ค็อปเชิญแห่! วิลเลี่ยนกดโทษ 'สิงห์' ดับเรือ 2-1 ส่งหงส์เถลิงแชมป์
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เชลซีไม่ทำให้กองเชียร์เฉพาะกิจทั่วโลกผิดหวัง เฉือนชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 จากจุดโทษ VAR ของวิลเลี่ยนท้ายเกม หลังแฟร์นานดินโญ่ ทำแฮนด์บอลบนเส้นโดนใบแดงไปอีกต่างหาก ทำให้พวกเขายึดท็อป 4 เหนียวแน่นห่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5 แต้มเหมือนเดิม พร้อมส่งลิเวอร์พูล เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการหนแรกในรอบ 30 ปี
เชลซี
Starting Formation: 4-3-3
8.
รอสส์ บาร์คลี่ย์
74'
6
19.
เมสัน เม้าท์
90'
6
22.
คริสเตียน พูลิซิช
90'
8
18.
โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
62'
6
ตัวสำรอง
47.
บิลลี่ กิลมอร์
90'
6
17.
มาเตโอ โควาซิช
74'
6
11.
เปโดร
90'
9.
แทมมี่ อับราฮัม
62'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
พฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2563
กรรมการ สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์
เชลซี
2
1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
1-0 คริสเตียน พูลิซิช 35'
2-1 วิลเลี่ยน 78' (Pen.)
เกมสำคัญของทั้งสองทีมเชลซี ต้องการแต้มเพื่อรักษาอันดับท็อปโฟร์ต่อไป วันนี้เปลี่ยนนักเตะ 2 ตำแหน่งเป็นคริสเตียน พูลิซิชและรอสส์ บาร์คลี่ย์ได้ลงสนามก่อนหน้าโควาซิชและลอฟตัส-ชีคที่เป็นสำรองไปก่อน ขณะที่โอลิวิเยร์ ชิรูด์ได้ล่าตาข่ายในฐานะหัวหอกตัวเป้า โดยพวกเขาไม่แพ้ให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในบ้านมา 12 นัดแล้ว
ด้านเป๊ป กวาร์ดิโอล่า กลับลำส่งทีมแข็งลงเล่นเป็นส่วนใหญ่แต่ก็เปลี่ยนถึง 6 ตำแหน่งทว่ามีเควิน เดอ บรอยน์ นำทัพมาโดยตำแหน่งหน้าเป้าไม่มีใช้ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แบร์นาร์โด้ ซิลวาและริยาด มาห์เรซ คอยประสานงานแทน หากพวกเขาพลาดไม่ชนะจะส่งแชมป์ให้ลิเวอร์พูลทันที
เรือเปิดหัวแบร์นาร์โด้ยิงทักทาย
เปิดเกมมาไม่นาน ซิตี้มีโอกาสก่อนเป็นทางเดอ บรอยน์ไหลบอลต่อกไปถึงแบร์นาร์โด้ ได้ยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลหลุดเสาออกไปไม่มากเท่าไหร่
แฟร์นานดินโญ๋โฉบโขก เกปาปัดปลายมือ
ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษริมเส้นด้านซ้ายของซิตี้ มาห์เรซเล่นลูกสูตรเปิดมาทางเสาแรกให้แฟร์นานดินโญ่ โฉบมาโขกคนเดียวบอลจะเสยคานอยู่แล้วแต่เกปาไม่พลาดกระโดดปัดทิ้งมือเดียว
บาร์คลี่ย์ยิงเน้นติดบล็อคแฟร์นาน
เชลซีขึ้นเกมมาทางซ้ายอลอนโซ่เปิดเข้ากลางลาปอร์ตสกัดไม่ดีบอลมาเข้าทางบาร์คลี่ย์จับในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงไปแฉลบบล็อคของแฟร์นานดินโญ่ที่ขยับมาบังทางปลิ้นออกหลังได้แค่เตะมุม
สิงห์ได้ลุ้นแต่ยังไม่ลงล็อค
เชลซีขึ้นมาชุดนี้เกือบได้ประตู พูลิซิชแทงไปให้บาร์คลี่ย์หลุดไปสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนเปิดยัดเข้ากลางชิรูด์เข้าชาร์จโดนบล็อคบอลกระดอนกลับมาแล้วสุดท้ายเป็นบาร์คลี่ย์ได้ยิงอัดเข้าไปก็ไม่มีอะไร
คริสเตนเซ่นโขกเตะมุมเอแดร์ซอนต้องเซฟ
จากจังหวะเตะมุมด้านซ้าย วิลเลี่ยนเปิดบอลเข้าไปทางเสาแรกมีคริสเตนเซ่น เบียดตัวประกบได้โขกเต็มๆแล้วทว่าไปตรงตัวของเอแดร์ซอนที่ปักหลักปัดบอลออกมาทันไม่เสียประตูในจังหวะนี้
ค็อปเฮ!เรือพลาดเอง พูลิซิชโซโล่ 50 หลา 1-0
