คนประท้วงต้องการอะไรบ้างหรอครับ แล้วสิ่งที่ภาครัฐควรทำคืออะไร แล้วถ้าเป็นคุณจะแก้ปัญหาตรงนี้ยังไง
ถ้าจับตำรวจที่ทำผิดมาลงโทษแล้วเรื่องจะจบมั้ย แล้วทำไมเรื่องที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุมันถึงกลายเป็นเรื่องเหยียดผิวหรอครับ ถ้าตำรวจทำคนผิวขาวจะเป็นแบบนี้มั้ย แล้วเรื่องคนผิวสีที่เหยียดคนเอเชียทำไมถึงไม่ยกมาพูดบ้าง

1. คนประท้วงต้องการอะไรบ้างหรอครับ?

ตอนแรกที่แค่ใน Minnesota คือเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 คน แต่หลังจากผู้ว่าการรัฐออกมาแถ เลยมีชุมนุมลามไปที่เมืองอื่น บางเมืองก็ชุมนุมกันดีๆ บางเมืองก็วุ่นวาย และบางเมืองตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ที่นี้เลยบานปลาย กลายเป็นการจราจล เรื่องมันไปไกลกว่าเรื่อง Floyd แล้ว ตอนนี้มันกลายเป็นการระเบิดของความแตกต่างทางชาติพันธุ์และชนชั้น ไม่มีแกนนำ จึงไม่ได้มีข้อเรียกร้องอะไรชัดเจน

2. แล้วสิ่งที่ภาครัฐควรทำคืออะไร?

ที่ควรจะทำตั้งแต่แรก คือดำเนินคดีกับตำรวจทั้ง 4 คนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกว่าจะทำก็ช้าเกินไปแล้ว ตอนนี้ที่รัฐบาลกลางควรทำคือกำชับให้ตำรวจในแต่ละท้องที่ไม่ให้ใช้รุนแรงกับผู้ประท้วงโดยไม่จำเป็น ส่วนตัวชอบที่ Sheriff ของ Texas ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ถ้า Donald Trump ไม่มีอะไรที่มีประโยชน์จะพูด ก็ให้เงียบปากไปซะ ปัญหาครั้งนี้เริ่มต้นจากความเกลียดชัง จึงควรแก้ด้วยความรัก และตำรวจมีหน้าที่รับใช้ประชาชน

3. ถ้าเป็นคุณจะแก้ปัญหาตรงนี้ยังไง?

ในฐานะไหน ถ้าในฐานะประธานาธิบดี อย่างไม่ทำแน่ๆคือจะไม่ให้สัมภาษณ์ว่าจะเอาทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์ในประเทศแน่ๆ โคตร ปญอ.
อย่างแรก ที่ควรทำคือขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างที่สอง สัญญาว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายในของรัฐบาลกลาง เข้าไปตรวจสอบการปฏิบัติมิชอบของ PD แต่ละท้องที่
อย่างที่สาม ขอร้องให้ผู้ชุมนุม ชุมนุมอย่างสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง และขอให้ผู้ชุมนุมช่วยกันสอดส่องไม่ให้มีผู้ฉวยโอกาสสร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับประชาชนโดยเด็ดขาด
อย่างที่สี่ สำคัญมากคือยืนยันหลักการมนุษยธรรม ความเป็นมนุษย์ และเสรีภาพ ที่ทุกคนมีเท่ากัน โดยไม่เกี่ยวกับสีผิว ชาติพันธุ์ และศาสนา

4. ถ้าจับตำรวจที่ทำผิดมาลงโทษแล้วเรื่องจะจบมั้ย?
ตอบไปแล้วในข้อ 1.

5. แล้วทำไมเรื่องที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุมันถึงกลายเป็นเรื่องเหยียดผิวหรอครับ?

เพราะการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกินกว่าเหตุกับผู้ต้องสงสัยผิวดำ เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานานมากแล้วในสังคมอเมริกา และปัญหาการเหยียดผิวก็ทับซ้อนกับปัญหาชนชั้นทางเศรษฐกิจด้วย

6. ถ้าตำรวจทำคนผิวขาวจะเป็นแบบนี้มั้ย?
ไม่น่าลุกลามใหญ่โตขนาดนี้

7. แล้วเรื่องคนผิวสีที่เหยียดคนเอเชียทำไมถึงไม่ยกมาพูดบ้าง?

เพราะมันไม่เกี่ยวกัน การที่คนผิวขาวเหยียดคนผิวดำ ไม่เกี่ยวกับคนผิวดำเหยียดคนเอเชีย เหตุผลไม่เหมือนกัน ปัจจัยแวดล้อมแตกต่างกัน และที่สำคัญคือเรื่องนี้มันมีเรื่องของการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่เป็นธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง

8. (อันนี้ผมแถมให้) เรื่องนี้จะจบอย่างไร?

ข่าวจาก bbc ล่าสุด การชุมนุมยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่อัตราความรุนแรงลดต่ำลง การเผา การทำลาย และปล้นทรัพย์สินและอาคารลดลงอย่างมากหลังหลายรัฐประกาศเคอร์ฟิว ดังนั้นคาดว่าม๊อบจะยังคงมีต่อไปจนกว่า Derek ตำรวจที่ก่อเหตุจะขึ้นศาล และไม่น่าจะลุกลามจนเกิดเป็นการจลาจลระดับประเทศ สุดท้ายม๊อบจะสลายไปเองเมื่อกระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างน่าพอใจ

แต่ตราบใดที่ทรัปม์ยังไม่หุบปาก และหากเกิดการกระทำที่รุนแรงโดยเจ้าหน้าที่รัฐซ้ำขึ้นมาอีก ก็มีโอกาสสูงที่การชุมนุมจะยกระดับและรุนแรงขึ้น

มันเป็นมานานแล้วครับ
ตำรวจปฏิบัติกับคนผิวสี แย่กว่า คนขาวครับ

ผู้คนคงต้องการให้ปฎิรูปอะไรสักอย่างให้มีความแตกต่างบ้าง
อย่างน้อยๆ ก็ความเท่าเทียมกันระหว่างคนขาวกับคนผิวสีน่ะครับ

* ผมว่าเรื่องนี้ลึกๆ ในสังคมเขามีมานานแล้วแหละครับ คือคนผิวสีจะได้รับการปฏิบัติที่ค่อนข้างเหลื่อมล้ำอยู่พอสมควรเลย แต่อ่านๆ มา ส่วนใหญ่บอกคนผิวสีบางกลุ่มก็ทำตัวมีปัญหาจริง อารมณ์แบบเด็กแว้นบ้านเราเลย ทีนี่จากโดนเขาเบลมอยู่แล้ว มันเลยยิ่งแล้วใหญ่


ส่วนตำรวจทำไมมันถึงโยงไปเรื่องเหยียวผิวตรงๆ มันก็มาจากด้านบนที่ผมอธิบายแหละครับ ผมดูคลิปแต่แรกๆ ผมยังคิดเลยนะ ถ้าเป็นคนผิวขาวจะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ไหมนะ


คือโทษประหารตำรวจนายที่เอาเข่าไปกดคอเขาผมว่าเหมาะสมอะ แล้วยิ่งเห็นว่าทางญาติของฟลอยด์เขาเอาทีมพิสูจน์หลักฐานที่ไม่ใช่ของรัฐมาตรวจ เพราะไม่มั่นใจกระบวนการของรัฐ ก็ยิ่งชัดเจนว่าที่ฟลอยด์ตายนะ เกิดจากการขาดอากาศหายใจ ที่มาจากการถูกเข่ากดทับนั่นละ


อันนี้ที่ว่าญาติฟลอยด์ให้ตรวจอีกทีนึง https://www.thebangkokinsight.com/370138/


ประมาณนี้ ผิดถูกยังไงอภัยกัน มันเหมือนบ้านเราที่ชอบบูลลี่กันแหละ แต่คนไทยบางทีมันเอากว่า ด่ามา ด่ากลับไรเงี้ย แต่อันนั้นมันค่อนข้างละเอียดอ่อนอะนะ


