[RE: จะเอาไงก็ว่ามา! ไทยลีก รอคำตอบ ทรู, “สมยศ” ฉุนสื่อบิดเบือนข่าว]
pokenza พิมพ์ว่า:
JummaTaeng พิมพ์ว่า:
pokenza พิมพ์ว่า:
หลังๆทำไมมองว่าตอบย้อนแย้ง
ข้อ1 ว่าการแข่งขันจะมีเมื่อไหร่ เร็วช้าอย่างไรนั้น ไม่ใช่สมาคมเป็นผู้ตัดสินใจ แล้วที่ประกาศเลื่อนไปกันยายนไม่ใช่สมาคมกับสโมสรประชุมกันหรอ แล้วไม่มีสิทธิ์ยังไง
ข้อ2 เรื่องโปรแกรมกับทรูอันนี้สมาคมแม่มผิดเต็มๆ คือต้องปรึกษาหารือกันก่อนป่าวไม่ใช่อยู่ดีเลื่อนแล้วประกาศโปรแกรมใหม่มาให้ทราบเหมือนแจ้งให้รู้เฉยๆ
เคสก่อนนี้เหมือนท่านสมยศผิดแล้วไม่ยอมรับผิดอะ ประกาศเลื่อนไปกันยายนโก้ๆคิดว่าโควิดมันคงไม่หายไวแต่ที่ไหนได้ลีกอื่นเค้ากลับมากันหมดแล้ว ยกเว้นลีกที่รัฐบาลไม่ให้มีการแข่งกีฬา
ไม่ให้เค้าประชุมแล้วให้เค้าทำไง เค้าก็ต้องวางแผนล่วงหน้าไว้ดิ แผนมันเปลี่ยนได้อยู่แล้ว แต่เคสนี้คือ เพราะนักเตะต่างชาติไทยลีคบินออกนอกประเทศไปเกือบหมดแล้ว เพราะประเทศไทยระบาดก่อนยุโรปนะ เค้าก็กลัวติดกันดิใครจะรู้อยู่ดี ๆ ทางบ้านเสือกติดหนักกว่าแถมออกไม่ได้แล้วด้วย
จะให้โผล่มาเตะเลยงั้นเหรอ ขนาดพรีเมียร์ยังประชุมกันไม่รู้กี่สิบเที่ยวกว่าจะหาวันเตะได้ เตะได้หรือไม่ได้สิทธิ์มันไม่ได้อยู่ที่สมาคมอยู่แล้ว มันอยู่ที่ ศบค ถ้าเค้าไม่อนุมัติ ต่อให้ประชุมกันว่าจะเตะตอนนี้ ไปจัดเตะก็ผิดกฎหมายสิครับ
ก่อนจะบอกให้สมาคมรีบจัดเตะไปถามสโมสรสมาชิกก่อน น่านฟ้ายังไม่เปิด นักเตะได้เปรียบเสียเปรียบไม่เท่ากัน เค้าจะยอมรึเปล่า ถ้าต้องตกชั้นเพราะตัวหลักหายหรือพลาดโควตา acl สโมสรเค้าจะเอาด้วยเหรอ ผลสุดท้ายทรูก็ต้องเข้ามาคุยอยู่ดีจะถ่ายหรือไม่ถ่ายต่อ ถ้าไม่ถ่ายสมาคมก็หาเจ้าใหม่ ที่เหลือก็ปล่อยเป็นเรื่องทางกฎหมายก็แค่นั้น
ขอโทษที่ตอบช้าไปหน่อย งั้นขอถามกลับหากถึงกันยายนแล้วยังเอานักเตะที่ติดอยู่กลับมาไม่ได้ละจะทำไง เพราะบราซิลเองก็ระบาดหนัก อย่างจีนนี่กว่าจะเอากลับเข้ามาได้หมด ยังใช้เวลาเป็น1-2เดือนเลย
อีกข้อหนึ่งผมไม่แน่นใจแค่ไหน ที่ทรูออกมาแบบนี้เพราะสมาคมส่งหนังสือไปทวงเงินทั้งๆที่ไม่มีการถ่ายทอดสดงั้นก็ไม่สมควรป่าวครับ แถมหากทรูไม่ได้จ่ายจริงๆสมาคมจะทำไง ในเมื่อมันจ่ายเป็นงวดๆสโมสรก็ไม่มีรายได้จากการถ่ายทอดสด
ข้อ 1 นี่ก็ทำอะไรไม่ได้จนกว่าทาง ศบค จะอนุมัติอยู่ดี ถ้าอนุมัติมาแล้ว ก็เรียกสโมสรมาประชุมอีกรอบ ก็เหมือนตอนที่สรุปว่ากันยาอันนั้นก็ประชุมกับสโมสรเหมือนกัน
คือมันทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้จนกว่าที่ยื่นไปทาง ศบค จะให้ผ่านได้ เพราะทุกอย่างมันจะถูกสรุปในที่ประชุมหลังผ่านเรื่องอนุมัติ ณ เวลานั้น ว่ามันมีปัญหาอะไรบ้าง จะเอายังไงจะแก้กันยังไงกัน พอออกมาเป็นมติที่ประชุมถึงจุดนั้นมันต้องยอมรับโดยปริยายว่าทีมตัวเองจะได้เปรียบเสียเปรียบก็ต้องยอมรับเพราะมันเป็นผลการประชุมร่วมกัน
ส่วนเรื่องเรียกเก็บเงินอะไรพวกนี้ มันเป็นเรื่องข้อกฎหมาย ตัวนี้อาจจะต้องไปดูพวก tor เรื่องการส่งงานการเรียกเก็บข้อกำหนดมันมีระบุเวลาของแต่ละงวดอะไรพวกนี้ไว้หรือเปล่า ในทางเจ้าหน้าที่การเงินหรือบัญชีต้องส่งตามที่ระบุไว้จะแก้อะไรต้องตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะไม่งั้นคนทำงานมันจะมีปัญหาได้ ซึ่งตรงนี้ไม่อาจทราบได้ ถ้าไม่มาคุยมาตกลงกันมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้อะ ก็ยื่นเก็บตามสัญญาก็แค่นั้น ไม่จ่ายหรือคิดว่าไม่ควรจ่ายก็ไปจบที่ศาลมันก็มีแค่นี้แหละ