ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8677
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun May 24, 2020 17:41
ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)
ผมเพิ่งเดินเข้าวงการนี้เมื่อซักราวๆ 2 สัปดาห์ก่อนครับ ปัจจุบันเพิ่งเคยได้ลองกาแฟนอกเป็นตัว Ethiopia Yirgacheffe คั่วอ่อนสำหรับดริปของร้าน Bluekoff ไปครับ กลิ่นหอมมากแต่รสชาติผมยังแยกไม่ออกเลยครับว่ามันตรงตามสเปคที่เขาบรรยายไว้ไหม

ผมเลยอยากทราบเมล็ดกาแฟสำหรับดริปและสูตรในการดริปของแต่ละท่านด้วยครับว่าเป็นยังไงและให้รสชาติแบบไหน/กลิ่นแบบไหน

แนะนำร้านด้วยก็จะดีมากครับผม
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 870
ที่อยู่: 29
โพสเมื่อ: Sun May 24, 2020 18:14
[RE: ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)]
พี่มาถูกที่แล้วครับ เรามีวาร์ป เอ้ย ขอสูตรกาแฟเหรอ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
arsenal fc only
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 13523
ที่อยู่: หัวตาราง
โพสเมื่อ: Sun May 24, 2020 18:18
[RE: ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)]
จากเพจ meffceo coffee นะครับ

บาริสต้าแบ่งน้ำในการเทดริปทำไม?

​ถ้าสังเกตดีๆ เวลาไปกินกาแฟร้านที่เป็นสายดริป เวลาเทน้ำร้อนลงไปในเมล็ดกาแฟที่บดแล้ว เขาไม่ได้ เทแบบครั้งเดียวจบ แต่จะแบ่งเทๆ หยุดๆ ทั้งหมด 3 รอบ สงสัยมั๊ยคะ ว่าทำไม?

​มันเป็นเรื่องของเทคนิคในการชงให้อร่อยนั่นเอง หลักการเป็นแบบนี้ค่ะ สมมติว่าใช้น้ำทั้งหมด 100g ในการดริป (เอาแค่เรื่องการแบ่งน้ำก่อนนะ เรื่องสัดส่วนกาแฟกับน้ำเป็นอีกเรื่องหนึ่ง)

▪ การเทครั้งแรกเรียกว่า Blooming บาริสต้าจะเทน้ำลงไปประมาณ 15g (คิดเป็น​ 15%) และจับเวลารอไปจนถึง 30 วินาที หลักการนี้มีเหตุผลก็คือ เพื่อให้กาแฟคายก๊าซซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้กาแฟมีรสชาติขม (จริงๆ รสขมสำหรับสายฟิลเตอร์ ไม่ใช่รสที่พึงปรารถนา) นอกจากนี้ การ Blooming จะช่วยให้น้ำมันหอมระเหยเริ่มทำงาน เพิ่มความหอมให้ชัดขึ้นมาอีกด้วย​

▪ การเทครั้งที่สองเรียกว่า First pour เทหลังจาก Blooming 30 วินาทีครบแล้ว Step นี้ใช้ปริมาณน้ำ 35g (คิดเป็น​35%) ถ้าใช้ตาชั่ง ขั้นตอนนี้ ตัวเลขบนตาชั่ง จะจบที่ 50g เวลาที่ใช้สำหรับ First pour จะจบที่ราวๆ 1 นาทีกว่าๆ แต่ต้องจับเวลาต่อเนื่องตั้งแต่ Blooming

▪ ครั้งที่สาม เป็น Second pour จะเท​หลังจากที่ First pour เริ่มจะหมด ปริมาณน้ำที่ใช้คือ 50g​ ​(50%) ขั้นตอนนี้ตัวเลขบนตาชั่งจะจบที่ 100g พอดี รวมแล้วจบที่ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาไปทั้งหมด 2 นาที ถึง 2 นาทีครึ่งเท่านั้น

จริงๆ แล้วการแบ่งน้ำในการดริป ไม่ได้เป็น Factor หลักที่จะส่งผลต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟ​ แต่มันจะส่งผลต่อการสกัด ซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยให้กาแฟดริป​อร่อยกว่าเดิม รสชาติจะสะอาดมากขึ้น สดชื่น และฉ่ำมากขึ้น ขับ taste note ออกมาได้ค่อนข้างดี