เป็นคนผิวสีคนเดียว ในห้องเรียนที่มีแต่คนผิวขาว แค่คิดภาพก็ดูไม่จืดละครับ

ถ้าจับตำรวจทั้ง 4 คนดำเนินคดี โดยเฉพาะคนที่ใช้เข่ากดนี่ฐานฆาตกรรมตั้งแต่วันแรกๆ คงจะไม่เกิดแบบนี้หรอกครับ ประเด็นคือมันชัดเจนเหลือเกินแต่ก็ยังไม่ยอมทำอะไร ขนาดหลายต่อหลายคนมาพูดทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ก็ยังช้าอยู่ดี

หนักไปกว่านั้นผู้นำของประเทศก็ไม่ได้พยายามพูดให้สถานการณ์มันสงบลงเลย กลับมาใส่ไฟให้หนักไปใหญ่ มันคงมีกลุ่มผู้นำที่เป็นคนผิวขาวที่ยังเชื่อในความเหนือกว่าของชาติพันธุ์จริงๆ ที่ยังมองว่าคนผิวสีเป็นคนที่ด้อยกว่าหรือมีคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่ด้อยกว่าพวกเค้า ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะครับ สมัยนี้แล้วกับเหตุการณ์แบบนี้ หลักฐานขนาดนี้ ยังไม่สามารถทำอะไรให้ชัดเจน/รวดเร็วได้

ทรัมป์นี่ก็ตัวเหยียดชาติพันธุ์คนนึงอะ ออกมาก็ไม่ได้เป็นกลางอะไรแต่แรก

ทรัมป์ควรหยุดทวิตก่อน ควรออกมาขอโทษแล้วให้สัญญาจะดำเนินคดีตำรวจให้ถึงที่สุด แล้วก็รณรงค์แคมเปญเลิกเหยีดสีผิวซะเลยยย ไม่ใช่มายั่วยุผู้ชุมนุม บอกจะยิงบ้างไปด่าว่าเป็นพวกเศษมนุษย์บ้าง

ดูเหมือนเรื่องสีผิวเขาละเอียดอ่อนมานานมากแล้วนะครับ เกิดปัญหาอะไรขึ้นนิดหน่อยนี่ พร้อมลุกเป็นไฟได้เสมอเลย ถ้าในความเห็นส่วนตัว ตำรวจกลุ่มนั้นแค่ไล่ออกมันไม่พออะ ต้องโดนข้อหาฆาตกรรมด้วยสิ ถึงจะถูก

1. คนประท้วงต้องการอะไรบ้างหรอครับ?

ตอนแรกที่แค่ใน Minnesota คือเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 คน แต่หลังจากผู้ว่าการรัฐออกมาแถ เลยมีชุมนุมลามไปที่เมืองอื่น บางเมืองก็ชุมนุมกันดีๆ บางเมืองก็วุ่นวาย และบางเมืองตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ที่นี้เลยบานปลาย กลายเป็นการจราจล เรื่องมันไปไกลกว่าเรื่อง Floyd แล้ว ตอนนี้มันกลายเป็นการระเบิดของความแตกต่างทางชาติพันธุ์และชนชั้น ไม่มีแกนนำ จึงไม่ได้มีข้อเรียกร้องอะไรชัดเจน

2. แล้วสิ่งที่ภาครัฐควรทำคืออะไร?

ที่ควรจะทำตั้งแต่แรก คือดำเนินคดีกับตำรวจทั้ง 4 คนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกว่าจะทำก็ช้าเกินไปแล้ว ตอนนี้ที่รัฐบาลกลางควรทำคือกำชับให้ตำรวจในแต่ละท้องที่ไม่ให้ใช้รุนแรงกับผู้ประท้วงโดยไม่จำเป็น ส่วนตัวชอบที่ Sheriff ของ Texas ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ถ้า Donald Trump ไม่มีอะไรที่มีประโยชน์จะพูด ก็ให้เงียบปากไปซะ ปัญหาครั้งนี้เริ่มต้นจากความเกลียดชัง จึงควรแก้ด้วยความรัก และตำรวจมีหน้าที่รับใช้ประชาชน

3. ถ้าเป็นคุณจะแก้ปัญหาตรงนี้ยังไง?

