พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019/2020 กองหลังที่มีฟอร์มโดดเด่นไม่ใช่แค่เวอร์จิล ฟาน ไดค์เท่านั้นแต่มีกองหลังคนหนึ่งที่ฟอร์มที่เก่งอย่างก้าวกระโดด กองหลังคนนี้มีชื่อว่า ชากลาร์ โซยุนชู

การมีตัวตนของเขาที่เลสเตอร์เริ่มต้นในฤดูกาลปี 2018/2019 ภายใต้การคุมทีมของโคล้ด ปูแอลและมีเอดูอาร์โด้ มาเซียเป็นหัวหน้าทีมแมวมองของเลสเตอร์ ซิตี้ในเวลานั้นเป็นผู้นำพาให้กองหลังคนนี้มาเข้าร่วมทีม

ก้าวแรกของเขาก็เหมือนกับนักเตะคนอื่น ๆ ที่เข้ามาเล่นในพรีเมียร์ลีกคือการปรับตัวให้เข้าระบบการเล่นของทีมให้ไวที่สุดเพื่อที่จะได้โอกาสที่จะเล่นอย่างสม่ำเสมอในทีมต่อไป แต่ความตั้งใจของเขามันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด

มันมีปัญหาหลาย ๆ อย่างซึ่งทำให้เขาไม่สามารถลงเล่นได้อย่างสม่ำเสมออย่างที่เขาต้องการ ในการเล่นที่พรีเมียร์ลีกหนึ่งในสิ่งที่กองหลังเซนเตอร์แบ๊กต้องมีคือทักษะการรับลูกกลางอากาศที่ดีพอสมควรซึ่งตัวเขาเองก็ยังไม่สามารถใช้ทักษะนี้ได้ดีอย่างที่ทางทีมต้องการ

จากที่เขาควรต้องมาเล่นในทีมชุดใหญ่แต่กลับกลายเป็นว่าเขาจะต้องลงไปเล่นในชุด U23 เพื่อไปเก็บทักษะที่ควรมีเพิ่มเติม ยิ่งทำให้ความสม่ำในการเล่นของเขากับทีมชาติชุดใหญ่มันน้อยลงแทบจะเข้าใกล้ศูนย์

อีกปัญหาหนึ่งที่เขาต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนคือ #การสื่อสาร โคล้ด ปูแอลได้เคยให้สัมภาษณ์ในช่วงก่อนเกมเกี่ยวกับโซยุนชูโดยปูแอลออกมายอมรับว่าสิ่งที่ทำให้โซยุนชูได้ลงเล่นน้อยคือเหตุผลทางด้านการสื่อสาร ทักษะทางด้านภาษาแทบจะติดลบด้วยซ้ำเพราะไม่สามารถพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมได้เลย

ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำมันไม่ใช่แค่ฝึกทักษะที่ต้องเอาไปใช้กับทีมแล้ว ยังต้องพยายามเพิ่มทักษะภาษาเพื่อให้เข้าใจโค้ชและเพื่อนร่วมทีมอีก

ตั้งแต่ฤดูกาล 2017/2018 กองหลังอย่างแฮรี่ แม๊กไกวร์ได้เข้ามากว่าในถิ่นคิง พาวเวอร์ฟอร์มการเล่นก็ดีอย่างต่อเนื่องและมาฟอร์มโดดเด่นที่สุดในช่วงฤดูกาล 2018/2019 ซึ่งมันยากที่กองหลังของเลสเตอร์ที่มีในตอนนั้นจะขึ้นมาเบียดตัวจริงของแม๊กไกวร์ได้ซึ่งไม่ใช่จังหวะเวลาที่ดีที่เท่าไหร่สำหรับกองหลังอย่างโซยุนชูเพราะการที่เขาจะได้เล่นกับชุดใหญ่น้อยลงเข้าไปอีกและทำให้ชื่อ #ชากลาร์ #โซยุนชู หายไปจากหน้าสื่อเลยด้วยซ้ำ

หลังการที่เลสเตอร์เปลี่ยนผู้จัดการทีมคนใหม่เป็นเบรนแดน ร็อดเจอร์ส แฟนบอลเลสเตอร์ก็คาดหวังว่าโซยุนชูจะได้โอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่มากขึ้นแต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะร็อดเจอร์สในตอนนั้นก็ไม่ได้ชอบกองหลังชาวตุรกีคนนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การเล่นและการฝึกซ้อมของเขา มันไม่ใช่สิ่งที่ร็อดเจอร์สต้องการในตำแหน่งกองหลังเลยและยืนยันที่จะใช้งานแม็กไกวร์เป็นเซนเตอร์แบ๊กถาวรอย่างไม่ต้องสงสัยจนจบฤดูกาล

ตลาดการซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์ เลสเตอร์เริ่มมั่นใจแล้วว่าแม๊กไกวร์คงไม่ได้อยู่กับทีมอีกต่อไปและจะกลายเป็นกองหลังค่าตัวสถิติโลกในอีกไม่นาน ทางเลสเตอร์พยายามที่จะต้องหากองหลังตามสเป๊กที่ร็อดเจอร์สต้องการมาให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่ตลาดซัมเมอร์จะปิด