ส่วน Factor ที่เกี่ยวข้องหลักๆ นั้นมี 7 ข้อแน่ะ เอาไว้สัปดาห์หน้า จะมาเล่าให้ฟังต่อ ว่าสิ่งที่เป็น Element of brewing มีอะไรบ้างนะคะ​

​วันนี้เอาเคล็ดลับการแบ่งน้ำไปก่อน อยากให้ลองชงสองรอบเพื่อเปรียบเทียบ​ให้รู้​ไปเลย​ ครั้งแรกเทไปให้จบ 100g ในเวลา 2 ถึง 2 นาทีครึ่ง ส่วนครั้งที่สอง ลองแบ่งน้ำตามเคล็ดลับที่ให้ไป แล้วชิมเปรียบเทียบกันทันที จะได้รู้กัน ว่าเคล็ดลับนี้มันพิเศษ​ยังไง แล้วมาเล่าให้แอดมินฟังบ้างนะ ส่วนแอดมินน่ะเหรอ ถึงเวลาต้องลองใช้กาดริปไฟฟ้าตัวใหม่ของ Brewista ที่เพิ่งถอยมา ลองชงดูว่า Factor ด้าน “อุปกรณ์” ตัวใหม่ จะช่วยอะไรได้บ้างมั๊ย

​#เพราะกาแฟมันเป็นฟีลลิ่ง #เรื่องพร็อพไว้ใจพี่
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 13523
ที่อยู่: หัวตาราง
โพสเมื่อ: Sun May 24, 2020 18:26
[RE: ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)]
ส่วนตัวผมชอบกาแฟคั่วเข้มสไตล์เอสเพรสโซ่ช็อต+นมมากกว่า

ที่เคยดริฟกินเองมีตัว รุ่งอรุณแห่งขุนเขา ของ meffceoนี่แหละ ก็อร่อยดีแต่มันดูวุ่นวายตอนทำครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 27217
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun May 24, 2020 19:05
[RE: ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)]
ผมเป็นคนชอบโซนอเมริกามากสุดครับ

อย่างพวกกัวเตมาลา บราซิล

รสเปรี้ยวผลไม้ก็มีแบบแอฟริกา แต่มันจะมีหวานปลายเยอะกว่า

แต่หอมดอกไม้อันนี้ไม่ค่อยมีเท่าแอฟริกาครับ

ผมเคยซื้อมาชงกินเองครั้งนึง แต่ชงยังไงก็ไม่เหมือนร้าน

ผมว่านอกจากวิธีการชง หรือการบด การคั่วนี่มีผลเป็นอย่างมาก

พวกร้านดริป ผมคิดว่าเค้าคงเก็บเมล็ดแห้งไว้ แล้วคั่วเองวันต่อวัน

แต่อย่างผมซื้อที่คั่วมาแล้ว แล้วถ้ามันเป็นของนำเข้า มันคงคั่วเก็บในถุงนานกว่าที่ร้านคั่วใหม่ทุกวัน

เลยสู้ไม่ได้ตรงนี้ครับ

ทุกวันนี้เลยกินแต่เมล็ดไทยพอ ไว้มีโอกาสเข้าเมืองถึงค่อยไปกินแบบดีๆที่ร้านครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
สสจ ที่ย่อมาจาก สะใจจัง

ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2019
ตอบ: 273
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun May 24, 2020 19:25
[RE: ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)]
blackhunter พิมพ์ว่า:
ผมเป็นคนชอบโซนอเมริกามากสุดครับ

อย่างพวกกัวเตมาลา บราซิล

รสเปรี้ยวผลไม้ก็มีแบบแอฟริกา แต่มันจะมีหวานปลายเยอะกว่า

แต่หอมดอกไม้อันนี้ไม่ค่อยมีเท่าแอฟริกาครับ

ผมเคยซื้อมาชงกินเองครั้งนึง แต่ชงยังไงก็ไม่เหมือนร้าน

ผมว่านอกจากวิธีการชง หรือการบด การคั่วนี่มีผลเป็นอย่างมาก

พวกร้านดริป ผมคิดว่าเค้าคงเก็บเมล็ดแห้งไว้ แล้วคั่วเองวันต่อวัน

แต่อย่างผมซื้อที่คั่วมาแล้ว แล้วถ้ามันเป็นของนำเข้า มันคงคั่วเก็บในถุงนานกว่าที่ร้านคั่วใหม่ทุกวัน