ในฐานะไหน ถ้าในฐานะประธานาธิบดี อย่างไม่ทำแน่ๆคือจะไม่ให้สัมภาษณ์ว่าจะเอาทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์ในประเทศแน่ๆ โคตร ปญอ.
อย่างแรก ที่ควรทำคือขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างที่สอง สัญญาว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายในของรัฐบาลกลาง เข้าไปตรวจสอบการปฏิบัติมิชอบของ PD แต่ละท้องที่
อย่างที่สาม ขอร้องให้ผู้ชุมนุม ชุมนุมอย่างสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง และขอให้ผู้ชุมนุมช่วยกันสอดส่องไม่ให้มีผู้ฉวยโอกาสสร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับประชาชนโดยเด็ดขาด
อย่างที่สี่ สำคัญมากคือยืนยันหลักการมนุษยธรรม ความเป็นมนุษย์ และเสรีภาพ ที่ทุกคนมีเท่ากัน โดยไม่เกี่ยวกับสีผิว ชาติพันธุ์ และศาสนา

4. ถ้าจับตำรวจที่ทำผิดมาลงโทษแล้วเรื่องจะจบมั้ย?
ตอบไปแล้วในข้อ 1.

5. แล้วทำไมเรื่องที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุมันถึงกลายเป็นเรื่องเหยียดผิวหรอครับ?

เพราะการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกินกว่าเหตุกับผู้ต้องสงสัยผิวดำ เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานานมากแล้วในสังคมอเมริกา และปัญหาการเหยียดผิวก็ทับซ้อนกับปัญหาชนชั้นทางเศรษฐกิจด้วย

6. ถ้าตำรวจทำคนผิวขาวจะเป็นแบบนี้มั้ย?
ไม่น่าลุกลามใหญ่โตขนาดนี้

7. แล้วเรื่องคนผิวสีที่เหยียดคนเอเชียทำไมถึงไม่ยกมาพูดบ้าง?

เพราะมันไม่เกี่ยวกัน การที่คนผิวขาวเหยียดคนผิวดำ ไม่เกี่ยวกับคนผิวดำเหยียดคนเอเชีย เหตุผลไม่เหมือนกัน ปัจจัยแวดล้อมแตกต่างกัน และที่สำคัญคือเรื่องนี้มันมีเรื่องของการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่เป็นธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง

8. (อันนี้ผมแถมให้) เรื่องนี้จะจบอย่างไร?

ข่าวจาก bbc ล่าสุด การชุมนุมยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่อัตราความรุนแรงลดต่ำลง การเผา การทำลาย และปล้นทรัพย์สินและอาคารลดลงอย่างมากหลังหลายรัฐประกาศเคอร์ฟิว ดังนั้นคาดว่าม๊อบจะยังคงมีต่อไปจนกว่า Derek ตำรวจที่ก่อเหตุจะขึ้นศาล และไม่น่าจะลุกลามจนเกิดเป็นการจลาจลระดับประเทศ สุดท้ายม๊อบจะสลายไปเองเมื่อกระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างน่าพอใจ

แต่ตราบใดที่ทรัปม์ยังไม่หุบปาก และหากเกิดการกระทำที่รุนแรงโดยเจ้าหน้าที่รัฐซ้ำขึ้นมาอีก ก็มีโอกาสสูงที่การชุมนุมจะยกระดับและรุนแรงขึ้น

จีนมีไวรัส สหรัฐมีประท้วง

ปี2020 สุดจริง

ผมก็ไม่ชัวนะครับ แต่เรื่องเหยียดเนี่ยมันเป็นเรื่องที่ค้างคามานานแล้วของสังคมบ้านเขา

ถ้าจำไม่ผิด ต้องบอกก่อนว่า คนผิวดำในอเมริกา ต้นตอจริงๆ คือถูกซื้อมาเป็นแรงงานทาส มาใช้งาน มาทำฟาร์ม ตั้งแต่สมัยที่ยึดแผ่นดินจากอินเดียนแดงราวๆนั้น

