แปลกดีครับ กับการซอยรุ่นของรถรุ่นต่างๆ คือผมไม่เข้าใจว่าการถอดนั่นนี่ออกนิดหน่อยมันส่งผลขนาดนั้นหรอครับ เช่นรุ่นล่างสุดที่ถอดเอาของที่รถควรจะมีออก แล้วไปใส่ในรุ่นบนๆ แล้วราคาก็ต่างกันลิบลับเพราะแต่ละรุ่นราคาจะต่างกันไปประมาณ 50000-70000หรือเป็นแสนเลยในบางตัว และไอ้ส่วนที่ต่างเนี่ย เช่นเบาะหนัง กล้องหรือเซนเซอมองหลัง หน้าจอสัมผัส สำหรับรถราคา9แสน แต่ไม่ใส่มาให้ ผมว่ามันตลกไปนะครับ สำหรับรถยนตร์ปี 2020 ถ้าจะทำแบบนี้ก็ควรลดทอนสัดส่วนราคาให้สมเหตุสมผลหน่อย คือมันดูไม่จริงใจจริงๆ ผมก็ไม่รู้เขาคิดยังไง หน้าจอรถยนตร์กับกล้องมันแพงขนาดที่คุณไม่มีปัญญาใส่ให้เขาจริงๆหรอ บางอย่างถ้ามันแพงจริงแล้วเก็บไว้ใส่ตัวแพงผมก็เข้าใจแต่บางอย่างราคามันถูกแต่เอาออกเพื่อบีบให้ซื้อรุ่นที่แพงกว่าเนี่ยดูจงใจที่จะเอาเปรียบมากๆจริงๆ


ผมไม่ได้หมายความแค่หน้าจอกับกล้องนะครับ มันยังมีอย่างอื่นอีกหลายๆอย่างที่เขาเลือกจะทำแบบนี้ เป็นแทบทุกค่ายทุกยี่ห้อทุกรุ่นเลย
มันเหมือนค่านรถคิดไรไม่ออกอ่ะ ว่าควรจะทำยังไงให้แต่ละรุ่นของรถคลาสนั้นๆแตกต่างกันสมราคาส่วนต่างเฉยๆเลยตัดออกให้เกลี้ยงกันไปเลย

รถราคาหลายล้านยังไม่ได้ออปชั่นครบเลยครับ

BMW Series 1 หรือ X1 ยังไม่ได้ Cruise Control
Benz GLC ตัวก่อนปีล่าสุดก็ยังได้จอ 6.5" อยู่เลย

ผมว่าอะไรที่เรามองว่าเป็นเบสิคบางคนอาจจะไม่ได้ใช้ก็ได้ครับ อย่างจอ touchscreen แม่ผมก็ไม่ได้ใช้เป็นต้น หรือแอร์ dual-zone ก็ไม่ได้จำเป็น

ส่วนตัวผมว่าที่ไม่น่าตัดน่ะพวก safety options แต่พวกที่เป็น wow factor นี่ไม่ต้องมีก็ได้ครับ ทำช่วงล่าง + พวงมาลัยดีๆก็พอ

แบรนด์มันติดแล้ว ยังไงก็ขายได้

รถแบรนด์รองๆหลายรุ่น วัสดุทำออกมาดี ออฟชั่นจัดเต็ม คุ้มค่าคุ้มราคานะครับ แต่มันไม่เจาะตลาดกลุ่มที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ไม่ได้

ผู้บริโภคบางคนไม่ยึดติดแบรนด์ เน้นความคุ้มค่า ก็จะเลือกแบบท่านเนี่ยแหล่ะครับ ไปยี่ห้ออื่น

อะไหล่แพงของบางคนก็ไม่เท่ากัน ความจุกจิกของบางคนก็ไม่เท่ากัน มันวัดออกมาเทียบกันแทบจะไม่ได้

สำหรับผม ผมขับเอง ชอบเอง เลือกเอง ตอบตัวเอง เวลาซื้อรถ ผมจะศึกษาและเพ่งเล็งใส่เลยครับ 55+