กองหลังหลายคนที่เป็นเป้าหมายของเลสเตอร์ในเวลานั้นเช่น ลูอีส ดังก์ (ไบรตัน ฯ) นาธาน อาเก้ (บอร์นมัธ) และเจมส์ ทารอฟกี้ (เบิร์นลี่) แต่การที่จะได้กองหลังสักคนในลิสรายชื่อนี้เริ่มไม่ง่ายสำหรับเลสเตอร์แล้วเพราะหลังจากที่เลสเตอร์สามารถปิดดีลการขายของแฮรี่ แม๊กไกวร์ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ มันทำหลาย ๆ ทีมที่เลสเตอร์ต้องไปเจรจาโก่งราคากองหลังโดยที่ไม่มีอะไรกั้น

ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะสามารถมาแก้ไขปัญหาการหายไปของแม๊กไกวร์ได้คือ การใช้งานกองหลังอย่างโซยุนชูแทน และจังหวะเวลาที่เหมาะสมของก็เริ่มขึ้น

และหลังจากนี้คือสิ่งที่หลายคนก็ไม่เชื่อเลยว่าเขาจะกลายเป็นกองหลังที่หลายทีมกำลังให้ความสนใจ

ฤดูกาลปี 2019/2020 ภายใต้การคุมทีมของร็อดเจอร์ส ชากลาร์ โซยุนชูถือว่าเป็นนักเตะมีหลายอย่างที่น่าสนใจทั้งทางลักษณะการเล่นและทางสถิติ

ลักษณะเด่นที่สามารถเห็นได้จากผลงานของกองหลังวัย 24 คนนี้คือการเล่นที่ #ดุดัน #จ่ายบอลแม่น และ #วิ่งเร็ว ซึ่งสิ่งพวกนี้คือสิ่งที่หลาย ๆ คนจะได้เห็นจากกองหลังแนวสมัยใหม่ อีกทั้งเขายังสร้างความบันเทิงที่ทำให้แฟนบอลเลสเตอร์ต้องปรบมือให้อย่าง จังหวะล็อคหลบใส่เอ็นดอมเบเล่กองกลางตัวตัดเกมของสเปอร์สและจังหวะครัฟฟ์ เทิร์นต่อหน้าคริสเตียน พูลิซิชปีกของเชลซีให้กลิ้งเป็นขนุนมาแล้ว

ในแง่สถิติก็มีทักษะบางอย่างที่ดีพอที่จะเทียบเคียงกับกองหลังที่มีฟอร์มยอดเยี่ยมและค่าตัวสถิติโลกอย่างเวอร์จิล ฟาน ไดค์และแฮรี่ แม๊กไกวร์

สิ่งที่จะเขียนต่อจากนี้ต้องการแค่เปรียบเทียบว่าโซยุนชูอยู่ในระดับไหนถ้าเทียบกับกองหลังระดับโลกทั้งสองคนและเป็นการเพื่อพิสูจน์ว่าทำไมหลาย ๆ ทีมถึงอยากได้เจ้าตัวเข้าไปร่วมทีม

จากข้อมูลการเปรียบเทียบนักเตะระหว่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์และแฮรี่ แม๊กไกวร์ ของ whoscored.com ได้ข้อเปรียบเทียบได้ดังนี้

อัตราการเคลียร์บอลของทั้งสามคนมีสถิติที่ใกล้เคียงกันมากโซยุนชูอยู่ที่ 4.6 ฟาน ไดค์อยู่ที่ 4.7 และแม๊กไกวร์อยู่ที่ 4.6 ครั้งต่อเกม

การจ่ายบอลสำเร็จโซยุนชูอยู่ที่ 89.3% ฟาน ไดค์อยู่ที่ 89.2% และแม๊กไกวร์อยู่ที่ 85.2%

อัตราการแท๊กคิลสำเร็จโซยุนชูอยู่ที่ 1.8 ฟาน ไดค์อยู่ที่ 0.8 และแม๊กไกวร์อยู่ที่ 1.1 ครั้งต่อเกม

อัตราการเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้สำเร็จโซยุนชูอยู่ที่ 0.6 ฟาน ไดค์อยู่ที่ 0.1 และแม๊กไกวร์อยู่ที่ 0.2 ครั้งต่อเกม

ความเร็วสูงสุดที่โซยุนชูอยู่ที่ 37.49 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเป็นสถิติความเร็วสูงที่สุด ในฤดูกาลนี้และทำลายสถิติความเร็วสูงสุดของแซง แม๊กซิแมงค์ ปีกของนิวคาสเซิลในฤดูกาลที่แล้ว (2018/2019) ที่ 36.69 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทำให้เห็นได้เด่นชัดเลยว่าทำไมหลาย ๆ ทีมถึงสนใจกองหลังเลสเตอร์รายนี้มากเป็นพิเศษ

ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ไม่อาจรู้ได้ว่าชากลาร์ โซยุนชูหรือ #ปูโยลแห่งตุรกี จะสามารถพัฒนาฟอร์มการเล่นได้ดียิ่งขึ้นไปได้มากกว่านี้อีกรึเปล่า ? ฟอร์มการเล่นของเขาตอนนี้เป็นแค่ฟอร์มการเฉลี่ยของฤดูกาล 2019/2020 เท่านั้น

เขายังคงมีข้อเสียหลายอย่างที่ต้องเอาไปปรับปรุงต่อและเกมการแข่งขันก็ยังไม่จบยังเหลืออีก 9 เกมที่ให้เขายังต้องพิสูจน์ตัวเองกันต่อไป