ฝืดไปนิด! คาเซยิงโทน "ราชัน" กลืนบ๊วย 1-0 ฝูงเดี่ยว 2 แต้ม
แม้ฟอร์มไม่เปรี้ยวแต่ลูกเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับ เรอัล มาดริด ที่บุกไปเฉือนชนะทีมบ๊วยของตารางอย่าง เอสปันญอล 1-0 จากประตูท้ายครึ่งแรกของ คาเซมิโร่ ทำให้ราชันชุดขาวเก็บเพิ่มเป็น 71 คะแนนจาก 32 นัด แซงบาร์เซโลน่า 2 แต้ม ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงลาลีก้าเดี่ยวๆ แบบเต็มตัวเสียที
เอสปันญอล
Starting Formation: 4-4-1-1
20.
แบร์นาร์โด เอสปิโนซ่า
6.5
17.
ดิแดค บิล่า
46'
6
15.
ดาบิด โลเปซ
84'
6
10.
เซร์กี้ ดาร์เดร์
69'
6
23.
อาดรี้ เอ็มบาร์บ้า
69'
6
7.
อู่ เล่ย
57'
6.5
ตัวสำรอง
12.
โจนาธาน คัลเลรี่
69'
6
14.
ออสการ์ เมเลนโด้
57'
6
26.
พอล โลซาโน่
84'
6
3.
อาเดรีย เปโดรซ่า
46'
6
33.
นิโคลัส เมลาเม็ด
69'
6
ลาลีก้า
สนาม อาร์ซีดีอี สเตเดี้ยม
อาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2563
กรรมการ อันโตนิโอ มาเตว
เอสปันญอล
0
1
เรอัล มาดริด
ราชันเปลี่ยน 4 ตำแหน่ง กลับมาเล่น 4-3-3
ราชันชุดขาวกำลังฟอร์มแจ่ม กลับมาเตะ 4 นัดชนะรวด เกมนี้เปลี่ยนตัวจริง 4 ตำแหน่ง โดยกลับมาเล่น 4-3-3 เบนเซม่าค้ำหน้าและมีอาซาร์,อิสโก้ ขนาบข้าง ตรงกลางได้คาเซมิโร่พ้นแบนกลับมายืนคุมแน่นกับโครส,วัลเวร์เด้ แผงหลังซ้ายไปขวา มาร์เซโล่,รามอส,วาราน,กาบาร์ฆาล และคูร์กตัวส์เฝ้าเสา
เจ้าถิ่นอย่างเอสปันญอลมาเน้นในระบบ 4-4-1-1 โดยทิ้ง เด โตมาส ค้ำหน้าและมีตัวหนุนอย่าง เอ็มบาร์บ้า,อู่ เล่ย,ดาร์เดร์,โรก้า,โลเปซ
• เรอัล มาดริด ชนะ 14 จาก 15 นัดหลังทุกรายการที่เจอ เอสปันญอล
• เรอัล มาดริด เก็บคลีนชีต 7 จาก 9 นัดที่เจอเอสปันญอล
• เรอัล มาดริด ไม่แพ้ในลีก 20 จาก 22 นัดหลัง
• เรอัล มาดริด ชนะในลีกมา 4 นัดติด
• เอสปันญอล ชนะ 1 จาก 8 นัดหลังในลีก
เริ่มมานกแก้วทักทายก่อน
เริ่มมานาทีแรกเป็นเจ้าถิ่นได้ลุ้นทักทายก่อนจากจังหวะวางเท้ายิงไกลของเอ็มบาร์บ้าแต่บอลเบาไปเข้ามือของคูร์กตัวส์
ราชันหวิดโดนไว
โอกาสหวาดเสียวอีกครั้งของเจ้าถิ่น จังหวะที่อู่ เล่ยได้บอลหลุดมาทางริมเส้นฝังขวา เขากระชากไปริมกรอบเขตโทษก่อนจะปาดเรียดตัดเข้ากลางบอลเลยไปถึงดาร์เดร์ที่วิ่งมาแปทางเสาสองติดบล็อควารานแล้วเด้งโดนตัวเขาอีกทีบอลพุ่งหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
คาเซมิโร่ลองส่องวัดระะ
โอกาสของราชันบ้าง เป็นจังหวะที่คาเซมิโร่ลองหลอกกดด้วยขวาระยะไกลกลางสนาม บอลพุ่งแรงตรงกรอบแต่ก็ไม่มีปัญหาสำหรับโลเปซ
พี่มอสเติ่มโขกยังไม่แม่น
อีกทีของมาดริด จังหวะที่คาเซมิโร่เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ากลางให้รามอสได้โขกในกรอบเขตโทษแต่บอลพุ่งหลุดคานออกหลังไป
คาเซมิโร่โหนโหม่งหลุดคาน
จังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาของมาดริด โครสเปิดโค้งเข้าไปที่เสาแรกให้วารานโขกแล้วบอลไปถึงคาเซมิโร่ที่ได้โหนโหม่งบอลพุ่งหลุดคานออกหลังไปอีก
โรก้าปั่นฟรีคิกยังติดคูร์กตัวส์
