แกหมายถึงตอนลุงออกมาทำรัฐประหารก่อนเกิดสงครามกลางเมืองไงครับ
ฐานเสียงของพปชร. ในกทม. ที่คนกรุงเทคะแนนให้ก็ตรงนั้นแหละ
ชนชั้นกลางระดับบนกับชนชั้นสูงที่อยู่ได้สบายๆ แล้วโดยไม่ต้องเรียกร้องจากรัฐมาก ขอแค่การเมืองสงบก็พอ

ประเด็นสว. 250 เสียงก็ใช่ แต่ถ้าตอนนั้นภูมิใจไทยกับปชธป. ไม่เข้าร่วมด้วย
เสียงพปชร. จากเลือกตั้งน้อยกว่าครึ่ง เอา 250 มาโหวตสวนเป็นรัฐบาลก็จราจลไปแล้วครับ

ผมก็คิดว่าแกจะสื่องี้ครับ
จำวลีได้ "เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่"
จบเลย จบทุกอย่าง

ไม่หนุนตู่เป็นนายก แต่หนุนเป็นรมต.กลาโหมแทนซินะ แล้วตัวเองก็เป็นนายก

คนนี้ตอนไม่เป็นรัฐบาลหลักการเยอะ วิจารณ์เก่ง แต่เป็นประเภทขวานที่ถากด้ามตัวเองไม่ได้

วิเคราะห์ใช้ได้เลยนะมีแอบบัพเพื่อไทยนิดๆ แต่ก็อย่างว่าแหล่ะยังสวมเครื่องแบบสีฟ้าคนก็ไม่ค่อยฟังหรอก

พูดเก่งครับคนนี้

ถ้าแกออกจากพรรค ผมเลือกแกแน่นอน

ตอนนี้แกลาออกจากพรรคสีฟ้าหรือยังครับ

ไปตั้งพรรคใหม่กะไอติม เชื่อว่ายังพอมีอนาคตอยู่

ไปอยู่กล้ากับกรณ์ก็ได้นะ

***คอมเม้นท์นี้อาจจะทำให้โดนแบน***

การสัมภาษณ์คราวนี้ ผมเห็นด้วยนะ
"ความสงบช่วยเรียกคะแนนเสียง" ในฐานะคนกรุงเทพฯที่อยู่กลางวงที่ชุมนุมตลอดเวลา ถ้ามันเงียบซักที ชีวิตจะสงบสุขขึ้น...แต่ผมไม่ได้เลือกพลังประชารัฐนะ
และยิ่งจุดที่ว่า ถ้าใช้ระบบพื้นฐานที่เป็นสวัสดิการรัฐมาเยียวยา
ส่วนตัวมองว่า อัดลงตรงนี้เป็นหลัก สนับสนุนตรงนี้ และเปิดโอกาสให้คนนอกระบบ ลงทะเบียนเข้ามาให้มากที่สุด เยียวยาจากตรงนั้นไป แทนที่จะออกเป็นประชานิยม...แทบจะโยนเงินทิ้งแบบนั้น
เราสามารถคุม/ขยายฐานข้อมูลได้ด้วย แต่รัฐฯไม่ทำ หึหึหึ

ออกตัวก่อนว่า ผมค่อนข้างเป็นแฟนคลับแกนะ เพราะจะเรียกว่าเห็นกันมาตั้งแต่สมัยแรก
และส่วนตัวมอง(อาจจะเข้าข้าง)ว่า คนนี้ไม่ใช่ดีแต่พูด แต่ค่อนข้างจะไปทางเด็ดขาดเหมือนฝรั่ง แบบที่ถ้าออกคำสั่งเองได้จะดีมากกว่า

มองว่าแกยอมรับความสามารถคุณทักษิณนะ ยิ่งนโยบายหลายๆอย่าง เชื่อเลยว่ายอมรับกันมากกกก
แต่ด้วยสถานะ"พรรคการเมือง" ต้องปฏิเสธไว้ก่อน

ยิ่งในช่วงนึง มีทีมที่เข้าขากัน ไม่ว่าจะเล่นในเกมส์หรือนอกเกมส์ ยิ่ง.....
แต่ด้วยสถานะ ด้วยพื้นที่ที่อยู่ ทำให้พรรคฯเป็นส่วนที่รั้งแกไว้ เพราะระบบพรรคการเมืองนี้ค่อนข้างคร่ำครึ แถมช่องโหว่เต็มไปหมด ทำให้ช่วงหลังจากพรรคการเมืองที่รวมคนทำงานจริงไว้ได้พอสมควร กลายเป็นพรรค...อะไรก็ไม่รู้

