อย่าให้เป็นแบบนั้นเลยครับ

อเมริกาคือปิศาจ จีนคืออีก 1 ปิศาจ

ลึกๆหลายประเทศทั่วโลกก็คงยี้จีนแหละครับ ยี้ในที่นี้คือยี้รูปแบบการปกครองเผด็จการที่ชอบทำอะไรตามอำเภอใจของจีน ตอนนี้ก็หาเรื่องคนอื่นไปทั่ว

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจีนมีอิทธิพลกับเศรษฐกิจโลกอย่างมหาศาลจะตัดก็ตัดไม่ขาดหรอก

ลองรบกัน 1-1 กับเมกันดูสิ แบบห้ามใช้นิวเคลียร์ ผมว่าจีนเละ เมกันเครื่องบินและเรือรบดีกว่าจีนมาก ทหารก็ประสบการณ์รบมากกว่า เพราะพี่แกรบต่อเนื่องมาตลอด

สามารถรับชมได้ตาม PH ทั่วไป คู่แข่งเกาหลีโดยตรงก็จีนนี่แหละ SWAG

ยังมองเหมือนเดิม
คือเป็นประเทศที่ศักยภาพสูงสุดในโลก พร้อมทั้งทรัพยากรธรรมชาติ และคน
และชัดเจนดีว่าต้องการเป็นเบอรืหนึ่งโลกแทนอเมริกา ซึ่งก็ดีนะ ผมว่าอเมริกาหรือยุโรปจะได้ไม่บ้าบอเกินไปเหมือนเมื่อก่อน

มองกลับไปช่วงที่เขามองเอเชีย กับแอฟริกาเป็นโลกที่สาม ตอนนั้นโลกฝั่งเราแย่กว่าตอนนี้เยอะ
คนยุดเรามันไม่ได้ผ่านช่วงสงครามโลก ช่วงที่เพิ่งหลุดจากการล่าอนานิคมของยุโรป และเป็นอนาณิคมในระบบนายทุนหลังสงครามโลกของอเมริกา

สุดท้ายก็ต้องดูว่าพอใหญ่คับทั่วเอเชียแล้วมาเฟียหนักกว่านี้มั้ย ยังมีรัสเซียขว้าง และญี่ปุน กั้นอยู่ ปัญหาจะมีอะไรบ้าง

อื่มมม น่าจะเร็วไปนะท่าน ยังไงรองจากมะกัน ผมก็ยังมองว่าหมีขาวภาษียังดีกว่า

โดยปกติพวกฝรั่งก็มองเหยียดชาวเอเชียอยู่แล้วโดยเฉพาะจีน เขาเห็นชาวเอเชียแยกไม่ออกหรอกครับว่ามาจาก จีน ไทย เกาหลี มาเล เขาเหมารวมเป็นจีนหมด จากที่ผมเคยไปอยู่ต่างประเทศมาอะนะ
แต่การเหยียดในที่นี้มันแล้วแต่คน ส่วนมากจะแสดงด้วยการกระทำมากกว่า

ยิ่งมีเหตุการณ์พวกนี้ มันมองว่าต้นเหตุมาจากจีนหมดแหละ และจะหยิ่งเหยียดเข้าไปใหญ่

ส่วนมุมมองของผม เฉยๆนะ

ล่าสุดกำลังโดนแบนเทคโนโลยี่ 5G หัวเว่ย จากหลายๆประเทศ
เกมโทรจันที่จะรู้ทุกๆอย่างของคนใช้งาน กลายเป็นถูกสกัด
แอปจีนหลายตัวแอบเก็บอะไรหลายๆอย่าง มากน้อยตามที่ทำได้แล้วไปรวมเป็น บิ๊กดาต้า เพื่อเป็นแนวทาง”รุก”
ก็โดนจับได้ว่า”ทำ”

การก่อสงครามกับเพื่อนชายแดนติดกันและไม่ติดกัน ไม่น่าจะเป็นเรื่องทำให้หลายๆประเทศ”ปลื้ม”ได้
ผมไปในหลายๆประเทศ ผู้คนที่นั่น(ประเทศที่ไป) มักจะถามด้วยสีหน้าคลางแคลงใจ ว่า คุณเป็นคนจีนหรือปล่าว เพราะแฟนผมคนลำพูน
พอบอกว่ามาจากไทย รอยยิ้ม ก็เกิดขึ้นทันที
ทำให้ผมสรุปเบื้องต้นได้ว่า คนทั่วโลกจำนวนไม่น้อย ไม่ได้ปลื้มเงินมากมายของคนจีนที่ไปเยี่ยมประเทศของเขา
แต่ก่อนผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับคนจีนนะ เวลาเจอบนถนน
หลังไมค์ ก่อนเกิดโรคโควิด ผม”รำคาญ” คนจีนสุดๆครับ

ในเรื่องบุคคลผมว่าเหยียดหนักกว่าเดิม แล้วน่าจะลามไปถึงคนจากชาติอื่นในเอเชียด้วย

นี่ผมกังวลไปถึงตอนที่ไปทำตามความฝัน ดูมิลานแบบสด ๆ สักครั้งที่อิตาลี น่าจะไม่รอดจากการโดนเหยียดแม้ว่าหน้าผมจะไม่ได้ออกไปทางคนจีนเลยก็ตาม

ใช่เลยครับ ลองติดตามข่าวดู จีนให้เงินลงทุนศรีลังกายืม ซึ่งถ้าคนสติดีทั่วไป เขาไม่ให้ยืม เพราะไม่มีศักยภาพในการคืนหนี้แน่นอน แต่พี่จีนแกให้นะครับ แต่เพราะอะไรมาดูกัน

หลังจากครบกำหนดคืน แน่นอนว่าศรีลังกา ไม่มีปีญญาหามาคืน ซึ่งจีนน่าจะทราบดีอยู่แล้วละครับ ถึงให้ยืม

ที่นี้ พี่แกเลยขอพื้นที่ของประเทศศรีลังกาส่วนหนึ่งไป เอาคนจากจีนมาทำงาน ไม่ได้ใช้แรงงานคนท้องถิ่นด้วย


ฝรั่งทำธุรกิจด้วย ยังบอกคุณได้อะไร ผมได้อะไร พี่จีนแก เน้นกินรวบ ลองถามคนขายทุเรียนบ้านเราดู ตอนนี้จีนทำได้แล้ว ยอดส่งออกทุเรียนลดลงเยอะมาก


จีนไทย พี่น้องกัน พี่น้องมากเลย ทำเขื่อนกันแม่น้ำโข่ง ผลิตไฟฟ้าใช้เอง แต่ ประเทศล่างๆ ลาว ไทย ปล่อยแห้งแลงไปสิครับ วันไหน นึกจะปล่อยน้ำก็ปล่อย เล่นซะประเทศล่างๆ เจอปัญหาน้ำท่วมเละ

ถ้าถามประชาชนทั่วไป ผมว่าเค้ามองจีนลบจากเดิม ประมาณว่าเป็นประเทศต้นเรื่องที่แพร่เชื้อตัวนี้

แต่ถ้ามองในมุมของพวกนักธุรกิจ หรือรัฐบาล ผมว่าตอนนี้แต่ละคน "มองตัวเองกันมากขึ้น"

อย่างอังกฤษ ยุโรป นี่มหามิตรเมกาเลย เมกาสั่งซ้ายหันขวาหัน แต่หลังโควิดมันเริ่มไม่เป็นแบบนี้แล้ว ตอนนี้อังกฤษยังไม่เปิดรับคนเมกาเข้าประเทศเลยด้วยซ้ำ

เพราะงั้นแต่ละประเทศ จะเริ่มมองผลประโยชน์ตัวเองมากขึ้น และพร้อมจะจับมือกับใครก็ได้ที่ให้ผลประโยชน์ และสามารถจัดการเรื่องตัวเองได้ดี

ส่วนคนธรรมดา เอาจริงๆนะ ตอนนี้ ผมว่าคนเริ่ม "ลืม" คนจีน ฝรั่ง คนดำ อะไรไปแล้วล่ะ

คือพอแต่ละประเทศอยู่กับตัวเองมากขึ้น ผมว่าเราก็เริ่มลืมพฤติกรรมของหลายๆคนต่างชาติน่ะแหละ ตอนนี้ผมก็เริ่มนึกภาพคนจีนช้งเช้งช้งเช้งไม่ค่อยออกแล้วนะ แล้วพอเรามาโฟกัสเรื่องเศรษฐกิจตัวเอง ตอนนี้เราก็เหมือนขอใครก็ได้ที่จะมาทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นหน่อย

ไอ้ไวรัสตัวนี้มันเหมือนมารีเซตอะไรหลายๆอย่าง ตอนนี้ผมว่าภาพพจน์ที่เราจะมองแต่ละประเทศ หลังจากที่เปิดประเทศกัน มันจะเปลี่ยนไปแล้วล่ะ ขึ้นอยู่กับปัจจัยใครเปิดประเทศได้เร็วกว่า ใครดูแลตัวเองได้ดีกว่า ใครฟื้นเศรษฐกิจตัวเองได้เร็วกว่า

เรื่องอื่นผมไม่รู้ แต่สถานที่ท่องเที่ยวจีนนี่ ไปอีก 10 ครั้งก็ยังไม่หมด bucket list
หมดโควิดก็ว่าจะไปในทันที

เพื่อนบ้านที่ดี จริงใจ

ย่อรับเหรียญ

จริงๆ มุมมองที่โลกมีต่อจีนทุกวันนี้ ก็ไม่ได้แตกต่างจากเมื่อ 10-20 ปีก่อนมากสักเท่าไหร่นะครับ จีนเริ่มเข้าสู่ spotlight ของโลกหลังการเปิดประเทศของเติ้ง เสียงผิง

จนช่วงปลาย 00s จีนก็ถึงจุด economic peak อัตราการเติบโต gdp +10 หลายปีติด จนกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก

แต่พอเข้าสู่ 10s เศรษฐกิจจีนก็เข้าสู่ภาวะชะลอตัว gdp growth ลดลงเหลือ 6-7% จนปีนี้ 2020 จีนประสบปัญหาทั้งเรื่องโรคระบาดและการเมือง สงครามการค้ากับอเมริกา ความขัดแย้งในฮ่องกง และเราก็ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์การเมืองในประเทศจีนเป็นอย่างไร เพราะอย่างที่รู้กันว่าหัวใจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนคือการเติบโตทางเศรษฐกิจ

คำถามที่ผมค่อนข้างสนใจมากกว่าคือ คนในประเทศจีนมองประเทศตัวเองและพรรคคอมมิวนิสต์อย่างไรในตอนนี้ เปลี่ยนแปลงไปจาก 10-20 ปีก่อนหรือไม่