แล้วคนผิวสีก็ถูกเลือกปฏิบัติจากคนผิวขาวมาตลอด ห้องน้ำก็ต้องแยกเฉพาะคนผิวสี สิทธิประโยชน์ต่างๆคนขาวต้องมาก่อน จนมีการต่อสูกันมาตลอดทั้งด้านการเมืองและการประทะกัน

จนสุดท้ายก็สู้กันจนคนผิวสีเรียกร้องความเท่าเทียมกันได้ (ผมจำชื่อคนที่ทำสำเร็จไม่ได้ละ ใครจำได้ช่วยผมด้วยละกัน) โดยได้ระบุไว้เป็นกฏหมายเลยประมาณว่าทุกชาติพันธ์มีความเท่าเทียมกัน แต่นั่นก็ใช้ได้ในเชิงทฤษฏี อาจลดดีกรีความขัดแย้งลงได้บ้าง แต่ในเชิงปฏิบัติลึกๆก็มีการเหยียดอยู่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ ผมก็เชื่อว่ายังมีการเหยียดกันอยู่แค่เก็บไว้ในใจ ส่วนพวกไม่สนโลกก็เหยียดกันโต้งๆเลยก็มี แต่ก็น้อยกว่าในอดีต อาจเพราะสมัยนี้มีกล้อง มีโซเชี่ยล คนจะทำอะไรก็เลยต้องระวังกันมากขึ้น

ส่วนการประท้วงในเวลานี้ต้องแยกกันครับ อย่าไปเหมาว่าผู้ประท้วงไปสร้างความรุนแรง

เพราะผู้ประท้วงจริงๆแบบสันติก็มีอยู่มากทั้งคนขาวและคนผิวสีร่วมกันเดินขบวน พวกสร้างความรุนแรงมันเป็นอีกส่วนนึงก็มีทั้งคนขาวและผิวสี ซึ่งน้อยกว่าแต่เป็นที่กล่าวถึงหรือจุดเด่นได้มากกว่าเพราะ ใครๆก็ไปโฟกัสต่อผู้ที่ก่อกวนอยู่แล้ว

จุดประสงค์ผมคาดว่า ก็คงอยากให้เป็นจุดเปลี่ยนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบริบทของสังคมนั่นแหละครับ

แต่ตาทรัมป์แกก็บ้าบอจริงๆนั่นแหละ ทวิตได้ยั่วยุมากๆ ผมคงบอกได้เลยว่าทรัมป์แกคงไม่เหมาะกับระบบประชาธิปไตย์หรอก ดูแกสั่งแต่ละอย่าง ก่าวก่ายรัฐต่างๆโดยไม่สนรัฐธรรมนูญของแต่ละรัฐเลย ต้องบอกว่าเป็นประชาธิปไตยหัวใจเผด็จการ (คล้ายๆเล่นซัพหัวใจแครี่ 555 อันนี้ผมแซวขำๆนะ)

ปลายปีมีเลือกตั้ง ผมสงสัยมากว่า ทรัมป์เขาไม่ห่วงคะแนนเสียงในการสานต่อหรือว่าเขามองว่ายังไงคนสนับสนุนเขาเยอะอยู่แล้ว
ปล.แต่เคยอ่านผ่านๆเรื่องการเลือกตั้งที่เมกา คะแนนเสียงแต่ละถิ่นแม่งไม่เท่ากัน ไม่ได้ศึกษาลึก ยัง งงๆ อยู่

ระบบเลือกตั้ง ของ อเมริกา ไม่ใช่ระบบ popular vote ครับ แต่เป็น แบบ
electroral vote แล้ว เอา electroral college ไปเลือก ประธานาธิบดี
อีกครั้ง แต่ละ รัฐ จะมี คณะผู้เลือกตั้ง ในแต่ละรัฐ ไม่เท่ากัน