จริงๆจากที่อ่านหลายๆด้าน คนนี้ดุเดือดมากนะ แต่ช่วงนั้นมี พล.อ.อนุพงษ์ ที่อยากจะเก็บงานของตัวเองเงียบๆรอเกษียณมากกว่า เลยเกียร์ว่างกันอยู่พักนึง "จนกระทั่งได้รับโทรศัพท์สายสำคัญ !!!!!!!" ทำให้ พล.อ.อนุพงษ์ กลับลำแบบ 360 องศา
ถึงถ้าเอาจริงๆ ถ้ามี ผบ.ทบ.ที่รับคำสั่งง่ายกว่านั้น ผมว่าสถานการณ์อาจจะกลับมาดุเดือดกว่านี้ และเร็วกว่านี้ก็ได้ และแกอาจจะได้ชื่อว่ามือเปื้อนเลือดเร็วกว่า/หนักกว่านั้น

โดยส่วนตัวมองว่า "ถ้า"แกเลิกยึดติดระบบพรรคฯ แล้วดึงคนที่มีอุดมการณ์เหมือนกันซึ่งค่อนข้างจะเป็นแนวคิดรุ่นใหม่ ออกมาตั้งพรรคการเมืองเองตั้งแต่สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น เหมือนที่คุณสมัคร คุณเฉลิม ทำ อาจจะไปได้ไกลกว่า ปลดแอกตัวเองจากทุกอย่าง จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเลยนะ
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าแกยังอยู่ในวงการการเมืองโดยที่"มีที่พิงหลัง"แบบนั้น ก็ยากที่ทำให้การเมืองไทยจะเดินไปข้างหน้าครับ

แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันก็ยอมรับครับว่า ท่านนี้ไม่น่าจะกลับมาได้แล้ว อาจจะได้แค่เป็นสีสันกับคอมเม้นท์บางเวลา แต่ถ้าโดดกลับลงมาเล่นการเมือง ก็คือฆ่าตัวตายแล้ว
ด้วยปัจจุบัน อาจจะไม่มีที่ให้พิงหลังแล้ว เนื่องจากเวลาผ่านไป จุดที่จะให้พิงหลังสู้ก็หายไป

ขออภัยไว้ล่วงหน้าที่คอมเม้นท์อาจจะไม่ถูกใจ/ถูกจริตครับ

Edit เพิ่มเติม :
3 ป ไม่อีนังขังขอบกับป๋าเปรม เนื่องจากห่างกันเกินไป และไม่ค่อยตบเท้าเข้ารายงานตัวมากนัก ยิ่งโดยเฉพาะตั้งแต่สมัย พล.อ.อนุพงษ์ ยิ่งห่างออกไป เข้าพบตามวาระหรือเรียกหาเท่านั้น เนื่องจาก(อย่างที่เห็น)แกทำอะไรเงียบๆ และรักษาภาพพจน์ แม้ว่า...
ส่วน ป เล็กอย่าง พล.อ.ประยุทธ รวมถึง พล.อ.ธนะศักดิ์ (อดีต ผบ.สส.) ก็รู้จักกันแค่ตามเสด็จในฐานะทหารเสือราชินีบ่อยๆตั้งแต่สมัยเป็นทหารเด็กๆ จึงพบปะกันประจำ
ส่วนรุ่นหลังจากนั้น ก็...อย่างที่เห็นว่าหลักๆอยู่คอสีอะไรครับ

จึงน่าสนใจว่า ใครโทรหา พล.อ.อนุพงษ์? รวมถึงทำไม พล.อ.สนธิ จึง"พูดไม่ได้"

ถ้าคุณเป็นคนจริง

ที่ต้องทำไม่ใช่แค่ลาออกจากหัวหน้าพรรค

ควรออกจากพรรคมาเลย

แล้วค่อยมาพูดเรื่องอื่น

ศักดิ์ศรีไม่เหลือแล้วว

คำพูดไร้ค่าต่อความจริง แต่แค่สาวกเท่านั้นที่ยังเชื่อ

เอาไรกับคำพูดไอนี้

ไบกอนอยู่ไหน