จังหวะฟรีคิกริมกรอบฝั่งขวาของเอสปันญอล เป็นโรก้าที่ปั่นกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปตรงกลาง บอลไม่โดนใครก่อนฮุคตรงกรอบแต่คูร์กตัวส์ยังผวาปัดทุบออกไปได้
อู่ เล่ยกระชากซัดเฉีึ่ยวคาน
เอสปันญอลได้ลุ้นอีกครั้ง เป็นจังหวะต่อบอลกันสวยแล้วเอ็มบาร์บ้าแทงให้อู่ เล่ยกระชากหลุดไปทางกรอบฝั่งขวาก่อนตะบันเน้นๆบอลพุ่งแรงหลุดคานไปนิดเดียว
เบนซ์โยกซัดได้ลุ้นเลย
ราชันชุดขาวน่าได้ประตูจากจังหวะที่โครสให้เบนเซม่าในกรอบฝั่งซ้าย เขาโยกหลอกตัวประกบแต่เข้าขวาแล้วกดทันที บอลพุ่งแรงตรงกรอบแต่โลเปซยังผวาปัดข้ามคานเป็นเตะมุม
ราชันขลุกขลิกอาซาร์ซ้ำเกือบหาย
ท้ายครึ่งแรกราชันน่าได้ประตูแบบสุดๆ จังหวะที่อิสโก้เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วเลยถึงเสาสอง เบนเซม่าพยายามดึงลงแล้วโดนพัวพันไม่มีโอกาสยิง บอลขลุกขลิกไปเข้าทางคาเซมิโร่ที่ได้ยิงแบบจวนตัวจ่อๆแต่ก็ยังไปติดบล็อค อู่ เล่ยพยายามเคลียร์แต่โดนขวางแล้วบอลเด้งไม่พ้นอันตรายเข้าทางอาซาร์ตวัดซ้ำบอลเด้งพื้นตรงกรอบแต่อู่ เล่ยถอยมาโหม่งเคลียร์ออกไปได้ทัน
ราชันปลดล็อค!เบนซ์ตอกส้นเหนือๆ คาเซสอดแปไม่เหลือ 1-0
แล้วราชันชุดขาวก็มาได้ประตูปลดล็อคที่ต้องการ จากจังหวะที่มาร์เซโลน่าเปิดบอลจากกลางสนามไปที่หน้ากรอบเขตโทษให้รามอสโขกชงต่อให้เบนเซม่าตามไปเล่นในกรอบฝั่งขวา เขาตอกส้นอย่างเหนือให้คาเซมิโร่วิ่งสอดมาแปจ่อๆไม่มีเหลือ 1-0 ไปเลย
สุดท้ายจบครึ่งแรกเรอัล มาดริดที่เล่นได้ดีครองบอลและโอกาสยิงมากกว่า ออกนำไปก่อน 1-0 จากคาเซมิโร่ เอสปันญอลพอม๊โอกาสเหมือนกันแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดขาดพอ
เบนซ์ยิงท่ายาดมุมแคบติดเซฟ
โอกาสแรกในครึ่งหลังเป็นของฝั่งมาดริด จังหวะที่อิสโห้เปิดบอลทางริมกรอบฝั่งซ้ายพุ่งลุกไปเสาสองแล้วเป็นเบนเซม่าที่โฉบไปโดดตวัดยิงท่ายากมุมแคบ บอลตรงกรอบแต่โลเปซก็ยืนปิดมุมเซฟไว้ได้
เด โตมาสปั่นฟรีคิกมีเสียว
เอสปันญอลได้ลุ้นจากฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษระยะราว 25 หลา เป็น เด โตมาส ที่สืบเท้าปั่นด้วยขวาบอลพุ่งทะลุกำแพงแรงตรงกรอบ แต่คูร์กตัวส์ยังพุ่งปัดออกไปได้
โลเปซขอส่องไกลแต่เข้ามือคูร์กตัวส์
เอสปันญอลยังพยายามจะเอาประตูตีเสมอ จังหวะนี้ดาบิด โลเปซได้ลองส่องด้วยขวานอกกรอบ บอลพุ่งต่ำตรงกรอบแต่ก็ไปเข้าเซฟคูร์กตัวส์ล้มตัวรับไว้สบาย
นกแก้วทิ้งไพ่สุดท้ายรุกเต็มตัว
เข้าสู่ช่วงท้ายเกมเอสปันญอลเน้นเกมรุกเปลี่ยนสำรองตัวที่ 5 อย่างโลซาโน่ลงไปเล่นมิดฟิลด์แทนโลเปซ หวังเดินเกมเต็มที่เพื่อเอาประตูตีเสมอ
ราชันแซง 2 แต้มนำฝูงเดี่ยว
สุดท้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้ราชันปิดเกมเอาชนะไปได้ 1-0 จากประตูโทนของคาเซมิโร่ ทำให้พวกเขาแซงบาร์เซโลน่า 2 แต้มขึ้นไปเป็นจ่าฝูงหลังผ่านไป 32 นัด ขณะที่เอสปันญอลจมบ๊วยต่อไป
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
7.
เอแด็ง อาซาร์
63'
6
22.
อิสโก้
64'
6
ตัวสำรอง
25.
วินิซิอุส จูเนียร์
63'
6
27.
โรดรีโก้
64'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Mon Jun 29, 2020 06:56, ทั้งหมด 10 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker