีม คาดว่าน่าจะลงในตำแหน่ง SS เพราะ Justin Evans มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน ซึ่งอาจจะช่วยยกระดับผลงานของบรรดาตัวคุมปีกได้


Player Focus: Chris Godwin หลังจากระเบิดผลงานในปีที่ผ่านมา ทำให้เขาถูกมองว่าเป็นปีกระดับท็อปของลีกไปทันทีในปีนี้ ความน่าสนใจก็คือ Godwin สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งของปีก นั่นอาจจะหมายถึงเขาอาจจะรับหน้าที่ในตำแหน่ง slot receiver ซึ่งเป็นตำแหน่งโปรดที่ Tom Brady ชอบขว้างไปให้ และนั่นอาจจะทำให้เขายิ่งมีผลงานระเบิดมากกว่าเดิม

Predict: 9-7 (No.3 NFC South)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Baltimore Ravens
หลังจากพลาดท่าตกรอบ Playoff ไปแบบงงๆ ทั้งๆ ที่ฤดูกาลปกติมาดีมาก เก็บได้ถึง 14-2 เรียกว่าเกินความคาดหมายไปไกล แต่อย่างที่เห็นอนาคตทีมดูดีมากๆ ตัวหลักหลายๆ คนยังเล่นอยู่ในสัญญา rookie ปีนี้มีโอกาสแก้ตัวอีกรอบก่อนจะถึงเวลาที่ต้องจ่ายค่าจ้างใหม่ให้พวกเขา

2019 record: 14-2
Key Acquisitions: Patrick Queen (Rd. 1, No. 28 – LSU)
Key Losses: Marshal Yanda (retired)

การพ่าย Tennessee แบบหมดรูปในเกม divisional ปีที่ผ่านมาทำให้ทีมต้องกลับมาคิดใหม่ในเรื่องบาลานส์ของรูปแบบการเล่น แน่นอนว่าปีก่อนสามารถพูดได้ว่าก็มันไม่มี receiver ที่ผลงานดีหรือฝากผีฝากไข้ได้เลยนอกจาก Mark Andrew กับ Marquise Brown และนั่นก็ชัดอยู่แล้วหลังจากผลงานสรุปออกมา Baltimore Ravens ก็เป็น 1 ใน 8 ทีมที่มีผู้เล่นในตำแหน่ง receiver แค่คนเดียวที่ทำระยะได้เกิน 600 หลา(ซึ่งก็คือปีกในอย่าง Mark Andrew) นั่นแสดงให้เห็นว่า Lamar Jackson มีอาวุธในการรับบอลเชิงลึกน้อยเกินไป หรืออาจจะมีแต่แกไม่ขว้างไป ทีมเลยตัดสินใจดราฟต์ปีกนอกเข้ามารวดเดียว 2 คน ก็คือ Devin Duverney กับ James Proche จริงๆ ต้องบอกว่านอกจาก Miles Boykin แล้ว ที่เหลือจัดเป็นปีกร่างเล็กกันหมด ต้องมาดูกันว่าปีนี้ Lamar Jackson จะเริ่มขว้างมากขึ้นหรือไม่หลังจากที่ทีมเสียยอดการ์ดว่าที่ Hall of Fame อย่าง Marshal Yanda ไป

ฝั่งทีมรับสิ่งที่ต้องเริ่มคิดก็คือระบบการเล่นของทีมที่ปีที่ผ่านมาเป็นอันดับ 1 ในการเล่น Blitz แต่กลับเก็บมาได้เพียง 37 sacks(อยู่ในลำดับที่ 21 ของลีก) มันดูไม่สัมพันธ์กันเลย มันเลยทำให้ทีมต้องหาคนมาช่วย Matt Judon เพิ่ม ถ้าหากจะคงปรัชญาการเล่นที่เน้น Blitz แบบเดิมเอาไว้ เห็นได้ชัดคือการเติม Derek Wolfe กับ Calais Campbell เข้ามาเป็นคู่หู 3-4DE ทั้งซ้ายและขวา แล้วปล่อยให้ดาวรุ่งอย่าง Tyrus Browser กับ Jaylon Ferguson ไปแย่งตำแหน่ง OLB กันเอง ขณะที่ตำแหน่ง ILB หลังจากเสีย C.J. Mosley ออกไป ทีมก็ยังหาตัวหลักไม่ได้ มาปีนี้ดราฟต์ Patrick Queen กับ Malik Harrison มา แต่ไม่รู้ใครจะได้การันตีตัวจริงก่อนกัน หลังบ้านแม้ว่าจะปล่อยตัว Earl Thomas เซฟตี้คนดังออกไปหลังมีปัญหาทะเลาะกับเพื่อนร่วมทีม แต่จากข่าวแล้วน่าจะทำให้ทีมเล่นดีขึ้นเพราะหลายๆ คนในทีมพูดตรงกันว่า ไม่แฮปปี้ที่มี Earl Thomas อยู่ในทีม


Player Focus: Marquise Brown จริงๆ เจ้า Hollywood เป็นปีกที่ถูกคาดหมายว่าจะระเบิดฟอร์มได้ตั้งแต่ปีแรก แต่ดันเจออาการบาดเจ็บมาเบรกเอาไว้ก่อนทำให้ได้ลงสนามจริงๆ เพียง 14 เกมเท่านั้น ดูเหมือนเขาจะเป็นเป้าโปรดของ Lamar Jackson ในเขต Red-Zone เพราะรับไปถึง 7 touchdowns ดังนั้นไม่แปลกที่ปีนี้เขาจะเป็นคนที่ถูกคาดหมายมากที่สุดในบรรดา receiver ของทีม ถ้าหากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยการลดเกมวิ่งแล้วเพิ่มเกมขว้างมากขึ้น

Predict: 10-6 (No.2 AFC North(AFC wild-card*6))

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Cincinnati Bengals
ลุ้นกับยุคสมัยใหม่ของ Joe Burrow แต่ด้วยว่าทีมยังมีหลายตำแหน่งที่ต้องปรับทัพ ปีนี้คงไม่คาดหวังอะไรมาก แค่เก็บ W ได้มากกว่าปีก่อนก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เดินหน้าเก็บสิทธิ์ดราฟต์สร้างทีมต่อในปีหน้า

2019 record: 2-14
Key Acquisitions: Joe Burrow (Rd. 1, No. 1 – LSU)
Key Losses: Andy Dalton (to Cowboys)

เป็นการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยของ Andy Dalton mี่อยู่กับทีมมายาวนานถึง 9 ปีกับผลงาน 70-61-2 ทำให้เจ้า Red Rifle กลายเป็นเจ้าของสถิติ The Bengals all-time leader in completions กับ touchdown passes แต่ด้วยว่าจุดด่างพร้อยจุดเดียวในชีวิตเขาคือการที่ไม่เคยพาทีมคว้าชัยชนะในเกมรอบ playoff ได้เลยซักครั้ง เรียกว่าเข้า playoff ไปเกมแรก็ร่วงตกรอบเลย ทำให้สุดท้ายแล้วก็อย่างที่เห็น ทีมเลือกที่จะสร้างอนาคตใหม่กับ Joe Burrow, QB ดาวรุ่งกับผลงาน 5,671 หลากับอีก 60 touchdowns เรียกว่าดีที่สุดในประวัติศาสตร์ College Football นั่นทำให้แฟนๆ ย่อมคาดหวังอยู่ไม่น้อย เพราะทีมมีอาวุธรอเขาอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น A.J. Green, John Ross, Tyler Boyd, Joe Mixon ร่วมไปถึง Tee Higgins ที่เรียกว่าน่าจะดราฟต์มาสแตนบายรอเสียบตำแหน่งของ A.J. Green หรือ John Ross แน่ๆ ในปีหน้า ดีไม่ดีอาจจะแย่งตำแหน่งได้ตั้งแต่ปีนี้เลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะ A.J. Green ปีกระดับซุปตาร์ที่พลาดการลงสนามถึง 23 จาก 24 เกมหลังสุด ซึ่งเรียกว่าค่อนข้างเซอร์ไพรส์ไม่น้อยที่ทีมยังตัดสินใจแปะป้าย franchise tag ใส่เขาอยู่ในปีนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่น่ากังวลกว่าก็คือทีมไม่ได้อัพเกรดแผง O-Line เลยในปีนี้ แถมเสี่ยงกับอาการบาดเจ็บของ Jonah Williams ที่จะมารับตำแหน่ง LT ตัวจริงในปีนี้อีก ถ้าดีก็ดีไป แต่ถ้าเจ็บซ้ำขึ้นมาอีก เรียกว่าตำแหน่ง blindside ของ Burrow จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาทันที

ส่วนหนึ่งเชื่อว่า Mike Brown, GM ของทีมเลือกที่จะซ่อมเกมรับก่อน หลังจากช่วงหลังๆ หลายๆ ทีมที่ประสบความสำเร็จ มักจะเน้นสร้างทีมรับก่อน ปีนี้พวกเขาลงทุนไปกับการเซ็นต์ D.J. Reader, DT ตัวเก่งของ Texans มาอุดช่องโหว่ในการรับมือเกมวิ่งของคู่แข่ง หลังจากที่ปีที่แล้วพวกเขาคือทีมที่มีผลงาน Run Defense แย่ที่สุดของลีก โดยโดนกระทุ้งเฉลี่ย 148.9 หลาต่อเกม หรือคิดเป็นเสียระยะ 4.8 หลาต่อการถือบอล 1 ครั้งของตัววิ่งคู่แข่งเลยทีเดียว ขณะที่เกมหลังบ้านปีนี้พวกเขาเรียกว่านำเข้าคู่หูตัวคุมปีกของ Minnesota Vikings มาแบบแพคคู่ Trae Waynes กับ Mackensie Alexander ที่จะมาจับมือกับ William Jackson III ในการคุมหลังบ้านในปีนี้ นอกจากนี้อีก 1 ตำแหน่งที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษคือแผง linebacker เพราะนอกจากตัวประสบการณ์อย่าง Josh Bynes แล้ว ที่เหลือเป็นดาวรุ่งล้วนๆ Germaine Pratt ดาวรุ่งตัวเก่งในปีก่อน น่าจะเป็นตัวยืนอีกคน ส่วนอีก 1 ตำแหน่งที่เหลือคงจะต้องแย่งตำแหน่งกันอุตลุดในกลุ่มดาวรุ่งที่ดราฟต์มา


Player Focus: Joe Mixon เป็นที่รู้กันแหละว่าในปีแรกของ QB ดาวรุ่ง คนที่เหนื่อยที่สุดคงหนีไม่พ้นตำแหน่ง RB เพราะต้องช่วยถือบอลในหลายๆ play เพราะ HC มักจะไม่ปล่อยให้เด็กหน้าใหม่เล่นเสี่ยงๆ มากเกินไป เพราะถ้าพลาดมาบ่อยเข้า มันมีผลต่อความมั่นใจในระยะยาว ซึ่งแม้เจ้าตัวจะงอแงกับการเรียกร้องสัญญาฉบับใหม่อยู่ในปัจจุบัน แต่ยังดีที่ไม่เลือกทางที่ hold out กับทีม ดังนั้นปีนี้เขาอาจจะได้ถือบอลบ่อยความเดิม จากเดิมที่ก็บ่อยอยู่แล้ว (เฉลี่ย 22.1 ครั้งต่อเกม) และผลงานการวิ่งทำระยะเฉลี่ยได้ 4.6 หลาต่อการถือบอล 1 ครั้งมันก็ไม่เลวเลย

Predict: 3-13 (No.4 AFC North)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Cleveland Browns
Kevin Stefanski กลายเป็น HC คนที่ 4 ของ Browns ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา นั่นเป็นสัญญาณที่ไม่ดีสำหรับ Baker Mayfield เพราะ QB ดาวรุ่งไม่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ปีนี้น่าสนใจเพราะ Kevin Stefanski กับ Alex Van Pelt, OC ของทีมส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะเรียกแผนเกมวิ่งบ่อยขึ้นในปีนี้ และนั่นอาจจะทำให้ Baker Mayfield กลับสู่ฟอร์มเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อนได้

2019 record: 6-10
Key Acquisitions: Jedrick Will Jr. (Rd. 1, No. 10 – Alabama), Jack Conklin (from Titans)
Key Losses: Joe Schobert (to Jaguars)

ในปีที่ผ่านมา Baker Mayfield กลายเป็นคนละคนกับฤดูกาล 2018 หลังจากที่เจอแนว O-Line ที่ให้เวลาเขาน้อยลงกว่าเดิม รวมไปถึงการตัดสินใจพลาดบ่อยครั้งจนเสียไปถึง 21 interceptions น่าจะเป็นรองแค่ Jamie Winston แค่คนเดียวมั้ง การมาของ Kevin Stefanski ที่มาพร้อมกับ Case Keenum, QB คู่ใจสมัยที่ระเบิดฟอร์มกับ Minnesota Vikings ทำให้อนาคตของ Baker Mayfield ดูไม่แน่นอนขึ้นมาบ้างพอสมควร แต่เชื่อว่ายังไงเขาก็น่าจะเป็นมือ 1 ของ Cleveland ในฤดูกาลนี้ ในปีที่ผ่านมา Odell Beckham Jr. ทำผลงานรับบอลได้ถึง 1,035 หลา เพียงแต่ว่าการที่เขารับได้เพียง 2 touchdown ทำให้ถูกมองว่าผลงานไม่ดี แต่ถ้าดูจากมาตรฐานการรับบอลทำระยะแทบไม่ได้ต่างไปจากสมัยอยู่กับ New York Giants เลย แต่เหมือนว่าการเล่นร่วมกับ Baker Mayfield ยังดูไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ สำหรับ Kevin Stefanski ในปีที่ผ่านมาทำให้เกมบุกของ Minnesota Vikings ทำสกอร์ได้สูงเป็นบำดับที่ 8 ของลีก และเป็น 1 ใน 3 ทีมที่มีสถิติวิ่งมากกว่าขว้าง นั่นเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า Browns น่าจะเล่นเกมวิ่งมากขึ้นในปีนี้ พวกเขามี 2 ตัววิ่งมหากาลอย่าง Nick Chubb กับ Kareem Hunt อยู่ในทีมอยู่แล้ว นั่นทำให้ฤดูกาลใหม่ของ Cleveland น่าดูยิ่งกว่าเดิม

ปีนี้เห็นได้ชัดว่า Stefanski จัดหนักกับทีมบุกของ Browns มาก ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนคู่หู Offensive Tackle ทั้งซ้ายและขวา เสริม TE คนดังอย่าง Austin Hooper มาเป็นหมัด 1-2 ในการกระทุ้งแนวคู่ต่อสู้ร่วมกับ David Njoku ที่ปีนี้อาจจะปรับลดบทบาทลงไป ดังนั้นปีนี้ความน่าสนใจของ Cleveland น่าจะไปอยู่ที่ RB กับ TE มากกว่า QB
สำหรับเกมรับปีนี้น่าห่วงแค่ตำแหน่ง MLB หลังจากทีมเสีย Joe Schobert ออกไป ทำให้ต้องรอดูว่าทีมจะเปิดโอกาสให้ Jacob Phillips ดาวรุ่งของ LSU ที่ดราฟต์มาในรอบ 3 ตั้งแต่ปีแรกเลยหรือไม่เพราะคู่แข่งที่เหลือในตำแหน่งก็ไม่ใช่ดาวดังซักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น B.J. Goodson หรือ Sione Takitaki ส่วนตำแหน่งที่เหลือดูแข็งแกร่งเหมือนเดิม


Player Focus: Andy Janovich ที่ Minnesota Kevin Stefanski เล่นแผน 1 RB+2TE โดยมีการใช้แผนที่ใช้ผู้เล่นในตำแหน่ง FB จนทำให้เขาปั้น C.J. Hamm จนติดทีม 2019 Pro Bowler มาแล้ว ปีนี้เขานำเข้า Andy Janovich FB ของ Denver Broncos มาร่วมทีมตั้งแต่ต้นๆ แสดงให้เห็นว่ามีโอกาสสูงมากที่เราจะได้เห็นการรูปแบบการเล่นของ Minnesota Vikings ในสีเสื้อของ Cleveland Browns ในปีนี้

Predict: 9-7 (No.3 AFC North (AFC wild-card*7))

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Pittsburgh Steelers
ปีที่ผ่านมาดวงแตกเต็มๆ จากเดิมที่เป็นตัวเต็งพอ Ben Roethlisberger เจ็บหนักจนต้องปิดฤดูกาลตั้งแต่หัววัน ทำให้ทุกอย่างเหมือนจะจบทันทีสำหรับ Steelers ก่อนที่ Mason Rudolph กับ Devlin Hodges จะสลับกันลงมาพาทีมจบ 8-8 ไปได้แบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่นซักเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าเป็นปีที่ผลงานแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003 เลยทีเดียว แต่ข่าวดีก็คือเราได้เห็นทีมรับของ Steelers ที่ดูดีมีอนาคตมากทีเดียว

2019 record: 8-8
Key Acquisitions: Eric Ebron (from Colts)
Key Losses: Javon Hargrave (to Eagles)

