โยนาส แบร์-ฮอฟฟ์มันน์ เลขาธิการทั่วไปของสมาพันธ์นักเตะอาชีพนานาชาติ หรือ ฟิฟโปร ออกโรงเตือนบรรดาสโมสรทั้งหลายห้ามทำการลงโทษนักเตะที่ไม่พร้อมกลับมาลงซ้อมอย่างเด็ดขาด

นักเตะหลายรายยังคงกังวลเรื่องความปลอดภัยของตนเองและครอบครัวหากกลับมาลงสนามซ้อมก่อนฤดูกาลกลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง โดยในพรีเมียร์ลีกนั้น ทรอย ดีนี่ย์ กัปตันทีมวัตฟอร์ด แสดงท่าทีชัดเจนว่าเขาจะไม่กลับมาเตะบอลหากยังมีการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส

แบร์-ฮอฟฟ์มันน์ ยืนกรานว่าเหตุผลที่ดีนี่ย์ ยกมากล่าวอ้างนั้นฟังขึ้นและสมเหตุสมผล ซึ่งหากเขาโดนสโมสรเล่นงานเรื่องวินัยคงเป็นเรื่องที่ขาดมนุษยธรรมอย่างยิ่ง

"ทรอย ดีนี่ย์ อยู่ในกระแสข่าวที่ว่านักเตะคนหนึ่งมีข้อห่วงกังวลที่สมเหตุสมผล และอยากปกป้องครอบครัวของตัวเอง"

"หากนักเตะถูกกดดันหรือถูกนำไปอยู่ในบริบทเรื่องการลงโทษทางวินัยสำหรับเรื่องนี้ เราก็รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง"

"แนวความคิดของใครบางคนที่อาจโดนลงโทษเพราะพยายามปกป้องสุขภาพของสมาชิกครอบครัวท่ามกลางการแพร่ระบาดใหญ่นั้น สำหรับเราแล้วมันคือเรื่องที่ขาดมนุษยธรรมและยอมรับไม่ได้"

ไม่มีใครอยากลงโทษนักเตะอยู่แล้ว ในสถานการณ์แบบนี้

มันก็อยู่ที่ต้นสังกัดแล้ว จะเจรจาออกมาในรูปแบบไหน ถ้านักเตะไม่ยอมลงเตะ

หามาตรการออกมาช่วยเหลือสโมสรด้วยล่ะ ถ้านักเตะปฏิเสธลงเล่นกันหมด แล้วสโมสรล้มละลาย

การถูกลงโทษเพราะพยายามปกป้องสุขภาพของสมาชิกครอบครัวท่ามกลางการแพร่ระบาดใหญ่นั้น สำหรับเราแล้วมันคือเรื่องที่ขาดมนุษยธรรมและยอมรับไม่ได้

เห็นด้วยเลยแหะ ถ้าฝ่ายจัดการแข่งขันให้ความมั่นใจและความเชื่อมั่นในความปลอดภัยไม่ได้ ก็อย่าฝีนลงแข่งเลย ผลเสียจะมากกว่าผลดี รอให้พร้อมแน่ๆ ให้นักเตะมั่นใจในความปลอดภัยชั่วร์ๆ แบบบุนเดสลีกา เยอรมันก่อน ค่อยแข่ง นักเตะก็ไม่มีข้อกังวลให้งอแงไม่ยอมแข่งแล้ว

ส่วนเรื่องสโมสรเสี่ยงล้มละลาย เท่าที่ตามข่าว ฟีฟ่าก็ให้เงินชาติสมาชิกมาช่วยเหลือแล้ว ยิ่ง FA อังกฤษได้ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอด มากที่สุดในโลกเลยมั้ง น่าจะประคองผ่านช่วงนี้ไปได้

สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุดนั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง..... แต่ความอยู่รอดของสโมสรก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าสโมสรล้มละลายขาดสภาพคล่องทางการเงิน จะมีบุคลากรในสโมสรนั้นต้องตกงานมากมาย ตั้งแต่นักเตะยันถึงธุรการคนตัดหญ้า
... บางครั้งคนเราก็ต้องมีความกล้าทำในสิ่งที่เรากลัว ซึ่งมันอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิดก็เป็นได้

เงินช่วยเหลือนั้นได้คนละกี่ปอนด์ล่ะครับ เพียงพอจ่ายค่าจ้างนักเตะสักคนสองคนไหม
.... ส่วนค่าลิขสิทธิ์นั้นตราบใดที่ยังแข่งขันไม่จบสิ้นจะไม่มีการแบ่งเงินรางวัลการแข่งขัน และส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ นี่แหละที่เขาถึงต้องรีบแข่งให้จบเพื่อจะได้นำเงินค่าลิขสิทธิ์ ส่วนแบ่งต่างๆมาให้สโมสรใช้จ่ายเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง.... ถ้าปล่อยเวลาไปเรื่อยๆ มันก็ยิ่งจะสูญเสียเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ผมเห็นด้วยกับนี่ย์ดีนะครับ เห็นด้วยกับฟิฟโปรด้วย สโมสรต้องสร้างความมั่นใจไม่ใช่บังคับ
ของแบบนี้จะได้ความรักความศรัทธาความซื่อสัตย์มันต้องร่วมกัน