เลยสู้ไม่ได้ตรงนี้ครับ



ทุกวันนี้เลยกินแต่เมล็ดไทยพอ ไว้มีโอกาสเข้าเมืองถึงค่อยไปกินแบบดีๆที่ร้านครับ  




ร้านที่ผมไปหลายๆร้าน ไม่ได้คั่วเมล็ดเองหรอกครับ วางหลายๆถุงให้เลือกเลยมีทั้งจากโรงคั่วในไทย โรงคั่วต่างประเทศ แต่ผมก็ดูๆแล้วไปซื้อเมล็ดตามมาดริปเองก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับที่ร้านทำให้นะ นั่งคุยกับเจ้าของร้านรายละเอียดเยอะมากๆครับ ตั้งแต่น้ำที่ใช้เค้าใช้จากเครื่องกรองมีวัดคุณภาพโน้นนี่ อุณหภูมิน้ำ ชนิดของกรวงดริป การแบ่งน้ำเท

แต่ผมก็คล้ายๆท่าน ตอนนี้ผมซื้อแต่เมล็ดไทยมาดริปกิน ขอแค่เปรี้ยวๆ มีบอดี้กลางๆก็โอเคแล้ว taste note นี่ปล่อยวางไปแล้ว 55
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status: I Support LFC.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Sep 2013
ตอบ: 5867
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun May 24, 2020 20:41
[RE]ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)
รับรส-รับกลิ่นเป็นอีกโลกนึงของกาแฟเลยครับ ต้องผ่านการเรียนการฝึกมาพอสมควรถึงคุยกันรู้เรื่อง

คือตอนนี้ จขม.อาจจะดริปกลิ่นและรสออกมาครบแล้ว แต่ยังจำแนกและบรรยายมันออกมาไม่ได้เฉยๆก็เป็นไปได้นะ

เรื่องรส
เบื้องต้นผมแนะนำให้ 1.บอกได้ก่อนว่ามี/ไม่มี รสไหนในกาแฟ เปรี้ยว หวาน เค็ม ขม (อูมามิ)

2.ขั้นต่อมาคือมีมาก-น้อยแค่ไหน

3.ขั้นสุดท้ายคือรสที่มีมันมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหนและอย่างไร

2กับ3คือยากแล้วครับ บาริสต้าก็ทำไม่ได้ถ้าไม่ผ่านการเรียนการฝึกมาจริงๆ

Ex กาแฟที่มีรสชัดเจน ตัวอย่างเช่นเคนยาทั่วๆไปส่วนใหญ่ รสมะเขือเทศเขาชัดมากครับ
ถ้าดริปกาแฟแล้วได้รสประมาณนี้ถือว่าโอเคแล้ว
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Aug 2008
ตอบ: 413
ที่อยู่: โคมไฟไม้ไผ่
โพสเมื่อ: Sun May 24, 2020 20:54
ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)
สิ่งสำคัญอย่างแรกที่ต้องมีคือที่บดกาแฟคุณภาพดีๆ ถ้าบดมือก็ยี่ห้อ Kinu, Comandante ไฟฟ้าก็ niche, mahlkonig ผงกาแฟที่ได้จะมีความสม่ำเสมอทำให้ชงออกมาได้รสชาติตามที่ระบุไว้บนถุงกาแฟ


ส่วนจะชงให้ออกมาดีนั้นต้องจดวิธีการชงแต่ละครั้งไว้ จะได้รู้ว่าตรงไหนทำดีแล้ว ตรงไหนต้องแก้ไข และทำการทดลองบ่อยๆ ปรับความหยาบผงกาแฟ อุณหภูมิน้ำ การเทน้ำ เวลาที่ใช้ชง ตอนชิมก็พยายามจดไว้ว่าได้รสชาติอะไรออกมาบ้าง ส่วนใหญ่ก็ได้สัก 3 ใน 5 ของที่ระบุบนถุงก็ถือว่าโอเคมากๆแล้ว