นับตั้งแต่ Pittsburgh ดราฟต์ Ben Roethlisberger เข้าทีมมาในปี 2004 เราแทบไม่เคยเห็น Big Ben บาดเจ็บหนักจนต้องพักยาวเกือบทั้งฤดูกาลมาก่อน อย่างมากสุดก็ 4-5 เกม แต่ก็ต้องยอมรับว่า Big Ben มีสถิติลงสนามไม่ค่อยเต็มทั้งฤดูกาลมาเรื่อยๆ เอาง่ายๆ 16 ปีนับตั้งแต่เข้าลีก Big Ben อยู่ครบ 16 เกมในฤดูกาลปกติเพียง 4 ฤดูกาลเท่านั้น เราได้เห็น Steelers พยายามดราฟต์ QB มาเผื่อไว้เป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็น Omar Jacobs (2006), Dennis Dixon (2008), Landry Jones(2013), Joshua Dobbs(2017) และ Mason Rudolph(2018) แต่กระนั้นก็ยังไม่มีใครแย่งตำแหน่ง Big Ben ได้เลย มาที่ตำแหน่ง RB เริ่มไม่ใช่ซะแล้วสำหรับ James Corner หลังจากปี 2018 ระเบิดฟอร์มดุดันเอาไว้ เรียกว่าแฟนๆ เฮแถมเยาะส่ง Le’Veon Bells ที่ก่อหวอดกับทีมจนทำให้ James Corner ได้รับโอกาสลงมาเป็นมือ 1 แล้วทำไป 13 touchdowns แต่พอมาปีที่ผ่านมา ผลงานเขาตกต่ำลงไปอย่างน่าเหลือเชื่อ หลักๆ มาจากปัญหาอาการบาดเจ็บที่ตามรบกวนหนักขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ในฤดูกาลนี้ ตำแหน่งของเขาเริ่มไม่มั่นคงซะแล้ว Jaylen Samuel กับ Benny Snell เริ่มขยับเข้ามาใกล้แล้ว แถมทีมยังตัดสินใจดราฟต์ Anthony McFarland Jr. ตัววิ่งของ Maryland มาในรอบ 4 อีกคน ทำให้ James Corner กดดันมากขึ้นในปีสุดท้ายที่ต้องเร่งทำผลงานก่อนที่จะหมดสัญญากับทีมในปลายฤดูกาลนี้

ขณะที่ตำแหน่ง TE นับตั้งแต่ Heath Miller ปีกในคนดังของทีม retired ไปในปี 2015 ดูเหมือนทีมยังคงตามหา TE คนใหม่ที่จะเป็นตัวหลักของทีมมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Jesse James, Vance McDonald จนล่าสุดไปเอา Eric Ebron มาจาก Indianapolis Colts แน่นอนว่าที่ Colts Ebron คือตัว target red-zone ขนานแท้โดยเฉพาะปี 2018 ที่ระเบิดฟอร์มมโหฬารมาก ก่อนจะมาเจอ Colts ปีที่ผ่านมาทำให้ฟอร์มหลุดไปด้วยแถมพ่วงอาการบาดเจ็บจนต้องผ่าตัด ทีมก็ได้แต่หวังว่าเขาจะหายดีแล้วเพราะ Randy Fichtner, OC ของทีมตั้งใจจะเล่นแผน 2TE ด้วยซึ่ง Eric Ebron ถนัดอยู่แล้วเพราะเคยเล่นที่ Colts มาก่อน

ไฮไลท์สำคัญประจำปีที่ผ่านมาคือการที่ทีมตัดสินใจเอาสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกไปเทรดเอา Minkah Fitzpatrick มาจาก Miami Dolphins สรุปคือคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ทำไป 5 Intercept, 9 pass defense แถมยังเก็บ pick-6 ได้ถึง 2 รอบ ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ ในแผงเกมรับแน่นปึ๊กทุกตำแหน่งโดยเฉพาะแก๊งค์ front-7 อยู่กันครบ คู่หู Bud Dupree+T.J. Watt ที่ปีที่ผ่านมาเฉพาะ 2 คนนี้เก็บไปรวมกัน 26 sacks บ้าระห่ำสุดๆ แถมหลังบ้านมี Minkah Fitzpatrick+Joe Haden คุมเอาไว้ เรียกว่าปีนี้น่าจะขย่มทวงตำแหน่งราชา AFC North คืนจาก Baltimore Ravens แน่นอน


Player Focus: Bud Dupree+T.J. Watt ยังคงเป็นคู่หูที่น่าจับตามองต่อไปในปีนี้ เพราะ Bud Dupree อยู่ในสัญญา franchise tag น่าจะต้องเร่งฟอร์มเพื่อขอสัญญาฉบับใหม่ เช่นเดียวกับ T.J. Watt ที่ก็ใกล้จะถึงเวลาต่อรองสัญญาฉบับใหม่แล้วเช่นกัน ถ้าหากผลงานยังดีต่อเนื่อง เรามีโอกาสได้เห็น Steelers ตัดสินใจเลือกเกมรับก่อนแล้วไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับ 2 สตาร์เกมรุกอย่าง JuJu Smith-Schuster และ James Corner ในปลายฤดูกาลนี้ เพราะทีมตั้งท่าดราฟต์ Chase Claypool กับ Anthony McFarland Jr. มาเตรียมรอไว้แล้วด้วยสิ

Predict: 11-5 (No.1 AFC North)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Houston Texans
Houston Texans เข้าโหมดทะยอยโล๊ะสตาร์เพื่อเคลียร์ cap รอต่อสัญญาฉบับใหม่กับ Deshaun Watson, QB คนดังของทีมที่กำลังจะหมดสัญญาในช่วงปลายฤดูกาล 2022 นี้ ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าหากหลังจากนี้จะมีสตาร์บางคนถูกเทรดออกไปอีก

2019 record: 10-6
Key Acquisitions: Jonathan Greenard (Rd. 3, No. 90 – Florida)
Key Losses: DeAndre Hopkins (to Cardinals)

หลังจากเทรด DeAndre Hopkins ออกไปแถมไม่พอปล่อยตัว Carlos Hyde ตัววิ่งที่วิ่งไป 1,070 หลากับอีก 6 touchdowns เมื่อฤดูกาลก่อนทิ้ง ทำให้ความกดดันมาตกอยู่กับ 2 Johnson อย่าง David Johnson & Duke Johnson 2 ตัววิ่งที่ต้องแบกทีมใหนปีนี้ เทรดนี้แฟนๆ หลายคนไม่โอเคส่วนหนึ่งก็เพราะมองว่า David Johnson กำลังเข้าสู่ช่วงขาลง ผลงานก็แย่ลงทุกๆ ปี สุขภาพก็ไม่สมบูรณ์ด้วย จนต้องเสียตำแหน่งมือ 1 ให้ Kenyan Drake ที่ Arizona เช่นเดียวกับตัวแทนของ DeAndre Hopkins อย่าง Brandin Cooks และ Randall Cobb ที่ก็เหตุผลคล้ายๆ กัน ทำให้เวลานี้คนมองว่าคนที่จะเป็นมือ 1 ไม่ใช่ Cooks แต่น่าจะเป็น Will Fuller V มากกว่า แต่มองยังไงก็น่าห่วงเพราะทั้ง 3WR มีประวัติบาดเจ็บพ่วงเป็นหางว่าวมีโอกาสสูงมากที่จะอยู่ไม่ครบทั้งฤดูกาลในปีนี้ ดังนั้นน่าสนใจไปที่ Kenny Still ดาวเด่นเมื่อปีก่อน จนเป็นคำถามว่า Cooks, Cobb, Fuller และ Still ใครจะหลุดไปนั่งสำรอง นี่ยังไม่นับ Keke Coutee อีกคนด้วยนะ

ปีนี้ทีมรับก็ยังคงต้องลุ้นต่อไปกับ J.J. Watt เพราะต้องบอกว่าในเกม playoff ที่พลิกล็อกแพ้ Kansas City Chiefs ทั้งๆ ที่ตัวเองนำก่อน 24-0 นั้นเป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ โดยเฉพาะตำแหน่ง Edge Rushers ที่ดรอปลงไปเยอะ มีเพียง Whitney Mercilus คนเดียวที่รักษามาตรฐานของตัวเองได้ ขณะที่หลังบ้านมีเพียง Bradley Roby คนเดียวที่ได้ไปต่อกับทีม ส่วนที่เหลือโดนเคลียร์ทิ้งกระจายไม่ว่าจะเป็น Johnathan Joseph กับ Tashaun Gipson


Player Focus: Jonathan Greenard และ Ross Blacklock 2 รุกกี้ที่ดราฟต์มาในรอบ 2 และรอบ 3 น่าจะดีพอจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงของทีมได้ภายในฤดูกาลนี้ Jonathan Greenard น่าจะตอบโจทย์ตำแหน่ง Outside Linebacker เพราะ 2 ฤดูกาลหลังสุดทำไปถึง 17 sacks จาก 24 เกม ขณะที่ Ross Blacklock ก็น่าจะแย่งมือ 1 จาก Angelo Blackson ได้เช่นกันในตำแหน่ง 3-4DE หรือดีไม่ดีก็ลงแทน J.J. Watt ได้ทันทีถ้าหากว่า Watt ถูกหามส่ง รพ. อีกรอบ

Predict: 8-8 (No.2 AFC South)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Indianapolis Colts
ปีที่ผ่านมาเริ่มต้นด้วยความคาดหวังค่อนข้างสูง ก่อนจะจบลงด้วยการประกาศรีไทร์แบบสายฟ้าแล่บของ Andrew Luck ปีนี้นำมาสู่การนำเข้า Philip Rivers, QB วัย 38 ปี ซึ่งเรียกว่าจะได้เล่นทิ้งมวนในทีมที่มี O-Line ดีๆ ที่เขาใฝ่ฝันมานานหลายปีซักที

2019 record: 7-9
Key Acquisitions: Philip Rivers (from Chargers)
Key Losses: Adam Vinatieri (free agent)

ปีที่แล้วการรีไทร์แบบไม่คาดคิดของ Andrew Luck ในวัย 28 ปีสร้างความปั่นป่วนให้ทีมพอสมควรเพราะ timing มันเรียกว่าจังหวะนรกจริงๆ ฤดูกาลจะเปิดอยู่รอมร่ออยู่แล้ว ทำให้ทีมต้องปรับแผนเร่งด่วนหันมาใช้งาน Jacoby Brissett, QB สำรองอดีตเด็กเก่าจาก New England Patriots แต่ผลงานไม่ได้สวยหรูอย่างที่คาด ทำให้ปีนี้ Frank Reich นำเข้าศิษย์เก่าอย่าง Philip Rivers ที่เขาเคยทำงานเป็น OC ตั้งแต่ยังเป็น San Diego Chargers เขาเป็นคนปั้น Philip Rivers ในช่วงพีคที่สุดมาแล้ว ดังนั้นนี่น่าจะเป็นการ reunion ที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะ Colts เต็มไปด้วยผู้เล่นที่เพียบพร้อมแล้ว เหลือเพียงแค่หาจอมทัพที่ใช่ ไม่ว่าจะเป็น T.Y. Hilton ปีกมือ 1 ของทีมที่ปีที่ผ่านมาเจออาการบาดเจ็บทำให้ต้องพักยาวมากกว่าครึ่งฤดูกาล ปีนี้น่าสนใจตรงที่การแย่งชิงตำแหน่งปีกมือ 2 ระหว่าง Zach Pascal, Parris Campbell และดาวรุ่งที่เพิ่งดราฟต์มาอย่าง Michael Pittman Jr. ปีนี้ทีมเสีย Eric Ebron ตัวเป้าหลักใน red-zone ออกไปแลกกับการที่สามารถต่อสัญญากับ Jack Doyle ปีกในมือ 1 ของทีมออกไปได้สำเร็จ ดังนั้นปีนี้ Philip Rivers จะได้เล่นอยู่หลังแนว O-Line ระดับ top5 ของลีก และรายล้อมไปด้วยอาวุธครบมือเป็นครั้งแรกในชีวิต

ปีที่ผ่านมา Marlon Mack เก็บสถิติวิ่งเกิน 1000 หลาได้เป็นครั้งแรกในชีวิต แต่กระนั้นอนาคตของเขาก็ยังไม่มั่นคงหลังจากการดราฟต์ Jonathan Taylor ตัววิ่งระดับ 2000 หลาในระดับมหาวิทยาลัยมาร่วมทีม ส่วนหนึ่งเกิดจาก Mack ได้ถือบอลเยอะขึ้นในปีที่ผ่านมาเพราะทีมดูเหมือนไม่ไว้ใจในตัว Jacoby Brissett มากเท่าไหร่ ทำให้มีการเรียกแผนวิ่งบ่อยขึ้น จึงไม่สามารถจะยืนยันได้ว่าผลงานของเขาจะดีเหมือนเดิมหรือไม่ภายใต้การบัญชาของ QB มากประสบการณ์

ทีมรับปีที่ผ่านมาผลงานดรอปลงไปเล็กน้อย ภาพรวมทั่วไปยังดี แต่ส่วนที่แย่หน่อยคือการรับมือกับเกมขว้างดูไม่ดีเท่าไหร่(ลำดับ 23 ของลีก) ปีนี้ทีมจัดหนักฉวยโอกาศเทรดเอา DeForest Buckner, DT ตัวเก่งของ 49ers รองแชมป์ SB มาร่วมทีม หลังทีมคนตื่นทองเจอปัญหา cap เต็มเพดาน มาประสานงานกับ Justin Houston, DE มือ 1 ของทีมที่ปีที่แล้วเก็บไปคนเดียวถึง 11 sacks ปีนี้หลังบ้านที่ดูไม่ดีก็ยังคงน่าห่วงอยู่เหมือนเดิม บรรดาแก๊งค์ตัวคุมปีกยังคงเป็นหน้าเดิมๆ มีเพียง Xavier Rhodes คนเดียวที่ย้ายมาแทนที่ Quincy Wilson คิดว่าผลงานน่าจะยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเท่าไหร่แม้ว่าจะได้ตัว pressure มาเสริมในแนว D-Line ก็เถอะ


Player Focus: Michael Pittman Jr. ปีกนอกดาวรุ่งที่สูงถึง 6-4, 223 แถมทำผลงาน 4.52 40-yard dash เรียกว่าเร็วมากเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ที่สรีระใกล้เคียงกัน น่าจะมีดีกรีมากพอที่จะเบียด Parris Campbell ลงไปเป็นสำรองได้

Predict: 9-6-1 (No.1 AFC South)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Jacksonville Jaguars
หลังจากปีที่ทีมเข้า Playoff ได้เหมือนจะไปได้สวย แต่แล้วทีมก็กลับสู่โหมดปล่อยตัวดีๆ ราคาแพงทิ้งแล้วไปสะสมดาวรุ่งดีๆ ทดแทนเหมือนเดิมอีกรอบ น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับ Dave Caldwell, GM กับ Doug Marrone, HC ของทีมภายใต้ front office ใหม่หลังยุคของปู่ Tom Coughlin แล้ว

2019 record: 6-10
Key Acquisitions: Joe Schobert (from Cleveland)
Key Losses: A.J. Bouye (to Broncos), อาจจะรวมถึง Yannick Ngakoue ด้วยถ้าย้าย

Gardner Minshew ชายผู้มากับดวงเมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งที่ตอนดราฟต์ไม่มีใครให้ความสนใจเขาด้วยซ้ำจนกระทั่ง Nick Foles, QB ที่ทีมตั้งใจเซ็นต์มาเพื่อให้เป็นอนาคตของทีมเจ็บหนักพักยาวไป กลายเป็นว่าทำให้เขาได้ส้มหล่น ได้รับโอกาสลงสนาม และทำผลงานไป ผ่านบอลสำเร็จ 61% ขว้างทำระยะไป 3,271 หลา 21 TDs กับอีก 6 interceptions กรอปกับบุคลิกส่วนตัว ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจชาว Jacksonville ในเวลาอันรวดเร็ว กระแส "Minshew Mania" แรงจนทำให้เพียงฤดูกาลเดียวทีมก็ตัดสินใจเทรด Nick Foles ทิ้งแบบไม่เกรงใจค่าจ้างที่ต้องมาติด deadcap

นอกจากนี้ Minshew ยังปั้นให้ DJ Chark Jr. กลายเป็นปีกคู่ใจ ด้วยผลงานรับบอล 14 ครั้ง ทำระยะเกิน 171 หลา ได้ถึง 11 จาก 15 เกม แซงหน้า Chris Conley หรือแม้แต่ Dede Westbrook ปีกรุ่นพี่ที่อยู่มาก่อนด้วย แถมปีนี้ทีมตัดสินใจดราฟต์ Laviska Shenault กับ Collin Johnson มาเพิ่มอีก ทำให้การแข่งขันกันในทีมดูดุเดือดไม่น้อย

ปีที่ผ่านมาเกมรับของ Jacksonville ดรอปไปจาก 2 ฤดูกาลก่อนอย่างน่าใจหาย ทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องเก็บ sacks ได้มากมายดูเงียบๆ ไป แก๊งค์ชุด "Sacksonville" ที่โด่งดังจากฤดูกาล 2017 ตอนนี้เหลือเพียง Myles jack แค่คนเดียวหลังจากปีที่ผ่านมา Calais Campbell, A.J. Bouye และ Jalen Ramsey ทะยอยเก็บของย้ายทีมกันไปคนละทิศคนละทาง และ Yannick Ngakoue ดาวรุ่งของทีมก็ทำท่าจะย้ายตามพี่ๆ ไปอีกราย ฟังดูแย่ แต่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับ Josh Allen(คนละคนกับ QB ของ Bills) ที่จะสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นราชา sacks คนใหม่ของทีม เพราะแค่ฤดูกาลแรกก็เปิดตัวไปถล่มทลายถึง 10.5 sacks กับอีก 2 force fumbles ดังนั้นตอนนี้คิดว่า Jaguars คงกำลังต่อรองเพื่อให้ได้ข้อเสนอเป็นสิทธิ์ดราฟต์ที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างทีมในปีหน้าอยู่ เพราะยังไงตัวแทนของ Yannick Ngakoue ทีมก็ดราฟต์ K’Lavon Chaisson ดาวรุ่งของ LSU เตรียมไว้แล้ว ขณะที่แผงหลังบ้านก็ได้ C.J. Henderson มาแสตนบายรอแล้วเช่นกัน ขณะที่ปิดจุดอ่อนในแผง linebacker ด้วยการคว้าตัว Joe Schobert ยอด MLB ของ Cleveland Browns มายืนประจำการในแดนกลาง แน่นอนว่า Jacksonville Jaguars เป็นทีมแห่งอนาคตอีกทีม มันเลยเดาลำบากว่าผลงานจะออกหัวหรือก้อยในปีนี้ แต่ผมคาดเดาว่ายุคสมัยของ Doug Marrone ควรจะจบได้แล้ว ผมเลยเดาว่าปีนี้ทีมจะผลงานแย่และ Doug Marrone น่าจะตกงาน


Player Focus: Gardner Minshew ปีนี้น่าสนใจเพราะเขาจะได้เล่นอย่างสบายใจแล้ว หลังจาก Nick Foles ถูกเทรดไปกดดัน Mitchell Trubisky ที่ Chicago Bears ดังนั้น ที่ Jacksonvilles เขาก็ไม่มีคู่แข่งที่จะมาแย่งงานอีกต่อไป ที่เหลือก็แค่พิสูจน์ตัวเองต่อในปีที่ 2 ของอาชีพ

Predict: 4-12 (No.4 AFC South)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Tennessee Titans
ปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่าใครแบกทีมกันแน่ระหว่าง Ryan Tannehill หรือ 2 คู่หู Derrick Henry กับ A.J. Brown แน่นอนว่าการเสีย Jack Conklin ออกไปน่าจะส่งผลต่อรูปแบบการเล่นในฤดูกาลหน้าไม่น้อยโดยเฉพาะการเปิดทางให้ Derrick Henry ทะลุทะลวง นั่นทำให้ Mike Vrabel ต้องยอมปล่อยผ่านผู้เล่นตำแหน่งอื่นๆ เพื่อชิงดราฟต์ Isaiah Wilson มาแทนตำแหน่งของเขาตั้งแต่รอบแรก

2019 record: 9-7
Key Acquisitions: Vic Beasley Jr. (from Falcons)
Key Losses: Jack Conklin (to Browns)

Ryan Tannehill หลังจากยึดมือ 1 มาจาก Marcus Mariota ได้ในสัปดาห์ที่ 7 เขาพาทีมชนะจนเข้ารอบ Playoff ได้สำเร็จ ไม่พอยังไปตบ Patriots และ Ravens ร่วงได้แบบหักปากกาเซียนทุกสำนัก และนั่นก็มากพอที่จะทำให้ทีมมอบสัญญาฉบับใหม่ 4-year, $118 million เป็นของรางวัล และปีนี้คงต้องตามดูกันว่าหลังจากได้สัญญาใหม่สมใจแล้ว เขาจะยังคงรักษาฟอร์มไว้ต่อเนื่องได้หรือไม่ แต่แม้ว่าผลงานของ Ryan Tannehill หรือเกมวิ่งอันดุดันของ Derrick Henry จะดีแค่ไหน น่าตกใจที่สถิติออกมาชัดเจนว่าเกมรุกของ Titans อยู่ในลำดับที่ 30 ของลีก แปลว่าแม้จะชนะ แต่ประสิทธิภาพมันก็ไม่ได้ดีอะไรมากมาย

Derrick Henry ปีที่ผ่านมาระเบิดฟอร์ม ถือบอลไปมากสุดในลีก 303 ครั้ง วิ่งทำระยะไป 1,540 หลากับอีก 16 touchdowns ในฤดูกาลปกติ แต่อย่าลืมว่า ระยะที่ทำได้ 959 หลากับอีก 11 touchdowns นั้นมาจาก 7 เกมหลังสุด แปลว่าเขาไม่ได้สม่ำเสมอซักเท่าไหร่ หรือไม่ก็คงเล่นไม่เข้าขากับ Marcus Mariota และฤดูกาลนี้เขาจะไม่มี Jack Conklin คอยเปิดทางให้เหมือนฤดูกาลก่อนแล้ว ผลงานเขาจะยังเหมือนเดิมได้อยู่หรือไม่ ขณะที่อีกคนที่ฉายแสงคือดาวรุ่งอย่าง A.J. Brown ปีกนอกที่รับบอลไป 52 ครั้ง ทำระยะได้ 1,051 หลากับอีก 8 touchdowns ทำให้เขาสถาปนาตัวเองเป็นมือ 1 ของทีมแทนที่ Corey Davis ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนปีก slot ต้องยอมรับว่า Adam Hamphries เปิดตัวฤดูกาลแรกกับ Tennessee ได้จืดสนิทจนคนแทบจะลืมชื่อเขาไปแล้ว

มาทางฝั่งทีมรับปีนี้ทีมเสีย Jurrell Casey, DE ตัวเก่งของทีมออกไปแบบสุดถูก ส่วนหนึ่งเพราะจำเป็นต้องเคลียร์แคป $11.8 million ส่งผลให้ D-Line ดูดรอปลงไปแบบถนัดตา ต้องมาลุ้นกันว่าใครจะได้นั่งแทนตำแหน่งของเขาระหว่าง Isaiah Mack, Jack Crawford หรือจะโยกเอา Vic Beasley Jr. มายืน 3-4DE แทน และอีกคนที่น่าสนใจคือ Larrell Murchison ดาวรุ่งจาก NC State ที่ดราฟต์มาสดๆ ร้อนๆ ขณะที่หลังบ้านรูโหว่ใหญ่อยู่ที่การจากไปของ Logan Ryan ตัวคุมปีกมือ 1 ของทีม ซึ่งไม่รู้ว่าดาวรุ่งอย่าง Kristian Fulton จะแทนที่เขาได้หรือไม่


Player Focus: Darrynton Evans ตัววิ่งที่ดราฟต์มาในรอบ 3 จาก Appalachian State ทำผลงานไป 1,480 หลากับอีก 18 touchdowns ฟังดูเหมือนเยอะแต่ยังพิสูจน์ฝีมือจริงๆ ไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ใน conference ใหญ่ของ NCAA แต่ด้วยว่าตัววิ่งสำรองคนอื่นๆ อย่าง Senorise Perry หรือ Khari Blasingame แทบไม่มีใครรู้จักเลยด้วยซ้ำ ทำให้ เขาดูมีโอกาสมากที่สุดที่จะเป็นมือ 2 ซึ่งตรงนี้เป็นการโยนเหรียญหัว-ก้อย ออกหัวถ้าโชคดีได้มีโอกาสลงทำหน้าที่แทน Derrick Herry ในการณีที่ Henry เกิดเจ็บขึ้นมากลางทางก็มีลุ้นได้แสดงฝีมือ แต่ถ้าโชคร้าย Derrick Herry อยู่ในร่างสมบูรณ์ครบทุกเกม เขาก็คงนั่งตบยุงอยู่ข้างสนามเหมือน Dion Lewis ที่แทบไม่มีโอกาสได้ลงมาเล่นเลย

Predict: 7-8-1 (No.3 AFC South)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Denver Broncos
หลังจาก Drew Lock, QB ดาวรุ่งเปิดตัวเมื่อท้ายฤดูกาลที่แล้วด้วยผลงาน 4-1 John Elway ก็ไม่รอช้ากับการลงทุนสร้างทีมเพื่อเขาทันทีในปีนี้ ถ้าเขาคือคนที่ใช่ ทีมม้าป่าก็จะกลับเข้าสู่เส้นทางลุ้นพื้นที่ playoff อีกครั้ง

2019 record: 7-9
Key Acquisitions: Jerry Jeudy (Rd. 1, No. 15 – Alabama)
Key Losses: Chris Harris Jr. (to Chargers)

ท้ายฤดูกาล 2019 Drew Lock เด็กจาก Missouri โชว์ผลงานใน 5 เกมสุดท้ายของ Denver เอาไว้ด้วยสถิติ 4-1, 89.7 passer rating เรียกว่าเป็นสถิติที่ดีกว่า QB 3 คนที่ถูกดราฟต์ก่อนหน้าเขาทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ ปีที่ผ่านมาทีมได้ 2 ตัว receiver อย่าง Courtland Sutton และ Noah Fant ที่สถาปนายึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้แล้ว โดย Sutton เป็นปีกที่รับบอลทำระยะเกิน 20 หลาเป็นลำดับที่ 8 ของบรรดาปีกนอกทั้งหมดในลีก ขณะที่ Noah Fant เปิดตัวปีแรกรับบอลรวมไป 562 หลา มาปีนี้ทีมจัดหนักด้วยการดราฟต์ปีกรวดเดียว 2 คนในการดราฟต์ตั้งแต่รอบต้นๆ ทั้งการได้ส้มหล่น Jerry Jeudy ไหลมาถึงมือตัวเอง ก่อนจะเก็บ K.J. Hamler ปีกความเร็วจัดจาก Penn State มาเพิ่มอีกคน ทำให้อาวุธของ Drew Lock มีครบพร้อมสำหรับฤดูกาล 2020 เพื่อจะล้างสถิติที่ทีมไม่เคยทำคะแนนเฉลี่ยได้เกินค่ามาตรฐานของลีกนับตั้งแต่ปี 2014

ปีที่ผ่านมา Broncos ทำคะแนนเฉลี่ย 17.6 point ต่อเกม ปัญหาใหญ่ๆ เลยคือพวกเขาเก็บ third-down ได้ต่ำมาก(ลำดับ 30 ของลีก) รวมไปถึงการทำ TD ในพื้นที่ red-zone ด้วย(ลำดับ 28 ของลีก) ปีนี้พวกเขานำเข้า Melvin Gordon ตัววิ่งตัวเก่งของ Los Angeles Chargers คู่แข่งร่วมสายมาเป็นตัวแทน Royce Freeman ที่ส่อแววจะไม่มีอนาคตกับทีม แต่การจะเปิดทางให้ตัววิ่งทำงานได้สะดวก แนว O-Line Pat Shurmur ได้อัพเกรดขึ้นมาจากเดิม ปีที่ผ่านมาได้ Dalton Risner กลับมาเป็น LG ตัวหลัก หลังจากปีแรกที่ดราฟต์มาแทบไม่ได้ลงสนาม การ์ดฝั่งขวาได้ Graham Glasgow ตัวเก่งของ Detroit Lions มาร่วมทีม แต่ยังน่าห่วงอยู่ดีเพราะคู่ Offensive Tackle ดูไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่ Garett Bolles ก็มีปัญหาเรื่องเสียฟาวล์บ่อย ขณะที่ RT มือ 1 อย่าง Ja’Wuan James ก็ประกาศขอถอนตัวจากการแข่งขันชั่วคราวในปีนี้ ทำให้ทีมอาจจะต้องให้ Elijah Wilkinson หรือ Demar Dotson ลงสนามแทนไปชั่วคราว ขณะที่ตำแหน่ง C ปีนี้เปลี่ยนใหม่ หลังจาก Connor McGovern อดีตเพื่อนร่วมทีมของ Drew Lock สมัยที่เรียนอยู่ Missouri ย้ายไปอยู่กับ New York Jets ทำให้พวกเขาคงต้องใช้บริการของ Lloyd Cushenberry ดาวรุ่งจาก LSU ที่ดราฟต์มาในรอบ 3 ปีนี้ลงสนามเป็นตัวจริงทั้นทีตั้งแต่เกมแรก

ฝั่งทีมรับตั้งบอกว่า สมาชิกชุดแชมป์ SB50 เหลือแค่ Von Miller แค่คนเดียวแล้ว หลังจาก Chris Harris Jr. และ Derek Wolfe ย้ายออกไปในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา แต่พวกเขาได้ A.J. Bouye กับ Jurell Casey แลกคืนกลับมา เรียกว่าไม่ได้ดรอปลงไปเท่าไหร่ หลังบ้านปีนี้บรรดาตัวที่เจ็บหนักในปีที่ผ่านมาจนทำให้ผลงานทีมดรอปลงไปอย่าง Bryce Callahan, De’Vante Bausby และ Bradley Chubb หายเจ็บกลับคืนทีมกันพร้อมหน้า นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่าเกมรับที่ขึ้นชื่อมาตลอดของ Denver กำลังจะกลับมาแล้ว


Player Focus: Alexander Johnson, ILB ของทีม จะเรียกดาวรุ่งก็ไม่ได้ เพราะอายุแกปาไปแล้ว 28 ปี แต่ถูกเลือกเข้าทีมมาแบบ undrafted ในปี 2018 และทำผลงานในปีที่ผ่านได้ยอดเยี่ยม 93 tackles, 2 forced fumbles, 1.5 sacks กับอีก 1 interception ทำให้กลายเป็น ILB อีกคนที่ถูกจับตามองว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้ระบบของ Denver Broncos

Predict: 8-8 (No.3 AFC West)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Kansas City Chiefs
หลังจากได้แชมป์ SB ดูเหมือน KC แทบไม่เสียตัวหลักออกจากทีมไปเลยซักคน ที่น่าจะกระทบมากที่สุดคงเป็นคุณหมอ Laurent Duvernay-Tardif คนเดียวที่ขอไม่เล่นในฤดูกาลนี้ด้วยเหตุผลส่วนตัว

2019 record: 12-4
Key Acquisitions: Clyde Edward-Helaire (Rd. 1, No. 32 – LSU)
Key Losses: Laurent Duvernay-Tardif (COVID-Out Op.)

รับทรัพย์ก้อนใหญ่กันถ้วนหน้าทั้ง 3 สหาย Patrick Mahomes, Travis Kelce และ Chris Jones เรียกว่าขุมกำลังชุดแชมป์ SB อยู่กันพร้อมหน้า แผน Speed ของ KC น่าจะเป็นที่น่ากังวลใจสำหรับหลังบ้านของทุกทีมในลีก บรรดาปีกนอกอย่าง Tyreek Hill, Macole Hardman, Sammy Watkins รวมไปถึง Demarcus Robinson ต่างขึ้นชื่อเรื่องสปีดทั้งนั้น ไหนจะต้องมาพะวงกับโคตร TE อย่าง Travis Kelce อีกคน ปีที่ผ่านมาหลังจากเสีย Kareem Hunt ออกไปทำให้เกมวิ่งดูลดความน่ากลัวลงไปพอสมควร Damien Williams ไม่สามารถแทนที่ช่องว่างที่ Hunt ทิ้งเอาไว้ได้ ทีมตัดสินใจดราฟต์ Clyde Edward-Helaire ตั้งแต่รอบแรกสร้างความเซอร์ไพรส์ไม่น้อย เพราะเขาไม่ใช่ RB ที่ถูกมองว่าเป็น top3 ของปีนี้ แต่กลับถูกเลือกเป็นคนแรก ส่วนหนึ่งคิดว่าน่าจะมาจากการที่ Andy Reid เห็นรูปแบบการเล่นของ LSU คล้ายคลึงกับ KC ในหลายๆ ด้าน ดังนั้นการหยิบ RB ที่คุ้นเคยกับระบบน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าจะลงตัวที่สุดสำหรับ Chiefs ยิ่งพอ Damien Williams ประกาศขอไม่ลงสนามในปีนี้ นั่นทำให้ Clyde Edward-Helaire กลายเป็นคนที่ถูกมองว่าจะเบียดคนอื่นๆ ขึ้นมายึดตำแหน่งมือ 1 ตั้งแต่เกมแรก

สำหรับทีมรับปีนี้ทีมเสียตัวหลักอย่าง Kendall Fuller กับ Reggie Ragland ออกไป แต่เอาจริงๆ น่าจะไม่กระทบเพราะ Fuller ผลงานในปีที่ผ่านมาก็ไม่ดีนัก ขณะที่ Reggie Ragland ก็เสียตำแหน่งตัวจริงให้ Ben Niemann ไปแล้วในช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา ขณะที่แนว Front-7 ดูดีเหมือนเดิม ภาวนาให้ Alex Okafor สมบูรณ์ทั้งฤดูกาลก็พอ รวมไปถึงพัฒนาการของ Derrick Nnadi กับ Tanoh Kpassagnon ก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ


Player Focus: Patrick Mahomes กับความคงเส้นคงวาหลังจากได้รับทรัพย์ก้อนโต ปีนี้ความท้าทายเพิ่มขึ้นเพราะ Laurent Duvernay-Tardif หนึ่งใน O-Line ตัวหลักไม่อยู่ จะส่งผลต่อ O-Line ในฤดูกาล 2020 มากแค่ไหน

Predict: 14-2 (No.1 AFC West)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Las Vegas Raiders
Derek Carr ก้นร้อนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากผ่านมา 3 ปีนับตั้งแต่เข้า Playoff ครั้งสุดท้ายเขายังไม่สามารถพาทีมกลับสู่เส้นทางนั้นได้อีกเลย แม้ผลงานทีมหลังจาก Jon Gruden มาคุมจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับแต่ปีนี้การย้ายมาร่วมทีมของ Marcus Mariota ทำให้อนาคตของเราเริ่มไม่มั่นคงเสียแล้วท่ามกลางกระแสการย้ายมาอยู่ที่ Las Vegas

2019 record: 7-9
Key Acquisitions: Henry Rugg III (Rd. 1, No. 12 – Alabama)
Key Losses: Tahir Whitehead (to Panthers)

จะบอกว่า Jon Gruden เซ็นต์ Marcus Mariota มาเพื่อนั่งสำรอง ผมไม่กล้าพูดได้เต็มปาก เพราะการจ่ายสัญญา 2 ปี $17.6 million นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในตัว backup ที่กินค่าจ้างสูงเอามากๆ มันเป็นการขีดเส้นใต้ใส่ Derek Carr ว่าถ้าพลาดในฤดูกาลนี้เอ็งโดนแน่ๆ หลังจาก 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา Carr ขว้างไม่ถึง 25 touchdowns เลยแม้แต่ปีเดียว แถมมีค่าเฉลี่ยขว้างได้เพียง 6.9 หลา/ครั้ง เรียกว่าเขาอยู่ในลำดับ 34 จาก 37 QB ที่ได้ลงสนามในปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการที่ Raiders ไม่มี WR ที่เป็นมือ 1 ถาวร แต่เดิมทีมตั้งใจจะเอา Antonio Brown มาเป็นมือ 1 แต่ก็นั่นแหละที่รู้ๆ กัน

มาปีนี้ทีมจัดหนักเสริม 3WR ตั้งแต่ไก่โห่ Henry Rugg III, Lynn Bowden(จริงๆ เป็น RB), Bryan Edwards นอกจากนี้ยังไปเอา Nelson Agholor มาจาก Philadelphia Eagles อีกคน ส่วน RB ตอนนี้ Josh Jacob สัมปทานตำแหน่งตัวจริง 100% หลังจากเปิดตัวในปีรุกกี้ด้วยผลงาน ถือบอล 242 ครั้ง ทำระยะไป 1,150 หลากับอีก 7 TDs แต่เสียดายที่เจ็บไหล่ไปก่อนได้เล่นเพียง 13 เกมเท่านั้น

จริงๆ ต้องบอกว่า Mike Mayock โชว์สเตปในการดราฟต์ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ปีที่แล้วทำเซอร์ไพรส์ดราฟต์ Clelin Ferrell ตั้งแต่ลำดับที่ 4 ปีนี้เขาดราฟต์ Damon Arnette ตั้งแต่รอบแรกทั้งๆ ที่หลายๆ โพลไม่ได้ใส่ชื่อเขาลงใน mock draft ทั้งรอบแรกและรอบ 2 ด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังมีการสตีล Amik Robertson ตัวคุมปีกดาวรุ่งของ Louisiana Tech. มาอีกคนเพื่อเป็นตัว rotation กับ Lamarcus Joyner ส่วนแนว front-7 ปีนี้มีการปรับเล็กน้อย ปล่อย Tahir Whitehead ออกไปแต่ได้ Cory Littleton ตัวเทพของ Rams มายืนแทน นอกนั้นทีมเล่นแร่แปรธาตุด้วยการเซ็นต์สัญญากับดาวดังแค่ 1 ปีในการมาช่วยทีมชั่วคราวไล่ตั้งแต่ Maliek Collins, Jason Witten, Damarious Randall, Prince Amukamara และ Devontae Booker


Player Focus: Darren Waller กลายเป็นม้านอกสายตาที่ขึ้นมาเป็นมือ 1 ของทีมหลังจาก Jared Cook ย้ายไปร่วมทีม New Orleans Saints แต่ผลงานดีเกินคาด ปีที่ผ่านมาได้รับบอลมากถึง 90 ครั้ง ทำระยะไป 1,145 หลากับอีก 3 ทัชดาวน์ เรียกว่าด้วยผลงานดังกล่าวส่งให้เขากลายเป็น TE ที่มีผลงานเป็นอันดับที่ 5 ของลีกในปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ล่าสุดเพิ่งได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปเป็นการการันตีว่าเขาจะไปมือ 1 ของทีมไปอีกหลายปี

Predict: 10-6 (No.2 AFC West(AFC wild-card*5))

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Los Angeles Chargers
ปีนี้เปลี่ยนแปลงแทบจะทุกอย่าง เปลี่ยนตั้งแต่ QB, สนาม หรือแม้แต่ uniforms ในขณะที่คู่แข่งร่วมสายทั้ง 3 กำลังดูไปได้ดี แต่ปีนี้ Chargers ดูไม่ดีเอาเสียเลย

2019 record: 5-11
Key Acquisitions: Chris Harris Jr. (from Broncos)
Key Losses: Philip Rivers (to Colts)

การดราฟต์ Justin Herberts, QB ของ Oregon ในปีนี้ ในความรู้สึกเหมือนไม่ได้น่าตื่นเต้นสำหรับแฟนๆ ของ Chargers ซักเท่าไหร่ เพราะคิดว่าคงไม่ได้ลงสนามตั้งแต่ต้นฤดูกาลแน่นอนหลังจาก Tom Telesco, GM และ Anthony Lynn, HC ออกมายืนยันตรงกันแล้วว่าพวกเขาจะให้ Tyrod Taylor ยืนเป็นมือ 1 ในปีนี้ แต่ก็ยังมีลุ้นได้อยู่สำหรับ Justin Herberts เพราะอย่าลืมว่าในปี 2018 Tyrod Taylor เป็นมือ 1 ของ Cleveland ได้เพียงแค่ 3 เกมก่อนจะเสียตำแหน่งไปให้ Baker Mayfield สำหรับอาวุธของทีม ปีนี้หลักๆ คือการต่อสัญญากับ Hunter Henry, TE ตัวเก่งของทีมออกไป แต่พวกเขาเสีย Melvin Gordon ตัววิ่งมือ 1 ของทีมออกไป ส่วนหนึ่งเพราะ Austin Ekeler ผลงานดีและค่าจ้างถูกกว่า ปีนี้ทีมซ่อมแนว O-Line ทันทีหลังจากผลงานย่ำแย่ในปีที่ผ่านมา การเทรด Russell Okung, LT มือ 1 ของทีมให้ Panthers แลกกับ Trai Turner, RG ดีกรี Pro Bowler 5 สมัย กับได้ตัว Bryan Bulaga, RT ตัวเก่งของ Packers มาร่วมทีม ทำให้แนว O-Line ดูดีขึ้นเยอะ

สำหรับ Chargers ปีนี้น่าจะโฟกัสไปที่เกมวิ่งมากกว่าเกมขว้าง ด้วยเพราะ Tyrod Taylor ก็ขึ้นชื่อเรื่องเป็น QB จอมวิ่ง ขณะที่ Justin Herberts ก็เป็นแค่เด็ก rookies นั่นอาจจะทำให้ผลงานของทั้ง Keenan Allen และ Mike Williams ดรอปลงไป แต่แลกกับ Austin Ekeler ที่น่าจะผลงานดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา จับตามองไปที่สำรองของเขาด้วย อย่าง Justin Jackson กับเด็กรุกกี้จาก UCLA ที่ดราฟต์มาในรอบ 4 อย่าง Joshua Kelley ที่อาจจะเป็นเซอร์ไพรส์ในปีนี้

ทีมรับปีนี้ได้ตัว Kenneth Murrey มาทำให้แผง LB ดูน่าสนใจขึ้น ร่วมกับการย้ายมาร่วมทีมของ Chris Harris Jr. ที่น่าจะมารับบทตัวคุมปีก slot ในทีมที่มีคู่หู Edge Rusher ที่โดดเด่น แถมยังได้ตัว Derwin James กลับมาจากอาการบาดเจ็บ ปีนี้อาจจะได้เห็นทีมสายฟ้าเก็บ Intercept ได้เป็นกอบเป็นกำ


Player Focus: Joshua Kelley ตัววิ่งดาวรุ่งจาก UCLA ที่ทำผลงานในระดับมหาวิทยาลัยเอาไว้รวม 2 ปีเอาไว้ที่ 2303 หลา กับอีก 24 touchdown แถมดีกรีเป็นเด็กท้องถิ่นด้วย น่าจะเป็นตัวแทนของ Melvin Gordon ในการกระทุ้งแนวรับคู่ต่อสู้ร่วมกับ Austin Ekeler ในปีนี้

Predict: 2-12 (No.4 AFC West รับ 1st overall draft 2021 ไปครอง)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

NFC EAST


Dallas Cowboys
ยุคสมัยของ Jason Garrett จบลงซักทีสำหรับแฟน Dallas Cowboys การมาของ Mike McCarthy อดีต HC ของ Green Bay Packers ยุคหนามตำใจ Dallas Cowboys มาคุมทีมแทน คงต้องรอการพิสูจน์อีกทีหลังถูกมองว่าเป็น HC ที่มีรูปแบบการเล่นที่ตกยุคไปแล้ว เขาต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการนำ Cowboys กลับเข้าพื้นที่ playoff ให้ได้สถานเดียว

2019 record: 8-8
Key Acquisitions: Greg Zuerlein (from Rams)
Key Losses: Travis Frederick (retire)

นับตั้งแต่ปี 2010 ที่ Jason Garrett ได้มาคุมทีม Dallas Cowboys มีเพียง 3 ฤดูกาลเท่านั้นที่เขาพา Dallas Cowboys ชนะ 10 เกมขึ้นไป ก่อนจะไปล่มในเกมรอบ Divisional ทั้ง 3 ฤดูกาล นั่นทำให้ Jerry Jones หมดความอดทนกับลูกรักพร้อมกับนำเข้า Mike McCarthy, HC ที่เคยคุม Green Bay Packers ตบ Dallas Cowboys ตกรอบ Divisional 2 จาก 3 ฤดูกาลมาทำหน้าที่เป็น HC คนใหม่แทน Mike McCarthy มีดีกรีเคยพา Packers คว้าแชมป์ SB ได้ 1 สมัย แต่ Dak Prescott ไม่ใช่ Aaron Rodgers แต่อีกนั่นแหละ แต่ Dallas Cowboys ชุดนี้มีอาวุธในเกมบุกครบมือกว่า Packers ที่เขาเคยคุมมาเช่นกัน

ปีนี้แผง O-Line ของทีมมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ Travis Frederick ตัดสินใจเลิกเล่นจากปัญหาสุขภาพ นั่นน่าจะส่งผลกระทบโดยตรงกับเกมวิ่งของ Ezekiel Elliott กลับกันนี่น่าจะเป็นปีที่แฟนตื่นเต้นกับอาวุธใหม่ของทีม ปีนี้ชุดปีกของ Dallas เอ่ยชื่อมาแล้วน่าจะระดับ top5 ของลีกเลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะเป็น Amari Cooper, Michael Gallup รวมไปถึงการสตีล CeeDee Lamb ได้ในการดราฟต์รอบแรก แต่ Dallas ชุด all-star กำลังจะเจอปัญหา cap ล้นในเวลาอีกไม่นานหลังจากทีมของพวกเขาเต็มไปด้วยตัวกินค่าจ้างมหาศาลไม่ว่าจะเป็น Tyron Smith, La’el collins, Zack Martin, Ezekiel Elliott, Amari Cooper, DeMarcus Lawrence รวมไปถึง Dak Prescott ด้วย นั่นเท่ากับว่าทีมต้องรีบประสบความสำเร็จให้ได้ภายใน 1-2 ปีนี้ไม่งั้นทีมอาจจะแตกได้

ทีมรับปีนี้หลักๆ คือเสีย Byron Jones กับ Robert Quinn ออกไป แทนที่ด้วยดาวรุ่งอย่าง Trevon Diggs กับ Everson Griffin แต่ที่เหลือยังอยู่กันครบ โดยเฉพาะคู่หู linebacker อย่าง Jaylon Smith และ Leighton Vander Esch น่าห่วงหน่อยก็ตรงตำแหน่งของ Sean Lee ตัวเก๋าที่ผลงานเริ่มดรอปลงไปแล้ว


Player Focus: Blake Jarwin การจากไปของ Jason Witten น่าจะเปิดทางให้ Blake Jarwin ครองตำแหน่งปีกในมือ 1 ของทีมเสียที แม้ว่า Blake Jarwin จะไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่ในเรื่องของ Speed และรัศมีความเป็นซุปเปอร์สตาร์ แต่สรีระ การรับบอลรวมไปถึง route-running ทำได้ดี ปีที่ผ่านมาเขาทำระยะเฉลี่ย 8.9 หลาต่อการรับบอล 1 ครั้งนั่นไม่เลวเลย เอาจริงๆ ค่าเฉลี่ยดีกว่า Mark Andrew หรือ Austin Hooper อีกนะ

Predict: 11-5 (No.1 NFC East)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


New York Giants
ปีนี้ทีมจัดหนักดราฟต์ผู้เล่น O-Line รวดเร็วถึง 3 คน เหมือนกับรู้ว่าในอนาคต Nate Solder,LT ตัวหลักของทีม จะขอไม่เล่นในปีนี้ยังไงอย่างงั้น นั่นทำให้ Daniel Jones ต้องเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนหลังแนว O-Line ชุดใหม่ แต่ข่าวดีก็คือจอมปรบมือ Jason Garrett อดีต HC คนดังของ Dallas Cowboys มารับงานเป็น OC คนใหม่ของทีม และเขาก็ขึ้นชื่อเรื่องการปั้น QB ดาวรุ่งให้ได้ดิบได้ดีซะด้วย

2019 record: 4-12
Key Acquisitions: Andrew Thomas (Rd. 1, No. 4 – Georgia)
Key Losses: Nate Solder (COVID-Out Op.)

การเล่นหลังแนว O-Line ที่แย่ๆ ในปีที่ผ่านมาทำให้ Daniel Jones โดนยับถึง 38 sacks แต่กระนั้นเขายังสามารถขว้างได้ถึง 24 touchdowns มันก็น่าทึ่งอยู่นะ ปีนี้ทีมสร้างแนว O-Line ใหม่ให้เขา แต่ Jones ยังต้องภาวนาให้อาวุธของเขาอยู่พร้อมหน้าด้วย ไม่ใช่ผลัดกันหายไปเข้า รพ. แบบปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Saquon Barkley, Sterling Shepard, Evan Engrams แต่ก็ยังดีที่พวกเขาได้ Darius Slayton ที่ทำท่าว่าจะเกิด แต่ไม่รู้ปีนี้จะเป็นอย่างไรเพราะ Jason Garrett ขึ้นชื่อว่าชอบใช้เกมวิ่งมากกว่าเกมขว้าง ดังนั้นงานหนักอาจจะมาตกอยู่กับ Saquon Barkley แทน แต่จะเวิร์กหรือเปล่าต้องรอดูเพราะ O-Line ของ Giants ไม่ใช่แก๊งค์กำแพงเทพแบบของ Cowboys

ฝั่งทีมรับปีที่ผ่านมาเสียไปถึง 451 คะแนนแย่เป็นอันดับ 3 ของลีก ปีนี้พวกเขานำเข้า James Bradberry, Blake Martinez รวมไปถึงการดราฟต์ตัว Xavier McKinney ยอด S จาก Alabama มาร่วมทีม เรียกว่านอกจาก Markus Golden แล้ว ที่เหลือก็เป็นพวกบรรดาดาวรุ่งอายุน้อยกันทุกคน ดังนั้นปีนี้น่าจะยังต้องร้องเพลงรอกันต่อไป จะคาดหวังถึงขั้นพลิกเซอร์ไพรส์ขึ้นไปแข่งกับ Cowboys หรือ Eagles ยังดูเร็วเกินไป


Player Focus: Darius Slayton ดาวรุ่งจากดราฟต์รอบ 5 ปี 2019 กระโดดขึ้นมามีบทบาทในแผง WR ของ Giants นับตั้งแต่ Golden Tate ถูกโทษแบน เขารับไปถึง 8 touchdowns กลายเป็นคนที่รับ touchdowns มากที่สุดของ Giants ไปแบบหน้าตาเฉย ดังนั้นมีโอกาสสูงมากที่ปีนี้เขาจะเบียดขึ้นมาเป็นปีกมือ 2 ของทีม ถ้ายังคงฟอร์มแบบนี้ต่อไป

Predict: 4-12 (No.4 NFC East)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Philadelphia Eagles
การได้ตัว Darius Slay ตอบโจทย์ปัญหาหลังบ้านได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ปัญหาใหม่ที่ต้องให้ความสนใจก็คือปัญหาสุขภาพของ receiver ภายในทีม ปีที่ผ่านมาเกือบเจ๊งไม่เป็นท่าเพราะอาการบาดเจ็บของบรรดาปีกตัวหลัก มาปีนี้ต้องมาป้องกันตำแหน่งแชมป์ NFC East ที่ไม่มีทีมไหนสามารถทำได้มานานกว่า 15 ปี แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังดีว่าคู่แข่งร่วมดิวิชั่นมีเพียง Dallas Cowboys ทีมเดียวที่ดูเป็นปัญหา ส่วนอีก 2 ทีมที่เหลือกำลังอยู่ในช่วงสร้างเนื้อสร้างตัว คงยังไม่ขึ้นมามีปากมีเสียงในปีนี้

2019 record: 9-7
Key Acquisitions: Darius Slay (from Lions)
Key Losses: Malcolm Jenkins (to Saints)

ยังคงเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกสำหรับ Eagles เรื่องสุขภาพของ Carson Wentz ที่สะสมจนไประเบิดเอาในช่วงท้ายฤดูกาล ทำให้ QB ของพวกเขาต้องเปลี่ยนในช่วง playoff อีกแล้ว ในเมื่อ Nick Foles MVP SB ไม่ได้อยู่กับทีมอีกแล้วทำให้เขาต้องทำอะไรซักอย่างกับ QB ที่จะมาเป็นสำรองของ Wentz ปีนี้พวกเขาตัดสินใจดราฟต์ Jalen Hurts ตั้งแต่รอบ 2 เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับทีม เช่นเดียวกับ Alshon Jeffery และ DeSean Jackson ที่ปีที่ผ่านมาอยู่ไม่ครบทั้งฤดูกาล ทำให้ทีมชิงดราฟต์ Jalen Reagor ปีกร่างเล็กมาเสริมทีมตั้งแต่รอบแรก แถมยอมจ่ายสิทธิ์รอบ 5 ไปแลก Marquise Goodwin ปีกนอกที่ก็มีประวัติเรื่องอาการบาดเจ็บมาจาก 49ers อีกคน แต่ล่าสุดถ้าจำไม่ผิด Goodwin ขอใช้สิทธิ์ COVID Op-Out ไปแล้ว

ปีนี้ทีมปล่อยตัว Jordan Howard ออกไป ขณะที่ Darren Sproles ก็รีไทร์ เป็นสัญญาณว่าจะเปิดทางให้ Miles Sanders เต็มที่ เพราะทีมไม่ได้รีบดราฟต์ RB ตั้งแต่รอบแรกๆ มีเพียง Boston Scott ที่เลือกมาในรอบ 6 คงไม่ใช่คู่แข่งแย่งตำแหน่ง แต่อย่าไปคาดหวังมาก เพราะโหลดของการจ่ายบอลน่าจะไปตกอยู่กับ 2TE อย่าง Zach Ertz และ Dallas Goedert ซะมากกว่า

ฝั่งทีมรับการได้ Darius Slay มาร่วมทีมทำให้แผงหลังบ้านดูดีขึ้นพอสมควร หลังจากปี 2019 Sidney Jones กับ Rasul Douglas 2 ตัวคุมปีก เรียกว่าบ่อขนานแท้ ปัญหาอื่นๆ คือ Malcolm Jenkins, S ที่ลงเป็นตัวจริงให้กับทีมมายาวนานถึง 6 ฤดูกาลโดยไม่มีพลาดซักเกมย้ายออกไปแล้ว และดูเหมือนว่าบรรดาขุมกำลังในแผง defensive back กลับไม่มีคนที่ดูไว้ใจที่จะมาเล่นในตำแหน่ง FS แทนเขาได้เลย จากข้อมูลล่าสุดคาดว่าน่าจะเป็น Jalen Mills แต่ก็นั่นแหละ เล่น CB มาทั้งชีวิตจะโยกมาเล่น FS ก็เป็นอะไรที่เสี่ยงอยู่ไม่น้อย ไม่ทีมก็ต้องไปเสี่ยงเอากับ K’Von Wallace ดาวรุ่งที่ดราฟต์มาในรอบ 4

แต่ปัญหาใหญ่ของ Eagles คือ front-7 โดยเฉพาะแผง linebacker ปีนี้บรรดาตัวหลักย้ายออกเพียบ Nigel Bradham, Kamu Grugier-Hill รวมไปถึง Jatavis Brown ที่ตัดสินใจรีไทร์ไปเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เอาง่ายๆ ตอนนี้ LB ในทีมชุดปัจจุบันคือบรรดาตัวสำรองจากปีก่อนๆ ร่วมกับดาวรุ่งที่เพิ่งดราฟต์มาใหม่ แต่ D-Line ดูดีขึ้นหลังจากได้ตัว Javon Hargrave, NT ตัวเก่งของ Steelers มาร่วมทีม


Player Focus: Miles Sanders แม้เราอาจจะคาดหวังกับเกมวิ่งของ Eagles มากไม่ได้เหมือนกับทีมอื่นๆ แต่กระนั้น ปีที่ผ่านมา Miles Sanders ก็ทำระยะร่วมทั้งวิ่งและรับบอลไปมากถึง 1,328 หลากับอีก 6 ทัชดาวน์ มาปีนี้อย่างที่บอก คู่แข่งแย่งตำแหน่งมือ 1 หรือพูดตรงๆ เลยก็คือแม้แต่ตัว rotation ก็ดูแทบไม่มี ดังนั้นปีนี้คงได้ถือบอลเป็นบ้าเป็นหลังแน่ๆ ดังนั้นก็เรียกได้ว่าปีนี้น่าจะได้เห็นศักยภาพจริงๆ ของเขาซักที

Predict: 9-7 (No.2 NFC East)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Washington Football Teams
น่าจะเป็นปีที่แฟนๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะทีมได้ทั้ง front office ใหม่, HC ใหม่ เป็นการเปิดศักราชใหม่ของทีมท่ามกลางความคาดหวังที่น่าจะยังไม่มากนักสำหรับปีแรก หลังจากหมดยุคของ Dan Snyder

2019 record: 3-13
Key Acquisitions: Chase Young (Rd. 1, No. 2 – Ohio State)
Key Losses: Quinton Dunbar (to Seahawks)

มันเป็นเรื่องปกติสำหรับ QB ที่ถูกดราฟต์ในรอบแรกว่าพวกเขาต้องมีพัฒนาการแบบก้าวกระโดดให้ได้ไวที่สุด ก่อนที่ทีมจะตัดสินใจเริ่มมองหา franchise quarterback คนต่อไป แน่นอน Dwayne Haskins ก็หนีไม่พ้นวงจรนี้ QB วัย 23 ปีรายนี้เป็นสิ่งที่ Dan Snyder เลือกเอาไว้ให้ทีมก่อนที่เขาจะถูกขับออกจากตำแหน่ง Ron Rivera, HC คนใหม่ก็ดูเหมือนเปรยๆ ว่าจะให้โอกาสเขาได้ลงเป็นตัวจริงในปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเมื่อ Rivera หนีบเอาศิษย์ก้นกุฏิอย่าง Kyle Allen, QB หนุ่มตัวสำรองของ Cam Newton ที่ได้ลงสนามเกือบทั้งฤดูกาลในปีที่ผ่านมาตามมาด้วย นอกจากนี้กระแสการกลับมาลงซ้อมได้ของ Alex Smith ก็เป็นอีกแรงกดดันที่ Dwayne Haskins ต้องเผชิญตลอดทั้งฤดูกาลนี้ เขาต้องอยู่ในฟอร์มที่ดีเท่านั้นถึงจะอยู่รอดในปีหน้า ไม่งั้นเจอทีมดราฟต์ QB ใหม่ในฤดูกาลหน้าแน่ๆ

ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่า Washington Redskins ทำ Ron Rivera กระเด็นตกเก้าอี้ที่ Carolina Panthers หลังจากเขาคุมทีม Panthers มาโดน Redskins วิ่งโขยกใส่ไป 248 หลา ก่อนจะพ่ายไป 29-21 ทำให้เขาและผู้ช่วยตกงานทันทีในอีก 2 วันให้หลัง ปีนี้เขามารับงานที่ Washington ที่โดนเปลี่ยนชื่อทีมใหม่ พร้อมกับหนีบเอา Jack Del Rio มาเป็น DC ในระบบ 4-3D กับทีมที่มีผู้เล่นในทีมรับที่เต็มไปด้วยคนที่ผลงานดีๆ แต่กลับไม่ได้ถูกจับตามองมากนัก Ryan Kerrigan, Montez Sweat, Johathan Allen และล่าสุดได้ปิศาจอย่าง Chase Young มาร่วมทีมอีกคน เรียกว่าแก๊งค์ Edge Rusher แน่นปึ๊ก แถมหลังบ้านได้ตัว Kendall Fuller เด็กเก่าที่ไปคว้าแชมป์ SB กับ Chiefs กลับมาช่วยทีม ร่วมกับ Landon Collins, SS คนดังของลีก

ฤดูกาลที่ผ่านมาเรียกว่ามรสุมผู้เล่นบาดเจ็บพัดวนอยู่ที่ Washington ไม่ไปไหน ทำให้ขุมกำลังของพวกเขาทะยอยหายไปทีละคนสองคน ไล่ตั้งแต่ Jordan Reed, Vernon Davis, Chris Thompson และ Paul Richardson ที่ผลัดกันเจ็บ ผลัดกันหายจนทีมต้องตัดสินใจโละทิ้งไปทั้งหมด แล้วแทนที่ด้วยดาวรุ่งเกือบทั้งทีม


Player Focus: Terry McLaurin ปีกนอกที่สถาปนาตัวเองกลายเป็นมือ 1 ของทีมตั้งแต่ปีแรก ปีนี้กลายมาเป็นตัวความหวังของทีมนำทีมบรรดา receiver วัยกระเตาะ ไม่ว่าจะเป็น Steven Sims Jr., Antonio Gandy-Golden หรือ Jeremy Sprinkle น่าห่วงเรื่องการแบกรับความกดดันอยู่ไม่น้อย แต่คิดว่าถ้าทีมไม่พึ่งพา RB มากเกินไป(จริงๆ RB ก็ดาวรุ่งนะ Adrian Peterson น่าจะขยับไปเป็นตัว rotation แล้ว) Terry McLaurin ก็คงต้องเป็นเป้าที่ Dwayne Haskins ต้องขอให้ช่วยเป็นคนแรก

Predict: 5-11 (No.3 NFC East)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

NFC NORTH


Chicago Bears
ทีมที่ Quarterback กลายเป็นเครื่องหมายคำถามอีกครั้ง ขณะที่ O-Line ดูมีปัญหา แต่เกมรับโดยเฉพาะ Front-7 ยังคงแข็งแกร่ง แต่หลังบ้านไปลุ้นกับเด็กใหม่

2019 record: 8-8
Key Acquisitions: Cole Kmet (Rd. 2, No. 43 – Notre Dame)
Key Losses: Prince Amukamara (to Raiders)

นี่น่าจะเป็นปีที่ทั้ง Matt Nagy กับ Mitchell Trubisky ต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อความอยู่รอดต่อไปในอนาคต หลังจากปี 2018 ที่ผลงานยอดเยี่ยมเข้ารอบ playoff ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ก่อนที่ผลงานจะแผ่วลงไปอย่างน่าใจหายในปีที่ผ่านมา น่าสนใจคือ Mitchell Trubisky กับปีที่ 4 ของเขา หลังจากทีมปฏิเสธที่จะใช้ fifth-year option พร้อมทั้งนำเข้า Nick Foles อดีต MVP Super Bowl มาเป็นตัวแบ๊กอัพกดดันที่สั่นคลอนตำแหน่งมือ 1 ของ Trubisky อย่างรุนแรง ส่วนหนึ่งเกิดจากแผง O-Line ที่เปิดช่องวิ่งได้ไม่ดีนัก แถมยังให้เวลากับ QB สั้นเกินไปในหลายๆ เพลย์ ทำให้เกมวิ่งที่เคยโดดเด่นเป็นอาวุธสำคัญในปี 2018 แทบจะหายไปเลยในฤดูกาลที่ผ่านมา ปีนี้ทีมเสีย Kyle Long, OG ที่รีไทร์ไป แทนที่ด้วย Germain Ifedi ทำให้สื่อมองว่า O-Line ของ Bears แทบจะไม่ได้อัพเกรดขึ้นเลยจากปีที่ผ่านมา

ปีนี้ทีมได้ตัว Jimmy Graham อดีต TE ของทีมคู่อริร่วมสายมาร่วมทีม น่าสนใจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ TE คนดังไม่ได้เล่นร่วมกับ QB ระดับสตาร์ประดับลีกเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา แถมน่ากังวลเพราะ Graham ไม่เคยกลับไปสู่ฟอร์มอันสุดยอดเหมือนสมัยที่เล่นให้กับ New Orlean Saints เลย นับตั้งแต่ย้ายออกมา ขณะที่ดาวรุ่ง Cole Kmet, TE จอมบล็อกน่าจะเป็นตัว rotation เก็บประสบการณ์ไปก่อนชั่วคราว จริงๆ ต้องบอกว่า TE ก็เป็นส่วนหนึ่งที่หายไปในปีที่ผ่านมา หลังจาก Trey Burton ทำผลงานในปี 2018 ได้อย่างยอดเยี่ยมก่อนจะเจ็บหนักพักยาวในปีถัดมา ทำให้สุดท้ายทีมต้องโละเขาทิ้งไปในปีนี้

มาที่ฝั่งเกมรับ ปีที่ผ่านมาเกมรับแผ่วลงไปหลังจากที่เสีย Vic Fangio, DC ของทีมที่ย้ายไปคุม Denver Broncos ส่วนหนึ่งนั้นมาจาก Akiem Hicks ที่เจ็บหนักพักยาวหายไป 11 เกม ส่งผลให้การป้องกันเกมวิ่งของทีมเสียหายชัดเจน เนื่องจากคู่ต่อสู้จับทางได้และเลือกเกมวิ่งเข้าใส่บ่อยขึ้น ทำให้ Khalil Mack เก็บ sacks ได้ไม่ถึงเลข 2 หลักเป็นครั้งที่ 2 ในอาชีพ(ครั้งแรกคือปี Rookie) และนอกจากนี้ 2 คู่หู ILB อย่าง Roquan Smith กับ Danny Trevathan ก็ผลัดกันเจ็บด้วย ปีนี้ทีมเสีย Prince Amukamara ออกไปทำให้ Jaylon Johnson เด็ก rookie จาก Utah น่าจะได้เป็นตัวจริงตั้งแต่ปีแรก


Player Focus: ปีนี้จับตามองคู่หู WR อย่าง Allen Robinson กับ Anthony Miller หลังจากผลงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาดูดีขึ้นเรื่อยๆ ผิดกับฟอร์มของทีม โดยมือ 1 อย่าง Allen Robinson ปีที่ผ่านมาเป็นเป้ารับบอลถึง 154 ครั้ง มากที่สุดในอาชีพ เรียกว่ากลับสู่ฟอร์มเทพเหมือนสมัยที่อยู่กับ Jacksonville Jaguars แล้ว ขณะที่ Anthony Miller ก็ใช้เวลาแค่ 2 ปีนับตั้งแต่เข้าลีกสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นปีกมือ 2 ของทีมได้แล้วเช่นกัน

Predict: 6-10 (No.4 NFC North)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Detroit Lions
น่าจะเป็นปีที่จะตัดสินอนาคตของทั้ง GM และ HC หลังจากในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมาทีมจัดการเสริมทัพทั้งแบบ FA. และดราฟต์ เป็นผู้เล่นแนวเอามาแล้วต้องใช้งานได้ทันทีทั้งสิ้น ทีมต้องการจะแย่งพื้นที่ Playoff ปีนี้มีลุ้นมากกว่าปีก่อนๆ ภาวนาให้ Matthew Stafford จอมทัพของทีมไม่เจ็บไม่ป่วยก่อน แล้วค่อยไปมองเรื่องอื่นๆ

2019 record: 3-12-1
Key Acquisitions: Jamie Collins Sr. (from Patriots)
Key Losses: Graham Glasgow (to Broncos)

Detroit Lions กำลังทำตัวเป็น New England Patriots แห่ง NFC ไปแล้ว หลังจากที่ Bob Quinn, GM ของทีม และ Matt Patricia, HC ทั้งคู่ก็มาจาก Patriots ปีนี้การเสริมทัพเล่นคว้าผู้เล่นจาก Patriots เข้ามาเสริมทัพอีก จริงๆ ในปีนี้เมื่อกางรายชื่อของผู้เล่นทีม Detroit Lions ขึ้นมานี่ไม่ขี้เหร่เลยนะในทุกๆ ตำแหน่ง O-Line ก็อัพเกรดขึ้น ได้ตัววิ่งดาวรุ่งคนดังจาก Georgia Bulldogs มาเป็นคู่หูให้ Kerryon Johnson ทีมรับได้ 3 ผู้เล่น Patriots มายืนตำแหน่งตัวจริงไม่ว่าจะเป็น Danny Shelton, Jamie Collins Sr. และ Duron Harmon แม้จะเสีย Darius Slay ตัวคุมปีกมือ 1 ไป แต่ก็ได้ Desmond Trufant ตัวคุมปีกมือ 1 ของ Atlanta Falcons มาแทน ยังไม่พอ ดราฟต์เอา Jaffrey Okudah ตัวคุมปีก no.1 ของดราฟต์คลาส 2020 มาเสริมทัพอีก เรียกว่า Matt Patricia สร้างทีมจากทีมรับก่อนตามสไตล์ที่ตัวเองถนัด

จริงๆ ปีก่อนครึ่งฤดูกาลแรก Matthew Stafford ไม่ได้พาทีมมีผลงานแย่นะ แม้ว่าผลการแข่งขันคือ 3-4-1 แต่อย่าลืมว่า 3 จาก 4 เกมที่แพ้นั้นมันแพ้ห่างแค่สกอร์เดียวเท่านั้น ก่อนที่ Matthew Stafford จะเจ็บหนักพักยาวในครึ่งฤดูกาลหลัง ก่อนที่ 2QB สำรองอย่าง David Blough กับ Jeff Driskel จะลงมานำทัพพาทีมแพ้รวด 8 เกมในครึ่งฤดูกาลหลังจมบ๊วยไปแบบไม่มีทางสู้ เรียกว่าผลงานของทีมขึ้นอยู่กับ Underated QB อย่าง Stafford มากเกิน 75% ขนาดเขาลงสนามไปเพียง 8 เกม แต่เขาเป็นผู้นำของลีกในเรื่องการขว้างทำระยะเกิน 20 หลา ได้มากถึง 41 หนในปีที่ผ่านมา ปีนี้น่าสนใจในตำแหน่งตัววิ่งของทีม Kerryon Johnson ที่ 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาลงสนามไปเพียงแค่ 18 จาก 32 เกม อาการบาดเจ็บทำให้อนาคตของเขาไม่แน่นอน และทีมก็ตัดสินใจดราฟต์ D’Andre Swift มาเตรียมรอแล้ว มีแววว่าจะแย่งมือ 1 ตั้งแต่ปีแรก นอกนั้นตัว rotation สอดแทรกยังมี Bo Scabrough กับ Jason Hundley ดาวรุ่งอีกคนที่ดราฟต์มาในรอบ 5 มองเผินๆ เหมือน Patriots Style อีกแล้ว สมัยที่ใช้ Sony Michel, James White และ Rex Burkhead ยังไงหยั่งงั้น แต่อย่างว่าอย่าลืมว่าปีนี้ Graham Glasgow, OG ตัวเก่งของทีมไม่อยู่แล้ว ปีที่ผ่านมาเขามีเรตติ้งเป็นรองแค่ Quenton Nelson การ์ดคนดังของ Indianapolis Colts แค่คนเดียวเท่านั้น ก็ไม่แน่ใจว่าการเปิดทางวิ่งของ Detroits จะดีเหมือนเดิมหรือไม่ แต่ข่าวดีคืออย่างน้อยๆ Frank Ragnow, C ที่ดีกรีเรทติ้งเป็น C no.1 ของลีกปี 2019 ยังประจำการอยู่ใน O-Line ของทีมเหมือนเดิม


Player Focus: T.J. Hockenson ปีกในดาวรุ่งที่กำลังถูกคาดหวังว่าจะเจริญรอยตาม Travis Kelce และ George Kittle ที่ระเบิดฟอร์มได้ในฤดูกาลที่ 2 นับจากเข้าลีก ผลงานปีที่ผ่านมาแม้จะไม่ได้ทำระยะมากมายอะไร ส่วนหนึ่งก็เพราะ Matthew Stafford อยู่แค่ครึ่งฤดูกาลด้วย ดังนั้นปีนี้ถ้า Stafford ไม่เจ็บไม่ป่วย เขาน่าจะเป็นอีกคนที่ผลงานน่าจะก้าวกระโดด

Predict: 8-8 (No.3 NFC North)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Green Bay Packers
ปีที่ผ่านมา Matt LaFleur พาทีมกลับมาสู่เส้นทาง playoff ได้อีกครั้ง และผลงานก็ดีกว่าที่สื่อคาดเอาไว้พอสมควร มาฤดูกาลนี้เริ่มต้นในช่วง offseason ด้วยคำวิจารย์ต่างๆ มากมายโดยเฉพาะเรื่องการดราฟต์ แต่ดูเหมือนทีมจะสามารถรักษาผู้เล่นตัวหลักสำคัญให้อยู่ต่อกับทีมได้ในฤดูกาลนี้ และน่าสนใจกับความสัมพันธ์ระหว่าง Aaron Rodgers, Matt LaFleur และ Brian Gutekunst ในปีนี้ หลังจากที่ทีมตัดสินใจดราฟต์ Jordan Love เข้าทีมตั้งแต่รอบแรก

2019 record: 13-3
Key Acquisitions: Josiah Deguara (Rd. 3, No. 94 - Cincinnati)
Key Losses: Bryan Bulaga (to Chargers)

Matt LaFleur ปรับรูปแบบการเล่นของทีมใหม่ จากการเล่นแบบ pass attack แบบเป็นบ้าเป็นหลังในปี 2018 มาเป็นการเสริมเกมวิ่งให้มีความบาลานซ์กับเกมขว้างมากขึ้น และมันได้ผล การเล่น pass attack ของ Aaron Rodgers เหลือเพียง 60% แลกกับการได้ Aaron Jones ที่ทำไป 1,558 หลากับอีก 19 touchdowns มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของลีก มาปีนี้เหมือนทีมจะคงรูปแบบการเล่นเหมือนเดิมต่อไป หลังจากเห็นแล้วว่าในรูปแบบการเล่นสมัยใหม่ การวิ่งให้มากขึ้นมันทำให้ผลงานภาพรวมดี ดังเช่น 3 ทีมที่วิ่งมากกว่าขว้าง Baltimore, San Francisco และ Tennessee ทุกทีมมีผลงานที่ดีกว่าที่สื่อมองเอาไว้ตั้งแต่แรกทั้งนั้น ทีมทำการโล๊ะ Jimmy Graham ออกไปแล้วแทนที่ด้วยการดราฟต์ Josiah Deguara ปีกในจาก Cincinnati Bearcats ที่เล่นแนวบล็อกเปิดทางมากกว่า Graham ที่เป็นสาย Main Target และนอกจากนี้ยังมีการดราฟต์ AJ Dillion เข้ามาเป็นตัววิ่งคนที่ 3 ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเดินตามรอยการเล่นของ 49ers ของ Kyle Shanahan หรือไม่ หลังจากโดนลูกพี่ใช้เกมวิ่งสอนเชิงไปแบบหมดรูปถึง 2 เกมในฤดูกาลที่ผ่านมา

ปีนี้ทีมหักปากกาเซียนด้วยการปฏิเสธโอกาสที่จะดราฟต์ WR มาเพิ่ม ทำให้แฟนๆ หัวเสียไม่น้อย ภาระหนักไปตกอยู่กับ Davante Adams ปีกมือ 1 ของทีม หลังจาก Devin Funchess ที่อุตส่าห์เซ็นต์มากะจะให้เป็นปีกตัวหลักอีกคนตัดสินใจประกาศขอให้สิทธิ์ COVID Op.Out ไป ทำให้แก๊งค์ receiver เรียกว่าแทนจะเป็นชุดเดิมจากปีที่แล้ว ตอนนี้ยังพอเห็นความหวังสำหรับปีกมือ 2 นิดๆ หลังจากที่ Allen Lazard โชว์ฟอร์มช่วงท้ายฤดูกาลได้น่าประทับใจ เบียด Marquez Valdes-Scantling ขึ้นมาเป็นมือ 2 แล้ว แถม Devin Funchess ไม่อยู่เป็นก้างอีก ทำให้ Marquez Valdes-Scantling คงต้องลงไปแย่งตำแหน่งมือ 3 กับ Equanimeous St. Brown, Jake Kumerow และสุดท้ายม้ามืดอย่าง Reggie Begelton ปีกนอกคนดังจากลีก CFL ที่ Brian Gutekunst เสี่ยงไปเอามา ไม่รู้ว่า Gutekunst จะเดิมพันกับใครระหว่าง Rick Wagner, Christian Kirksey หรือ Reggie Begelton เพราะที่ผ่านมาแม้ Gutekunst จะถูกแฟนๆ วิจารย์ว่าดราฟต์ไม่ได้เรื่อง แต่เขามีสถิติที่น่าสนใจเวลาเซ็นต์ตัว free agent แล้วมักจะมีตัวที่แจ้งเกิดกับทีมทันทีตั้งแต่ย้ายมา ซึ่งถ้าประมวลจากสถิติเก่าๆ ปีนี้เขาน่าจะเฮงกับ Christian Kirksey นะ

เกมรับปีนี้เรียกว่ามีการเปลี่ยนแปลงหนักในแผง linebacker ทีมปล่อยตัว Blake Martinez กัปตันทีมออกไปพร้อมๆ กับ B.J.Goodson แล้วเอา Christian Kirksey มาแทนก่อนจะดราฟต์ Kamal Martin มาเพิ่ม แต่ดูแล้วที่มีโอกาสมากที่สุด น่าจะเป็น Oren Burks กับ Ty Summers ซึ่งน่าห่วงเพราะทั้ง Kirksey และ Burks มีประวัติบาดเจ็บพักยาวมาแล้วทั้งคู่ ดังนั้นถ้าเกิดมีคนใดคนหนึ่งอยู่ไม่ครบทั้งฤดูกาล เกมป้องกันการวิ่งของ Packers ที่ย่อยยับเมื่อปีก่อนจะกลับมาอีกรอบ และนั่นคงจะทำให้ Mike Pettine, DC ของทีมตกงานแน่ๆ ส่วนอีกจุดที่น่าสนใจคือตำแหน่ง slot cornerback ปีนี้ Tramon Williams ตัวเก๋าย้ายออกไปแล้ว ซึ่งน่าสนใจว่าใครจะมารับตำแหน่งแทน ส่วนตัวผมว่าอาจจะได้เห็น Raven Greene ปรับบทบาทตัวเองจาก S มาเล่น CB แทน


Player Focus: Christian Kirksey ศิษย์เก่าของ Mike Pettine สมัยอยู่กับ Cleveland Browns เข้าลีกมา 4 ปีแรกผลงานสุดยอด แต่หลังจากนั้นเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน ทำให้ 2 ฤดูกาลหลังสุดลงสนามไปเพียง 9 จาก 32 เกม Mike Pettine ตัดสินใจปล่อย Blake Martinez ทิ้ง แถมมองข้ามโอกาสในการดราฟต์ ILB ดีๆ หลายๆ คนในปีนี้ เป็นการการันตีว่าเขามั่นใจกับสภาพร่างกายของ Christian Kirksey ว่าน่าจะหายดีแล้ว เรียกว่า Mike Pettine เอาหน้าที่การงานมาเสี่ยงเดิมพันกับเขาไม่น้อย

Predict: 11-5 (No.1 NFC North)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Minnesota Vikings
หลังจากหลุดรอบ playoff ในปี 2018 ภายในปีเดียว Vikings ภายใต้การนำของ Kirk Cousins ก็กลับมาสู่เส้นทาง playoff ได้อีกครั้งแต่ก็ยังไปได้ไม่ไกล และในที่สุด Space Cap ก็ทำให้พวกเขาต้อง rebuilt ทีมใหม่อีกรอบด้วยการแทนที่สตาร์ด้วย rookies ที่ดราฟต์มารวดเดียวในปีนี้ถึง 15 คน

2019 record: 10-6
Key Acquisitions: Jeff Gladney (Rd. 1, No. 31 - TCU)
Key Losses: Stefon Diggs (to Bills)

กลายเป็นปัญหาที่ดังแว่วๆ มาทั้งฤดูกาลในเรื่องที่ว่า Stefon Diggs ไม่พอใจเท่าไหร่กับแผนการเล่นของ Vikings ที่เน้นเกมวิ่งมากขึ้น และแม้จะไม่พอใจ Diggs ก็ทำ career highs ด้วยผลงานรับบอลไป 1,130 หลากับอีก 6 touchdowns แถมมีสถิติเฉลี่ย 17.9 หลาต่อการถือบอล 1 ครั้งเลยทีเดียว ทำให้สุดท้ายทีมต้องเทรดเขาไปอยู่กับ Buffalo Bills แทน และคู่หูของ Adam Thielen ก็ต้องมามองหากันใหม่อีกครั้ง คราวนี้หวยไปลงที่เด็ก rookie อย่าง Justin Jefferson ที่ท็อปฟอร์มมาในชุด LSU Tigers แชมป์ระดับมหาวิทยาลัยปีล่าสุด ผลงานเขารับบอลไป 111 ครั้ง ทำระยะไป 1,540 หลากับอีก 18 touchdowns เรียกว่าเป็นเป้าใหญ่ของ Joe Burrow เลยทีเดียว แต่ตรงนี้แหละน่าสนใจ เพราะ Justin Jefferson แทบจะเล่นในตำแหน่ง slot WR มาโดยตลอด ซึ่งการมาอยู่กับ Vikings มันทับที่ของ Adam Thielen สุดท้ายใครจะเป็นคนที่ต้องถูกปรับบทบาทกันล่ะ และนอกจาก 2 คนนี้ปีกสำรองอย่าง Olabisi Johnson กับ Chad Beebe ก็ดูยังพึ่งพาไม่ค่อยได้

ปีที่ผ่านมา Vikings เน้น run heavy ซึ่งจากสถิติแล้วทีมเรียกแผนบอลวิ่งถึง 29.8 ครั้งต่อเกม(ลำดับที่ 4 ของลีก) ทำระยะไปเฉลี่ย 133.3 หลา(ลำดับที่ 6 ของลีก) แต่นั่นภายใต้ยุคที่ Kevin Stefanski(HC Browns คนปัจจุบัน) ยังรับหน้าที่เป็น OC อยู่ ตอนนี้อาจจะได้เห็น Vikings ปรับรูปแบบการเล่นใหม่อีกครั้งภายใต้ OC คนใหม่อย่าง Gary Kubiak ซึ่งมีแววว่าอาจจะปรับไปเล่นในเชิงบอลขว้างเพิ่มขึ้น แต่อาจจะเป็นในรูปของ 2TE หลังจากดูรายชื่อแล้ว Kyle Rudolph+Irv Smith Jr. ดูมีภาษีดีกว่าการปล่อย WR คนที่ 3 ลงไปในสนาม

เกมรับปีนี้เสียตัวหลักไปเพียบทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน หน้าบ้านหนักสุด Linval Joseph, Stephen Weatherly, Everson Griffen ไปหมด ขณะที่หลังบ้าน 3 ตัวคุมปีกจริงๆ ต้องบอกว่ามือ 1-3 ไปพร้อมกันหมดไม่ว่าจะเป็น Xavier Rhodes, Trae Waynes และ Mackensie Alexander เรียกว่าตัวหลักหายครึ่งทีม ขณะที่ตัวแทนอุตส่าห์ไปเซ็นต์ Michael Pierce มาจาก Baltimore Ravens ด้วยสัญญาใหญ่ 3-year, $27 million แต่แล้วเจ้าตัวขอใช้สิทธิ์ COVID Op.-out ไปแล้ว ทำให้ Interior defensive น่าจะอ่อนลงไปเยอะ ขณะที่คู่หู Defensive End ยังมี Danielle Hunter ยืนทำหน้าที่อยู่ อีกฝั่งปีนี้น่าจะให้โอกาส Ifeadi Odenigbo ได้เป็นตัวจริงซักทีหลังผลงานดีต่อเนื่อง แผง linebacker ยังแข็งโป๊กเหมือนเดิม Eric Kendricks, Anthony Barr, Eric Wilson อยู่กันพร้อมหน้า แถมยังดราฟต์ดราวรุ่งอย่าง Troy Dye มาเตรียมไว้แล้ว หลังบ้านปีนี้เต็มไปด้วยตัวคุมปีกดาวรุ่ง Mike Hughes ปีกปี 3 รับหน้าที่รุ่นพี่ ที่เหลือเด็กล้วน Jeff Gladney, Cameron Dantzler และ Kris Boyd


Player Focus: Justin Jefferson ปีกดาวรุ่งน่าจะเป็นคนที่ต้องปรับบทบาทการเล่นมาเป็นปีก wideflank แทน เพราะที่ผ่านมา Adam Thielen ที่เล่น slot เล่นรู้ใจกับ Kirk Cousins อยู่แล้ว คิดว่า Mike Zimmer คงไม่ไปแตะตรงนั้น และภายใต้การดูแลของ Gary Kubiak เชื่อว่าเขาน่าจะลดบทบาท Dalvin Cook ลงแล้วไปเพิ่มเกมขว้างมากขึ้น นั่นน่าจะทำให้ Justin Jefferson มีโอกาสที่จะแจ้งเกิดได้ตั้งแต่ปีแรก

Predict: 8-8 (No.2 NFC North)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

NFC SOUTH


Atlanta Falcons
ดูเหมือนทีมจะจับทางได้แล้วว่าต้องซ่อมทีมจากจุดไหนก่อน ปีที่ผ่านมาเริ่มต้น 8 เกมแรก ด้วยสถิติสุดห่วย 1-7 ก่อนที่การปรับทีมรับใหม่จะทำให้ 8 เกมหลังจบด้วยผลงาน 6-2 และดูเหมือนทีมจะขยับอย่างต่อเนื่องในการปรับทีมรับ และนั่นจะทำให้พลพรรค Dirty Bird ล้างแค้น Tom Brady ด้วยการเขี่ย Tampa Bay ออกจากพื้นที่ Playoff

2019 record: 7-9
Key Acquisitions: Dante Fowler Jr. (from Rams)
Key Losses: De'Vondre Campbell (to Cardinals)

การย้ายมาของ 2 ผู้เล่นใหม่ในเกมรุกอย่าง Todd Gurley และ Hayden Hurst ทำให้ Atlanta Falcons กลายเป็นทีมแรกใน NFL ที่กำลังจะมีขุมกำลังในทุกตำแหน่งที่มาจากดราฟต์รอบแรก ปีที่ผ่านมาแนว O-Line กลายเป็นปัญหาหลังจากปล่อยให้ Matt Ryan โดน sacks เฉลี่ยสูงถึง 3.1 ครั้งต่อเกม ทำให้ผลงานของ Matty Ice ดรอปลงไปอย่างชัดเจน มาปีนี้ทีมไม่สามารถรั้งตัว Austin Hooper ปีกในคู่ใจของเขาเอาไว้ได้อีก Thomas Dimitroff, GM ของทีมแก้ปัญหาฉับไวด้วยการไปสู่ขอ Hayden Hurst ปีกในที่ไม่มีที่ยืนใน Baltimore มาร่วมทีม อย่างน้อยๆ เขาก็มีดีกรีเป็นถึง TE ดราฟต์รอบแรกในปี 2018 เอามาให้ Matt Ryan ชุบชีวิตใหม่ ขณะที่อีกตำแหน่งที่ฮือฮาไม่น้อยคือการได้ตัว Todd Gurley ตัววิ่งระดับเทพของ Los Angeles Rams มาแบบงงๆ นั่นทำให้บรรดาอาวุธรอบตัว Matt Ryan ปีนี้แข็งเหลือเกิน นี่ยังไม่รวมคู่หู receiver จาก Alabama อย่าง Julio Jones และ Calvin Ridley อีกนะ

การยอมถอยของ Dan Quinn, HC ของทีมในเรื่องการเรียกแผนเกมรับ แล้วปล่อยให้ Raheem Morris กับ Jeff Ulbrich 2 ผู้ช่วยของเขาทำหน้าที่เรียกแผนแทน ทำให้ Atlanta กลับมามีผลงานดีขึ้นในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง โดยเฉพาะ Raheem Morris ที่ปีนี้รับบท DC เต็มตัว แต่เริ่มมาก็ต้องเสีย De'Vondre Campbell กับ Vic Beasley Jr. ออกจากทีมพร้อมกันทั้งคู่ แต่แลกกับการได้ตัว Dante Fowler Jr. ราชา sacks ที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วกับทั้ง Jacksonville และ LA Rams น่าจะเรียกว่าดีกว่าเดิมแน่ๆ ปีนี้น่าห่วงหน่อยก็แผงหลังบ้านที่คู่ตัวคุมปีกเป็นดาวรุ่งทั้งคู่ อาจจะโดนลองของบ่อยแน่ๆ โดยเฉพาะใน Division ที่มี 2 ลุงอย่าง Drew Brees และ Tom Brady เป็นก้างชิ้นใหญ่


Player Focus: Calvin Ridley ผลงานในปีที่ผ่านมาดีขึ้นทันทีแบบก้าวกระโดดหลังจากทีมตัดสินใจเทรด Mohammed Sanu ไปให้ New England Patriots ซึ่งก่อนหน้าที่ Sanu ยังอยู่ Calvin Ridley มีผลงาน รับบอลเฉลี่ย 4.1 ครั้ง ทำระยะเฉลี่ย 53.3 หลาต่อเกม แต่พอเทรด Sanu ออกไป ผลงานของเขาใน 6 เกมสุดท้าย ขยับมาเป็นรับบอลเฉลี่ย 5.7 กับทำระยะได้ 82.2 หลาต่อเกมเลยทีเดียว ดังนั้นปีนี้ได้ลงเป็นตัวจริงยาวทั้งฤดูกาล น่าสนใจไม่น้อยสำหรับใครจะเลือกเขาเข้าทีมใน fantasy

