ประชาชนเบลารุสวิ่งเข้ากอดตำรวจ หลังเจ้าหน้าที่ลดโล่ลง ท่ามกลางการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดี

วันที่15 ส.ค. 2563 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากต่างวิ่งเข้าสวมกอดและมอบดอกไม้ให้กับตำรวจควบคุมฝูงชน
ที่รักษาการณ์อยู่หน้าสถานที่ราชการต่างๆ ในกรุงมินสก์ ประเทศเบลารุส, หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลดโล่และอาวุธลงระหว่างเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ประท้วง
โดยผู้ชุมนุมบางส่วนได้กอดคอเจ้าหน้าที่และตะโกนคำว่า “เราเป็นพี่น้องกัน”

ตามรายงานระบุว่า กระแสความไม่พอใจรัฐบาลของนายอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีของประเทศ ได้กระจายเป็นวงกว้าง
จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนเริ่มออกมาปฏิเสธคำสั่งของรัฐบาล
โดยทางสถานีโทรทัศน์ Nexta สื่อท้องถิ่นเผยว่า เจ้าหน้าที่ อิวาน โคลอส ซึ่งเป็นนายตำรวจในกรุงมินสก์ที่ได้ออกมาเรียกร้องให้เพื่อตำรวจอย่าหันอาวุธไปยังประชาชนที่มาร่วมชุมนุม
และขอให้เจ้าหน้าที่ทั้งหลายจงอยู่ข้างเดียวกับประชาชนแทน ขณะที่ชายคนหนึ่งได้โพสต์คลิปพี่ชายของตนซึ่งเป็นตำรวจควบคุมฝูงชน
ขณะกำลังทิ้งเครื่องแบบลงถังขยะ พร้อมกล่าวว่า ผมไม่เหลือความภูมิใจในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐอีกแล้ว และผมไม่สามารถจะเก็บเครื่องแบบนี้ไว้ที่บ้านได้อีก

โดยเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวมานาน 26 ปี
อ้างว่าชนะการเลือกตั้งเหนือคู่แข่งอย่างนางสเว็ตลานา ทีคานอฟสกายา อย่างถล่มทลายในหลายเมืองทั่วประเทศ
ทำให้เกิดข้อครหามากมายเรื่องการฉ้อโกงการเลือกตั้ง เป็นเหตุให้ชาวเบลารุสจำนวนมากได้รวมตัวกันประท้วงผลการเลือกตั้งครั้งนี้
ตามรายงานมีผู้ชุมนุมถูกเจ้าหน้าที่จับกุมแล้วมากกว่า 6,700 ราย และเสียชีวิต 1 ราย จากการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่

ล่าสุดทางการเบลารุสได้ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
พร้อมทั้งได้มีการปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมกว่า 2,000 คน โดยนายยูริ คาราเยฟ (Yuri Karaev) กล่าวว่า
“ผมขอรับผิดชอบและขอโทษผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ผมไม่ใช่พวกหัวรุนแรงและก็ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงใดๆ ด้วย”

cr : workpoint