เยอร์เก้น คล็อปป์ ยืนยันว่าไม่มีทางเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับตำนานของ ลิเวอร์พูล อย่าง เคนนี่ ดัลกลิช และ บิลล์ แชงคลี ถึงแม้พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก

สัปดาห์ที่แล้ว ลิเวอร์พูล ยุติการรอคอยแชมป์ลีกนานถึง 30 ปีลงสำเร็จ ให้หลังจากการคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 ในปีก่อน

คล็อปป์ เป็นกุนซือคนที่สามในประวัติศาสตร์ "หงส์แดง" ที่คว้าแชมป์ทั้งสองรายได้สำเร็จ, ต่อจาก บ็อบ เพลสลีย์ และ โจ เฟแกน, แถมยังเป็นสิ่งที่ ดัลกลิช กับ แชงคลี ทำไม่สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ยืนยันว่าไม่คิดเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับตำนานสโมสรทั้ง 2 คน และชี้ว่าไม่ควรมีใครเอาไปเปรียบเทียบด้วย

"บอกตามตรงผมออกจะเซอร์ไพรส์มากกว่านะ ผมทราบเหตุผลว่าทำไม เคนนี่ คว้าแชมป์ไม่ได้แต่ผมไม่ทราบแน่ชัดว่าทำไม บิลล์ ถึงคว้าแชมป์ไม่ได้" คล็อปป์ บอกกับ สกาย สปอร์ต

"แต่ไม่สำคัญหรอก ผมจะไม่เอาตัวเองไปเทียบกับพวกเขา อันที่จริงไม่มีใครควรทำแบบนั้นนะ มันคนละยุคกัน, ทั้งการสร้างสโมสรและการแบกรับสโมสร"

"ผมทราบดีว่าเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ผมรู้ว่าเราคว้าแชมป์ได้ยังไง, ก็เป็นเพราะความทุ่มเททั้งหมดของคนใน เมลวูด รวมถึงแพสชั่นที่คนในสโมสรแสดงให้เห็น"

"มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ทำให้มันมีค่ามากขึ้น, คู่ควรยิ่งขึ้นและมีอารมณ์ร่วมมากยิ่งขึ้น"

ของแบบนี้ต้องใช้เวลา

แหม่ จะหล่อไปไหนบอส

30 ปี แฟนบอลเก่าแก่ รู้อยู่แก่ใจแน่นอน ว่าเทียบได้ไหม? สำหรับผม คล้อปป์สง่างามไม่แพ้กันครับ

มีวันนี้เพราะพี่ให้

ไม่ต้องเทียบหรอกครับ เพราะคล็อปป์สร้างตำนานใหม่ให้กับตัวเองแล้ว

ผมว่า เทียบเท่า แซงค์ลี่ย์ ไปแล้วละนะ

คือ กุนซือ ที่ "พลิกฟื้น" ทีมที่หลับไหลไปนานให้กลับมาเป็น#1 ได้

ต่างจาก ยอดกุนซือคนอื่นๆของหงส์ที่ก็เก่งและกวาดแชมป์มากมาย แต่เป็นการ "ต่อยอด" มากกว่า กอบกู้

เทียบกันไม่ได้หรอกตำนานบทเก่า กับตำนานบทใหม่ไม่ว่าจะตอนไหนก็สนุก ก็สนุกทั้งสองตำนานนั่นแหละ

สิ่งที่คล๊อปกับแชงคลี่ย์เหมือนกันอย่างคือแนวคิดทางการเมืองที่นำมาเป็นปรัชญาการทำงานนี่แหละ แชงคลี่ย์เป็นสังคมนิยมจ๋าเลยเพราะอังกฤษช่วงนั้นเป็นขาลงของเศรษฐกิจด้วย คนเลยโทษรัฐบาลกับกลุ่มชนชั้นนำที่ค่อนข้างจะคอนเซอร์ แนวคิดฝ่ายซ้ายเลยโดดเด่นขึ้นมา ยิ่งบีเทิลส์ที่เป็นวงแหกขนบมาจากลิเวอร์พูลด้วยก็พอสะท้อนสภาพของเมืองนี้ได้อยู่

ประโยคอมตะอันนึงของแชงคลี่ย์คือ สังคมนิยมที่ผมศรัทธาคือการที่ทุกคนทำงานเพื่อคนอื่นและแชร์ผลตอบแทนร่วมกัน แชงคลี่ย์เลยเป็นมากกว่าโค้ชฟุตบอลตรงที่เค้าเป็นจิตวิญญาณของผู้คนและเมืองลิเวอร์พูลจริงๆ

ตอนคล๊อปเข้ามาคุมทีมและตลอดสิ่งที่เค้ากระทำ ทั้งบทสัมภาษณ์ แนวคิดที่โชว์ออกมาบอกตรงๆว่าเหมือนแชงคลี่ย์มากๆ เป็นคนผลักดันคนอื่น แต่ตนเองก็ถ่อมตนในทุกโอกาส ยิ่งเค้าเคยสัมภาษณ์ว่าเค้าเป็นฝ่ายซ้าย ถ้าเค้าทำได้ดีก็อยากเห็นคนอื่นทำได้ดีเช่นเดียวกับเค้า และเค้าไม่จะโหวตให้ฝ่ายขวาแน่ๆ ไม่แปลกใจเลยที่เคมเปญสโมสรแต่ละอย่างตัวคล๊อปจะแทนภาพลักษณ์ของลิเวอร์พูลได้อย่างหมดจด

เป้าหมายต่อไปของบอสคือการทำให้ความสำเร็จยั่่งยืน

เป็นแชมป์ว่ายากแล้ว รักษาแชมป์ยากกว่า หากทำได้อีกไม่นานจะมีรูปปั้นอยู่เคียงข้างแอนฟิลด์ให้เป็นที่กล่าวขานก็คงจะไม่น่าแปลกใจ

ก็กวาดแชมป์ให้เท่ากับ แชงลี่ เพียสลี่ ก่อนค่อยว่ากัน