ขอทางหน่อย! มอสส่องโทษ,เบนซ์บวก 'ราชัน' กินโซเซียดาด 2-1 ยึดฝูง
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
งานเหนื่อยหอบแต่ผ่านมาได้สำหรับ เรอัล มาดริด หลังจากบุกไปได้จุดโทษในครึ่งหลังของ เซร์กิโอ รามอส และลูกยิงที่ต้องใช้ VAR คอนเฟิร์มของ คาริม เบนเซม่า บุกไปเอาชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-1 โดยที่ทีมเจ้าถิ่นโดน VAR ปฏิเสธลูกยิงตีเจ๊า 1-1 ของ อัดนาน ยานาไซจ์ และมาได้ปลอบใจจาก มิเกล เมริโน่ ทำให้ ราชันชุดขาว เก็บเพิ่มเป็น 65 คะแนนจาก 30 นัด ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงลาลีก้า แม้จะแต้มเท่าบาร์เซโลน่าแต่พวกเขาเฮดทูเฮดดีกว่า
เรอัล โซเซียดาด
Starting Formation: 4-2-3-1
18.
โกโรซาเบล

60'
6
21.
มาร์ติน โอเดการ์ด

79'
5.5
5.
อิกอร์ ซูเบลเดีย

79'
6
19.
อเล็กซานเดอร์ อิซาค

78'
6
10.
มิเกล โอยาร์ซาบัล

60'
6
ตัวสำรอง
28.
โรเบร์โต้ โลเปซ

79'
6.5
11.
อัดนาน ยานาไซจ์

60'
6.5
9.
วิลเลียน โชเซ่

78'
6
6.
อาริตซ์ เอลุสตอนโด้

60'
6
36.
มาร์ติน ซูบิเมนดี้

79'
6
ลาลีก้า
สนาม เรอาเล่ อารีน่า
อาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน 2563
กรรมการ ฆาเบียร์ เอสตราด้า
เรอัล โซเซียดาด
1
2
เรอัล มาดริด
0-1 เซร์กิโอ รามอส 50' (Pen.)
0-2 คาริม เบนเซม่า 70'
ซีดานเซอร์ไพรส์ส่งฮาเมสตัวจริง
โซเซียดาดผลงานกลับมาเตะสองนัดยังไม่ชนะเลย วันนี้ต้องการสามแต้มเพื่อเกาะกลุ่มลุ้นท็อปโฟร์ โดยวาง 4-2-3-1 ให้ อิซาค เป็นหน้าห้อยและมี โอเดการ์ด,โอยาร์ซาบัล,ปอร์ตู คอยหนุน เมริโน่,ซูเบลเดีย คุมกลาง
ราชันชุดขาว ชัยชนะเกมนี้จะทำให้โอกาสแชมป์อยู่ในมือของพวกเขา เกมนี้ซีดานเปลี่ยนตัวจริง 4 คนจากนัดที่ชนะบาเลนเซีย โดยมีเซอร์ไพรส์ที่ ฮาเมส ได้ลงเล่นในเกมรุกร่วมกับ เบนเซม่า,วินิซิอุส ตรงกลางมี โครส,คาเซมิโร่,วัลเวร์เด้ แผงหลังซ้ายไปขวา มาร์เซโล่,รามอส,วาราน,การ์บาฆาล และคูร์กตัวส์เฝ้าเสาตามเดิม โดยมี เบล,อาซาร์ เป็นตัวทีเด็ดรอบนม้านั่งสำรอง
• เจอกัน 4 นัดหลังทุกรายการ เรอัล โซเซียดาด ชนะ 3 แพ้ 1
• เรอัล มาดริด ไม่แพ้ในลีก 18 จาก 20 นัดหลัง
• เรอัล โซเซียดาด ไม่แพ้เกมเหย้าในลีก 5 นัดติด
วินิซิอุสยิงทักทายเร็ว
เริมเกมมาไม่ทันไร มาดริดมาได้จังหวะเข้าทำลุ้นประตูก่อนเลยเมื่อวัลเวร์เด้เล่นชิ่งกลุดเข้าไปในกรอบฝั่งขวาถึงเส้นหลังก่อนตบกลับเข้ากลางให้วินิซิอุสดีดด้วยขวาแต่บอลพุ่งหลุดคานไป
โอเดการ์ดได้ลองง้างบ้าง
เกมทั้งสองฝั่งค่อนข้างทันกัน คราวนี้เป็นจังหวะลุ้นของฝั่งเจ้าถิ่นบ้าง โอเดการ์ดเล่นกับโอยาร์ซาบัลหน้ากรอบเขตโทษก่อนมีโอกาสง้างด้วยซ้ายแต่ก็โดนไม่ดีลอยโด่งข้ามคานไป
ผ่านครึ่งทางครึ่งแรกยังโนสกอร์
ผ่านครึ่งทางครึ่งแรกเป็นมาดริดที่เริ่มเล่นได้ดีและครองบอลมากกว่า แต่ปัญหาคือพวกเขายังเจาะไม่เข้า หรือไปทำบอลตายในจังหวะที่ชี้ขาดสุดท้ายทำให้ยังหาโอกาสยิงแบบเน้นๆไม่เจอ
เบนซ์หลุดล็อคยิงติดเซฟ
ราชันชุดขาวได้โอกาสสวยที่จะทำประตูขึ้นนำ จังหวะต่อบอลกันมาแล้ววัลเวร์เด้ไหลให้เบนเซม่าหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้าย เขารับบอลก่อนล็อคหลบญอเรนเต้แล้วยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งตรงกรอบแต่ไปติดเซฟเรมิโร่
คาเซมิโร่ขอส่องแต่เบ๊าเบา
อีกครั้งของมาดริด เป็นจังหวะที่คาเซมิโร่รับบอลจากมาร์เซโล่แล้วเห็นช่องลองวางเท้ากดด้วยขวาระยะกว่า 30 หลา บอลพุ่งตรงกรอบแต่ก็เบาเข้ามือเรมิโร่สบาย
วินิซิอุาพลิ้วสวยซัดยังติด
ก่อนจบครึ่งแรกราชันเกือบได้ประตูขึ่นนำ เป็นจังหวะที่วินิซิอุสได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนพลิ้วตัดเข้ากลางหนีโกโรซาเบลเข้าไปในกรอบเขตโทษ เขาแตะอีกทีหลลบญอเรนเต้ก่อนรีบตวัดยิงด้วยขวาบอลพุ่งแรงแต่ไปตรงตัวติดเซฟเรมิโร่
สุดท้ายจบครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0-0 แต่เป็นมาดริดที่ครองบอลและมีโอกาสลุ้นยิงมากกว่า แต่ก็ยังไม่คมและอันตรายพอ
วินิเรียกโทษ!พี่มอสสังหารนิ่ม 1-0 ราชันนำ
เริ่มครึ่งหลังมาไม่ทันไร มาดริดมาได้จุดโทษจากจังหวะที่วินิซิอุสกระชากหนีญอเรนเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายแล้วพลิ้วหลบโกโรซาเบลอีกหนึ่งด่าน ก่อนที่จังหวะจะยิงนั้นโดนญอเรนเต้สะกิดเท้าจากด้านหลังทำให้เขายิงแป้กหลุดเสาสอง ผู้ตัดสินเปานกหวีดแล้วเช็ค VAR ยืนยันว่าญอเรนเต้ฟาวล์ทำลายจังหวะการยิงจริง ก่อนที่รามอสจะรับหน้าที่สิบเท้าแปเรียดไปทางขวามือไม่เหลือ 1-0 ราชันนำแล้ว
ยานาไซจ์ลงมาได้ซัดข้ามคาน
โอกาสลุ้นของโซเซียดาด จากลูกทุ่มทางฝั่งซ้าย ปอร์ตูได้บอลก่อนไหลให้เมริโน่จ่ายต่อให้ยานาไซจ์ที่เพิ่งลงมาได้ซัดด้วยซ้ายริมกรอบเขตโทษแต่บอลพุ่งแรงหลุดกรอบไป
โครสส่องเต็มข้อติดเซฟ
ราชันต่บอลขึ้นมาแล้ววินิซิอุสได้บอลทางฝั่งซ้าย เขาลากตัดเข้ากลางแล้วไหลต่อให้โครสดึงบอลม้วนแล้วจังหวะวางเท้ากดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงตรงกรอบแต่ไปติดเซฟเรมิโร่
อดเจ๊า!ยานาไซจ์ตะบันสุดยอดแต่ VAR ริบประตู