ยกตัวอย่างนะครับ Audi RS3 ราคาพอๆ porsche cayman สำหรับผม มีตัง ก็จะกดไปที่ rs3 เพราะผมชอบซิ่ง มีอะไรให้แต่งอีกเยอะ ของเล่นเยอะ แรงจัดปลัดขิก ทำไว้อวดแว๊นส์ ครับ

เรื่อง option ที่ให้ต่างกันแต่ละรุ่น มันก็เป็น marketing พื้นฐานอยู่แล้วแหละฮะ

มันไม่ได้มีเฉพาะเรื่องขายรถ ถ้าลองมองไปจริงๆมันมีหมดทั้งโทรศัพท์, โนตบุค ฯลฯ

หลักกลไกมันคือการจูงใจผู้ซื้อ ให้เกิดข้อเปรียบเทียบระหว่างรุ่น เพื่อดึงทั้ง 2 กลุ่ม..

- กลุ่มที่ชื่นชอบออปชั่น พอได้เปรียบเทียบกับตัวรอง รู้สึกอยากได้ออปชั่นก็จูงใจให้เพิ่มเงินไปซื้อตัวแพง

- กลุ่มเน้นประหยัด พอมองความต่างจากราคาตัวท็อป รู้สึกว่าเฮ้ย ตัดของไม่จำเป้นออก ถูกลงไปตั้งเยอะ ก็จูงใจให้ไปซื้อตัวรอง

สรุป.. บ.ขายรถกินรวบได้ทั้ง 2 กลุ่ม (การเปรียบเทียบของกันเอง มันเป็นตัวกระตุ้นความอยากในการซื้อของได้อย่างนึง)

ถ้าไม่มีอะไรให้เปรียบเทียบกันเองเลย ผู้ซื้อก็มีแนวโน้มไปเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่นแทน ถ้าซวยๆก็เสียตลาดให้แบรนด์นั้นเลย

แล้วแต่คน และ แล้วแต่มุมมองครับ

♥สำหรับผม แอร์เย็น เพลงเพราะ ก็ไปได้หละ

•แต่สำหรับบางคน "ของฉันรุนท๊อป ของเธอรุ่นถูก" แต่ใช้ไม่ครบทุกฟังก์ชั่น

◘หรือหลายคน ก็ชอบ ซื้อรุ่นไม่ท๊อป แล้วเอาส่วนต่างมาแค่งเพิ่ม

○บางคนก็มองอ๊อปชั่นที่เสริมมาเป็นประโยชน์ เช่นกล้องหลัง ช่วงถอย ถือที่ว่าสำคัญ

♥แล้วแต่คน แล้วแต่มุมมอง เอาให้เหมาะสมกับเงิน

ไม่ใช่ Tesla มันไม่มีสั่งประกอบจะใส่อะไรบ้าง(ข้อเสียก็ได้รถช้าเพราะต้องสั่ง แล้วก็รอ)

โรงงานผลิตรถหลักๆ เขาก็มีไลน์การผลิตที่ชัดเจน ซอยย่อยอะไรมากไม่ได้หรอกครับ
แต่ละรุ่นที่ย่อยๆ ไปมันก็ได้ถึง 4แบบ ก็หรูมากแล้ว ถ้า 5 ขึ้นนิโหดจัด

ถ้าคุณจะทำให้มี option เลือกหลาหหลาย มากขึ้น โรงงานจะเปิดสายการผลิตเพิ่มต้องเปิดโรงงานเพิ่ม ค่าใช้จ่ายเพิ่มต่อหน่วยเพิ่ม ทั้งการผลิตกับยอดขายที่ไม่ได้สัมพันธ์กัน(รุ่นเยอะขึ้น ไม่ได้ขายได้เยอะขึ้น) และการจัดเก็บก็มีปัญหาเพราะก็ต้องมี stock ที่ใหญ่ขึ้น

บริษัททำการค้า..”กำไร” คือสิ่งที่อยากได้
บางอย่างลดไป 3% ของราคารถ แต่ 3% ของยอดขายทั้งหมดของรุ่นนั้น จ่ายค่าพนักงานได้เดือนนึง...
ไม่น้อยนะ

