เอาจริง ตอนซื้อโรเบิตสันมา มีใครคาดหวังอะไรจากเด็กมันมั้ย และดูจากดีลร้อยล้านของแต่ละทีมผลงานเป็นอย่างไร สถานการณ์แบบนี้ มีตัวหมุนเปลี่ยนกันเล่น แย่งตำแหน่ง คือโอเคละ

ทีมเราต้องปั้นสตาร์ ไม่ใช่ซื้อซุปเปอร์สตาร์

ตอนซื้อฟานไดจ์ก้ยังไม่ใช่สตาร์อะไร แค่โดนโขกค่าตัวเฉยๆ555

ขอให้ปัง ฉายาอะไรก็ได้แต่อย่าเป็นซิมิคิอุสก็พอ
ฟังชื่ออุสแล้วเสียว

แววสำรองอดทนมากกว่า

อย่ามารั่วละกัน

ขอเสริมเพิ่มนะครับ

ผมว่าที่จริงแล้วลิเวอร์พูลไม่ได้มีปัญหาเรื่องเม็ดเงิน แต่มีปัญหาเรื่องกฏ FFP มากกว่า ถามว่าถ้าจะจ่ายก็จ่ายได้แหละเพราะ FFP มันคิดย้อนหลัง 3 ปี แต่ปีนี้ได้เงินน้อยลง ถ้าจะซื้อปีนี้เหมือนเอาเงินอนาคตมาใช้อะ ถ้ามันกลับมาปกติก็รอดไป แต่ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไปละ อาจจะมีปัญหาเรื่อง FFP ก็ได้นะ

แมนยู เซลซี ทีมเขาไม่ได้ลงตัวเหมือนลิเวอร์พูล แม้แต่แมนซิตี้ก็ต้องเปลี่ยนแล้วสร้างใหม่ และหลายๆทีมมีปัญหาเรื่องเงิน ปีนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนหนักๆไป ถ้าได้ผลก็ก้าวกระโดดนำหน้าทีมอื่นไปได้ไกล แต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องรายได้อนาคต

แต่กับลิเวอร์พูลที่ทีมลงตัวสุดๆ ผู้บริหารเขาคงคิดว่าไม่จำเป็นต้องมาเสี่ยงกับสถานการณ์ในอนาคต แบบนี้ถึงจะไม่ก้าวแบบกระโดด แต่ก็เป็นก้าวที่มั่นคง

ตัวจริงไปค่ะ

vvd ควรจะไม่โดนไปขนาดนั้นนะครับถ้าเราไม่ไปแผนแตกว่าไปลับหลังมา เสียทั้งตังค์เสียทั้งหน้าเลย

นอริชเสียเชิงเลย นึกว่าจะได้โขกค่าตัว กลายเป็นขายไม่ออกเฉย

จริงครับ ฟานไดจ์ตอนแรก 40 50 เองมั้ง พอโดนจับโปํะแตก เซ้าท์โกรธ ราคาพุ่งเลย

ค่าเสียมารยาท 25ล้านเเหละครับ น่าจะประมาณนั้น 555 ซึ่งจริงๆราคาเเกคงตามที่ท่านบอกเเหละ

ผมชอบการทำธุรกิจเเบบนี้นะ ไม่ต้องไปดูทีมอื่นหรอกทีมเราเพิ่งจะมาเเข็งเเรงได้เอง ทีมก็อยากซื้อเเหละ เเค่คงจะดูเอาที่รอบคอบที่สุด

ขนาดเเมนยูเป็นเเบรนด์ที่มูลค่าเยอะสุดในลีกยังเค้ายังเดินเเบบระวังๆเลย

จาก 50 + 25 เฉยเลย55555