โซเซียดาดน่าได้เฮจากจังหวะทีเล่นเตะมุมสั้นทางฝั่งขวาแล้วโอเดการ์ดไหลไปริมกรอบเขตโทษให้ยานาไซจ์กดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งแรงเป็นจรวดเรียดผ่านมือคูร์กตัวส์ยัดเสาแรกไปเลย แต่กลายเป็นเฮเก้อเพราะผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเพราะมองว่ามีตัวยืนล้ำหน้าขยับตัวขัดจังหวะการเล่นของคูร์กตัวส์ ก่อนที่ VAR จะยืนยันว่าเป็นเมริโน่ที่ทำทีมซวยไป
เบนซ์บวก!พักบอลยิงหักข้อส่งราชันหนี 2-0
จากจะโดนตีเสมอราชันชุดขาวมาได้ปรตูหนีห่างเป็น 2-0 ไปเลย จากจังหวะที่วัลเวร์เด้เอาตัวรอดพลิ้วฉีกตัวประกบหลุดไปทางเส้้นหลังฝั่งขวาก่อนยกโด่งไปเสาสองให้เบนเซม่าพักลงแล้วหาจังหวะหมุนตัวยิงหักข้อเข้ากลางประตูไปเลย ผู้ตัดสินเช็ค VAR ว่าจังหวะเอาบอลลงเบนเซม่าแฮนด์บอลหรือไม่แต่ก็ไม่มีปัญเพราะดูเหมือนจะเป็นการใช้ไหล่
อิซาคส่องไกลงานง่ายคูร์กตัวส์
โซเซียดาดพยายามจะเอาคืน จังหวะนี้อิซาครับบอลจากซูเบลเดียก่อนลองส่งไกลด้วยขวา บอลพุ่งตรงกรอบแต่ก็ไม่ยากสำหรับคูร์กตัวส์ที่รับเข้ามือ
โชเซ่ลงไปได้โขกข้ามคาน
โซเซียดาดยังพยายามบุกเอาประตูทวงคืน จังหวะนี้เอลุสตอนโด้หลุดไปเปิดทางมุมธงฝั่งขวาเข้าไปตรงกลางให้โชเซ่เทคโหม่งเน้นๆแต่บอลพุ่งข้ามคาน
เอาแล้ว!เมริโน่แก้ตัวซัดหมดจรดโซเซียดาดไล่ 2-1
เจ้าถิ่นปลุกความหวังในเกมนี้ขึ้นมาเมื่อมาได้ประตูตีไข่ไล่ 2-1 จากจังหวะบอลยาวที่เอลุสตอนโด้เติมไปรับทางฝั่งขวา เขาเลือกไหลคืนให้โลเปซตักโด่งเข้ากลางแล้วบอลเลยไปตกเข้าทางเมริโน่ที่เอาลงทางเสาสองก่อนซัดด้วยซ้ายบอลแสกหน้าคูร์กตัวส์เสยใต้คานเข้าไปเลย
เอลุสตอนโด้โฉบโขกหลุดเสา
ท้ายเกมโซเซียดาดพยายามบุกเพื่อตีเจ๊า จังหวะนี้เกือบได้เมื่อเมริโน่ตักบอลจากริมกรอบฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบให้เอลุสตอนโด้โฉบเข้าไปโหม่งที่เสาสองแต่บอลหลุดออกหลังไปนิดเดียว
ราชันเฮยึดฝูงเฮดทูเฮด
สุดท้ายแม้จะงานยากหน่อยแต่ราชันเอาตัวรอดเฉือนชนะ 2-1 ทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 65 คะแนนจาก 30 นัด ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงลาลีก้า แม้จะแต้มเท่าบาร์เซโลน่าแต่พวกเขาเฮดทูเฮดดีกว่า
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
4.
เซร์กิโอ รามอส

60'
7
12.
มาร์เซโล่

89'
6.5
15.
เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้

89'
7
9.
คาริม เบนเซม่า

78'
7.5
16.
ฮาเมส โรดริเกซ

78'
6.5
ตัวสำรอง
10.
ลูก้า โมดริช

89'
-
20.
มาร์โก อเซนซิโอ้

78'
6
23.
แฟร์ลองด์ เมนดี้

89'
-
24.
มาเรียโน่

78'
6
3.
เอแดร์ มิลิเตา

60'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Mon Jun 22, 2020 05:28, ทั้งหมด 14 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