วิธีการหาร้านเมล็ดกาแฟของผมก็มาจากรายชื่อผู้เข้าแข่งขันคั่วกาแฟชิงแชมป์ประเทศไทยนี่ละครับ หลายๆร้านที่เคยสั่งก็ถือว่าดีหมดนะครับ ร้านที่จำได้ก็มี Tobo, Alexta, กระทรวงการคั่ว, Maled, Factory coffee, Gallery drip มีอีกหลายร้านแต่นึกไม่ออกละ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Sep 2007
ตอบ: 11983
ที่อยู่: สมาคมคนรักครอบครัว
โพสเมื่อ: Sun May 24, 2020 22:12
ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)
blackhunter พิมพ์ว่า:
ผมเป็นคนชอบโซนอเมริกามากสุดครับ

อย่างพวกกัวเตมาลา บราซิล

รสเปรี้ยวผลไม้ก็มีแบบแอฟริกา แต่มันจะมีหวานปลายเยอะกว่า

แต่หอมดอกไม้อันนี้ไม่ค่อยมีเท่าแอฟริกาครับ

ผมเคยซื้อมาชงกินเองครั้งนึง แต่ชงยังไงก็ไม่เหมือนร้าน

ผมว่านอกจากวิธีการชง หรือการบด การคั่วนี่มีผลเป็นอย่างมาก

พวกร้านดริป ผมคิดว่าเค้าคงเก็บเมล็ดแห้งไว้ แล้วคั่วเองวันต่อวัน

แต่อย่างผมซื้อที่คั่วมาแล้ว แล้วถ้ามันเป็นของนำเข้า มันคงคั่วเก็บในถุงนานกว่าที่ร้านคั่วใหม่ทุกวัน

เลยสู้ไม่ได้ตรงนี้ครับ

ทุกวันนี้เลยกินแต่เมล็ดไทยพอ ไว้มีโอกาสเข้าเมืองถึงค่อยไปกินแบบดีๆที่ร้านครับ  

ขอแก้ให้นะครับ
เมล็ดกาแฟที่คั่วใหม่
ไม่ควรเอามาชงครับ
เพราะมันยัง Degas อยู่ครับ

ควรรอ 7-14 วันครับ เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดของมัน
บางตัวใช้เวลาพีคเป็นเดือน-2 เดือนก็มีครับ



โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8677
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun May 24, 2020 22:51
[RE: ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)]
white valentine พิมพ์ว่า:
จากเพจ meffceo coffee นะครับ

บาริสต้าแบ่งน้ำในการเทดริปทำไม?

​ถ้าสังเกตดีๆ เวลาไปกินกาแฟร้านที่เป็นสายดริป เวลาเทน้ำร้อนลงไปในเมล็ดกาแฟที่บดแล้ว เขาไม่ได้ เทแบบครั้งเดียวจบ แต่จะแบ่งเทๆ หยุดๆ ทั้งหมด 3 รอบ สงสัยมั๊ยคะ ว่าทำไม?

​มันเป็นเรื่องของเทคนิคในการชงให้อร่อยนั่นเอง หลักการเป็นแบบนี้ค่ะ สมมติว่าใช้น้ำทั้งหมด 100g ในการดริป (เอาแค่เรื่องการแบ่งน้ำก่อนนะ เรื่องสัดส่วนกาแฟกับน้ำเป็นอีกเรื่องหนึ่ง)

▪ การเทครั้งแรกเรียกว่า Blooming บาริสต้าจะเทน้ำลงไปประมาณ 15g (คิดเป็น​ 15%) และจับเวลารอไปจนถึง 30 วินาที หลักการนี้มีเหตุผลก็คือ เพื่อให้กาแฟคายก๊าซซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้กาแฟมีรสชาติขม (จริงๆ รสขมสำหรับสายฟิลเตอร์ ไม่ใช่รสที่พึงปรารถนา) นอกจากนี้ การ Blooming จะช่วยให้น้ำมันหอมระเหยเริ่มทำงาน เพิ่มความหอมให้ชัดขึ้นมาอีกด้วย​