ต้องปรบมือให้ความสามารถเฉพาะตัวของพูลิซิชจริงๆ เป็นจังหวะที่เมนดี้พลาดไม่สื่อสารกับกุนโดกันจ่ายบอลเสียโดนดาวเตะอเมริกันฉกไปได้ตั้งแต่แดนตัวเองก่อนลากหนีกลางสนามอย่างสวยแล้วก็นิ่งพอที่จะจี้ไปล่อเป้าเอแดร์ซอนที่ทำได้เพียงออกมาปิดมุมเอาไว้บอลเข้าทางเสาขวามือหมดจดทำเอาแฟนเดอะ ค็อปเฮด้วยความสะใจ
เรือเจาะสิงห์ไม่เข้า
ท้ายครึ่งแรก เรือใบสีฟ้า พยายามบุกเข้ใส่แต่เจาะแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปหาช่องทำประตูไม่ได้เลยก่อนพักครึ่งต้องกลับไปให้เป๊ป ติวมาใหม่เพื่อลงสนามมาสู้ต่อในครึ่งหลัง
เมนดี้ซัดเต็มคริสล้มทั้งยืน
คริสเตนเซ่นลงไปกองแบบล้มทั้งยืนเลย เมื่อโดนลูกยิงของเมนดี้อัดเข้าเต็มหัวทำเอากรรมการต้องเป่าหยุดเกมให้หมอลงมาดูอาการแต่น่าจะไม่เป็นอะไรมากเท่าไหร่แค่มึนๆ
KDB ฟรีคิกหมดจดเรือตี 1-1
ซิตี้ตามตีเสมอจนได้ เป็นฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษระยะ 22 หลาเยื้องมาทางซ้าย เดอ บรอยน์วิ่งเข้ามาปั่นบอลด้วยขวาโค้งข้ามกำแพงก่อนเบียดเสาซ้ายมือเข้าไปเกปาได้แค่ผวามาป้องกันด้วยสายตา
ราฮีมจิ้มชนเสา
เกมสวนกลับของซิตี้เกือบได้ประตูขึ้นนำ ราฮีมได้บอลแทงทะลุช่องมาจากกราบซ้ายก่อนสปีดไปจิ้มบอลสวนตัวเกปาที่ออกมาปิดมุมแล้วแต่ดันไปชนเสาเข้าเต็มๆ
เอแดร์ซอนจ่ายพลาด!เม้าท์ลากยิงเข้าข้างประตู
โอกาสทองของเชลซี เอแดร์ซอนออกบอลพลาดโดนเม้าท์ตัดได้ก่อนลากจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วอัดเต็มๆ ทว่าบอลเข้าข้างตาข่ายเพียงเท่านั้น
ราฮีมปั่นโค้งไม่พอหลุดเสาไกล
ซิตี้พับสนามบุกเลยแล้วมาได้ลุ้นประตูอีกแล้ว ราฮีมเก็บตกบอลได้ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนบรรจงงปั่นโค้งไปทางเสาไกลเกปาได้แต่ยืนมองอีกแล้วทว่าบอลโค้งไม่พอหลุดออกหลังไป
พูลิซิชลากยิงวอล์คเกอร์เคลียร์บนเส้น
ซิตี้รอดพ้นการเสียประตูแบบไม่น่าเชื่อ เป็นพูลิซิชอีกแล้วที่ได้บอลหลุดไปกระชากหนีเอแดร์ซอนก่อนพยายามขืนตัวยิงทว่าวอล์คเกอร์วิ่งหน้าตั้งมาเคลียร์ทิ้งจากเส้นทันเวลา
VAR แจกโทษสิงห์!แฟร์นานดินโญ่โดนแดง
เชลซีไม่ได้ประตูแบบไม่น่าเชื่ออีกแล้ว วิลเลี่ยนกระชากมาทางขวาเปิดบอลจังหวะแรกติดบล็อคแล้วจังหวะต่อมายัดไปให้แทมมี่ยิงติดเซฟเอแดร์ซอนพูลิซิชพยายามตามซ้ำก็โดนเอแดร์ซอนตามไปปัดแล้วแทมมี่ตามมาอัดอีกทีบอลเหมือนโดนแขนแฟร์นานดินโญ่ที่อยู่บนเส้นหลุดออกมา กรรมการดู VAR พร้อมชี้เป็นจุดโทษแล้วแจกใบแดงให้ดาวเตะแซมบ้าอีกต่างหาก
วิลเลี่ยนกดโทษไม่พลาดสิงห์นำอีก 2-1
จากจังหวะจุดโทษเป็นทางวิลเลี่ยนขยับเข้ามาหลอกยิงด้วยขวาบอลเสยตาข่ายเข้าไปโดยที่เอแดร์ซอนล้มตัวไปอีกทางทำให้เชลซีขยับนำอีกครั้ง 2-1
สิงห์เคาะฆ่าเวลา
ท้ายเกมเชลซีเริ่มพยายามเคาะบอลหนีเพรสของซิตี้ ที่ตัวน้อยกว่าก็ทำอะไรมากไม่ได้เหมือนกัน รอเวลาหมดลงพร้อมเก็บ 3 คะแนนสำคัญเอาไว้
หงส์ขอบคุณ!สิงห์กดเรือ 2-1 ส่งเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บเปโดร ได้หลุดไปปั่นอย่างสวยแล้วแต่เอแดร์ซอนบินปัดปลายมือ ก่อนจบเกมเชลซีเก็บเพิ่ม 3 คะแนนไล่หลังเลสเตอร์ ซิตี้เหลือแต้มเดียว และพาลิเวอร์พูล เป็นแชมป์โดยไม่ต้องลงเตะ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
14.
อายเมริก ลาปอร์ต
74'
6
22.
เบนจามิน เมนดี้
59'
5
16.
โรดรี้
55'
6
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
55'
6
ตัวสำรอง
78.
เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส
11.
โอเล็กซานดาร์ ซินเซนโก้
59'
30.
นิโกลัส โอตาเมนดี้
74'
6
21.
ดาบิด ซิลบา
55'
6
9.
กาเบรียล เชซุส
55'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Fri Jun 26, 2020 06:16, ทั้งหมด 13 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