มาจาก WIN/Gallup International polls คิดว่าอาจจะไม่ได้ครอบคลุมหรือเป๊ะมากนะครับ แต่พอเอาไว้ดูได้

เป็น Survey ที่แสดงผลถึง "คุณคิดว่าศาสนามีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคุณแค่ไหน?" ของผู้คนในแต่ละประเทศ

ม่วง=สำคัญน้อย / แดง=กลางๆ / ส้ม=สำคัญมาก ตามรูปเลยครับ





https://worldpopulationreview.com/country-rankings/least-religious-countries#dataTable



แถบบ้านเรา มีแค่เวียดนามนี่แหละที่โดดออกไป นอกนั้นส้มจ๋า

ส่วนพวกประเทศที่พัฒนามากๆแล้ว โดยเฉพาะในยุโรป ส่วนมากจะม่วงนะ ยกเว้นอเมริกาที่ออกแดงๆ ให้ความสำคัญราว 60%

อาจจะเป็นเพราะเค้าเป็นประเทศที่ผู้คนหลากหลาย + ยังมีความเหลื่อมล้ำอยู่พอสมควรรึเปล่าครับ คิดว่าไงกัน?

ผมว่าประเทศไทยศรัทธาศาสนาไม่ค่อยอะไร

แต่เรื่องงมงายนี่ระดับโลก

ผมว่ามันไม่ผิดถ้าคนเราจะนับถือหรือศรัทธา แบบเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจแต่ละคนไม่เหมือนกัน

แต่พวกที่ศรัทธาแล้วเดือดร้อนคนอื่นนี่สิ จะออกรถ จะขึ้นบ้าน จะบวช จะทำไรเอย ต้องวันนั้นวันนี่

แถบยุโรปเหนือม่วงเข้มเลย ส่วนอเมริกาหลายๆรัฐคนเคร่งศาสนาเยอะนะครับ ไม่แปลกหรอก

อเมริกาไม่กี่ปีนี่หลายรัฐ เพิ่งออกกฏหมายห้ามทำแท้ง แม้จะโดนข่มขืน

แถมโทษของแพทย์ที่ทำแท้งหนักกว่า ปล่อยให้เด็กเกิดมาแล้วฆ่าทีหลังซะอีก

แสดงให้เห็นเลยว่าคนเคร่งศาสนามีเยอะแค่ไหน

อยากเห็นตารางงมงาย

ศาสนาไม่ใช่เครื่องวัดความเจริญสักหน่อย นับถือไม่นับถือก็ไม่เกี่ยวหรอก ทำไมเมกามี 60% จขม ก็หาเหตุผลให้เขาว่า เชื้อชาติหลากหลายได้ ไม่หาเหตุผลให้ประเทศเราเองบ้าง

เอ้า ก็มันเป็นการตั้งคำถามของสถิติที่แปลกออกไป มันไม่ปกติเหรอครับ

อันนี้ผมเสิร์ชดูเล่นๆเค้าก็ยังตั้งข้อสังเกตแบบนี้เลย

Americans are far more religious than adults in other wealthy nations
https://www.pewresearch.org/fact-tank/2018/07/31/americans-are-far-more-religious-than-adults-in-other-wealthy-nations/

เทรนด์มันก็เห็นชัดๆอยู่ ว่าส่วนใหญ่ "โดยภาพรวม" ประเทศสีม่วงคือประเทศที่เจริญกว่าสีส้ม แม้แต่อเมริกาก็ไม่ได้ส้ม แค่ไม่ได้ม่วงเฉยๆ เห็นแบบนี้แล้วจะไม่ให้ตั้งข้อสงสัยอะไรกันเลยหรือ?

อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ผมคุ้นๆว่าเคยเห็นสถิติอีก ในอเมริกา %จำนวนคนที่มีการศึกษาสูง จะศรัทธาศาสนาน้อยกว่า %เปอร์เซ็นคนที่มีการศึกษาต่ำกว่า และบวกกับในภาพนี้ที่ประเทศสีม่วงส่วนใหญ่มักจะมีคุณภาพของระบบการศึกษาที่ดี มันก็พอจะตั้งข้อสังเกตได้ว่าการศึกษาอาจจะมีส่วนไม่มากก็น้อย

ผมไม่ได้จะบอกว่าคนที่นับถือศาสนาผิดหรือไม่ดีหรือไม่มีการศึกษา เพียงแต่อาจจะตั้งข้อสังเกตได้อีกว่าประเทศที่ออกสีส้มจ๋าๆแล้วโดยรวมจะให้ความสำคัญกับความเชื่อเยอะ ซึ่งตรงนั้นก็อาจจะสะท้อนไปยังคุณภาพการศึกษา ลามไปถึงการพัฒนาของประเทศได้

ปล. จะให้ผมหาเหตุผลให้ประเทศเราคือยังไงอ่ะครับ ประเทศเราดูยังไงก็ส้มจ๋า ความเชื่อมาก่อนอยู่แล้ว แล้วก็ยังไม่ใช่ developed country ก็ดูจะตรงเทรนด์แล้วรึเปล่า หรือท่านลองหาเหตุผลให้หน่อยสิครับ?

แปลกตรงเวียด เป็นคอมมี่แต่สีม่วงแฮะ คิดว่าจะเทาไปเลย

เราไม่ได้นับถือ เราคลั่ง ใช้ศาสนาในทางที่ผิด เอาประโยชน์เข้าตัว

บูชาหวังโชคลาภ เงินทอง พระเครื่องเอย วัตถุมงคลเอย เงินทั้งนั้น

มีซักกี่เปอร์เซ็นที่นับถือจริงๆ ศรัทธาจริงๆ โดยไม่ตีค่าเป็นตัวเลขบ้าง

แต่ตอนหลังมานี้เห็นว่า ให้แต่ละรัฐโหวตกันเองแล้วนะครับ
เหมือนเคสของกัญชาเลย ให้อิสรภาพคนในรัฐโหวตเอง

ผมว่าประเทศเจริญทำให้ผู้คนเคร่งน้อยลง ไม่ใช่เพราะเคร่งจึงไม่เจริญ

จากในรูปหลายประเทศในยุโรปก็เคร่งศาสนา

ยังไม่นับประเทศเจริญแล้วทั้งหลายตะวันออกกลาง

ขณะเดรยวกันประเทศที่เป็นสีเทาก็ไม่ได้เจริญอะไร

เมืองไทย ถ้าตัดขอหวย บนบาน ไล่ผี เจิมออก
แม่งคงเท่ากรีนแลนด์ 555

เป็นไปได้ครับ

ปล.สีเทาผมว่าน่าจะหมายถึงไม่มีข้อมูลป่ะครับ ไม่แน่ใจแต่คิดว่างั้น

ผมคิดว่าไม่ใช่เพราะอเมริกามีหลายเชื้อชาติหรอกครับ

น่าจะมาจากความต่างในการพัฒนาทางแนวคิดในช่วงยุค 1700-1800

การเสื่อมของศาสนา เกิดจากการเข้ามามีบทบาทมากขึ้นของแนวคิดมนุษยนิยมในยุโรปตะวันตกและยุโรปกลาง ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และแพร่กระจายผ่านแนวคิดทางการเมืองในสมัยนั้น เช่น พวกฟรานซิส, คอมมิวนิสต์ ส่วนศาสนาค่อยๆ ลดอิทธิพลทางความคิดลงเรื่อยๆ หลังจากผ่านสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง

ในขณะที่อเมริกาในช่วงเวลานั้น ประกาศแยกตัวออกจากอาณานิคมอังกฤษ และพัฒนาระบอบของตัวเองขึ้นมาคือ ระบอบเสรีนิยมประชาธิปไตย ซึ่งมีรากฐานจากแนวคิดในศาสนาคริสต์ เพราะงั้นในอเมริกาที่ทางของศาสนาในสังคมจะยังคงมีความมั่นคงอยู่มาก

ส่วนประเทศแถบตะวันออกกลางและตะวันออกเฉียงใต้นี้ไม่ต้องพูดถึง ผู้นำประเทศล้วนแล้วแต่เอาตัวเองไปผูกติดกับศาสนาทั้งนั้น จะมีที่แปลกออกไปคือ จีนและเวียดนามที่รับเอาแนวคิดคอมมิวนิสต์มาใช้ในสังคมอย่างเข้มข้น (แต่จีนและเวียดนามเป็นคอมมิวนิสต์คนละสายกันนะ)

ส่วนเรื่องความเจริญกับศาสนา ก็ไม่ได้ถึงกับเป็นตัวแปรโดยตรง แต่จะบอกว่าไม่เกี่ยวเลยก็ไม่ถูก
เพราะจริงๆ แล้วตัวแปรหลักที่ส่งผลต่อความเจริญ (โดยส่วนใหญ่) คือระบอบการปกครอง ซึ่งก็จะเชื่อมโยงไปถึงศาสนาอีกทีหนึ่ง