▪ การเทครั้งที่สองเรียกว่า First pour เทหลังจาก Blooming 30 วินาทีครบแล้ว Step นี้ใช้ปริมาณน้ำ 35g (คิดเป็น​35%) ถ้าใช้ตาชั่ง ขั้นตอนนี้ ตัวเลขบนตาชั่ง จะจบที่ 50g เวลาที่ใช้สำหรับ First pour จะจบที่ราวๆ 1 นาทีกว่าๆ แต่ต้องจับเวลาต่อเนื่องตั้งแต่ Blooming

▪ ครั้งที่สาม เป็น Second pour จะเท​หลังจากที่ First pour เริ่มจะหมด ปริมาณน้ำที่ใช้คือ 50g​ ​(50%) ขั้นตอนนี้ตัวเลขบนตาชั่งจะจบที่ 100g พอดี รวมแล้วจบที่ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาไปทั้งหมด 2 นาที ถึง 2 นาทีครึ่งเท่านั้น

จริงๆ แล้วการแบ่งน้ำในการดริป ไม่ได้เป็น Factor หลักที่จะส่งผลต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟ​ แต่มันจะส่งผลต่อการสกัด ซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยให้กาแฟดริป​อร่อยกว่าเดิม รสชาติจะสะอาดมากขึ้น สดชื่น และฉ่ำมากขึ้น ขับ taste note ออกมาได้ค่อนข้างดี

ส่วน Factor ที่เกี่ยวข้องหลักๆ นั้นมี 7 ข้อแน่ะ เอาไว้สัปดาห์หน้า จะมาเล่าให้ฟังต่อ ว่าสิ่งที่เป็น Element of brewing มีอะไรบ้างนะคะ​

​วันนี้เอาเคล็ดลับการแบ่งน้ำไปก่อน อยากให้ลองชงสองรอบเพื่อเปรียบเทียบ​ให้รู้​ไปเลย​ ครั้งแรกเทไปให้จบ 100g ในเวลา 2 ถึง 2 นาทีครึ่ง ส่วนครั้งที่สอง ลองแบ่งน้ำตามเคล็ดลับที่ให้ไป แล้วชิมเปรียบเทียบกันทันที จะได้รู้กัน ว่าเคล็ดลับนี้มันพิเศษ​ยังไง แล้วมาเล่าให้แอดมินฟังบ้างนะ ส่วนแอดมินน่ะเหรอ ถึงเวลาต้องลองใช้กาดริปไฟฟ้าตัวใหม่ของ Brewista ที่เพิ่งถอยมา ลองชงดูว่า Factor ด้าน “อุปกรณ์” ตัวใหม่ จะช่วยอะไรได้บ้างมั๊ย

​#เพราะกาแฟมันเป็นฟีลลิ่ง #เรื่องพร็อพไว้ใจพี่  


ตอนนี้ผมใช้สูตร 4:6 Method ของ Kasuya อยู่
เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะลองตามของท่านครับ ตอนนี้เริ่มเห็นชัดแล้วว่าอุณหภูมิน้ำต่างกัน รสชาติต่างกันมาก ผมทำอันนึง 94 อันนึง 90 ลงมา อันแรกออกขมหน่อยๆ อันหลังกลิ่นชัด รสชาติเปรี้ยวชัดมากครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8677
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun May 24, 2020 22:54
[RE: ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)]
iinitear_ss พิมพ์ว่า:
รับรส-รับกลิ่นเป็นอีกโลกนึงของกาแฟเลยครับ ต้องผ่านการเรียนการฝึกมาพอสมควรถึงคุยกันรู้เรื่อง

คือตอนนี้ จขม.อาจจะดริปกลิ่นและรสออกมาครบแล้ว แต่ยังจำแนกและบรรยายมันออกมาไม่ได้เฉยๆก็เป็นไปได้นะ

เรื่องรส
เบื้องต้นผมแนะนำให้ 1.บอกได้ก่อนว่ามี/ไม่มี รสไหนในกาแฟ เปรี้ยว หวาน เค็ม ขม (อูมามิ)

2.ขั้นต่อมาคือมีมาก-น้อยแค่ไหน

3.ขั้นสุดท้ายคือรสที่มีมันมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหนและอย่างไร

