จากประสบการณ์ตัวเองที่เปลี่ยนสายงานนะครับ ก่อนอื่นต้องศึกษาอย่างดีให้แน่ใจว่าสายงานที่จะไปมันตรงกับความชอบของเราและเราสามารถทำมันให้ดีได้จริงๆ ถ้าแน่ใจแล้วและพอแบ่งเวลามาเตรียมตัวสอบระหว่างทำงานไปด้วยได้ผมก็แนะนำให้ทำงานไปก่อนอย่างน้อยก็มีรายได้และฝึกทักษะเรื่องคนไปด้วย แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ออกมาลุยโลด ตัวผมโชคดีหน่อยที่เปลี่ยนแล้วเวิร์คคือเงินเพิ่มห้าสิบเปอร์เซ็นต์ทันที และตอนนี้ก็เพิ่มจากตอนก่อนเปลี่ยนหกเท่า ขอให้โชคดีนะครับ สู้ๆ

ผมมีรุ่นพี่มหาลัยอยู่คนนึง จบ วศบ.เครื่องกล

จบออกมาได้แระมาณ 1ปี บริษัทก็ส่งไปอยู่ ญี่ปุ่น 3ปี กลับมา ครบสัญญาที่ต้องอยู่บริษัท แกก็ลาออกมาบวช

จากนั้นบวชได้ประมาณเกือบ 1 ปี แกก็ลายออกไปเรียน ราชภัฎ เอง คุรุศาสตร์คณิตศาสตร์ อีก 5ปี

แกจบเมื่อปีที่แล้ว เกรดตอนกลับไปเรียนใหม่ ที่แกโพสต์ในเฟสนะ คือ 90% คือ A ตอนนี้เป็นครูเอกชน รอเขาเปิดสอบครูข้าราชการ คิดว่าแกไม่น่าพลาด คงได้เป็นครูสมใจ

ลองดูครับ

ผมก็กะไว้แบบนี้ครับ ทำงานให้ครบไปอีกปี แล้วอ่านหนังสือไปด้วย ถ้าไม่ใช่ตัวตนตัวเองจริงๆคงออกไปทำตามฝันแล้วกันครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ

นั่นสิ คงไม่มีอะไรสายไป ถ้าเราจะทำตามความฝันของเรา

เราต้องอยู่กับอาชีพพวกนี้ไปอีก 20-30 ปีอย่างต่ำครับ

ถ้าได้ทำตามชีวิตที่ชอบคงดี

แต่ถ้าไม่ ต้องไปเรียนใหม่ ลองถามตัวเองดูครับ

1. ต้องใช้เวลาแค่ไหน เห็นมีบอกว่าอยากเรียนสายแพทย์ ทางนี้พวกแพทย์ เภสัช ทันตะ เรียนมากกว่า 4 ปีทั้งนั้น จบมาจะอายุเกือบๆ 30 เพิ่งเริ่มต้นอาชีพใหม่ เงินเดือนหน้าที่การงานเทียบกับรุ่นเดียวกันไม่ได้ โอเคมั้ย ถ้าคิดว่าไม่มีปัญหา ผ่าน

2. ต้นทุนค่าเรียน ใครออก งานยังไม่ได้ทำ หาอาชีพเสริมระหว่างทำได้มั้ย ไหวหรือเปล่า ถ้าไม่ไหว ที่บ้านพร้อมจะที่จะจ่ายให้มั้ยเรียนจบป.ตรีใช้เงินหลักหลายแสนอย่าลืมค่ากินอยู่ที่เราอาจจะต้องพึงพาทางบ้านต่อไปด้วย หรือได้ทุนมั้ย ถ้าใช่ ผ่าน

3. มั่นใจใช่มั้ยว่าไปเรียนแล้วจะชอบ เรียนจบ ถ้ามั่นใจ หรือคิดว่าถ้าไม่ชอบก็ถอนตัวกลับมาทำงานสายเดิมได้ ก็ผ่าน

4. ไม่มีทางอื่นที่จะได้ ship ไปสายงานที่ตัวเองชอบหากเรียนต่อระดับบัณฑิตศึกษาแล้วใช่มั้ย เช่นไปต่อสายวิศวะการแพทย์ (มีหลายมหาลัยเปิดสอน) หรือของจุฬาล่าสุดเห็นกำลังจะเปิดหลักสูตรจบป.ตรีอะไรมาก็ได้ไปสอบเข้าแพทย์ได้หมด ถ้าใช่ ผ่าน

เรียนแพทย์ ต้องใช้เวลา อย่างคนรู้จักจบเภสัชมา แต่อยากเป็นหมอมาก ก็เลยสอบใหม่ขอทุน รพ ไปเรียนหมอจนจบ มาเริ่มทำงานจริงๆ จีงๆ ก็ 30 กว่าแล้ว ถ้าท่านอยากเรียนจริงๆ ก็ต้องตั้งใจจริงนะ เพราะมันใช้เวลามาก ไม่มีโอกาสแก้ตัว อีกหลายรอบๆ

