9 ปีจาก “อาแปะ” ผู้เป็นส่วนเกินสู่หนึ่งในตำนาน “หงส์แดง”

ไว้คราวหน้า X

ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย

ไปหน้าที่ 1, 2, 3

ไปที่หน้า

ตั้งกระทู้ใหม่

ฝากรูป

หน้าแรกบอร์ด >> ข่าวประจำวัน

ผู้ตั้ง

ข้อความ

ออฟไลน์

NaShZ

นักเตะอบจ.

Status:

: 0 ใบ

เข้าร่วม: 09 Sep 2013

ตอบ: 1205

ที่อยู่:

โพสเมื่อ: Fri Jun 12, 2020 00:46

[RE: 9 ปีจาก “อาแปะ” ผู้เป็นส่วนเกินสู่หนึ่งในตำนาน “หงส์แดง”]

★จอห์นミเล่นหนอน★ พิมพ์ว่า:

ผมมองมาตลอดนะว่าเฮนโด้ฝีเท้าไม่ได้เก่งไรมากมาย จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังคิดแบบนั้น

แต่พอมาคิดว่าอีกทีว่า .... แล้วไงวะ บางทีเราอาจไม่ได้ต้องการกองกลางที่ฝีเท้าระดับเทพ ล็อคหลบ3 ยิงไกล ฟรีคิก

ขอแค่ทำเพื่อทีม ทำทุกอย่างที่มีประโยชน์ต่อทีมมากที่สุด พาทีมไปสู่ชัยชนะก็พอแล้ว

เป็นแนวความคิดที่ดีเลยครับ
ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่าง แต่ต้องทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของทีม

นักบอลที่ไม่ได้โดดเด่นแบบนี้
กว่าจะถูกยอมรับได้ เค้าคงต้องขยันมากกว่าคนที่มีทักษะมากกว่ามากขึ้นไปอีก
ผมไม่ได้มาอวยเฮนโด้นะครับ โดยส่วนตัวผมก็รู้สึกเฉยๆ

แต่กว่าเค้าจะผ่านช่วงเวลาต่างๆมาได้นี้มันหนักมากกว่าคนอื่นเยอะกว่าหลายเท่านัก
หัวใจ+ความพยายาม และไปสู่จุดที่คนยอมรับได้ อันนี้น่านับถือกว่าสกิลอีก :)

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

My Locker

ออฟไลน์

Archawin5

หัวหน้าแมวมอง

Status:

: 0 ใบ

เข้าร่วม: 04 Jul 2009

ตอบ: 37484

ที่อยู่: Liverpool In Your Area!

โพสเมื่อ: Sun Jun 14, 2020 11:13

[RE: 9 ปีจาก “อาแปะ” ผู้เป็นส่วนเกินสู่หนึ่งในตำนาน “หงส์แดง”]

เคยมีแฟนบอลแมนยู 2-3 คนแขวะเฮนโด้ไปเมื่อ 1 ปีกว่าๆ

ก่อนหน้าที่เฮนโด้และผองเพื่อนจะพาทีมล้มบาซ่าทะลุเข้าชิงชนะเลิศถ้วย UCL ได้ไม่กี่เดือนก่อนนั้น

เค้าบอกว่าฝีเท้าเฮนโด้เทียบได้คนละโลกกับป็อกบาเลย เทียบกันไม่ติดขี้ฝุ่นส้นเท้าป็อกบา และลิเวอร์พูวจะไม่มีวันคว้าแชมป์

ถ้วยเมเจอร์ใดๆได้เลยถ้าที่มีนักเตะกระจอกๆไร้าส ไร้บารมี ไร้ความสามารถอย่างเฮนโด้เป็นกัปตันทีมอยู่

ไม่น่าเชื่อนะเวลาไม่ถึงปีครึ่งเลย เฮนโด้กลับทำได้ทุกอย่างที่โดนแฟนบอล(ต่างแดน/ต่างเด้า)ได้เคยกล่าว

ดูถูก ปรามาสเอาไว้ได้อย่างราบคาบหมดจดจริงๆ ใช้ผลงาน(จากการทำงานอย่างหนัก)ตบปาก

พวกชอบวิจารณ์เสร่อๆได้จนฟันน้ำนม/ฟันเทียมร่วงหมดปากมันเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง

นี่ขนาดเป็นกัปตันที่ฝีเท้ากระจอกที่สุดสำหรับแฟนบอล Haters ฝั่งตรงข้ามหรือแม้กระทั่งทีมเดียวกันนะ

ยังพาทีมปลดล็อคแชมป์ลีคในรอบ 30 ปีที่ยังไม่เคยมีสุดยอดกัปตันทีมฝีเท้าสูงส่งคนไหนที่ผ่านมาทำได้เลยซักคน

ถ้าจะไม่ยอมรับหรือให้เครดิตเฮนโด้ตรงจุดนี้เลย ผมว่าคนแบบนั้นควรเลิกเชียร์บอลเถอะ

ถ้าจะอคติบังตาจนไม่รู้จักคำว่าน้ำใจนึกกีฬาขนาดนั้นน่ะ สำหรับผมเฮนโด้คือแบบอย่างที่ดี

