เป็นไปได้ไหมว่า พี่สาว เค้าอาจจะเล่นแรง และเผลอ ทำให้น้องเสียชีวิต

แล้วทางครอบครัวช่วยกันปิดข่าว เพราะเห็นว่า ลุงพล ซึ่งเป็นลูกเขย โดนครหา จากทางบ้านตัวเอง

พ่อตา แม่ยาย ออก ทีวี กับ โหนกระแส ก็ตะกุก ตะกัก

เพราะดูจาก แม่ที่ให้การ กลับไปกลับมา

ส่วนการพิสูจน์ว่า พ่อ อยู่ที่นาไหม ก็เอา มือถือให้ไปตรวจ GPRS

ส่วนแม่ในช่วงเวลานั้นก็ไม่อยู่ถูกตามด้วยโทรศัพท์

แต่การที่เหมือนรู้กันล่วงหน้าไป ทำให้ลุงพลทนไม่ไหว

หลังจาก ลุงพลโดนกดดันมากๆ จนต้องระเบิดออกมา

เคสนี้ผมไม่ ปัก ใจเชื่อใคร รอ ตำรวจ ชี้แจงอย่างเดียว

เคสนี้ไม่มีเงินมาเกี่ยวข้อง ผมรอดูว่า ตำรวจจะพิสูจน์ยังไง

พี่เล่แรงจนน้องเสีย ไม่แน่ใจ

คุ้นๆแต่น้องเล่นแรงแล้วพี่เสีย



ปล. GPS

ผมเบื่อมากเลยนะ ทำไมตำรวจไม่รีบปิดคดีไวๆ

ละเล่นกันที 10-30 นาที ในการรายงานข่าว จนอยากไปเที่ยวชมหมู่บ้านเลย

ส่วนตัวผมว่าพ่อแม่น่าจะพูดความจริงไม่หมดครับ

ลุงพลก็แค่โดนเขม่น

ถ้าทำได้ก็ทำไปแล้วแหละครับใครจะไม่อยากทำงานให้เสร็จ

ถ้าล่าสุด น้องเสียก่อนที่ตะพบ6-8ชั่วโมง
เเสดงว่าวันที่น้องหายตัวไปยังไม่เสีย
ต้องมาดูช่วง1-2วันหลังจากที่น้องหาย
ใครไปไหนบ้าง...คดีนี้น่าจะลำบากละ
ผมว่า ช่วงเวลามันกว้างเกิน

ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ครับ
1 มีคนโทรมาหาแม่ แล้วถามลูกมึงหายหรอแล้ว หัวเราะ 555 แล้วพ่อพูดว่ามันเอาลูกไปแล้ว
2 หลังจากนั้นแม่เปลี่ยน มือถือใหม่ เพราะอะไร
3 น้องเสียเพราะขาดอาหาร จนใส้บิด แสดงว่าน้องต้องถูกซ่อนหรือขังไว้แน่จนตาย
4 พ่อ แม่ น้าริน ทำอะไรน้องหรือรู้อะไร เกี่ยวข้องกับใคร

หลักๆ คือข้อ 1 เป็นใคร หัวเราะทำไม เกี่ยวข้องอย่างไร แค่นั้น
ลุงพลไม่น่าเกี่ยวแล้ว

ไม่ตามละข่าวเสียเวลาชีวิต รอจับได้แล้วอ่านสรุปเอา

ถ้าจงใจปกปิดจริงมันไม่ใช่แค่นั้นด้วย นี่จงใจใส่ร้ายคนที่เคยก่อเหตุอนาจารเด็กเลยด้วยหรือเปล่า เพราะตอนพบศพอยู่ในสภาพเปลือยกาย แต่ไม่มีร่องรอยการถูกละเมิด

พยานหลักฐานมีแค่คำพูดกับคำบอกเล่ากันนั้นแหละครับ

มันเลยยากตรงนี้ ก็พอเข้าใจได้อยู่ครับ แต่ยิ่งนานไป ผมว่ามันยิ่งจะพิสูจน์ยากขึ้นเรื่อยๆเลยครับ

ผลชันสูตรคือขาดอาหารตาย ร่างกายไม่มีรอยบาดแผล

คือเท่าที่จับประเด็นล่าสุดนะเอาความเห็นส่วนตัว พ่อน้องน่าสงสัยมาก

1.พ่อใส่เสื้อส้มวันเกิดเหตุ ชาวบ้านเห็นว่าใส่เสื้อสีนี่ แต่ตัวพ่อกับแม่จำไม่ได้ (แต่จำเวลาลุงพลได้เป๊ะๆ)
2.แก๊งจำปาบอกเห็นคนใส่เสื้อสีส้มอุ้มไป (เด็กๆบอกตั้งแต่วันแรก)
3. วันที่ชมพู่หาย แม่ไม่ขึ้นเขายังพอเข้าใจ แต่ทำไมพ่อไม่ขึ้น แต่ให้ลุงขึ้นแทน
4. เวลาที่ออกไปไถนา ระยะ 3 ชมกว่าแต่ไถได้ไร่เดียว ชาวบ้านบอกปกติไถได้ ชม ละ ไร่
5. พยานบอกเห็นพ่อชมพู่บนถนน พ่อชมพู่บอกอยุ่ไร่ตลอดให้ ตำรวจเช็ค gps เอา (ของแบบนี้วางไว้เฉยๆก็ได้)
6. แม่เปลี่ยนโทรศัพท์
7. และอื่นๆผมว่าหลักฐานพ่อไม่แน่นถ้าเทียบกับลุงพล

จุดสำคัญผมว่าอยู่ที่สะดิ้ง น้องหายหันมาต้องเจอ แล้วการที่สะดิ้งบอกเวลาได้เป๊ะๆผมว่ามันไม่ใช่วิสัยเด็ก

ลุงพลกับป๋าแต๋นบอกว่า ถ้าสะดิ้งเห็นผมเป็นคนร้ายจริง วันที่ไปเชิญร่างทรงที่ร้อยเอ็ด คงไม่ขึ้นรถไปกับผมหรอก

แต่สุดท้ายผมว่าอันนี่ก็เป็นเคสตัวอย่างอีกคดีที่ ตำรงจทำงานช้า ปล่อยให้พื้นที่หลักฐานถูกทำลายหมด นักข่าว หมอผี พระ วิ่งขึ้นลงสนุกสนาน

สื่อก็โคตรจะเอียง เมื่อวานดูอัมรินอยากจะโบกหัว

ผมติดตามข่าวมานาน ผมว่าลุงนะไม่ไหวจริงๆ รีบๆลาออกเถอะลุง สงสารชาวบ้าน

ตามห่างๆ ขอแบบสรุป เจอสำนักข่าวพาดพิงกันให้ครอบครัวตีกันไปมา ปวดหัว

เจอนักข่าวอัมรินทร์ไปสัมภาษณ์ น้องสะดิ้ง และเด็กบ้านนู้นบ้านนี้. คือไม่ต้องมีสหวิชาชีพไปด้วยเหรอ ในการถามความเห็นเด็กเพื่อออกสื่อ

เชื่อว่าตำรวจรู้แล้วล่ะ นาทีนี้ใครทำ แต่หลักฐานที่จะมัดตัวให้คนร้ายดิ้นม่หลุด นี่แหละที่ยังไม่ครบ เลยยังไม่สรุปผล

มันก็เลยน่าสนใจตรงนี้ว่า คนร้ายทำลายหลักฐานสำคัญไปได้ขนาดนี้เลยหรือ พิสูจน์ฝีมือตำรวจจริงๆ