2กับ3คือยากแล้วครับ บาริสต้าก็ทำไม่ได้ถ้าไม่ผ่านการเรียนการฝึกมาจริงๆ

Ex กาแฟที่มีรสชัดเจน ตัวอย่างเช่นเคนยาทั่วๆไปส่วนใหญ่ รสมะเขือเทศเขาชัดมากครับ
ถ้าดริปกาแฟแล้วได้รสประมาณนี้ถือว่าโอเคแล้ว  


ตอนนี้ผมเริ่มรู้เรื่องอุณหภูมิน้ำแล้วว่ามันทำให้รสชาติ/กลิ่นกาแฟมีความต่างจริงๆ ผมจะลองดริปหลายๆสูตรเพื่อหาที่เหมาะกับตัวเมล็ดกาแฟที่ใช้และให้ตรงกับความต้องการของผมครับ

ถ้าท่านมีสูตรดริปก็แนะนำผมด้วยนะครับ จะเอาไปลอง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Sep 2007
ตอบ: 11983
ที่อยู่: สมาคมคนรักครอบครัว
โพสเมื่อ: Sun May 24, 2020 23:35
ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)
สูตรดริป Tetsu Kasuya 4:6 method

ง่ายๆ กาแฟ 20 น้ำ 300 (ไม่สนน้ำกาแฟที่ได้ สนแต่น้ำที่เทบนผงกาแฟครับ)

บดละเอียดประมาณน้ำตาลทราย ควรใช้ตัวบดเฟืองสแตนเลสครับ เพราะบดง่าย คม ไว และผลลัพธ์ดี

การเทน้ำ 50(เปรี้ยว)/70(หวาน) / 60/60/60


น้ำแรกคือการสกัดรสเปรี้ยว
น้ำสองสกัดรสหวาน
**ต้องการเปรี้ยวนำปรับเป็น 70/50/60/60/60

น้ำ03-5 คือ ช่วงบอดี้-ขม *ระวังอย่าเทแรง ขมออกเยอะครับ

การเทน้ำ เทเบาๆ แบ่งช่วงเท 5 ครั้งตามด้านบน ครั้งละ 30 วิ จะจบที่ สามนาทีพอดีครับ (เริ่มจับเวลาตั้งแต่เทน้ำแรกเลยครับ)

อุณหภูมิน้ำ 85-93 เล่นดูได้ครับ น้ำควรมช้น้ำ 7-11 ฝาเขียว เพราะ ppm ต่ำ สกัดแล้วไม่เข้มเกินไป




กาแฟที่ผมเลือกซื้อ

ตอนนี้หลักๆคือ

-Tanakhem Coffee Roaster เจ้านี้คั่วกาแฟเทพจัด ราคาอาจสูงไปนิด แต่เชื่อเถอะว่าของดี ชงยังไงก็อร่อยครับ

เริ่มที่ 250 - 650 ครับ



-โรงคั่วกาแฟปรีดา - City Roast ( ถ้าอยากได้ตัวเด็ด เจ้านี้ต้อง strawberry Fields รสสตรอเบอร์รี่ชัดมาก)
เริ่มที่ 200-550 กาแฟไทยที่มาตรฐานสูง และรักษาคุณภาพได้ดีมากๆ


-Cherrydog coffee roasters - เจ้านี้เริ่มต้นถุงละ 400 บาท มีแต่กาแฟนอก อโรม่าชัดมากทุกตัว ลองได้ทุกตัวครับ


- Plearn coffe roaster
เจ้านี้ราคาเริ่มทีท 150-500 บาท กาแฟมีให้เลือกเยอะ

- Honey Brown เจ้านี้มีให้เลือกเยอะ และคั่วตามสั่งครับ อ่อน กลาฃ เข้ม สั่งได้หมด มีตั้งแต่ 150-1000 บาท


หลักๆวนเท่านี้ครับ

โรงคั่วน่าสนใจ

- koff and bunn
- gems forest
- tobo coffee
- fatman

ปล. กระดาษดริปแนะนำ Cafec Abaca

โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: พี่เบ๊คเอง
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Nov 2006
ตอบ: 265
ที่อยู่: ริมดอย
โพสเมื่อ: Mon May 25, 2020 00:33
[RE: ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)]
แต่ละคนความรู้แน่นๆทั้งนั้นเลยครับ