คนรักงาน ไม่ถูกใจสิ่งนี้

ถ้าฟังทักษิณสัมภาษณ์กับ bbc ผมว่ามีประเด็นน่าสนใจเยอะนะ เรื่องเศรษฐกิจ การสร้างความเชื่อมั่น และที่ผมเพิ่งรู้คือเค้าตรวจกันผิดวิธีมาโดยตลอดทางฝั่งยุโรป แล้วเคสดีนีย์เราจะมองภาพชัดขึ้นมาอีกหน่อย
ปล.ผมหละเกลียดไอพวกชอบแซะนี่แหละที่ประเทศมันไม่ถึงไหนเพราะดีเบตกันไม่เป็น เอาเหตุผลมาคุยกันไม่ใช่แซะแบบโง่ๆ

อยากรู้ว่าระหว่างที่ไม่มาซ้อมเนี่ย รับค่าเหนื่อยรึป่าว ? เพราะถ้าเราเป็นทรอยนะก็จะไม่ขอรับค่าเหนื่อยในช่วงที่หยุดไป

มันก็จะตลก ๆ หน่อย องกรค์พวกนี้ไม่มีคนกลางที่คุมได้เลย ยูฟ่าพูดอย่าง ฟีฟ่าพูดอย่าง ลีคก็ทำอีกอย่าง สโมสรตรงกลางซวยสุด เตะไม่ทันที่สั่งมาก็ซวย นักเตะไม่ลงก็ซวยบังคับก็ไม่ได้ ลงโทษก็ไม่ได้ ขนาดแค่ลดเงินช่วงไม่มีแข่งยังโดนด่า ไม่เตะก็ไม่ได้สปอนเซอร์อีกบานที่รอฟ้องอยู่

สโมสรคงอยากจะออกมาบอกว่าไม่เตะก็ได้นะ แต่อย่าฟ้อง อย่าตัดสิทธิ์ ไม่ซ้อมไม่แข่งก็ได้นะไม่บังคับ แต่เงินน่ะก็ไม่ต้องเอาด้วย สัญญาที่เซ็นไว้ช่วงที่แข่งไม่ได้ก็ช่วงโฮลด์ไว้ด้วย ไม่ใช่โผล่มาไม่เตะไม่ลง พอรอจะหมดสัญญาย้ายฟรีเอาเงินกินเปล่าอยู่ฝั่งเดียว

เพราะคิดว่าอาจไม่เลวร้ายนี่แหละ ถึงได้มีคนติดเชื้อจนคุมไม่อยู่แบบอังกฤษ อิตาลีและอเมริกา

จุดยืนของดีนีย์ไม่ผิดและไม่สามารถไปแขวะเขาได้ทุกกรณี เพราะต่อให้สโมสรเดินต่อได้ทุกคนแฮปปี้ แต่ถ้าตัวนักเตะเกิดติดเชื้อ แล้วลามไปถึงครอบครัวขึ้นมา ถึงตอนนั้นก็คงไม่มีใครมารับผิดชอบชีวิตเค้าและครอบครัวอยู่ดี

บางครั้งคนเราก็ต้องพยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ไม่ใช่รอให้มันเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นก่อนแล้วค่อยมาแก้ไข

อย่างวัตฟอรด์ ดีนี่ย์เป็นทั้งกัปตัน ทั้งนักเตะตัวความหวัง กองหน้าซะด้วย ถ้าไม่ลงก็กระเทือนหนักแหละ

พรีเมียร์ก็ต้องมีโซลูชั่นตรงนี้ด้วย

ก็เหมือนที่ผมเคยบอกไป

ใครไม่พร้อม ก็ไปคุยกับสโมสรตัวเอง เหมือนกรณีกองเต้ สโมสรก็พร้อมเจรจา อนุโลมให้อยู่แล้ว

ไม่ต้องออกมาตีรวน โวยวายหรอก

ตอนนี้โกลาหลอยู่แหละ เพราะเป็นวิกฤติที่ไม่ได้เจอได้บ่อย ทุกฝ่ายพยายามดิ้นเอาตัวรอดกันหมด

เราจะได้เห็นความเห็นที่ไม่ตรงกันเยอะขึ้นๆ เพราะตอนนี้ไม่มีขาวดำทุกฝ่ายมีเหตุผลของตัวเองหมด


แต่ตอนนี้วัตฟอร์ดซวยหนักเลย นักเตะ/สต๊ากฟ ติดเชื้อหลายคน ทำให้นักเตะคนอื่นๆ+ดีนี่ย์รู้สึกไม่ปลอดภัยเข้าไปใหญ่
แล้วพอเค้ากลับมาเตะกัน ได้ซ้อมน้อยกว่าชาวบ้าน/แถมยังต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอีก เผลอๆจะขาดนักเตะกำลังสำคัญอย่าง ทรอย ดีนี่ย์,หรือ ตัวอื่นๆอีกที่อาจไม่พร้อมลงเล่น เจ้าของเอาตีนก่ายหน้าผากแน่นอน

เพราะพรีเมียร์คงไม่มานั่งรอหรือผ่อนปรนให้ทีมเดียวแน่ๆ ลงแข่งทั้งๆที่พร้อมน้อยสุดแบบนี้ไม่แน่ตกชั้นได้เลยนะเนี่ย

คือมันต้องเลือกเอาสักทางแล้วไปด้วยกัน
จะตัดจบหรือแข่งต่อ นี่ลีกตัดสินใจจะแข่งแต่นักเตะบางคนไม่เอา
มันก็ไม่จบหรอก ไม่แข่งต่อสปอนเซอร์ก็ขอฟ้องลีกขอเงินคืนค่าลิขสิทธิ์
สโมสรก็ได้ส่วนแบ่งน้อยลง นักเตะก็ต้องโดนลดรายได้เหมือนกัน
จะนอนอยู่บ้านแต่จะรับเงินเท่าเดิม มันจะไปกันไม่รอดน่ะสิ