ผมมือใหม่ขับรถท่านว่าออฟชั่นไหนที่ไม่จำเป็นบ้างครับ จะได้ตัดออกไป เวลาเลือกรถจะได้ไม่ต้องไปสนใจมัน อย่าง clusecontrol มันจำเป็นต้องมีไหม ไอ้ตามรถคันหน้าเนี่ย แล้วก็พวกระบบช่วยเบรค กล้องมองหลัง ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากเสียตัง

บ้านเราค่ายรถเค้ากำหนดmarginกำไรไว้แล้วครับ ราคาไม่มีทางลด

เลยไปแบ่งเกรดตามoptionเอา

แพงเพราะ เขาต้องคิดค่าใช้จ่ายที่ยังไม่เกิดครับ
เช่น ถ้ามันพังในระยะประกัน ไหนจะเคลม ไหนจะซ่อม
เป็นค่าใช้จ่ายทั้งนั้นครับ หลายๆคนเขาซื้อไวใช้ ดูแลไม่เป็น ซ่อมไม่เป็นหรอกครับ ไม่มีเวลามาทำหรอก เครื่องมือก็ไม่มี
ไปทำร้านข้างนอกก็ไม่รู้ดีหรือป่าวอีก

ถ้าท่านไม่ซีเรียส ซื้อตัวธรรมดา ที่รับราคาได้แล้วมาติดข้างนอกเองครับ หลายๆคนทำเป็นดูแลเป็นก็ต้องทำเองถึงจะคุ้มครับ แต่หลายๆอย่างทำแล้วประกันรถหมดเลยนะครับ รับได้ไหมครับ

อีกเรื่องทำใจเถอะครับ ผมซื้อมาหลายคันแล้ว ทั้งเจ้าตลาด ทั้งยุโรป ต่อให้ราคาเป็นยี่สิบสามสิบล้าน ก็กากอยู่ดี ไม่เป็นที่รถ ก็เป็นที่ศูนย์

สมัยก่อน เจ้าตลาดกั๊กกว่านี้เยอะ ชอบตัดผม option ความปลอดภัยด้วย

ผมดูมาส 2 รุ่นต่ำจนท้อป ก็ใส่ความปลอดภัยทุกลมให้ครบทุกรุ่น

แต่ไปดูออส รุ่นกลางๆ มีุทุกลมข้างเดียว ต้องท็อปถึงจะให้ 2 ข้าง

เรื่องศูนย์ของโต ยังงัยก็ดีกว่ากว่าของมาส นะ

แต่ถ้าเล่นมือสอง ผมเอามาสนะ ตัวแพงๆ ราคาลงเยอะ ซื้อสบาย หาร้านนอกเอา

ผมชอบรุ่นล่างสุดครับ ระบบความปลอดภัยเหมือนกันก็พอครับ

ผมก็เคยคิดเหมือนกันกับไอแค่เซนเซอหลังทำไมไม่ใส่ให้รถราคาตั้ง 6-7แสน

นั่นสิท่าน มันไม่ใช่แค่นี้นะสิ บางอย่างมันไม่ได้แพงเลยก็ไม่ใส่มาเฉยๆซะงั้น คือเกินไปอ่ะ
รถราคา9แสน ไม่มีหน้าจอสัมผัสให้ในรุ่นถูกสุดผมนี่กุมขมับเลย ว่ามันใช่หรอวะ กับของราคาแค่นี้ไม่ให้หน้าจอมา แล้วดันให้ใช้แต่วิทยุ เออถึงมันอาจจะติดเพิ่มเองได้ แต่มันจะส่งผลต่อกล้องมองหลังอีก ที่จะติดเพิ่มไม่ได้ เพราะมันจะส่งผลต่อระบบไฟ

Honda brio รถ​5ประตู​ แต่ไม่ให้ใบปัดน้ำฝน​
แค่ก้านปัดกับมอเตอร์​ แต่รถหลายคันก็หลายเงิน อันนี้​เกินไปมาก​