ผมแนวดริปดิบๆ 555 ขอแนะนำเมล็ดกาแฟ brazil และ A4 ของ Bluekoff นะครับ เคยลองเอธิโอเปียที่พี่ชายไปทำงานแล้วซื้อมาฝาก ผมว่ากินบ่อยๆไม่อร่อยครับ เลยมาเล่นกาแฟเบรนด์ของโรงคั่วดีกว่า ได้หลายรสในคราเดียวครับ

ปล.มาสายดริปเกือบปี แถมช่วงนี้ WFH ผมไม่แตะร้านกาแฟ 3 เดือนแล้วครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8677
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon May 25, 2020 12:04
[RE: ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)]
แพะแดกโฟม พิมพ์ว่า:
สูตรดริป Tetsu Kasuya 4:6 method

ง่ายๆ กาแฟ 20 น้ำ 300 (ไม่สนน้ำกาแฟที่ได้ สนแต่น้ำที่เทบนผงกาแฟครับ)

บดละเอียดประมาณน้ำตาลทราย ควรใช้ตัวบดเฟืองสแตนเลสครับ เพราะบดง่าย คม ไว และผลลัพธ์ดี

การเทน้ำ 50(เปรี้ยว)/70(หวาน) / 60/60/60


น้ำแรกคือการสกัดรสเปรี้ยว
น้ำสองสกัดรสหวาน
**ต้องการเปรี้ยวนำปรับเป็น 70/50/60/60/60

น้ำ03-5 คือ ช่วงบอดี้-ขม *ระวังอย่าเทแรง ขมออกเยอะครับ

การเทน้ำ เทเบาๆ แบ่งช่วงเท 5 ครั้งตามด้านบน ครั้งละ 30 วิ จะจบที่ สามนาทีพอดีครับ (เริ่มจับเวลาตั้งแต่เทน้ำแรกเลยครับ)

อุณหภูมิน้ำ 85-93 เล่นดูได้ครับ น้ำควรมช้น้ำ 7-11 ฝาเขียว เพราะ ppm ต่ำ สกัดแล้วไม่เข้มเกินไป




กาแฟที่ผมเลือกซื้อ

ตอนนี้หลักๆคือ

-Tanakhem Coffee Roaster เจ้านี้คั่วกาแฟเทพจัด ราคาอาจสูงไปนิด แต่เชื่อเถอะว่าของดี ชงยังไงก็อร่อยครับ

เริ่มที่ 250 - 650 ครับ



-โรงคั่วกาแฟปรีดา - City Roast ( ถ้าอยากได้ตัวเด็ด เจ้านี้ต้อง strawberry Fields รสสตรอเบอร์รี่ชัดมาก)
เริ่มที่ 200-550 กาแฟไทยที่มาตรฐานสูง และรักษาคุณภาพได้ดีมากๆ


-Cherrydog coffee roasters - เจ้านี้เริ่มต้นถุงละ 400 บาท มีแต่กาแฟนอก อโรม่าชัดมากทุกตัว ลองได้ทุกตัวครับ


- Plearn coffe roaster
เจ้านี้ราคาเริ่มทีท 150-500 บาท กาแฟมีให้เลือกเยอะ

- Honey Brown เจ้านี้มีให้เลือกเยอะ และคั่วตามสั่งครับ อ่อน กลาฃ เข้ม สั่งได้หมด มีตั้งแต่ 150-1000 บาท


หลักๆวนเท่านี้ครับ

โรงคั่วน่าสนใจ

- koff and bunn
- gems forest
- tobo coffee
- fatman

ปล. กระดาษดริปแนะนำ Cafec Abaca

 


ท่านครับ ช่วยนิยามคำว่า "หวาน" ให้ผมหน่อยครับ มันเป็นยังไงหรอครับ ผมอยากดริปให้ได้หวานแบบกาแฟเนี่ยมันต้องเป็นแบบไหน หวานของกาแฟคืออะไรหรอครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Sep 2007
ตอบ: 11983
ที่อยู่: สมาคมคนรักครอบครัว
โพสเมื่อ: Mon May 25, 2020 21:38
[RE: ขอสูตร + เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้ในการ Drip Coffee (Pour Over Coffee)]
Spoil
Katrina Kaif พิมพ์ว่า:
แพะแดกโฟม พิมพ์ว่า:
สูตรดริป Tetsu Kasuya 4:6 method

ง่ายๆ กาแฟ 20 น้ำ 300 (ไม่สนน้ำกาแฟที่ได้ สนแต่น้ำที่เทบนผงกาแฟครับ)

บดละเอียดประมาณน้ำตาลทราย ควรใช้ตัวบดเฟืองสแตนเลสครับ เพราะบดง่าย คม ไว และผลลัพธ์ดี

การเทน้ำ 50(เปรี้ยว)/70(หวาน) / 60/60/60


น้ำแรกคือการสกัดรสเปรี้ยว
น้ำสองสกัดรสหวาน
**ต้องการเปรี้ยวนำปรับเป็น 70/50/60/60/60

น้ำ03-5 คือ ช่วงบอดี้-ขม *ระวังอย่าเทแรง ขมออกเยอะครับ

การเทน้ำ เทเบาๆ แบ่งช่วงเท 5 ครั้งตามด้านบน ครั้งละ 30 วิ จะจบที่ สามนาทีพอดีครับ (เริ่มจับเวลาตั้งแต่เทน้ำแรกเลยครับ)

อุณหภูมิน้ำ 85-93 เล่นดูได้ครับ น้ำควรมช้น้ำ 7-11 ฝาเขียว เพราะ ppm ต่ำ สกัดแล้วไม่เข้มเกินไป




กาแฟที่ผมเลือกซื้อ

ตอนนี้หลักๆคือ

-Tanakhem Coffee Roaster เจ้านี้คั่วกาแฟเทพจัด ราคาอาจสูงไปนิด แต่เชื่อเถอะว่าของดี ชงยังไงก็อร่อยครับ

เริ่มที่ 250 - 650 ครับ



-โรงคั่วกาแฟปรีดา - City Roast ( ถ้าอยากได้ตัวเด็ด เจ้านี้ต้อง strawberry Fields รสสตรอเบอร์รี่ชัดมาก)
เริ่มที่ 200-550 กาแฟไทยที่มาตรฐานสูง และรักษาคุณภาพได้ดีมากๆ


-Cherrydog coffee roasters - เจ้านี้เริ่มต้นถุงละ 400 บาท มีแต่กาแฟนอก อโรม่าชัดมากทุกตัว ลองได้ทุกตัวครับ


- Plearn coffe roaster
เจ้านี้ราคาเริ่มทีท 150-500 บาท กาแฟมีให้เลือกเยอะ

- Honey Brown เจ้านี้มีให้เลือกเยอะ และคั่วตามสั่งครับ อ่อน กลาฃ เข้ม สั่งได้หมด มีตั้งแต่ 150-1000 บาท


หลักๆวนเท่านี้ครับ

โรงคั่วน่าสนใจ

- koff and bunn
- gems forest
- tobo coffee
- fatman

ปล. กระดาษดริปแนะนำ Cafec Abaca

 


ท่านครับ ช่วยนิยามคำว่า "หวาน" ให้ผมหน่อยครับ มันเป็นยังไงหรอครับ ผมอยากดริปให้ได้หวานแบบกาแฟเนี่ยมันต้องเป็นแบบไหน หวานของกาแฟคืออะไรหรอครับ
 
 







ส่วนมากจะเจอเป็นน้ำตาลทคายแดง น้ำอ้อย กล้วยตากซะเยอะสำหรับกาแฟไทย

มันอยู่ที่ประสบการณ์ในการกิน การดื่มด้วย ว่าเราเคยรับรสต่างๆมานะ

และวิธีการชงก็สำคัญ

โรงคั่วก็สำคัญครับ

bluekoff สำหรับผมคือคั่วไม่ดีอะผมสั่งครั้งเดียวพอเลยครับ

ปล.อยู่แถวไหนครับ ถ้า กทม. ผมอยากให้ไป Brewlab เป็นร้านที่ชงกาแฟติดหวานอมเปรี้ยวได้อร่อยมากครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel