เพื่อนผมก็เป็น ทุกวันนี้ห่างละ

กลายเป็นคนเพ้อเจ้อสำหรับผมละ

พูดเหมือนพวกคนขายตรงอะ พวกนี้มาแนวเดียวกันหมด

ละชอบไปถ่อยรูปกับ สถานที่หรือรถ

คนอื่นละให้คนอื่นคิดว่าเป็นของตัวเอง

เพื่อนสนิมผมมหาลัยก็เคยไปทำ แต่มันจะมีสองฉาก ฉากนึงคือเพื่อนปกติ คุยกันปกติแต่เวลาฉากนี้จะน้อยลงมากๆเพราะเอาเวลาไปทำธุรกิจของมัย ก็จะเน้นลงเฟส ไปทำนู่นนี่ แต่มันก็ไม่บอกนะว่ามันเป็นทริครึเรื่องจริง ดีที่มันเลิกละ เป็นหมอหมู รวยกว่าอีก

นึกถึงละตลกตัวเอง ตอนจบใหม่ๆมีเพื่อนอยู่คน ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ โทรมาชวนทำธุรกิจด้วย ชมต่างๆนานาคนแบบมรุงน่าจะทำได้ มีความสามารถบลาๆ น่าจะมาอยู่ในทีมกรุได้

สรุป นัดไปฟังขายตรง เจ็บใจชิบ ช่วงนั้นยังไม่มีงานทำด้วย

เค้าคงเจอ way ของเค้าอะคับ

จากประสบการณ์ เพื่อนที่ไปทำขายตรงแบบนี้มี 2 กลุ่ม
กลุ่มนึงคือลงทุนหนักเลยทีเดียว อันนี้เพื่อนสนิทเลย ทำได้เดือนเดียว ในช่วงเดือนนั้นโดนไป 3 หมื่น
สรุปขายไม่ได้ ต้องยอมขายขาดทุนได้มาครึ่งเดียว ของ herbalife หลังจากมันไปฟังสัมนามา มันก้มีคำพูดคมๆ มาพูดตลอดเดือน 55
ฟังแล้วตลกเหมือนมันไม่เป็นตัวของตัวเอง พอหลุดออกมาได้ก็กลับมาเป็นคนปกติ

กลุ่มที่ 2 คือค่อยเป็นค่อยไปไม่ลงหนัก แต่พยายามหาแนวร่วม คนพวกนี้บอกเลย กู่ไม่กลับทุกวันนี้บางคนหายไปจากเพื่อนฝูงเลย ไม่มีคนยุ่งด้วยเพราะวันๆพูดแต่จะหาเงิน ขายของ ชักจูง ต้องรอให้เค้าตาสว่าง หรือกลับมาได้เอง

จริงๆผมว่าพวกนี้ถ้ามีฝีมือจริง แบบขายประกันไปรุ่งนะ แต่ทำแล้วเพื่อนจะน้อยๆหน่อย ไม่รู้ทำไมคนเข้าวงการนี้คำพูดคำจาดูใหญ่โตไม่เข้าใจ

ไอ้ฉลาด

เด็กหัววุ้นจะโดนหลอกแบบนี้แหละ เรียนอยู่จะรีบอยากรวยไปไหน เที่ยวเล่นสนุกกว่าเยอะ

ให้เค้าทำไปครับ หากพวกคุณมองว่าที่เพื่อนทำไม่ดีกับตัวพวกคุณ เดี๋ยวเพื่อนคนนั้นเค้าก็รู้ตัวเองครับ ว่าที่เค้าทำมันทำให้เพื่อนไม่สบายใจ และก็จะหายไปเอง แล้วก็จะกลับมาในตอนที่เค้าทำแล้วไม่สำเร็จ แต่ก็ต้องทำใจอย่างนึงว่า ถ้าหากเค้าทำได้ เค้าก็จะไม่กลับมาครับ ก็ให้คิดซะว่าเวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน ยินดีกับความสำเร็จเค้าด้วย แต่ไม่ต้องสนิทกันเหมือนเดิมไป

ผมก็เจอมา เพื่อนประเภทที่ชอบไปทำงานอะไรแบบนี้ ทั้งขายตรง ทั้งขายประกัน
แล้วพอมาเจอกันมันก็พูดแต่แบบนั้น พาวกเข้าเรื่องชีวิตๆตลอด เห้ยอยากทำงานไปจนแก่เหรอ ไม่อยากให้พ่อแม่สบายเหรอ จนสุดท้ายก็ทนกันไม่ไหว เพราะเจอแบบนี้ทุกครั้งก็ทำกลุ่มเพื่อนหัวเสียได้เหมือนกันนะ รู้สึกเหมือนเค้ามองแต่เรื่องของตัวเองไม่ได้คิดถึงคนอื่น แต่ใช้คำว่าเคิดถึงคนอื่นมาเป็นเครื่องมืออะ

พวกผมบอกไปเลย อย่าเอาธุรกิจมึxมายุ่มย่ามชีวิตหรืออนาคตเพื่อนเลย
ถ้าเพื่อนอยากได้ เดี๋ยวมันก็วิ่งเข้าไปหาเองแหละ

สุดท้ายก็เลิกทำกันไปเอง เนื่องจากขาดทุน เพราะขายใครไม่ได้นอกจากเพื่อน พ่อแม่ พี่น้อง
เป็นกันส่วนใหญ่ ประเภทที่โดนคำหว่านล้อมชักจูงให้ลงทุนเนี่ย

ผมนี่เคยโดนเพื่อนด่าเลย มาชวนผมทำแต่ผมไม่ชอบ ตอนไปฟังที่ออฟฟิศรู้สึกไม่ชอบ attitude เท่าไหร่

อาจจะไม่ได้เป็นงี้ทุกคนนะแต่ที่ไปเจอมาคือ อยู่ดีดีก็ควักเงินออกมาโชว์ละดูถูกอาชีพอื่นใหญ่เลย ก็เลยขอตัวออกมาก่อน บอกว่าจะไปรับแม่อะไรก็ว่าไปที่จะอ้างได้

พอหลังจากนั้นมันก็มาถามอีกว่าจะทำมั้ย อุส่าพาไปฟังแล้ว แต่ผมตอบปฎิเสธไปมันเลยบอกว่าผมอ่ะโง่ อยากเป็นพนักงานเงินเดือนไปจนตายหรือยังไง ไม่อยากให้พ่อแม่สบายหรอ ถ้าพ่อแม่มึงป่วยจะเอาเงินที่ไหนมารักษา

อันหลังนี่โกรธมากด่าไม่ว่าแม่งมาแช่งพ่อแม่อีก ก็เลยบอกไปว่ากูจะทำไรก็เรื่องของกู ถ้ามึงสำเร็จก็ยินดีด้วย
แต่มาลามถึงพ่อแม่กูกูไม่ชอบ จากนั้นก็ห่างๆกันไปจนมันไปทำแล้วน่าจะไม่เวิร์คก็เลยกลับมาคุยกันเหมือนเดิม

สุดท้ายตอนนี้ไปเป็นนายสิบทหารแถมไม่พอยังใช้เส้นพ่อตัวเองเข้าอีก สุดท้ายก็ไม่พ้นมือพ้นตีนคนกินเงินเดือนแบบที่มันดูถูกนั่นแหละ

รวยแบบ 300% ?