ให้เด็กรุ่นใหม่เจน Z เจน Alpha ได้รู้จักสกิลอีกอย่างนึงในตัวมนุษย์ที่พวกเค้าอาจจะไม่ค่อยได้รู้จะก

หรือตระหนักถึงในเจนเรอเรชั่นของพวกเค้าซักเท่าไหร่นั่นคือคำว่า"ความพากเพียรอุตสาหะแบบดั้งเดิม"

สิ่งที่ควรมีเพิ่มเติมคือความฉลาดแบบคนยุค A.I.แค่นั้นชีวิตพวกก็มีเปอร์เซ็นต์ประสบความสำเร็จได้ไม่ยากแล้ว

ชาบู เฮนโด้กัปตันทีมที่ Underrated ที่สุดของลิเวอร์พูลตั้งแต่ดูบอลมาเลย

สุดท้ายเป็นกัปตันที่ทลายอาถรรพ์ร้างแชมป์ลีค 30 ปีลงได้สำเร็จ ชาบู ชาบู

แก้ไขล่าสุดโดย Archawin5 เมื่อ Sun Jun 14, 2020 11:17, ทั้งหมด 1 ครั้ง

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

Thai Politicians Model

My Locker

ออฟไลน์

the Smirnoff

อบรมขอไลเซนส์

Status:

: 0 ใบ

เข้าร่วม: 25 Nov 2008

ตอบ: 25631

ที่อยู่:

โพสเมื่อ: Sun Jun 14, 2020 12:08

[RE: 9 ปีจาก “อาแปะ” ผู้เป็นส่วนเกินสู่หนึ่งในตำนาน “หงส์แดง”]

เป็นนักเตะคนนึงที่ผมคิดผิดจริงๆ ไม่ได้เก่งแบบระดับโลก

แต่ปิดทองหลังพระให้ทีม กลายเป็นขาดไม่ได้

ผมคิดถึงคารริกเลย ส่วนนึงในจิ๊กซอว์สำคัญทำให้ทีมเป็นแชมป์

ถึงจะไม่โดดเด่นเท่าคนอื่นก็ตาม

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

My Locker

ออฟไลน์

Blue Sh!t

ซุปตาร์ยูโร

Status:

: 0 ใบ

เข้าร่วม: 05 Jun 2008

ตอบ: 2935

ที่อยู่:

โพสเมื่อ: Mon Jun 15, 2020 15:08

[RE: 9 ปีจาก “อาแปะ” ผู้เป็นส่วนเกินสู่หนึ่งในตำนาน “หงส์แดง”]

ขอบคุณสำหรับบทความคุณภาพครับ อ่านแล้วรู้สึกมีพลังบวกให้กับชีวิตอย่างมาก ๆ เลยครับ
.
ในฐานะแฟนเชลซี ส่วนตัวมีทรรศนะว่า จุดหนึ่งที่ทำให้วินาทีนี้ "ลิเวอร์พูล" กลายเป็นหนึ่งในทีมที่น่าเกรงขามที่สุดทีมหนึ่งบนโลกใบนี้ มาจากส่วนผสมที่ลงตัวมาก ๆ ของนักเตะสองกลุ่มครับ
.
"กลุ่มแรก" คือนักเตะที่มีแววของนักเตะระดับโลกมาก่อนแล้ว และเฝ้ารอเพียงแค่วันที่จะได้เฉิดฉายในที่ที่เหมาะสม กลุ่มนี้นักเตะอย่าง เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, อลิสซอน เบ็คเกอร์
.
"กลุ่มที่สอง" กลุ่มนี้แหละที่ผมมองว่าเป็นจิ๊กซอว์แผ่นสำคัญอันล้ำค่า ที่เติมเต็มให้เครื่องจักรสีแดงเพลิงนี้ร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง นั่นก็คือกลุ่มนักเตะที่เริ่มต้นด้วยความธรรมดา สามัญ แต่มีสิ่งนึงที่เรียกว่า "ทัศนคติ" ความเป็นมืออาชีพ อุตสาหะ และมีจิตใจของนักสู้ที่โดดเด่นจนกลบปัจจัยด้านฝีเท้าไปเลยในบางครั้ง กลุ่มนี้คือ นักเตะอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เจมส์ มิลเนอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และแน่นอน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
.
เหนือสิ่งอื่นใด เครดิตทั้งมวลก็ต้องยกคุณงามความดีให้กับ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่หลอมหลวมนักเตะทั้งสองกลุ่มคลุกเคล้ากันอย่างลงตัว ความหลักแหลมในการวางแผนของคล็อปป์ที่มีอยู่แล้วเป็นทุนเดิม และหัวจิต หัวใจที่ไม่เคยย้อท้อเลยสักนิด ของผู้ที่ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีกในเวทีของรอบชิงชนะเลิศ
.
พูดถึงลิเวอร์พูลชุดนี้ทีไร มันขนลุกทุก ๆ ครั้งเลยครับ นี่อาจเป็นทีมฟุตบอลชุดแรกเลยมั้งครับ ตั้งแต่ผมดูฟุตบอลมา ที่มอบอะไรที่มันเหนือกว่าคำว่า "กีฬา" ให้กับผมได้อย่างยิ่งจริง ๆ