ย้อนกลับไปในช่วงฤดูกาลตั้งแต่ ปี 1996-2005 ได้มีคู่ปรับที่ถูกจารึกว่าเป็น 1 ในคู่ปรับที่ดีที่สุดตลอดกาลระหว่าง อาเซน เวนเกอร์ กุนซือเลือดน้ำหอมและ บรมกุนซืออย่าง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ถือกำเนิดขึ้นที่สร้างความตึงเครียด การแข่งขันที่เสมือนการออกรบในสมรภูมิที่จะมีผู้แพ้ในสงครามครั้งนี้ เนื่องมาจากตลอดเวลา 9 ปีนั้น อาเซน่อลได้แชมป์ไปถึง 3 สมัยและแมนยูในเต็ดได้แชมป์ไปจำนวน 5 สมัย จึงพูดได้ว่าหากทีมใด ไม่ได้ อีกทีมจะได้ไปแทนนั้นเอง






แต่เหตุการณ์ที่จะนำมากล่าวถึงเป็นเหตุการณ์ที่อาจมีหลายคนเคยทราบมาบ้างแล้วว่าเรื่องราวในอุโมงค์ ณ สนาม ไฮบิวรี่( Highbury) รังเหย้าของไอ้ปืนใหญ่ได้เกิดขึ้นหรือฝรั่งเรียกในชื่อของ “the infamous tunnel incident of 2005”

โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นมีตัวประกอบหลักในเหตุการณ์อาทิเช่น Paul Scholes, Phil Neville, Sol Campbell, Martin Keown และ Graham Poll ( กรรมการตัดสินเกมส์)


แต่ตัวละครหลักที่เราจะพูดถึงคือ วิเอร่า และ รอยคีน 2 ผู้นำของทั้ง 2 ทีม โดยทั้งคู่ตลอดเวลานั้นเคยเจอกันมาทั้งหมด 19 ครั้ง คีนชนะไป 8 ครั้ง วิเอร่าชนะไป 6 ครั้ง และ เสมอกันไป 5 ครั้ง

เหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร ???
สำนักข่าวอย่าง “ Soccer AM ” ได้สัมภาษณ์ Gary Neville ซึ่งแกรี่ ก็บอกกลับไปว่าอาจเป็นเพราะก่อนหน้านั้นตัวเขาเองได้เข้าไปเล่นแรงกับตัว เรเยสก่อนหน้านี้ก็เป็นได้ที่ทำให้วิเอร่าจึงเข้ามาหาเรื่องเข้าในอุโมงค์ก่อนที่จะลงสนาม



อย่างไรก็ตามก็ได้มีการออกมาพูดถึงเหตุการณ์นั้นจากตัวนักเตะและกรรมการของเกมส์ดังนี้ **
Graham Poll: "I walked past the old Highbury ground, I passed the away dressing room on the right, and Fergie was standing outside. And he just said to me: 'Good luck,' and you just think 'oh no.'"
Paul Scholes: "Vieira said something to Gary Neville in the warm-up, which was crazy really. You know, a warm-up, who's even thinking about talking to another player?"
Phil Neville: "Gary came in the dressing room and told everyone and I didn't know that Roy Keane was actually listening. Roy was doing his boots and having his drink.
"And Gary, being Gary, was saying: 'Vieira said this, Vieira said that, he said he's going to do this to me, he said he's going to do that to me!'"
Graham Poll: "I'd just reminded Vieira that the last time we'd been together with Roy Keane the previous season, we'd made Roy laugh in the tunnel. So, I said: 'let's see if we can do that again tonight.'
"And he just went: 'Not tonight, Graham.'"
Scholes: "Roy felt that Patrick was trying to bully him. I don't think any of us could be bullied."

ผลลัพธ์ของเกมส์ในวันนั้น แมนยูเอาชนะอาเซน่อลไปได้ 4-2

ที่มา :

วิเอร่าจะปั่น แกรี่ เนวิล. แต่ไอ่คนอยากปกป้อง เหมือนโดนปั่นซะเอง

นี้แหละกัปตันทีมเลยสำคัญ นอกจากทำให้ทีมเป็นหนึ่งเดียวแล้ว
เวลาลงสนามเหมือนมีลูกพรี่นำทัพ ไม่ต้องกลัวใครแล้ว รู้สึกว่าลงไปเราจะไม่แพ้

เหมือนตอนกิ๊กเล่าถึง ไบรอัน ร็อบสัน ตอนกิ๊กเป็นดาวรุ่ง ว่ามีกองหลังเชฟฟีลขู่จะหักขากิ๊ก กิ๊กเลยไปบอกร็อบสัน ร็อบสันบอกกิ๊กสลับตำแหน่งกันสัก 10 นาที พอ 10 นาทีร็อบสันเดินมาบอกกิ๊ก ว่ากลับไปเล่นได้ ไม่มีไรแล้ว

เชี้ยคือแม่งเท่จัด

ช่างกลปืนโต ตอนนี้เป็น ปืนโต ช่างมัน ไปแล้วครับ

555 ใช่เลยท่านปีก่อนตอนอุไนคุมทีมช่วงท้าย ตั้งแต่ผมเชียร์ทีมมา10กว่าปี ไม่เคยเชียร์ให้ทีมแพ้เลยครับแต่ตอนนั้นแบบแพ้เยอะๆเลยก็ดีนะจะได้เริ่มต้นกันใหม่ แต่อาเตต้ามาก็เอาวะแนวโน้มดีขึ้น

3 นัดท้ายพลาดไปยูซีแอล นัดชิงอีก

เราเหมือนกระตุ้นไม่ขึ้นแล้วตั้งแต่วิเอร่าไป วนลูกโมิโน่ มา 10 กว่าปี

ใช่เลยท่าน พอทีมเราต้องมุ่งมั่นและโฟกัสจริงๆมันไม่เคยไปถึงเลยครับ เหมือนจะดีๆก็ไปไม่ถึงเป้าหมาย อาจเพราะไม่มี จุดรวมจริงๆครับ

ตอนนั้นความเป็นอริสูงกว่าตอนนี้เยอะ สมัยก่อนไฝ้กันหนุกมาก แดงเดือด ปืนผี ผีสิงห์ สิงห์หงส์

เดี๋ยวนี้ไม่มันส์เหมือนเมื่อก่อนเลย แต่ก่อน ปืน ผี นี่รอดูตลอดดูใครมีเรื่องกับใคร 5555


เดี๋ยวนี้เหมือนจะเหลือแค่ ปืนไก่ ที่ดูแล้วดุเดือดหน่อย นอกนั้น

รู้สึกดีจิงๆที่เกิดมาทันยุคนั้น ยังกะลากคนดูเข้าไปอยู่ในสนาม

ทุกวันนี้เหมือนเล่นให้มันผ่านๆไปแล้วก็รับตังค์ อารมณ์ร่วมในเกมส์น้อยกว่าสมัยก่อนเยอะ

เท่จริง คาแรคเตอร์แบบนี้ต้องมีจริงๆในทีม

อย่างโรเบิตสันนัดชิงสโมสรโลก

ที่มาเน่โดนผู้เล่นฟลามิงโก้ ยั่วยุตลอด มาเน่แบบรอจะเคลียร์

ร็อบโบ้บอก ไม่เป็นไร เดี๋ยวจัดการให้ แม่งโคตรเท่

ได้ใจเพื่อนเต็มๆ