หรือจะลองไปสาย bio medical หรือ medical engineering ไม่ได้ตรวจหรือรักษาคนไข้จริงๆ แต่เราก็ทำงานตรงนี้ได้

หรือจะไปสอบแพทย์ที่ ต่างประเทศ เห็นบางที่จบ ป. ตรี แล้วก็เรียนต่อหมอได้เหมือนกัน
https://pantip.com/topic/32256060

ผมถามคำถามนี้กับตัวเองเหมือนกัน ตอนนี้ทำงานเป็นวิศวกร อยากไปเป็นหมอหรือทันตะเพราะเรื่องค่าตอบแทน เลยอยากเรียนใหม่ ตอนนี้ผมก็ยังตอบคำถามตัวเองไม่ได้ว่ายังไงดี ประจวบกับตอนนี้ก็เรียนโทวิศวไปอี๊ก ถล่ำลึกจัดๆ

ที่ quote post นี้ เพราะเห็นแนะนำสาย Biomed แฟนผมจบ Biomed มา ส่วนตัวผมไม่ค่อยแนะนำนะ เพราะสายงานมันยังไม่เปิดเลย ไปเครื่องกล ไฟฟ้า อุสาหการ โยธา ยังเชียร์สายงานที่เป็น Classic อยู่ (ผมจบเคมี ทำ ie ยังมองว่าสาจาผมปริมาณจบไม่สัมพันธ์กับงานที่เปิดรับเท่าไรเหมือนกัน) เลยไปเรียนโท ie เนี่ย งุนงงกับตัวเอง

ท่านอยากเรียนต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ เพราะ "ใช่ตัวท่าน" หรือเพราะ "ค่าตอบแทน" ครับ

ผมเคยเรียนทันตะ ซิ่วมาต่อหมอ แล้วก็เรียนไม่จบป่วยเป็นซึมเศร้า คุยกับอาจารย์จิตแพทย์เยอะมาก ง่ายๆคือ ถ้าไม่ชอบจริงๆ เหมือนตกนรกครับ ทุกวันนี้ผมกำลังจะจบโท ในสาขาที่ผมรักชีวิตผมแฮปปี้มากครับ

ถ้าท่านมั่นใจว่าสายงานแพทย์ หรือทันตแพทย์ ใช่จริง ๆ ก็ลุยเลยครับ ถ้าเมืองไทยกลัวว่าอายุจะเยอะไป ไปเมืองนอกก็ได้ครับ มีรุ่นพี่ผมจบแพทย์จากฟิลิปินส์ตอน 42 ครับ

ถ้ามันใช่ตัวท่านจริง ๆ ไม่มีคำว่าสายไปครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

ปล. แฟนผมเป็นแพทย์โรงพยาลเอกชน โดนลดเงินเดือนรัว ๆ เลยครับช่วงนี้ จะบอกว่าอาชีพแพทย์มั่นคง หรือค่าตอบแทนสูงมาก นี่คงไม่เสมอไปเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่ก็โดนกันทุกอาชีพแหละครับช่วงนี้

ถ้าอยากได้เงินเยอะๆ ก็ต่อโทอย่างที่ท่านทำนั่นแหละ แต่ทำงาน IE อยู่แล้วไม่น่าต่อโท IE นะ
น่าจะไปทาง MBA ไปเลยดีกว่า มุมมองมันกว้างกว่า มีโอกาสเปลี่ยนสายงานไปทำได้หลายอย่าง
ทั้ง marketing finane หรือไม่ก็มีโอกาสเติบโตเป็นผู้บริหารระดับสูง

จบเภสัช ทำงานมาหลายปี เรียนรามควบคู่ไปด้วยระหว่างเรียน ตอนนี้จะจบเนติแล้ว
จะเปลี่ยนไปสายอัยการ/ผู้พิพากษาครับ

ืIE ที่พูดถึงเป็น management engineering ครับ ที่เลือก IE เพราะผมมองวว่าตัวเองจบไม่ตรงสายงานที่ทำอยู่เลยไปหาความรู้ในสายงานที่ทำอยู่ ตอนแรกก็ชั่งใจกบ MBA พอมาเรียนโทบางตัวที่เกี่ยวกับการจัดการ มันเป็นวิชาที่เข้าถึงยาก เนื้อหาออกไปแนวพื้นฐาน ไม่ลงรายะเอียดทำให้จับต้องและนำไปใช้ได้ยากมากเลย ผิดกับเชิงวิศวกรรมประเมินจากตัวเลข ผิด ถูก ยังพอตัดสินใตได้