Predict: 9-7 (No.2 NFC South(NFC wild-card*6))

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Carolina Panthers
ทีมกลับสู่โหมดรื้อสร้างใหม่เรียบร้อยแล้ว ปีนี้พวกเขาเริ่มต้นด้วย new coach, quarterback และ coordinators ทีมทะยอยปล่อยตัวหลักออกไปหลายคนทั้งทีมบุกและทีมรับ แต่แม้ว่าปีนี้อาจจะถูกมองว่าไม่มีลุ้น แต่ Christian McCaffrey คงจะเป็นสิ่งที่ทำให้ Carolina ยังน่าดูอยู่

2019 record: 5-11
Key Acquisitions: Derrick Brown (Rd. 1, No. 7 – Auburn)
Key Losses: Luke Kuechley (retired)

ปิดฉาก 9 ปีที่ Ron Rivera และ Cam Newton สร้างเอาไว้กับ Carolina จบด้วยการเข้ารอบ playoff ได้ 3 สมัยและไปถึงเกม SB 1 สมัย ทีมตัดสินใจปลด Rivera หลังจากทำทีมมีสถิติ 5-7 ก่อนจะตัดตัว Cam Newton ทิ้งหลังจากอาการบาดเจ็บทำให้เขาลงสนามได้เพียงแค่ 2 เกมในปีที่ผ่านมา ปีนี้หลายๆ อย่างประเดประดังใส่ทีม Panthers ไล่ตั้งแต่ Greg Olsen, TE ที่อยู่มานานพอๆ กับ Cam Newton ตัดสินใจไม่อยู่ต่อกับทีม แถมเอา Trai Turner ไปเทรดแลกกับ Russell Okung ของ Chargers เสร็จปุ๊บ Okung ประกาศขอใช้สิทธิ COVID Op.out เรียกว่าเสียหาย 2 ต่อ หนักสุดคือ Luke Kuechley ราชา All-Pro ในตำแหน่ง Middle Linebacker ผู้ครองสถิติ Tackle 100+ ครั้งตลอด 8 ฤดูกาลที่เล่นในอาชีพตัดสินใจ retired ด้วยวัย 29 ปีไปแบบช็อกแฟนๆ ทั้งลีก Matt Rhule โค้ชใหม่ที่มาจาก College ตัดสินใจเลือก Teddy Bridgewater, QB สำรองของ New Orleans Saints ที่ทำผลงาน 5-0 ทำระยะไป 1,370 หลา หลังจากลงมาทำหน้าที่แทน Drew Brees ชั่วคราว แถมไม่มีการดราฟต์ QB มาเพิ่มเรียกว่าให้โอกาสเต็มๆ ยาวๆ ในปีนี้ แถมติดอาวุธชิ้นใหญ่ให้ด้วยการไปคว้าเอา Robby Anderson ปีกมือ 1 ของ New York Jets มาคอยรับบอลจากเขา

ฝั่งทีมรับ Matt Rhule ตัดสินใจหนีบเอา Phil Snow มือขวาของเขาที่ Baylor มารับหน้าที่ DC คนใหม่ของทีม ซึ่งทั้งคู่ตัดสินใจที่จะใช้สิทธิ์ดราฟต์ทั้งหมดในปีนี้ 7 สิทธิ์ ไปกับการดราฟต์ดาวรุ่งในฝั่งทีมรับล้วนๆ และ 4 คนที่ดราฟต์มาใน 4 รอบแรกก็มีโอกาสแย่งตำแหน่งตัวจริงของทีมได้ค่อนข้างสูง ไล่ตั้งแต่ Derrick Brown, Yetur Gross-Matos, Jeremy Chinn และ Troy Pride Jr. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในปีนี้ทุกอย่างดูไม่เป็นใจกับ Carolina Panthers ซักเท่าไหร่ เพราะพวกเขาอยู่ใน Group of Death ที่อีก 3 ทีมมีจอมทัพระดับซุปตาร์ของลีกไม่ว่าจะเป็น Drew Brees, Tom Brady และ Matt Ryan ดังนั้นปีนี้คงเตรียมตัวสร้างทีมไปพลางๆ ก่อน


Player Focus: Robby Anderson เป็นอดีตศิษย์ของ Matt Rhule สมัยที่คุมทีม Temple Owls เมื่อปี 2013-15 การที่ทีมตัดสินใจเซ็นต์เขาเข้าทีมทันที น่าจะเป็นใบสั่งของ Rhule ที่ต้องการจะเอามาเป็นปีกคู่บุญของเขา ดังนั้นมันแน่นอนว่าการย้ายมาของ Robby Anderson ก็เพื่อจะมาเป็นมือ 1 ของทีมแทนที่ Curtis Samuel และ DJ Moore

Predict: 3-13 (No.4 NFC South)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


New Orleans Saints
Saints ในปีนี้ต้องบอกว่ามีลุ้น SB ที่สุดแล้วอีกปีนึง หลังจากติดอาวุธสำคัญอย่าง Emmanuel Sanders มาเป็นคู่หูปีกฝั่งตรงข้ามกับ Michael Thomas ทำให้เกมขว้างของ Drew Brees อันเป็นเครื่องหมายการค้าของเกมรุกของ New Orleans ยิ่งอันตรายมากขึ้นกว่าเดิม เหลือก็แค่ให้ Drew Brees ในช่วงปลายของชีวิตนักกีฬา รักษาสุขภาพของตัวเองไม่เจ็บไม่ป่วยก็เป็นพอ

2019 record: 13-3
Key Acquisitions: Emmanuel Sanders (from Saints)
Key Losses: Vonn Bell (to Bengals)

Drew Brees ก็ยังคงเส้นคงวาเหมือนเดิม พา Saints เข้ารอบ playoff เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ชัดเจนขึ้นในเรื่องผลงาน 3 ปีหลัง Drew Brees ขว้างเสี่ยงน้อยลง เพราะนับตั้งแต่ปี 2016 ย้อนหลังไปเขาเสีย Intercept เกิน 10 ลูกในทุกๆ ปี แต่หลังจากปี 2017 เป็นต้นมา Drew Brees ไม่เคยเสีย Intercept ถึง 10 ครั้งเลย ส่วนหนึ่งเพราะเขาได้ปีกเทพอย่าง Michael Thomas มาเป็นเป้าหลัก แต่อีกส่วนก็มาจากระบบการเล่นที่เพิ่มเกมวิ่งเข้ามาช่วยในเกมบุกด้วย ปีที่ผ่านมาเจออาการบาดเจ็บทั้งของตัวเองและเพื่อนร่วมทีมเล่นงานจนไปไม่ถึงดวงดาว มาปีนี้บรรดาอาวุธชุดเดิมอยู่ครบพร้อมหน้าทั้ง Michael Thomas, Jared Cook, Alvin Kamara แถมยังได้ Emmanuel Sanders มาเพิ่ม ขณะที่แนว O-Line ชุดเดิมอยู่กันเกือบครบมีเพียง Larry Warford ที่ถูกปล่อยตัวทิ้งไปหลังจากทีมดราฟต์ Cesar Ruiz มายืนในตำแหน่ง RG แทน น่าสนใจในตำแหน่ง QB สำรองด้วย หลังจากทีมปล่อยตัว Teddy Bridgewater มือ 2 ออกไป แรกๆ เหมือนจะให้ Tayson Hill เป็นมือ 2 หลังจากได้รับการการันตีด้วยสัญญาฉบับใหม่ แต่แล้วจู่ๆ ทีมก็ตัดสินใจคว้า Jameis Winston อดีตดราฟต์ no.1 ปี 2015 เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวประกันอนาคตถ้าเกิดกรณี Drew Brees บาดเจ็บจนต้องพักหลายเกมแบบปีที่ผ่านมา

ฝั่งทีมรับส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นหน้าเดิมจากปีที่ผ่านๆ มา หลักๆ คือการเสีย Vonn Bell, SS ตัวหลักของทีมออกไป แต่ก็ไปดึง Malcolm Jenkins อดีตเด็กเก่าจาก Philadelphia Eagles มายืนแทน ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ดูจากภาพรวมแล้วขุมกำลังน่าจะพร้อมแทบทุกตำแหน่งแล้วสำหรับลุยฤดูกาลใหม่


Player Focus: Michael Thomas ปีกนอกตัวเทพจาก Ohio State กำลังจะกลายเป็นปีกนอกหมายเลข 1 ของลีกในไม่ช้านี้ หลังจากผลงานนับตั้งแต่ดราฟต์เข้ามาในปี 2016 ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี จนมาปีล่าสุดทำ NFL record ด้วยสถิติรับบอลมากที่สุดใน 1 ฤดูกาลไปที่ 149 ครั้ง และเป็นปีกที่ทำระยะได้มากที่สุดของลีกในปีที่ผ่านมาด้วยผลงานรับไป 1,725 หลากับอีก 9 touchdowns และผมเชื่อว่าเขาเป็นเป้าโปรดของ Drew Brees ดังนั้นการย้ายมาร่วมทีมของ Emmanuel Sanders จะไม่ทำให้ Drew Brees ขว้างให้เขาน้อยลงจากเดิมแน่ๆ ดีไม่ดี Sanders อาจจะเป็นแค่ตัวดึงความสนใจในแนวรับคู่ต่อสู้ ขณะที่เป้าหลักจะเป็น Thomas เหมือนเดิม และนั่นจะทำให้ปีนี้อาจจะเป็นปีแรกที่ Michael Thomas จะรับ touchdowns เป็นเลข 2 หลักได้เป็นปีแรกในชีวิต

Predict: 11-5 (No.1 NFC South)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Tampa Bay Buccaneers
การมาของ Tom Brady และ Rob Gronkowski 2 คู่หูแห่ง New England Patriots ในช่วงปลายของอาชีพ เป็นคำถามว่าเมื่อเขามาเล่นภายใต้ HC ที่ไม่ใช่ Bill Belichick จะยังคงโดดเด่นเหมือนเดิมหรือไม่ ท่ามกลางอาวุธใหม่มากมาย เหมือนที่ Brady เคยปราถนาในปีก่อน

2019 record: 7-9
Key Acquisitions: Tom Brady (from Patriots)
Key Losses: Breshad Perriman (to Jets)

การเปลี่ยนทีมที่เรียกว่าน่าจะออกแนวออกหาความท้าทายครั้งสุดท้ายในอาชีพ สร้างความฮือฮาไม่น้อย แต่อย่างว่า ที่นี่คือ Tampa ไม่ใช่ New England ที่คุ้นเคยอีกแล้ว ทำให้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะออกมาดีหรือเจ๊ง แน่นอนว่าทีมของ Bruce Arians มี 2 คู่หูอย่าง Mike Evans และ Chris Godwin เตรียมไว้รออยู่แล้ว ขณะที่หนึ่งในตำแหน่งโปรดของ Tom Brady อย่าง TE ทีมก็มีของเดิมอย่าง O.J. Howard กับ Cameron Brate อยู่แล้ว แต่ทีมก็ยังลงทุนนำเข้าคู่หูตลอดกาลของเขาอย่าง Rob Gronkowski ที่เลิกเล่นไปแล้ว ให้กลับมาเล่นอีกครั้งในปีนี้ ฝั่งตัววิ่งปีนี้ทีมปล่อย Payton Barber ออกไป เปิดทางให้ Ronald Jones II ได้เป็นมือ 1 เต็มตัว พร้อมกับดราฟต์ Ke’Shawn Vaughn ตัววิ่งของ Vanderbilt เข้ามาเป็นสำรองของเขา ยังไม่นับ LeSean McCoy ที่ไม่รู้เอาเข้ามาเป็นสำรองหรือแค่ต้องการกั๊กทีมอื่นๆ

ฝั่งทีมรับดูเหมือนแก๊งค์จอม rush หน้าเดิมอยู่กันครบ ไม่ว่าจะเป็น Shaqull Barrett, Ndamukong Suh หรือ Jason Pierre-Paul แนว front-7 ที่มีผลงานดีกับการรับมือกับเกมวิ่งคู่ต่อสู้ ขณะเดียวกันสถิติการเข้า sacks QB คู่แข่งก็โดดเด่นอยู่ในลำดับ 6 ของลีก ปีนี้ Jason Licht, GM ของทีมลงทุนไปกับการดราฟต์ Antoine Winfield ในรอบ 2 เพื่อเอามาเป็น Safety ตัวหลักของทีม คาดว่าน่าจะลงในตำแหน่ง SS เพราะ Justin Evans มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน ซึ่งอาจจะช่วยยกระดับผลงานของบรรดาตัวคุมปีกได้


Player Focus: Chris Godwin หลังจากระเบิดผลงานในปีที่ผ่านมา ทำให้เขาถูกมองว่าเป็นปีกระดับท็อปของลีกไปทันทีในปีนี้ ความน่าสนใจก็คือ Godwin สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งของปีก นั่นอาจจะหมายถึงเขาอาจจะรับหน้าที่ในตำแหน่ง slot receiver ซึ่งเป็นตำแหน่งโปรดที่ Tom Brady ชอบขว้างไปให้ และนั่นอาจจะทำให้เขายิ่งมีผลงานระเบิดมากกว่าเดิม

Predict: 9-7 (No.3 NFC South)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

NFC WEST


Arizona Cardinals
Kliff Kingsbury กับ Kyler Murray ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จได้ดีในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่กระนั้นผลงาน 5-10-1 ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่จากการเสริมทัพในฤดูกาลนี้ น่าจะทำให้ NFC West ลุกเป็นไฟ

2019 record: 5-10-1
Key Acquisitions: Devon Kennard (from Lions)
Key Losses: David Johnson (to Texans)

ปีที่ผ่านมา Kliff Kingsbury เข้ามารับงานคุมทีมที่มีผลงานในปี 2018 อยู่ในลำดับบ๊วยสุดในเรื่องของการทำคะแนน มันเป็นทางเลือกที่เสี่ยงไม่น้อยสำหรับ Steve Keim, GM ของทีมที่เลือก HC จากระดับมหาวิทยาลัย อาจจะเพราะเห็นแล้วว่าแผน Air Raid ที่ Kingsbury ใช้กับ Texas Tech ดูน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับทีมที่เกมรุกกำลังย่ำแย่ แถมล่าสุดคู่แข่งร่วมดิวิชั่นก็เข้าชิง SB 2 ปีติดต่อกัน เป็นไปได้ที่แนวทางของทั้ง Rams และ 49ers กำลังส่งผลให้ Cardinals อาจจะเลือกเดินทางตามรอยของทั้งคู่ในปีนี้

การดราฟต์ Kyler Murray เข้ามาในปีที่แล้วท่ามกลางข้อกังขาในเรื่องสรีระของเขาดังมาตั้งแต่ก่อนจะเริ่มดราฟต์ด้วยซ้ำ แต่ผลงานกลับดูดีใช้ได้ ทั้งเรื่องการขว้าง รวมไปถึงการเข้าไปอยู่ร่วมกลุ่มทีมนักวิ่งเกิน 500 หลาร่วมกับ Lamar Jackson และ Josh Allen แต่นั่นแค่ปีแรก คงต้องรอดูพัฒนาการต่อไปอีกซัก 1-2 ปีถึงจะบอกได้ว่าดีพอหรือไม่ ปีที่ผ่านมาพวกเขามีปัญหาในเกมวิ่งค่อนข้างมาก ทั้ง David Johnson และสำรองอย่าง Chase Edmonds ผลงานไม่ดีเลย จนทำให้ทีมต้องตัดสินใจไปเทรดเอา Kenyan Drake มาจาก Miami Dolphins ในโค้งสุดท้ายช่วงกลางฤดูกาล และนั่นถึงจะทำให้เริ่มมองเห็นเกมวิ่งของ Cardinals ขึ้นมาบ้าง และปีนี้ทีมปล่อย David Johnson ออกไปแถมแลกเอา DeAndre Hopkins มาได้ เรียกว่าได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง เรียกว่าได้ครบสูตรตามแผน Air Raid เรียบร้อย 3WR+1RB+1TE ซึ่งแน่นอนว่า DeAndre Hopkins อ่ะการันตี 1 ตำแหน่งแน่ๆ แต่กับตำนานอย่าง Larry Fitzgarald กับ Christian Kirk นี่ยังไม่ชัวร์ เพราะบรรดาปีกนอกสำรองอย่าง Andy Isabella กับ Hakeem Butler ยังทำผลงานได้น่าลุ้นอยู่ ถ้าจะมีตำแหน่งที่ดูยังไม่โดดเด่นมากคงจะเป็น Maxx Williams ในตำแหน่ง TE นั่นแหละ ซึ่งถ้าฟอร์มไม่โดดเด่น มีแววว่าเราอาจจะได้เห็น Kliff Kingsbury ทำเหมือนเดิมคือ เทรด TE ซักคนมาแทนที่เขาในช่วงกลางฤดูกาลได้ จับตาไปที่ David Njoku ของ Cleveland ก็มีความเป็นไปได้สูง อีกคนคือ Evan Engram ถ้าหากว่าผ่านไปครึ่งฤดูกาลแล้ว New York Giants ส่อแววหมดลุ้นพื้นที่ Playoff ทีมก็อาจจะเทรดเขาทิ้งไปก่อนจะเสียฟรีๆ

ทีมรับปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก การย้ายมารับทรัพย์ของ Jordan Philips ที่จะมารับตำแหน่ง NT ไม่รู้จะเวิร์กมั้ยเพราะที่ Bills เขาเล่นในระบบ 4-3D ผลงานอาจจะดรอปลงไป แต่ที่น่าสนใจคือแผง Linebacker ของทีมในปีนี้ การได้ส้มหล่นเมื่อ Isaiah Simmons หล่นมาถึงมือ กรอปกับได้ตัว Devon Kennard มาเป็นคู่หูในการเข้ากดดัน QB ร่วมกับ Chandler Jones ปีนี้เกมรับของทีมโดยเฉพาะแผง Front-7 ดูดีสุดๆ เรียกว่า NFC West ทีมรับดุทุกทีม มีแววว่าจะได้เห็น QB ในสายนี้สลับกันลงไปนอนกองกับพื้นแน่ๆ


Player Focus: Kenyan Drake เมื่อไม่มี David Johnson อยู่ เขาก็เป็นมือ 1 แทบจะ 100% เพราะตัวเลือกที่เหลือยังไม่ใช่คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อซักคน แต่มีคนที่อาจจะเบียดได้คือดาวรุ่งอย่าง Eno Benjamin ดาวรุ่งจาก Arizona State ที่ดราฟต์มาในรอบ 7 แต่คิดว่ายังไง Drake ก็เป็นตัวยืนยาวๆ แน่ๆ ผลงานปีที่แล้วหลังจากเทรดมา ได้ลงสนามไป 8 เกมทำไปถึง 814 หลากับอีก 8 ทัชดาวน์ สถิติดูยอดเยี่ยมสุด ดังนั้นปีนี้น่าจับตามองไปที่เขาที่จะได้ลงสนามครบ 16 เกม(ถ้าไม่เจ็บไปกลางทาง) มากกว่าการย้ายมาของ DeAndre Hopkins เสียอีก

Predict: 7-9 (No.4 NFC West)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Los Angeles Rams
เสียตัวผู้เล่นหลักไปมากมายในปีนี้ท่ามกลาง กรอปกับอยู่ร่วมสายกับ 3 ทีมที่แข็งโป๊ก ความกดดันที่บังคับให้ Sean McVay กับ Jared Goff ต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อพา Rams กลับสู่เส้นทางเดิมเหมือนฤดูกาล 2018

2019 record: 9-7
Key Acquisitions: Cam Akers (Rd. 2, No. 52 – Florida State)
Key Losses: Todd Gurley (to Falcons)

ผลงานปีที่ผ่านมา 9-7 จริงๆ ก็ถือว่าไม่ได้แย่มากมายอะไรนะ แต่อย่างว่าเมื่อคุณอยู่ในฝั่ง NFC การชนะไม่ถึงเลข 2 หลักก็มีโอกาสหลุดพื้นที่ playoff ได้เอาง่ายๆ ปีนี้ทีมเสียตัวหลักกระจุยกระจายมาก Todd Gurley, Brandin Cooks, Cory Littleton, Eric Waddle, Dante Fowler Jr, Clay Matthew III และ Nickell Robey-Coleman น่าจะกระทบหนักพอสมควร ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาหลังจากเข้า SB แล้วต้องแจกสัญญาใหม่ๆ แก่ผู้เล่นตัวหลัก ทำให้สุดท้ายทีมต้องแตกเพราะเพดานค่าจ้างไม่พอ Jared Goff, QB ค่าจ้างแพงตลอด 3 ปีที่ผ่านมาผลงานไม่ถือว่าแย่นะ พาทีมมีผลงาน 33-14 มีสถิติ 95.4 passer rating และอยู่ในอันดับ 5 ร่วมสำหรับคนที่ขว้าง touchdown ได้มากที่สุด (82 ครั้ง เท่ากับ Drew Brees) ปีนี้จับตามองไปที่การแย่งตำแหน่งมือ 1 RB หลังจากที่ทีมปล่อย Todd Gurley เจ้าของสถิติ Pro-Bowl 3 สมัยออกไป แทนที่ด้วย Cam Aker ดาวรุ่งจาก Florida ดูมีภาษีไม่น้อย หลังจากฤดูกาลล่าสุดใน NCAA ทำผลงานไป 1,369 หลากับอีก 18 touchdowns เพราะคู่แข่งในทีมอย่าง Darrell Henderson Jr. กับ Malcolm Brown ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าเก่งพอจะเป็นมือ 1 ให้ทีมไหนในก็ตามในลีก ขณะที่ในปีที่ผ่านมาแม้ผลงานภาพรวมของทีมจะไม่สามารถผ่านเข้ารอบ playoff ได้ แต่พวกเขาได้เห็นฟอร์มของ Tyler Higbee, TE ของทีมที่ระเบิดฟอร์มรับบอลไป 69 ครั้ง ทำระยะได้ 734 หลากับอีก 3 ทัชดาวน์ เรียกว่าเรียกฟอร์มได้ทันเวลา จนได้รับสัญญาใหม่กับทีม 4-year, $29 million ปีนี้คงต้องรับบทหนักขึ้นเพราะปีกอย่าง Brandin Cooks ไม่อยู่แล้ว ปีกเชิงลึกตัวหลักเหลือแค่ Robert Woods ที่เหลือต้องมาลุ้นดาวรุ่งอย่าง Van Jefferson ว่าจะสามารถเบียด Josh Raynold ได้หรือไม่

ทีมรับมี 2 ยอดผู้เล่นของลีกประจำการทั้ง Aaron Donalds เจ้าของรางวัล DPOY 2 ปีซ้อนประจำตำแหน่งใน D-Line ขณะที่ Jalen Ramsey ยืนคุมหลังบ้าน เรียกว่าเป็น 2 อุปสรรคของ QB ฝั่งตรงข้ามเสมอเวลาเผชิญหน้ากัน ส่วนที่เหลือดูเหมือนว่าจะเป็นดาวรุ่งทั้งนั้นที่จะได้รับโอกาสในปีนี้


Player Focus: Samson Ebukam กับ Terrell Lewis 2 Edge Rusher ที่มีแววจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมที่จะมาทำหน้าที่ยืนในตำแหน่ง Outside Linebacker แทน 2 ดาวดังอย่าง Dante Fowler Jr กับ Clay Matthew III ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญเพราะฤดูกาลที่ผ่านมา Fowler กับ Matthew 2 คนรวมกัน เก็บไปได้ถึง 19.5 sack ดังนั้นความหวังของ Rams ในการจะแบ่งเบาภาระของ Aaron Donalds ก็น่าจะตกมาอยู่ในมือของ 2 คนนี้แหละ

Predict: 10-6 (No.2 NFC West(NFC wild-card*5))

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


San Francisco 49ers
เสียตัวหลักในเกมรับออกไป แทนที่ด้วยเด็กดาวรุ่งที่ดราฟต์มาใหม่ ท่ามกลางกระแสอาถรรพ์ทีมรองแชมป์ SB แต่คงไม่แย่ถึงขั้นหลุดพื้นที่ playoff แค่เกือบๆ

2019 record: 13-3
Key Acquisitions: Trent Williams (from Redskins)
Key Losses: DeForest Buckner (to Colts)

ปีนี้ทีมรองแชมป์ SB สะเทือนไม่น้อยจากการเสีย 3 ผู้เล่นตัวหลักอย่าง DeForest Buckner, Joe Staley และ Emmanuel Sanders ออกไป ซึ่งคนที่คาดว่าจะมาแทนที่ 2 ใน 3 เป็นดาวรุ่งที่เพิ่งดราฟต์เข้ามาอย่าง Javon Kinlaw กับ Brandon Aiyuk ขณะที่ Trent Williams อดีต LT ระกับ All-Pro น่าห่วงไม่น้อยหลังจากฤดูกาลที่ผ่านมา hold out ประท้วงทีมต้นสังกัดทั้งฤดูกาล เอาจริงๆ ก็ต้องเรียกว่ากลับมาประเดิมสนามใหม่ทั้ง 3 รายนั่นแหละ เกมรุกโดยเฉพาะเกมวิ่ง 3 คู่หูในปีที่ผ่านมา Matt Breida, Tevin Coleman และ Raheem Mostert ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนเป็นหมัดเด็ดพาทีมไปถึง SB ปีนี้เหลือ 2 หลังจากที่ Matt Breida ย้ายไป Dolphins ทำให้ทีมหันกลับมาดู Jerrick McKinnon ตัววิ่งที่เรียกว่าแทบจะถูกลืมไปเลยในปีที่ผ่านมาน่าจะต้องดันขึ้นมาเป็นม้างานช่วยอีก 2 คนที่เหลือ

ในเกมขว้างปีที่ผ่านมา Deebo Samuel ฉายแสงขึ้นมากลายเป็นตัวหลักของทีม ขณะที่ตัวรับบอลมือ 1 อย่าง George Kittle ยังอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือรับทรัพย์อื้อซ่า ถ้าไม่เจ็บไม่ป่วยน่าจะเป็น 2 อาวุธสำคัญในปีนี้ ขณะที่ Brandon Aiyuk ที่มาแทนตำแหน่งของ Emmanuel Sanders ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม เพราะ John Lynch เลือกที่จะดราฟต์ผู้เล่นเกมรับอย่าง Javon Kinlaw ในลำดับที่ 13 ก่อนทั้งๆ ที่ 2 สตาร์ดาวรุ่งอย่าง Jerry Jeudy กับ CeeDee Lamb ยังไม่ถูกเลือก ถ้าผลงานดีก็เรียกว่าทีมน่าจะเฮง 2 ต่อ

ฝั่งเกมรับ คิดว่าคงไม่ต้องพูดถึงมาก ผลงานลูกทีมของ Robert Saleh น่าจะดีต่อเนื่อง เพราะถ้าไม่นับ DeForest Buckner ที่แทนที่ด้วย Javon Kinlaw ที่เหลือก็ต้องเรียกว่าตัวหลักอยู่กันครบทุกตำแหน่ง ถ้าจะมีน่าสนใจบ้างก็คงจะเป็น Richard Sherman ที่สปีดตกลงไปตามสังขาร แต่ก็ยังถือว่าเชื่อมือได้ในปีนี้


Player Focus: Deebo Samuel กับผลงาน 961 หลากับอีก 6 ทัชดาวน์ในปีแรกที่เข้าลีก ทำให้เขาน่าจะกลายเป็นปีกมือ 1 ของทีมโดยสมบูรณ์แล้วในปีนี้ และปีนี้น่าจะเป็นปีที่เขาโดดเด่นกว่า George Kittle ด้วย ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากหลายๆ ทีมน่าจะเตรียมแผนไว้รับมือ Kittle แล้วในปีนี้ ทำให้คาดหวังกับเขามากเหมือนปีที่ผ่านมาไม่ได้

Predict: 9-7 (No.3 NFC West (NFC wild-card*7))

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Seattle Seahawks
ทีมทำผลงานได้ดีเสมอต้นเสมอปลาย เรียกว่าเป็นขาประจำ playoff สำหรับฝั่ง NFC เลยก็ว่าได้ ปีที่ผ่านมาแม้แนว O-Line จะไม่ได้โดดเด่น แต่ Russell Wilson ที่ได้เกมวิ่งมาช่วยเสริมทำให้เขากลายเป็น Russell คนเดิมอีกครััง ปีที่ผ่านมาสิ่งที่พวกเขาเสียหายมีแค่เรื่องเดียวคือ Jadeveon Clowney Edge Rusher คนดังของ Houston Texans ที่ย้ายมาแล้วแป๊กสนั่น แต่ก็แลกกับ DK Metcalf ที่สตีลมาในดราฟต์รอบ 2 แจ้งเกิดกลายเป็นปีกมือ 2 ของทีมทันทีตั้งแต่ปีแรก

2019 record: 11-5
Key Acquisitions: Jordyn Brooks (Rd. 1, No. 27 – Texas Tech)
Key Losses: Justin Britt (free agent)

เรื่องการสตีล DK Metcalf กลายเป็นสิ่งที่คุ้มที่สุดสำหรับ Seahawks เมื่อฤดูกาลก่อน เขาฉายแววว่ากำลังจะเป็นอาวุธหมายเลข 1 ของ Russell Wilson ในเวลาอันใกล้นี้ ด้วยรูปร่างสรีระสูงใหญ่ แต่มีความเร็ว ทำให้ยากต่อการประกบ ปีที่ผ่านมาเขารับบอลไป 58 ครั้ง ทำระยะได้ 900 หลากับอีก 7 touchdowns ขณะที่ปีกมือ 1 ของทีมอย่าง Tyler Lockett รับบอลไป 82 ครั้ง ทำระยะได้ 1,057 หลากับอีก 8 touchdowns ทำให้เชื่อได้ว่า DK Metcalf กำลังจะแซงหน้าในเร็วๆ นี้ ขณะที่น่าสนใจกรณี Seahawks จะเล่นแผน 3WR เราน่าจะได้เห็นการแย่งตำแหน่งกันของ Phillip Dorsett กับ David Moore ขณะที่ตำแหน่งสำคัญอีกตำแหน่งที่ดูมีปัญหาจนต้องเปลี่ยนมาหลายปีอย่าง TE ปีนี้ได้ Greg Olsen ตัวเก๋ากึ๊กจาก Carolina Panthers มายืน ขณะเดียวกันก็มี 2 ตัวหลักจากปีก่อนอย่าง Will Dissly และ Jacob Hollister อยู่ ทั้งนี้ทีมยังได้ดราฟต์ตัว Colby Parkinson ดาวรุ่งจาก Stanford มาเตรียมไว้ด้วยอีกราย น่าสนใจทั้ง 4 คนเพราะคิดว่าน่าจะแย่งตำแหน่งกันสนุก ขณะที่ตำแหน่งตัววิ่งมือ 1 อย่าง Chris Carson น่าจะเป็นตัวยืน แต่ด้วยอาการบาดเจ็บสะโพกเมื่อปลายฤดูกาลก่อน ที่สื่อใช้คำว่า serious injury ทำให้ทีมต้องเซ็นต์เอา Carlos Hyde มาเตรียมสแตนบายไว้อีกคน ร่วมกับสำรองเมื่อปีก่อนอย่าง Rashaad Penny

ปีที่ผ่านมาทีมรับลูกทีมของ Pete Carroll ทำผลงานได้แย่ที่สุดนับตั้งแต่เขาคุมทีมมาจนโด่งดังจากชุด “The Legion of Boom” ปีที่ผ่านมาทั้งทีมเก็บรวมกันไปได้เพียง 28 sacks(อันดับที่ 29 ของลีก) และมีสถิติเข้า blitz กับ pressure คู่ต่อสู้เพียง 129 ครั้ง(อันดับที่ 26 ของลีก) ส่วนหนึ่งมาจาก Jadeveon Clowney ดาวดังของ Texans ที่มาพร้อมความหวังของแฟนๆ แต่จอดป้ายตายสนิทจากอาการบาดเจ็บเล่นงานจนลงสนามไปเพียง 13 เกม และเก็บได้แค่ 3 sacks ทำให้ปีนี้ทีมต้องเปลี่ยน Edge Rushers ใหม่เกือบยกทีม โดยไปเอาเด็กเก่าอย่าง Bruce Irvin และ Benson Mayowa มาเสริมทัพร่วมกับดาวรุ่งอย่าง Rasheem Green ก่อนจะดราฟต์ดาวรุ่งอย่าง Darrell Taylor มาเป็นตัวอะไหล่ซึ่งผมมองว่าดีพอจะเบียด Rasheem Green ขึ้นมาเป็นตัวจริงของทีมได้ อีกตัวที่สำคัญเลยคือ การตัดสินใจดราฟต์ Jordyn Brooks มาตั้งแต่รอบแรก ทำให้แผง linebacker ของ Seahawks น่าจะเป็นแผงที่หยุดเกมวิ่งดีที่สุดของลีกได้ไม่ยาก หลังบ้านได้ Quinton Dunbar มาจาก Washington ล่าสุดไม่รู้คดีไปถึงไหน แต่ถ้าไม่มีปัญหาอะไรน่าจะเบียด Tre Flower ขึ้นเป็นตัวจริงของทีมคุมหลังบ้านร่วมกับ Shaquill Griffin สบายๆ


Player Focus: DK Metcalf ตัววิ่งรุกกี้ปีก่อน ที่ทำผลงานไปด้วยสถิติทำระยะเฉลี่ย 15.5 หลาต่อการถือบอล 1 ครั้ง และสถิติ 9.0 หลาต่อการเป็นเป้ารับบอลจาก Russell Wilson ทำให้ปีนี้มีโอกาสสูงมากที่เขาจะกลายเป็นเป้าหลักของ Russell Wilson แทนที่ Tyler Lockett และน่าจะทำระยะทะลุหลัก 1,000 หลา กับอีก 10+ touchdowns ได้สบายๆ ถ้าไม่เจออาการบาดเจ็บเล่นงาน

Predict: 12-4 (No.1 NFC West)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อย่าแพ้มากกว่าชนะก็พอใจแล้ว

จองเหมือนกันครับ แต่จองแชมป์นะครับ 49ers

ปล Key Losses กับ Key Acquisition ของ Jets กับ Seahawks น่าจะเป็น ดีล Jamal Adams มั้งครับ

สุดยอดรู้จักกทุกทีมเลย

รออ่าน หัวเนยทีมรัก จขกท ต่อ และก็ seahawks ทีมรักผม

ps. ปีนี้เชีย pat อีกทีม ปกติแช่งมาตลอด พอตาแคมเป็น qb และชอบเลย

ขอบคุณสำหรับบทความครับ อ่านเพลินมากๆ+ได้ข้อมูลจากทีมอื่นๆไปดราฟแฟนตาซีด้วย

ปล.ไททันส์นี่ลุ้นไวล์คาร์ดเหมือนเดิมครับ สายเก่งหลังเกม ต้นๆไม่เอาไรเลย

gogo kc แต่แอบงงเด้อเอา cap ไหนมาต่อสัญญาเยอะแยะ

มาเก็บข้อมูล

วางกับดักในข้อความไปแล้ว เอาตัวหลอกขึ้นบนบทความ ตัวม้ามืดไม่เขียนบอกหรอก เดี๋ยวโดนแย่งใน fantasy