ผู้สมัคร คนไหน ชนะ คะแนนเสียงในรัฐ นั้น จะได้ คะแนนเสียง คณะผู้เลือกตั้ง
ไปทั้งหมด ไม่ว่าจะชนะกันแค่คะแนนเดียวก็ตาม


นี่คือสาเหตุที่ ทรัมป์ ไม่สนใจคนผิวสี ที่ไม่ใช่ฐานเสียงของตัวเองแต่ เป็นฐานคะแนนของ เดโมแครต แต่ให้ความสำคัญกับ คนผิวขาว ที่ เป็นฐานเสียงฝั่ง รีพับลิกัน มากกว่า


พูดง่ายๆคือ ทรัมไม่สนคะแนน popular แต่จะสนใจ ฐานเสียงของตัวเอง ใน รัฐที่ตัวเองชนะมาแล้วเท่านั้น
ถ้ารักษา คะแนนในรัฐที่ตัวเองเคยชนะเอาไว้ได้ ทรัมป์ กลับมาเป็น president อีกรอบสบายๆ

ระบบการเลือกตั้งแบบนี้ ทำไห้ ฮิลลารี่ ไม่ได้เป็นประธานาธิบดี เพราะคะแนนเสียงรวมทั่ว อเมริกา
ฮิลลารี่ มากกว่า ทรัมป์ แต่ ทรัม ชนะ คะแนน electoral college

ดังนั้น ยิ่งคนผิวขาว สนับสนุนทรัมมากขึ้นเท่าไหร่ ทรัพป์ ยิ่งได้เปรียบ ส่วนคนผิวสี
ทรัมปไม่สนใจหรอก เอ็งยิ่งแรงข้ายิ่งชอบ พฤติกรรมแบบนี้ ไม่น่ามาเป็น ประธานาธิบดีได้

แต่ก็นั่นแหละ โจ ไบเดน ไม่ใช่คนที่จะโค่น ทรัมป์ ในศึก เลือกตั้งได้

การประท้วงหลังจากมีข่าวตำรวจฆ่าคนดำอยู่คู่กับสังคมอเมริกามาตลอดครับ พอตำรวจฆ่าคนผิวดำปลุกม๊อบขึ้น เรื่องอื่นไม่ค่อยขึ้น ถ้างานไหนมีคลิปให้เห็นชัดๆก็จะเป็นเรื่องใหญ่เหมือนตอน Rodney King มีตำรวจรุมกระทีมเขา เกิดจลาจลทั่ว LA เป็นตำนาน Korean rooftop มาปล้นร้านเกาหลี เจอเขายิงสวนสิครับ

รอบนี้ก็เกิดจากภาพที่ออกไปมันโหดร้าย เขาร้องขอชีวิตแต่ตำรวจก็ยังไม่หยุด มันสร้าง impact มาก

ตอนแรกคุณเอาคนดำมาเป็นทาส พอเลิกทาสก็กดขี่เขา ปล่อยให้มีคุณภาพชีวิตต่ำๆ มันก็เกิดปัญหาสังคม เป็นลูป เพราะโดนเหยียดเลยก่อปัญหา พอก่อปัญหาคนก็ยิงเหยียด วนไป

7 เห็นด้วยทุกข้อ ยกเว้นข้อนี้ครับ เหยียดก็คือเหยียด

ผมก็ไม่ได้บอกว่าไม่ได้เหยียดนี้ครับ ก็บอกอยู่ว่าเหยียด แต่เหตุผลเบื้องหลังมันไม่เหมือนกัน คนขาวเหยียดคนดำมันมีเรื่องของชนชั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง ประวัติศาสตร์ร่วมของคนขาว-คนดำ มันยาวนานและลึกซึ้งกว่า มันเป็นการทะเลาะกันของ natives คนเอเชียอยู่ที่นู้นก็เป็นแค่ immigrants แค่นั้นแหละ

ถึงได้บอกว่ามันไม่เกี่ยวกัน การ simplified ว่าคนขาวเหยียดคนดำ ก็เหมือนคนดำเหยียดเอเชีย จะทำให้ไม่เข้าใจที่มาที่ไปของเหตุผล